|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
การเมืองสีเขียว วิถีแห่งสังคมและระบบนิเวศ..นพนันท์ อนุรัตน์
การเมืองสีเขียว วิถีแห่งสังคมและระบบนิเวศ
นพนันท์ อนุรัตน์
ปัญหารูรั่วของชั้นโอโซน ฝนกรด โลกร้อนขึ้นจากภาวะเรือนกระจก การ สู เสียพื้นที่ป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพ...ฯลฯ ปรากฏการณ์อัน แสดงถึงการเสียสมดุลอย่างรุนแรงของระบบนิเวศโลกเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมๆ กับเหตุการณ์สำคัญ 2 ประการคือ การล่มสลายของอุดมการณ์สังคมนิยม แบบเก่าและการที่พลังแห่งกลไกตลาดของระบบทุนได้ก้าวสู่จุดสูงสุดในห้วง ประวัติศาสตร์ ...ดูเหมือนว่าโลกอนาคตจะปราศจากวิถีทางเลือกอื่นนอก เหนือไปจากเส้นทางแห่งทุนนิยมอุตสาหกรรมเสียแล้ว
ทว่าในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ขบวนการทางการเมืองกลุ่มเล็กๆได้เริ่ม ก่อตัวขึ้นท้าทายต่อกระแสอันเชี่ยวกรากของระบบทุน จากกลุ่มประท้วงกลาง ถนน พัฒนาเป็นพรรคการเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็วในกว่า 60 ประเทศ ทั่วโลก นี่คือปรากฏการณ์อันบ่งชี้ว่า ยุคของการแบ่งฝ่ายทางการเมืองเป็น ซ้าย-ขวาแบบเก่าได้สิ้นสุดลงไปแล้ว นับแต่นี้การจำแนกอุดมการณ์ทางการ เมืองจะมีเพียงคำถามว่า อุตสาหกรรมนิยมหรือนิเวศวิทยา เท่านั้น
จุดกระแสสีเขียว
ค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2526 11ปี หลังจากพรรคกรีนแห่งแรกได้ถือ กำเนิดขึ้นที่ประเทศนิวซีแลนด์ ...หอประชุมแห่งหนึ่งในกรุงบอนน์ ประเทศ เยอรมนีถูกอัดแน่นไปด้วยสมาชิกของพรรคกรีนกว่า 1,500 คน วงดนตรีร็อค ตั้งตระหง่านอยู่กลางเวที ทว่าทั้งหอประชุมกลับเงียบกริบ สายตาทุกคู่จับจ้อง อยู่ที่จอโทรทัศน์ซึ่งกำลังรายงานสดผลการเลือกตั้งทั่วประเทศ ทุกคนคน ต่างภาวนาให้คะแนนเสียงของพรรคข้ามพ้นเส้นตายที่ตัวเลขร้อยละ 5 ของ คะแนนเสียงจากทั่วประเทศ เพราะตามกฎการเลือกตั้งแบบสัดส่วนของ เยอรมนี คะแนนเสียงรวมที่ข้ามพ้นเส้นแบ่งนี้เท่านั้นจึงจะสามารถแปร เปลี่ยนเป็นจำนวนที่นั่งในรัฐสภาได้ ....มิฉะนั้นความพยายามทุกอย่างจะ มีค่าไม่ต่างจากศูนย์
18.20 น. ผลอย่างไม่เป็นทางการปรากฎออกมาว่า พรรคกรีนไม่อาจข้ามพ้น เส้นตายร้อยละ 5 ได้ เพตรา เคลลี หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อตั้งพรรคปรากฎตัวยอม รับความพ่ายแพ้หน้ากล้องโทรทัศน์ กล่าวว่าความพยายามทุกอย่างจบสิ้นลง แล้ว
19.39 น. ผลอย่างเป็นทางการกลับประกาศตัวเลขของพรรคกรีนที่ร้อยละ 5.5 ข้ามพ้นเส้นชี้ชะตาไปอย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตาม นั่นก็หมายถึง 27 ที่นั่งใน รัฐสภา สำหรับการเลือตั้งระดับชาติครั้งแรก ทันใดหอประชุมที่เคยเงียบกริบ กลับอึกทึกไปด้วยเสียงแห่งความตื่นเต้นยินดี หลายคนโผเข้ากอดกัน น้ำตา แห่งความปลื้มปิติไหลคลอเบ้า
คบเพลิงแห่งการเมืองแนวใหม่ได้ถูกจุดขึ้นแล้ว มันถูกส่งต่อจากมือสู่มืออย่าง รวดเร็ว ท่ามกลางความผุกร่อนของระบบทุนอุตสาหกรรม ...แน่นอนว่าหลัง จากเปลวเพลิงลามเลียทั่วท้องทุ่ง หญ้าอ่อนย่อมระบัดใบ และต้นกล้าใหม่ๆ ย่อมเติบโตหยั่งรากได้ในไม่ช้า
นิเวศวิทยาการเมือง
กล่าวได้ว่าความสำเร็จของพรรคกรีนแห่งเยอรมนีได้จุดประกายการเมือง แนวใหม่ให้แพร่ขยายไปทั่วยุโรปตะวันตกอย่างรวดเร็ว และทำให้ทั่วโลก เริ่มหันมาจับตามองขบวนการการเมืองกลุ่มใหม่นี้ ทั้งที่ยังปราศจากแนว โน้มการขึ้นสู่อำนาจในเร็ววัน หากจุดสนใจของบรรดาสื่อมวลชนและนัก วิชาการกลับจับจ้องไปที่แนวคิดและนโยบายทวนกระแสของพรรค อันตั้ง ต้นด้วยการปฏิเสธปรัชญาพื้นฐาน ไปจนถึงระบบโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สังคมของระบบทุนนิยมอุตสาหกรรม โดยพวกเขาได้พยายามนำเสนอการ เปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคน เพื่อขจัดปัญหาสังคม เศรษฐกิจและ สภาพแวดล้อมในปัจจุบันให้หมดไปอย่างสิ้น
เชิง ขบวนการนิเวศวิทยาการเมือง หรือ Green Movement ทั่วโลกมี หลักการร่วมกันคือการปฏิเสธกรอบความคิดภายใต้กระบวนทรรศน์แบบ เก่า ที่มองโลกแบบแยกส่วนและเน้นคุณค่าความสำคัญของมนุษย์เหนือกว่า องค์ประกอบอื่นในระบบนิเวศ พวกเขาเชื่อว่าแบบแผนความคิดดังกล่าวนี้ เองคือมูลเหตุสำคัญอันนำไปสู่การก่อรูปโครงสร้างทางทางเศรษฐกิจสังคม ที่มุ่งกระตุ้นความต้องการส่วนเกินของมนุษย์ เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตและ บริโภคอยู่ตลอดเวลา และโครงสร้างดังกล่าวได้ขับเคลื่อนกลไกหลักที่ทำลาย ล้างสมดุลแห่งสังคมและระบบนิเวศมาอย่างต่อเนื่อง
การก่อตัวของขบวนการสีเขียวได้รับอิทธิพลอย่างสำคัญยิ่งจากงานเขียนของ นักคิดกลุ่มก้าวหน้า ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 ซึ่งเริ่มตั้งคำถามถึงเป้าหมาย ในระยะยาวของระบบทุน ประสานเข้ากับแนวคิดพื้นฐานแบบใหม่ อย่างเช่น แนวคิดเรื่ององค์รวม และทฤษฎีกายา (Gaia Hypothesis) อันทำให้ ขบวนการมองปรากฎการณ์ทั้งทางสังคมและระบบนิเวศเป็นปัจจัยที่เชื่อมโยง และส่งผลกระทบถึงกันอยู่ตลอดเวลา ดังคำกล่าวของหัวหน้าเผ่าอินเดียนแดง นิรนามซึ่งมักถูกนำมากล่าวอ้างอยู่เสมอ
"...สรรพสิ่งเชื่อมโยงสัมพันธ์ ทั้งหมดต่างโยงใย สิ่งใดที่เกิดขึ้นกับโลก ล้วนส่งผลต่อบุตรธิดาแห่งโลกด้วยเช่นกัน มนุษย์มิใช่ผู้ถักทอสายใยแห่งชวิต หากเป็นเพียงเส้นด้ายหนึ่ง ทุกสิ่งที่เขากระทำต่อสายใยนี้ ล้วนคือการกระทำต่อตนเอง....."
แนวทางแห่งอนาคต
แม้หลักการของพรรคกรีนในประเทศต่างๆจะมีรายละเอียดที่แตกต่างออกไป ตามภาวการณ์เฉพาะของแต่ละพื้นที่ แต่อาจกล่าวได้ว่าทั้งหมดต่างมีจุดร่วม ในหลัก สำคัญ 4 ประการคือ นิเวศวิทยา ความเป็นธรรมทางสังคม ประชาธิปไตยระดับ รากฐาน และสันติวิธี ซึ่งหลักการดังกล่าวนี้ได้ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวและรวม ทั้งนโยบายด้านต่างๆของพรรคตลอดมา
นโยบายของของพรรคกรีนมิได้มุ่งเฉพาะการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมดังที่ หลายคนเข้าใจ หากมุ่งสู่การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงสังคมในทุกๆด้านให้ก้าว ไปสู่แนวทางการพัฒนาภายใต้กระบวนทัศน์ใหม่ ที่มองปัญหาทุกด้านเชื่อม โยงและส่งผลกระทบถึงกันอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการแก้ไขย่อมไม่อาจแยก เรื่องใดเรื่องหนึ่งออกมาจัดการอย่างโดดๆ แต่ต้องดำเนินการปรับเปลี่ยน ทั้งระบบให้คืนกลับสู่สมดุลในที่สุด
ด้วยเหตุนี้นโยบายของพรรคกรีนจึงครอบคลุมกิจกรรมแทบทุกด้านของ สังคมตั้ง แต่เศรษกิจ การเมือง การศึกษา สาธารณสุข การคมนาคม และ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ฯลฯ ซึ่งเมื่อประกอบทุกด้านเข้าด้วยกันก็จะ ได้ภาพร่างของ สังคมใหม่ที่แตกต่างไปจากระบบทุนนิยมอุตสาหกรรมใน ปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
พรรค หรือขบวนการ ?
เช้าตรู่วันที่ 3 กันยายน 2526 ณ บิทเบิร์ก ชายแดนเชื่อมต่อระหว่างเยอรมนี กับลักแซมเบิร์ก กองกำลังตำรวจถูกส่งเข้าเสริมเพื่อตรึงกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้าน การติดตั้งขีปนาวุธครุยส์ชุดใหม่ กลุ่มผู้ประท้วงกว่า 900 คนซึ่งนำโดยสส.จาก พรรคกรีนนั่งชุมนุมอย่างสงบท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ ประจันหน้ากับแถว ตำรวจพร้อมอาวุธเต็มพิกัด ....ทุกๆชั่วโมงที่ผ่านไปผู้คัดค้านจากทุกสารทิศ ต่างหลั่งไหลมาสมทบ จนจำนวนผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้นเป็นหลายพันคน และทันที ที่ฝูงชนพยายามเคลื่อนตัวเข้าใกล้ประตูฐานยิงขีปนาวุธ ก็ต้องเผชิญกับการ สกัดกั้นอย่างรุนแรง หน่วยสุนัขตำรวจบุกทะลวงเข้ากลางวง ตามติดด้วยการ ฉีดน้ำสลายฝูง ชน.... เหตุการณ์วันนั้นจบลงด้วยการที่ผู้ประท้วงจำนวนมาก ถูกจับกุม หลายคนบาดเจ็บ และกลายเป็นบันทึกอันโหดร้ายหน้าหนึ่งของ ขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อ สันติภาพ
น่าแปลกที่เหตุการณ์ในวันนั้นเกิดขึ้นเพียงครึ่งปีหลังจากที่พรรคกรีนได้ ก้าวเข้าสู่รัฐสภาเยอรมนีเป็นครั้งแรก การที่พรรคยังคงดำเนินบทบาทการ เคลื่อนไหวนอกสภาอย่างจริงจังต่อเนื่องได้ทำให้หลายฝ่ายเกิดข้อสงสัยถึง แนวทางการดำเนินงานของพรรคว่าจะเป็นไปในลักษณะใด...
กล่าวได้ว่าการมองภาพขบวนการนิเวศวิทยาการเมืองเพียงเฉพาะพรรคกรีน นั้นเป็นการมองเห็นภาพได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะหากมองย้อนไปยัง ต้นกำเนิดของพรรคเมื่อเกือบสองทศวรรษก่อน เราจะเห็นภาพของขบวนการ นักศึกษาและองค์ประชาชนระดับรากฐานที่มีความหลากหลายทั้งทางด้าน แนวความคิดและยุทธวิธีการเคลื่อนไหว ตั้งแต่กลุ่มสิทธิมนุษยชน ขบวน การสันติภาพ นักอนุรักษ์สภาพแวดล้อม ไปจนถึงนักสังคมนิยม ซึ่งกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ได้หลอมรวมเข้าด้วยกันเพื่อร่วมเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการก่อสร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ครั้งใหญ่ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 แม้การเคลื่อนไหว ครั้งนั้นจะทำให้องค์กร ต่างๆเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการต่อสู้ในเวที รัฐสภาอย่างจริงจัง กระทั่งนำไปสู่การก่อตั้งพรรคกรีนขึ้นในระยะต่อมาก็ตาม แต่ทั้งหมดก็คงยังเน้นความสำคัญของขบวนการประชาชนและการเปลี่ยน แปลงจากระดับรากฐานเป็นด้านหลัก ในขณะที่วางบทบาทของงานการเมืองใน ระบบเป็นเพียงการหนุนช่วยกระบวนการเปลี่ยนแปลงขององค์กรประชาชน เท่านั้น
ไม่กี่ปีถัดมา ได้เกิดความขัดแย้งภายในครั้งใหญ่เกี่ยวกับยุทธวิธีการเปลี่ยน แปลงสังคมของขบวนการ เมื่อพรรคกรีนในแคว้นต่างๆประสบความสำเร็จ มากขึ้น จนกระทั่งมีโอกาสเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลระดับท้องถิ่น สมาชิกพรรค ฝ่ายหนึ่งเสนอให้ใช้โอกาสนี้เข้าร่วมรัฐบาลเพื่อเร่งนำนโยบายสีเขียวไปสู่ การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่อีกฝ่ายซึ่งยืนหยัดในหลักการเปลี่ยน แปลงจากระดับรากฐานปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว การถกเถียงซึ่งดำเนินไป อย่างเผ็ดร้อนและยาวนานนี้จบลงที่การแยกตัวออกไปของฝ่ายหลัง จากนั้น มาขบวนการสีเขียวแห่งเยอรมนีจึงเริ่มมีแนวโน้มไปสู่การอาศัยอำนาจรัฐ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงจากภายในระบบมากยิ่งขึ้น
บนเวทีประวัติศาสตร์
กว่าสองทศวรรษหลังจากการก่อตั้งพรรคกรีนแห่งแรก ณ ประเทศนิวซีแลนด์ วันนี้ตัวแทนจากพรรคกรีนหลายร้อยคนได้ก้าวเข้าสู่สภา ตั้งแต่ระดับระดับ ท้องถิ่นไปจนถึงระดับนานาชาติ แม้ว่าขบวนการนิเวศวิทยาการเมืองส่วน ใหญ่จะยังอยู่ในระยะก่อร่างขบวนการจากองค์กรประชาชน แต่ขณะเดียว กัน กระแสการเมืองแนวใหม่นี้ก็ได้เติบโตและหยั่งรากลงแล้วในหลายพื้น ที่ พรรคกรีนเริ่มกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการพัฒนาภายใต้กระบวนทัศน์ แบบใหม่ที่ทวีความเข้มแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่องในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก จาก เยอรมนีสู่ฝรั่งเศส อังกฤษ อเมริกา ลิทูเนีย บราซิล ชิลี และไต้หวัน ฯลฯ ขณะ เดียวกัน สส.จากพรรคกรีน เริ่มมีบทบาทสำคัญในการวิพากษ์วิจารณ์โครง การพัฒนาตามแนวทางอุตสาหกรรมนิยม พร้อมทั้งเสนอทางเลือกใหม่ๆให้ แก่รัฐสภาได้อย่างน่าพอใจ
นักสังคมศาสตร์กลุ่มหนึ่งเชื่อว่ากระบวนทัศน์ หรือกรอบความคิดพื้นฐาน ของโลกในยุคสมัยหนึ่งๆ ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดโครงสร้างของสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ตลอดจนถึงความคิดจิตใจของผู้คนในช่วงเวลานั้นๆ และยังเชื่อต่อไปว่ากระบวนทัศน์แบบเก่าที่มีลักษณะความคิดแบบแยกส่วน ขาดความเข้าใจในสัมพันธภาพของสรรพสิ่งในระบบนิเวศ อันเป็นที่มาของ วัฒนธรรมอุตสาหกรรมนิยม ได้ก้าวมาถึงจุดเสื่อมถอย ขณะที่กระบวนทัศน์ ใหม่ที่มีลักษณะความคิด แบบองค์รวม เน้นดุลยภาพของสังคมและระบบนิเวศ กำลังเคลื่อนเข้ามาแทนที่
หากมองลอดแว่นแห่งทฤษฎีดังกล่าวเราจะพบภาพของพรรคกรีนและขบวนการ นิเวศวิทยาการเมืองกำลังทำหน้าที่บุกเบิกเส้นทางสายใหม่นี้อยู่อย่างขะมักเขม้น ในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก
และนับจากนี้เวทีการเมืองจะมีความหมายใหม่ ที่มิใช่การขับเคี่ยวระหว่าง ซ้าย-ขวา หากเป็นการประลองกำลังยกแรกระหว่างกระบวนทัศน์เก่าและใหม่ คู่ต่อสู้ที่จะเปิดฉากการสัประยุทธ์อย่างถึงพริกถึงขิงนับแต่ทศวรรษหน้า
|
|
|
|
Create Date : 28 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 28 สิงหาคม 2550 23:35:53 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1002 Pageviews. |
|
|
|
โดย: 77 IP: 124.120.28.186 วันที่: 4 ตุลาคม 2550 เวลา:12:27:07 น. |
|
|
|
โดย: Kevin IP: 124.121.136.69 วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:11:48:16 น. |
|
|
|
โดย: มะเหมี่ยว IP: 124.120.29.129 วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:16:26:49 น. |
|
|
|
โดย: TIM IP: 124.121.132.41 วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:20:49:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|