"รัก" และ "กำลังใจ" ฉันมีไว้เพื่อแบ่งปัน Blog ของสาวน้อยขี้เหงาและช่างฝัน (Beee Diary & Music)
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 

เราจะข้ามเวลามาพบกัน (The Only Love is Real)

เราจะข้ามเวลามาพบกัน (The Only Love is Real)

เราจะข้ามเวลามาพบกัน (The Only Love is Real) - ปอย วง Portrait


สวัสดีค่ะ วันนี้เอาเพลงเพราะ ๆ มาฝาก เพลงนี้เป็นเพลงที่แต่งขึ้นใหม่โดยเฉพาะ เพื่อประกอบหนังสือ "เราจะข้ามเวลามาพบกัน" หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า "The Only Love is Real" ของ ศจ. ดร. ไบรอัล แอล ไวท์ เป็นหนังสือโปรดเล่มหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ และบอกได้เลยว่าเป็นหนังสือที่ซื้อเยอะที่สุดเท่าที่เคยซื้อหนังสือมา ซื้อมาเกือบสิบเล่ม เริ่มแรกจากซื้อมาอ่านเอง แล้วก็ซื้อแจกเป็นของขวัญให้ เพื่อน ๆ น้อง ๆ อีกหลายเล่ม ล่าสุดไปซื้อเพื่อไปแจกเขาอีกเหมือนกัน เลยได้เห็นว่าออกฉบับตีพิมพ์ครั้งใหม่คราวนี้ พร้อมความแหวกแนวมีแถม CD เพลงพิเศษขึ้นมาด้วย เพราะมากค่ะ ฟังแล้วชอบจัง เลยเอามาลงให้ฟังกัน

ใครยังไม่เคยอ่านลองไปหามาอ่านกันดูนะคะ หนังสือสนุกมาก หรืออีกเรื่องของคนเขียนคนเดียวกันเรื่อง "ข้ามภพ" ก็สนุก เป็นเรื่องของการย้อนอดีตระลึกชาติ ทำให้ได้รู้ว่า คนเรามีการเกิด การตาย มามากมายเหลือเกิน และหลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่าง ที่เราต้องเผชิญในตอนนี้ ก็มาจากผลกรรม หรือการกระทำในอดีตเป็นผลก็มากมาย

ส่วนในหนังสือ "เราจะข้ามเวลามาพบกัน" นี่จะเน้นเรื่องคู่รัก เนื้อคู่ Soulmate ที่ได้พบเจอกันมามากมายหลายชาติ และโชคชะตา Destiny ก็ทำให้ต้องพลัดพรากจากกัน หรือมีเหตุให้ไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่เสมอ จนกระทั่งชาติปัจจุบัน..... เรื่องจะเป็นยังไงก็ไปหาอ่านก็ดูนะคะ

"อดีตเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
แต่ปัจจุบันเป็นสิ่งที่เราสามารถเลือกและกำหนดเองได้"


ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้คุ้มค่าที่สุดนะคะ แล้วอนาคตเราจะได้ไม่เสียใจกับสิ่งที่เราได้ลืมทำ

เป็นกำลังใจให้กันเสมอค่ะ ^_^


นู๋ Beee เองค่ะ




เนื้อเพลง : เราจะข้ามเวลามาพบกัน (The Only Love is Real)
เพลงประกอบหนังสือ : เราจะข้ามเวลามาพบกัน (The Only Love is Real)
นักร้อง: ปอย วง Portrait + ดีเจก้อย รัชวิน

(ก้อย) ทุกครั้งที่ฉันร้องไห้จน จมทะเลน้ำตา
เหว่ว้าและเคว้งคว้างกลางผู้คน เจ็บจนไม่อยากหายใจ
ถูกรักทำร้ายจนเปราะบาง ขอบฟ้าความหวังซีดจางเหลือเกิน

แต่บอกกับใจไม่หยุดฝัน อธิษฐานในกาลนิรันดร์
อย่าหยุดศรัทธา สักวันคงได้พบเธอ (เราจะได้พบกัน)

อีกครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณฉันรออยู่
คนเคยรู้ใจ คนเคยรู้จัก จำฉันได้ไหม เราเคยพลัดพรากกัน

หากเธอกับฉันสวนทางกัน ในความฝัน
อยากให้สายตาเราได้จ้องกัน และให้เธอบอกฉัน
ว่าฉันข้ามเวลาเพื่อมาพบเธอ

(ปอย) ฉันใช้ชีวิตมืดมนดั่งคนที่มีแผลใจ
แผ่นดินและผืนฟ้ากว้างไกลมัน กลับไม่เหลือทางให้เดิน
ทอดทิ้งรักแท้ที่ข้างทาง ปล่อยทิ้งความหวังที่พังยับเยิน

อยากบอกกับใจให้หยุดฝัน อธิษฐานในกาลนิรันดร์
เจ็บกับศรัทธากี่วันก็ไม่พบเจอ (เราจะได้พบกัน)

อีกครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณฉันรออยู่
คนเคยรู้ใจ คนเคยรู้จัก เธอไปอยู่ไหน เราคงพลัดพรากกัน

หากเธอกับฉันสวนทางกันในความฝัน
อยากให้สายตาเราได้จ้องกัน โปรดให้เธอบอกฉัน
ว่าฉันข้ามเวลาเพื่อมาพบเธอ

(คู่) หากเธอกับฉันสวนทางกัน ในวันนั้น
ยามที่สายตาเราได้จ้องกัน อยากให้เธอบอกฉัน
ว่าเราข้ามเวลาเพื่อมาพบกัน




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2551
23 comments
Last Update : 12 กรกฎาคม 2551 9:19:21 น.
Counter : 2608 Pageviews.

 


มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

เพลงนี้ผมไม่เคยฟังเลยครับ ส่วนหนังสือเล่มนี้ยังไม่เคยอ่านเลยครับ

แต่ผมเคยดูรายการแนะนำหนังสือเล่มนี้ แต่จำไม่ได้ว่ารายการอะไรครับ ที่คุณโจ มฆฑาณี เป็นคนแปลใช่ไหมครับ?

อิอิ

ปล.เครื่องคอมฯผมไม่สบาย ไม่มีใครสงสารเลย

อิอิ

 

โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 11 กรกฎาคม 2551 16:44:54 น.  

 

วันนี้เลิกงานตอน 24.xx น.

พรุ่งนี้ลูกค้านัดเวลา 13.00น. ทุกอย่างต้องพร้อมใช้งาน กะว่าจะตื่นนอนซัก 11.00น. อิ อิ





 

โดย: hs_olj 12 กรกฎาคม 2551 1:25:17 น.  

 

เราจะข้ามเวลามาพบกัน (The Only Love is Real)

"...โชคชะตาเป็นผู้กำหนดให้ "คู่แท้" สองคนต้องมาพบกัน......
เรา "ต้อง" ได้พบคนๆนั้นแน่ แต่เราเลือกที่จะทำอะไร อย่างไร
หลังจากที่พบกันแล้ว สุดแท้แต่ใจเรา สุดแท้แต่เราเลือกเดิน

...เราอาจจะไม่ได้ลงเอยที่การแต่งงานกับเนื้อคู่ซึ่งผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นที่สุดก็เป็นได้
บางทีคู่แท้ของเราอาจจะมีมากกว่าหนึ่งคน เนื่องเพราะครอบครัวแห่งดวงวิญญาณ

Soul families ของเราเดินทางมาด้วยกัน เราอาจจะเลือกแต่งงานกับคู่แท้ที่ผูกพันกันน้อยกว่า
คนที่มีบางอย่างซึ่งพิเศษที่จะสอนเราหรือเรียนรู้จากเรา ...

...หรือความผูกพันที่แน่นแฟ้นที่สุด มั่นคงที่สุดของเราอาจจะผูกพันกับเนื้อคู่ซึ่งเขา และเธอยังไม่ได้จุติมาเกิดตามเราในชาตินี้ แต่คอยดูแลเรา คุ้มครองเราจากอีกฝั่งฟากหนึ่ง เหมือนกับเป็นเทวดา/นางฟ้าผู้พิทักษ์เราอยู่นั่นเอง..."


การได้พบกันของคนสองคนไม่ใช่"ความบังเอิญ" หากเป็นเรื่องของ"โชคชะตา"
มนุษย์ไม่มีสิทธิ์กำหนดชีวิตตัวเองเพราะชีวิตเราถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าด้วย โชคชะตาจริงหรือ?

ฉันและพี่โจ มณฑานี เคยคุยกันเกี่ยวกับคำถามนี้กันมาตลอดระยะเวลาแห่งความทุกข์ทรมาน
เราไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมเราจะต้องผูกพันกับใครบางคนเสียนักหนา

ทั้งที่ใครคนนั้นดูเหมือนจะผ่านเข้าในชีวิตเรา...เพียงเพื่อจะจากไปเท่านั้น
เราไม่เคยเข้าใจว่าทำไมเราต้องรักเขา...ทุ่มเทให้เขามากมายอย่างนี้ ในเมื่อรักแล้ว....
ก็ต้องมีชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดอย่างที่เป็นอยู่โดยไม่มีทางหลุดพ้น

เพราะโชคชะตาเท่านั้นเองล่ะหรือ คนเราจึงต้องมาพบกัน เกื้อกูลกัน ทำร้ายกัน
เพราะพรหมลิขิตกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าเท่านั้นเองใช่ไหม เราจึงไม่อาจหลบพ้นจากใครบางคนที่มีความหมายต่อเรา
แม้จะจะมีเวลาอยู่ด้วยกันเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนจะพลัดพรากจากกันไป

ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าวันหนึ่งเธอจะสามารถค้นพบกุญแจที่ไขคำตอบทุกอย่างให้กับเราได้
ความบังเอิญที่ไม่มีใครนึกถึง ทำให้เราสองคนได้เข้าใจในสิ่งที่ไม่เคยเข้าใจ

หนังสือเพียงเล่มเดียวที่ถูกค้นพบในต่างแดน จากมุมลับตาของร้านหนังสือเล็กๆร้านหนึ่ง
กลายเป็นกุญแจสำคัญที่ไขคำตอบให้กับสิ่งที่เราเฝ้าครุ่นคิดกันมาตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน
ในที่สุดเธอก็ค้นพบแล้วว่าความเชื่อมั่นในรักแท้ เรื่องราวการค้นหาคนที่เกิดมาเพื่อกันและกัน
มิใช่ความเชื่อมั่นที่ไร้ค่า เพราะตัวอย่างของเรื่องราวมีให้เห็นอยู่ในหนังสือเล่มนี้
และตัวเอกทั้งคู่ในหนังสือเป็นมนุษย์ปุถุชนอย่างเราๆที่มีตัวตนอยู่จริง และเรื่องราวของเขาและเธอเป็นเรื่องจริง

คำโปรยบนปกหนังสือที่ชื่อ Only Love is Real สะดุดความรู้สึกเธออย่างรุนแรง
เพราะมันคือเรื่องราวของคู่แท้ที่กลับมาพบกันอีกครั้ง มันคือคำตอบที่เราค้นหามานานนักหนาว่า
ทำไมเราต้องพบและผูกพันกับคนบางคนอย่างมากมาย เพื่อจะพลัดพรากจากกันไป?


"...เราอาจถูกปลุกให้จำคู่แท้ของเราได้ ด้วยการเห็นหน้าแล้วจำได้
ด้วยการหลับแล้วฝันถึงด้วยความทรงจำ หรือด้วยความรู้สึกที่วูบขึ้นมา บางทีเราอาจจะจำคนๆนั้นได้ด้วยสัมผัส
เวลาเขาแตะมือเรา หรือเวลาที่เธอเงยหน้าขึ้นจุมพิต
...สัมผัสที่ทำให้จำกันได้อาจจะมาจากสัมผัสของลูกรัก ของพ่อแม่ ของพี่น้อง หรือของเพื่อนตายก็ได้
หรืออาจจะมาจากคนผู้เป็นที่รักซึ่งข้ามชาติภพหลายศตวรรษมาเจอกัน
เพื่อจะได้จูบเราอีกครั้งเป็นการเตือนให้เรารู้ว่าเราสองคนจะอยู่ร่วมทุกชาติจนกว่าชั่วฟ้าดินสลาย..."


ทุกเรื่องราว ทุกถ้อยคำ ทุกแนวความคิดที่ ดร.ไบรอัน แอล.ไวส์ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานแผนกจิตเวช
โรงพยาบาลเมาท์ไซไน รัฐไมอามี่ ถ่ายทอดไว้ในหนังสือเล่มนี้คือคำตอบของสิ่งที่เราครุ่นคิดมาตลอด
การเดินทางข้ามเวลานับศตวรรษกลับมาพบกันของเอลิซาเบธและเปโดร หนุ่มสาวผู้ไม่เคยรู้จักกัน
ไม่เคยเห็นหน้ากัน และมีชีวิตอยู่คนละประเทศ คนละวัฒนธรรม หากโชคชะตากลับทำให้เขาได้มาพบกัน
และได้ร่วมชีวิตกันอีกครั้งในชาตินี้ ด้วยการบำบัดทางจิต Phychotherapy โดยใช้วิธีสะกดจิตเพื่อย้อนอดีตชาติ


ดร.ไวส์ เป็นคนแรกที่ค้นพบว่าในหลายๆชาติภพที่ผ่านมา เขาทั้งสองเคยได้พบ
ได้รักและพลัดพรากจากกันมาไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติ ดร.ไวส์ รู้ว่าคนทั้งคู่กำลังค้นหากันและกัน
แต่กลับไม่สามารถช่วยเหลือให้ทั้งคู่จำกันได้
ความพยายามของ ดร.ไวส์ ไม่อาจเอาชนะพรหมลิขิตที่ขีดเส้นชีวิตของคนทั้งสองไว้
ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ต้องดำเนินไปตามกระแสแห่งโชคชะตา พี่สาวไม่เคยแปลหนังสือเป็นเล่มมาก่อน
แต่หนังสือเล่มนี้มีค่าสำหรับเธออย่างยิ่ง โดยเฉพาะในวันเวลาที่มืดมนไร้คำตอบต่อการดำรงชีวิตอยู่
และไม่เคยหาเหตุผลได้ ว่าทำไมเราจึงต้องเดินเข้าสู่กับดักของเรื่องราวมากมายทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจอยากให้มันเป็นไป?


วันนี้เธอได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญทุกเรื่องราวใต้หล้าล้วนมีเหตุและผล
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาสู่ชีวิตเราล้วนถูกกำหนดไว้แล้วทั้งสิ้น


"...คนเราทุกคนย่อมมี เนื้อคู่ ของตัวเองทั้งสิ้น และมักจะมีถึงสอง สาม
หรือแม้กระทั่งสี่คนในช่วงชีวิตหนึ่ง พวกเขามาจากหลายยุคสมัย เดินทางข้ามมหาสมุทรแห่งกาลเวลา
พ้นความลึกสุดหยั่งของมิติสวรรค์เพื่อจะได้มาอยู่ร่วมกับคุณอีกครั้ง
...ชาตินี้เขาอาจจะมีรูปลักษณ์หน้าตาไม่เหมือนเดิม แต่คุณจะรู้จักเขาด้วย
หัวใจว่าคนนี้แหละ ใช่ ...สมองของคุณอาจรั้งรอ ฉันไม่รู้จักเธอ แต่หัวใจคุณสิ รู้
...แต่เขาอาจจำคุณไม่ได้ แม้ว่าคุณจะได้พบกับเขาอีกครั้ง แม้ว่าคุณจะรู้จักและจำเขาได้ก็ตาม
ตัวคุณรับรู้แล้วว่าเขาเคยผูกพันกับคุณมาก่อน คุณมองเห็นความเป็นไปได้ เห็นอนาคต แต่เขาไม่เห็น
..ความกลัวของเขา สติของเขา หรือปัญหาของเขาเป็นม่านบังดวงตาแห่งหัวใจของเขาจนหมด
เขาไม่ยอมให้คุณช่วยเปิดม่านนั้นขึ้น ...คุณคร่ำครวญ โศกเศร้า ร้าวราน ส่วนเขาก็มีชีวิตของเขาต่อไป..."


บางครั้งพรหมลิขิตก็ละเอียดอ่อนเสียเหลือล้ำ สายใยแห่งชีวิตโยงใยให้คนสองคนได้กลับมาพบกัน
ใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางเดียวกัน แต่กลับไม่เปิดทางสว่างให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างมีความสุขง่ายๆ
หากใครคนหนึ่งสัมผัสได้ถึงความผูกพันอันลึกซึ้ง...แต่ใครอีกคนหนึ่งกลับปฏิเสธ
การเดินทางข้ามเวลาเพื่อกลับมาพบกันครั้งนี้จะมีประโยชน์อะไร...
นอกจากจะก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานให้กับคนที่ต้องกลายเป็นฝ่ายรอคอย


"...คู่แท้ที่จำกันได้อาจจะเกิดแค่เบาบางและอาจจะช้ามาก ราวอรุณรุ่งแห่งความรู้แจ้ง
เมื่อม่านบังตาค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ ไม่ใช่ทุกคู่ทุกคนที่เห็นแล้วก็รู้ได้ในทันที
มันต้องใช้เวลา และต้องใช้ความอดทนที่จะรอสำหรับฝ่ายที่เห็นมันได้ก่อน
...การเลือกทำอย่างหนึ่งอย่างใด หรือไม่ทำเลยขึ้นอยู่กับจิตใจอิสระของคนทั้งคู่เท่านั้น
เขาเลือกกันเอง คู่ที่ตื่นน้อยอาจเลือกตัดสินใจตามสมองบัญชาจากความกลัวหรืออคติ
...แล้วโชคร้ายนักที่การตัดสินใจเยี่ยงนี้มักจบลงด้วยหัวใจที่แหลกสลาย..."


พุทธศาสนาสอนให้เราเชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม คนทุกคนมีกรรมที่ตนเป็นผู้ก่อ
...และมีผลแห่งกรรมที่ตนจะต้องเป็นผู้รับ
สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันล้วนแล้วแต่เป็นผลที่เกิดขึ้นจากอดีต...จากสิ่งที่เราเคยก่อขึ้น


" ...บางครั้งคู่แท้ของเราก็ตอบสนองและยังว่างรอเราอยู่...แต่เราอยู่กับเขาหรือเธอแล้วทุกข์...
หลายครั้งที่คนเป็นเนื้อคู่อาจตัดสินใจไม่ลงเอยที่การแต่งงานกัน ทั้งที่เกิดตามกันแล้วในชาตินี้
...ทั้งสองคนได้พบเจอกัน อยู่ด้วยกันจนภารกิจในการพบเจอกันเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว
ดังนั้นจึงแยกทางไปมีชีวิตใหม่ กำหนดการของพวกเขา แผนที่จะเรียนรู้บทเรียนชีวิตของพวกเขา
ตลอดทั้งชีวิตแตกต่างกัน จึงไม่อยากหรือไม่จำเป็นจะต้องผูกชีวิตทั้งชีวิตไว้ด้วยกัน
...นี่ไม่ใช่โศกนาฏกรรมเป็นเพียงเรื่องของการเรียนรู้เท่านั้น เราร่วมมีชีวิตชั่วอนันตกาล
หากแต่บางคราวเราจำต้องแยกชั้นเรียนชีวิตคนละวิชา..."


มันไม่ใช่โศกนาฏกรรม แต่เป็นเพียงการเรียนรู้เท่านั้น นี่คือสิ่งที่ต้องเกิด...และจำเป็นต้องเกิดขึ้น
มันไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล...ไม่มีเงื่อนไข...ไม่ใช่การพบกันเพื่อความว่างเปล่า
หากทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นอย่างมีวัตถุประสงค์ในตัวของมันเอง


"...Soul Relationship หรือ สายสัมพันธ์ทางวิญญาณ ก็เหมือนกับต้นไม้ใหญ่
ที่มีใบนับพันๆใบ ประดาใบที่อยู่บนก้านเดียวกันกับเราจะใกล้ชิดผูกพันกับเรามากที่สุด
เราอาจจะแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต ประสบการณ์ทางดวงวิญญาณในหมู่พวกเราได้...
เราอาจจะเคยพบดวงวิญญาณอื่นที่อยู่ไกลจากเรา แต่อยู่ลำต้นเดียวกันมาแล้ว
ในชาติภพก่อนๆก็ได้ คนเหล่านั้นอาจจะมามีสัมพันธ์กับเราหลากหลายรูปแบบ
การที่เขาเข้ามาในชีวิตเราอาจจะสั้นมาก...แต่การได้รู้จักคนๆนั้นอาจช่วยเราหรือช่วยเขา
หรือกระทั่งช่วยทั้งสองคนให้เรียนรู้อะไรในชีวิตก็ได้
...ความสัมพันธ์ระหว่างเรามิอาจวัดด้วยกาลเวลาว่าพบกันยาวนานเพียงไร
หากแต่วัดกันด้วยบทเรียนที่เราได้รับจากการพบกันว่าเป็นเช่นไรต่างหาก..."


มนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมาอย่างมี Purpose of Life หรือ วัตถุประสงค์ของชีวิต
สิ่งที่เราต้องพบและต้องกระทำล้วนสืบเนื่องและเกี่ยวพันกับวัตถุประสงค์ที่ถูกกำหนดไว้แล้วนั้น
ทุกคนมีภารกิจของตัวเองที่จะต้องกระทำให้เสร็จสิ้นในชาติภพที่ตัวเองเกิดมา


โชคชะตาได้กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้โดยที่เราไม่มีทางหลีกเลี่ยง
เปโดรเคยรักและพลัดพรากจากเอลิซาเบธมาหลายชาติหลายภพ บางชาติทั้งสองเกิดเป็นพ่อลูกกัน
บางชาติเป็นพี่น้องกัน บางชาติเป็นคู่รักกัน ทั้งสองผูกพันกันแนบแน่น
หากก็ยังมีคนอื่นที่ผูกพันกับชีวิตและได้อยู่ร่วมกันยาวนานกว่า


นี่อาจเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าคู่แท้ไม่จำเป็นต้องเกิดเพื่อเป็นคู่รักกันทุกชาติทุกภพ
ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันตลอดกาลนาน หรือบางทีอาจไม่จำเป็นต้องพบกันเลยก็ได้ในบางชาติ
พรหมลิขิตจะทำงานด้วยตนเอง โดยไม่ต้องให้มนุษย์ไปคอยกระตุ้น
เพราะทุกอย่างล้วนถูกขีดเส้นไว้แล้ว เช่นเดียวกับเรื่องราวของเปโดรและเอลิซาเบธ


แม้ดร.ไวส์จะพยายามช่วยให้ทั้งสองได้พบกันอย่างไรก็ไร้ผล
หากมันยังไม่ถึงเวลาและยังไม่ใช่สถานที่ที่โชคชะตาได้กำหนดเอาไว้
ทุกอย่างคือ Destiny ชะตากรรมยิ่งใหญ่ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของมนุษย์ชั่วนิรันดร์


"...รักคือพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก รักเติบโตและผลิบานได้ แม้ในคืนที่หนาวเยือก
กลางสถานภาพที่โหดร้ายที่สุด รักเกิดได้ในทุกหนแห่ง และทุกเวลา ..รักคือดอกไม้ซึ่งผลิได้ไม่เลือกฤดูกาล..."


เราไม่มีสิทธิ์เลือกรับหรือปฏิเสธใครที่ก้าวผ่านเข้ามาในชีวิต
และเราก็ไม่มีทางที่จะรู้ล่วงหน้าเลยว่าการที่ใครซักคนก้าวเข้ามาในชีวิตเรา
จะมีผลกระทบให้ชีวิตเราทุกข์หรือสุขมากน้อยเพียงใดในอนาคต


สายสัมพันธ์ทางวิญญาณโยงใยให้เราต้องพบ ต้องรู้จักกับใครต่อใครในหลากหลายรูปแบบ
แม้จะมีความสัมพันธ์ต่อกันเพียงระยะเวลาสั้นๆ และอาจไม่ได้พบเจอกันอีกแล้วตลอดชาตินี้

หากเราและคนๆนั้นก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของเวทีชีวิตแห่งพรหมลิขิตไปแล้วอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง


การพบกันของเรามีจุดประสงค์ การจากกันของเราก็มีจุดประสงค์
อย่างน้อยแค่เราได้รู้ว่าการพบกันของเราไม่ได้ไร้ความหมาย
หากเป็นการพบกันที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อชีวิตของกันและกัน มันก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่หรือ?
ตลอดเวลาที่เราคบกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เราทำอะไรหลายอย่างให้กันและกันมา
มากมายเกินกว่าที่จะเป็นแค่คนรู้จักที่ผ่านมาและผ่านไป


และนี่เองที่เป็นคำตอบของคำถามมากมายที่ว่า...ทำไมเราต้องพบกัน...ทำไมเราต้องรักกัน...

ทำไมน่ะหรือ? ก็เพราะมันคือภารกิจแห่งชีวิตน่ะสิ! ไม่ว่าการพบกันครั้งนี้มันจะลงเอยอย่างไร
เราก็จำเป็นจะต้องพบกัน...อยู่ร่วมกัน จนกว่าภารกิจนั้นจะจบสิ้นลงและเมื่อเวลาสำหรับเราหมดลง
การจากพรากก็ย่อมเกิดขึ้น บางทีเราอาจเป็นเพียง Soul Companion
ที่เกิดมาเพื่อทำหน้าที่บางอย่างให้แก่กันเท่านั้นก็ได้


'อรชณก' เล่าเรื่อง

ตัดตอนมาจากหนังสือ "31 วันแห่งการตัดใจ"

ที่มา : //www.quamruq.com/book/book.html

 

โดย: hs_olj 12 กรกฎาคม 2551 1:56:05 น.  

 

ตอนนี้อยากข้ามประเทศอะ

ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะ ๆ นะค่ะ

 

โดย: ความเจ็บปวด 12 กรกฎาคม 2551 2:25:34 น.  

 

อีกครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณฉันรออยู่
คนเคยรู้ใจ คนเคยรู้จัก จำฉันได้ไหม รักเคยพลัดพรากกัน ....

ตอนที่รักใครมากๆ
มันเหมือนมาเจออีกครึ่งของดวงวิญญาณจริงๆ
มันดีใจ เสียใจ สุขใจ ทุกข์ใจ
เท่าๆกันจริงๆเลยนะ
เวลาที่เขาเจ็บไข้ เราก็จะรู้สึกไม่สบายตัว
เวลาเรานอนไม่หลับ ก็นอนไม่หลับเหมือนเขาอีก
อยากมีวันเวลาที่ได้ใกล้ชิดเขาอีกครั้ง
แต่เหมือนว่าไม่มีทางเป็นไปได้
คำว่า Soul Companion
มันเจ็บปวดนะ
มาเจอเขาแต่ไม่ได้ร่วมชีวิตกับเขาจนวันตาย
ชีวิตก็เหมือนตายเมื่อรู้ว่าเขาอยู่ในที่ๆ
เราไม่มีวันเข้าไปใกล้ได้อีกครั้ง

 

โดย: chauphya 12 กรกฎาคม 2551 6:22:11 น.  

 

"อดีตเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
แต่ปัจจุบันเป็นสิ่งที่เราสามารถเลือกและกำหนดเองได้"

ก็จริงนะคะ เดี๋ยวนี้ นู๋ปาล์ม
ชอบยึดติดกับ อดีตบ่อยๆ
จนเครียด จนป่วยไปเลย

พี่บี ได้ไปคอน พี่เบิร์ด หรือเปล่าคะ
ถ้ายังไม่ได้บัตรลองไปดูที่
pantipmarket ดูนะคะ
เห็นขายกันเกลื่อนเลยค่ะ

ไปดูคอน เอสเจ ก่อนนะคะพี่บี
อวยพรด้วยนะคะ

สู้ๆนะคะพี่บี

 

โดย: ปาล์ม (palmpada ) 12 กรกฎาคม 2551 9:58:03 น.  

 

แวะมาทักทายครับ
เห็นว่ากำลังหาบัตรคอนเสิร์ตแบบ เบิร์ด เบิร์ดอยู่

เค้าเพิ่มรอบวันที่ 21 สิงหาคม อีก 1 รอบนะครับ
เปิดจองบัตรที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์
ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม

หรือถ้าอยากจองก่อน
เข้าไปจองได้ที่
www.gmmlive.com นะครับ

เก็บภาพทริปเกาะล้าน; พัทยา มาฝากครับ

Mr.hong’s Blog
You can click this picture to Mr.hong’s Blog

 

โดย: มิสเตอร์ฮอง 12 กรกฎาคม 2551 15:35:00 น.  

 

มีแต่เนื้อเหรอคะ พี่ไม่ได้ยินเพลงเลยอ่ะน้องบี (หรือคอมฯพี่ไม่ดีไม่รู้)

 

โดย: พจมารร้าย 12 กรกฎาคม 2551 16:11:40 น.  

 

สวัสดีครับน้องบี


พี่ก๋ามาดามและหมิงหมิงสบายดีครับ
น้องบีเป็นยังไงบ้างครับ
สบายดีนะครับ

มีความสุขมากๆนะครับ

ว่าแล้วก็เอารูปสุดหล่อมาฝากซะเลย 5555



 

โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) 13 กรกฎาคม 2551 18:39:35 น.  

 

สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปฟังเพลงนะ
ช่วงนี้ก็เรื่อย ๆ ค่ะ สบายดีนะ
รักษาสุขภาพด้วยนะ
บายยยยยยยยยค่ะ

 

โดย: molakun1918 13 กรกฎาคม 2551 18:56:14 น.  

 

เอิ่ม...น้องบีก๊าบบบ

หมิงหมิงเป็นปู้จายก๊าบบบ ว่ะฮะฮ่าๆๆๆ
แสดงว่าหน้าหวานใช้ได้เลยนะเนี่ย 5555

เอ่อ...จะหมั้นก็ได้นะครับน้องบี
ห่างกันไม่กี่ปีเองครับ 5555

 

โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 13 กรกฎาคม 2551 19:26:55 น.  

 

ชีวิตที่น่าอิจฉาตอนจบ
มาแล้วนะคะ


https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sodnaisoi&month=07-2008&date=13&group=16&gblog=202

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: โสดในซอย 13 กรกฎาคม 2551 21:03:19 น.  

 

หวัดดีจ้าน้องบี
พี่สบายดีจ้า
กินอิ่ม นอนหลับ
ไม่เครียด ไม่ทุกข์
น้ำหนักขึ้นมา2โลแล้ว อิๆ
อีกหน่อยคงเป็นหมู
คริๆ

 

โดย: kai (aitai ) 13 กรกฎาคม 2551 21:44:21 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องบี ขอบคุณที่ไปเยี่ยมป้าแป๋วนะคะ

ช่วงนี้ป้าแป๋วก็ยุ่งๆ เหมือนกันค่ะ
ไม่ค่อยมีเวลาเข้าเน็ตบ่อยเหมือนก่อนค่ะ

นอนหลับฝันดีนะคะ

 

โดย: แป๋วภูเก็ต 13 กรกฎาคม 2551 22:14:30 น.  

 

หวัดดีจ้า
ไม่ค่อยได้เมนต์ แต่มาอ่านเป็นระยะๆ เน้อ 55

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 13 กรกฎาคม 2551 23:05:49 น.  

 

มาเยี่ยมน้องสาว หนังสือเล่มนี้อ่านนานแล้ว คุณโจแปล หนังจีนบอกว่าเป็นเพราะฟ้าลิขิต ทำให้เรามีวาสนาต้องกัน

 

โดย: joy IP: 203.144.193.162 13 กรกฎาคม 2551 23:10:51 น.  

 

ไม่ได้มาบล๊อกนี้นานหลังเลิกอัพบล๊อกไป

ขอบคุณที่แวะไปอ่านที่บล๊อกนะครับ คิดว่าคงจะชอบเพราะเห็นไปทำบุญบ่อยๆครับ

 

โดย: ฮิโระ (ordinary_hero ) 14 กรกฎาคม 2551 8:19:47 น.  

 

น้องบี ไว้ช่วงไหนว่างๆนัดเจ้าอิงมาเจอพร้อมกันก็ดีเนอะ แต่ตอนนี้พี่ซ่าส์เยอะไม่ได้ 555 งบประมาณหมดไปกะกล้อง ก๊ากกกกกกก แต่คิวมิตติ้งที่นัดไว้แล้วต้องเคลียร์ อิอิ

มีข้าวหมกไก่มาฝากด้วยจ๊ะ

 

โดย: eeh (คิตตี้น้อยสีชมพู ) 14 กรกฎาคม 2551 9:26:20 น.  

 

จ๊ะเอ๋ พี่หมีหายป่วยออกซิ่งแล้วจ้าemoemo

 

โดย: หมีสีชมพู 14 กรกฎาคม 2551 10:26:56 น.  

 

เคยซื้อเวอร์ชั่นเดิมที่ยังไม่มีเพลงมาประกอบอ่ะครับ

สนุกดี : )

 

โดย: ชรันจ์ 14 กรกฎาคม 2551 12:29:38 น.  

 

ตามมาอ่านและทักทายนะจ๊ะ

 

โดย: หลังจอ 14 กรกฎาคม 2551 15:47:23 น.  

 

หวัดดีครับน้องบี


แน่นอน...น้องบีเข้ามาเป็นคนแรกๆ
ภายใต้ชายคาบ้าน "กะว่าก๋า"
พี่ก๋าไม่ลืมแน่นอนครับ....

พี่ก๋ายังขยันอยู่นะครับ ว่ะฮะฮ่าๆๆๆๆ

อัพทุกวันเลย อิอิอิ



 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 14 กรกฎาคม 2551 16:41:07 น.  

 

แงๆๆๆๆๆๆๆๆ

มาอีกรอบ รออยู่สิบกว่านาที เพลงก็ไม่เล่น

 

โดย: พจมารร้าย 14 กรกฎาคม 2551 18:55:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Beee_bu
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




"ไม่ได้คิดถึงทุกครั้งที่หลับตา
แต่คิดถึงทุกเวลาที่หายใจ"


ผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือเพื่อสุขภาพ
รายละเอียด
www.taradplaza.com/dxn

www.pantipmarket.com/mall/dxnshop/

www.facebook.com/SozityShop

www.facebook.com/BeeeGadgets

www.Sozity.com
Friends' blogs
[Add Beee_bu's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

สาวๆเอนมาหนุ่มๆเอนไปเทพมังกรอวยชัยเอนมาๆ width=40 height=40 align=middle vspace=2 hspace=2 border=0 title="cilladevi">
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.