Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
16 เมษายน 2552
 
All Blogs
 

ล่องคลองท่องแม่น้ำกับ 5 เส้นทางเรือท่องเที่ยว


วิวของพระอุโบสถวัดโสธรวรารามเมื่อมองจากกลางแม่น้ำ

แม้ในช่วงวันสงกรานต์ปีใหม่ไทยปีนี้ออก จะมีเรื่องวุ่นวายในบ้านเมืองทำให้หมดสนุกไปซักเล็กน้อย
แต่ช่วงเวลานี้ก็ยังถือเป็นวันรวมญาติพี่น้องญาติสนิทมิตรสหายที่อยู่ห่าง ไกลให้มารวมกัน
จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะชักชวนครอบครัวให้ออกไปเที่ยวกันอย่างพร้อมหน้า พร้อมตา

สำหรับการท่องเที่ยวในหน้าร้อนเช่นนี้ นอกจากทะเลแล้ว การล่องเรือท่องแม่น้ำลำคลองรับลมเย็นๆ
ชมทิวทัศน์ 2 ฟากฝั่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ นั่นจึงเป็นที่มาของ 5 เส้นทางท่องเที่ยวทางเรือใกล้
กรุงเทพฯ ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปล่องเรือพักผ่อนกันตามใจปรารถนา


เดินเล่นในตลาดบ้านใหม่

เที่ยวตลาดบ้านใหม่ ไหว้หลวงพ่อโสธร แม่น้ำบางปะกง
แม่น้ำบางปะกงในจังหวัดฉะเชิงเทราก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยว ล่องแม่น้ำที่ไม่น่าพลาดเป็นอย่างยิ่ง
แต่ก่อนจะลงเรือล่องแม่น้ำ ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการเข้าไปไหว้ "หลวงพ่อโสธร"ภายใน "วัดโสธรวรารามวรวิหาร"
พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวฉะเชิงเทรา ที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถหินอ่อนงดงามเป็นสง่ายิ่งนัก

หลังจากไหว้พระเรียบร้อยแล้วให้เดินไปที่ด้านหลังโบสถ์ บริเวณท่าเรือริมแม่น้ำบางปะกง จะเป็นจุดลงเรือเที่ยว
ซึ่งในวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์นั้นก็จะมีเรือออกบริการทุกชั่วโมงกันเลยทีเดียว
และบนเรือจะมีมัคคุเทศก์คอยอธิบายถึงสิ่งต่างๆ สองข้างทางแม่น้ำให้นักท่องเที่ยวฟัง เพื่อให้ได้บรรยากาศใน
การเดินทาง และในขณะเดียวกันก็เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับเมืองฉะเชิงเทราไปในตัวด้วย

เมื่อเรือแล่นห่างจากท่าเรือมากลางแม่น้ำ จากจุดนี้หากมองย้อนกลับไปจะเห็นคุ้งน้ำโค้ง
และมีพระอุโบสถวัดโสธรวรารามฯอยู่บนฝั่งคุ้งน้ำนั้นพอดี เป็นภาพที่งดงามประทับใจ
เรือแล่นผ่านอาคารไม้สักหลังใหญ่ที่สุดในจังหวัดที่ตั้งอยู่ในค่ายศรีโสธร
ปัจจุบันนี้เป็นที่ทำการกองบังคับการกองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์ ผ่านตำหนักกรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์
ซึ่งปัจจุบันคือจวนผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นจะผ่านป้อมและกำแพงเมืองเก่าที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาล
ที่ 3 มองทางขวามือจะเห็นหอระฆังไม้ของโบสถ์เซนต์ปอล อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี


ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำยามเย็นอันคึกคัก

ชมบรรยากาศจากบนเรือมาได้สักพักแล้ว เรือแวะจอดให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปสัมผัสกับบรรยากาศของ
"ตลาดบ้านใหม่" ตลาดห้องแถวริมน้ำที่เก่าแก่อายุกว่าร้อยปีมาแล้ว ในอดีตมีชุมชนชาวจีนมาอาศัยอยู่ที่นี่
เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขาย และเนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายใหญ่
เป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางทางน้ำ ตลาดบ้านใหม่ในอดีตนั้นจึงคึกคักเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อมีการตัดถนน การคมนาคมทางน้ำลดความนิยมลงไป ลูกหลานในตลาดเติบโตขึ้นและออกไปทำงานต่าง
เมืองกันหมด ทำให้ตลาดบ้านใหม่กลายเป็นตลาดร้าง ก่อนที่ชมรมรักษ์ตลาดบ้านใหม่จะฟื้นฟูตลาดแห่งนี้ให้เป็น
แหล่งท่องเที่ยว รื้อฟื้นภาพตลาดห้องแถวริมน้ำเก่าๆ ที่เคยมีร้านกาแฟโบราณ ร้านอาหารอร่อยๆ
ร้านขายขนมขายของเล่นสารพัดอย่าง ร้านขายของงานฝีมือของที่ระลึกน่ารักๆ

จนทุกวันนี้ตลาดบ้านใหม่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองฉะเชิงเทรา อีกครั้ง
เดินช้อปเดินชิมอาหารสารพัดอย่างในตลาดบ้านใหม่แล้วก็ต้องเดินต่อไปให้ถึง "วัดจีนประชาสโมสร" หรือ
"วัดเล่งฮกยี่" วัดในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่มีความโดดเด่นตรงที่มีพระประธานองค์ใหญ่ 3 องค์ที่ตั้งอยู่
ด้านใน และพระอรหันต์ 18 องค์ตั้งเป็นสองแถวด้านข้างพระประธาน มองเผินๆ อาจจะไม่เห็นความพิเศษ
แต่ที่น่าทึ่งก็คือทั้งพระประธานและพระอรหันต์ที่เห็นอยู่นี้ ล้วนแล้วแต่ทำขึ้นจากกระดาษหรือที่เรียกว่าเปเปอร์มาเช่
และมีอายุกว่า 100 ปีเลยทีเดียว


บรรยากาศบ้านเรือนริมคลองอัมพวา

ไหว้พระเสร็จเรียบร้อย เรือก็พาเราย้อนกลับมาทางเดิมอีกครั้ง นั่งเรือกินลมเย็นๆอย่างสบายใจ
และนี่ก็คือเส้นทางท่องเที่ยวแม่น้ำบางปะกง แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงที่ให้เราได้ทั้งไหว้พระ
ล่องเรือชมบ้านเมือง และเดินเที่ยวตลาดได้ครบถ้วนในเส้นทางเดียว

ล่องเรืออัมพวาชมมากกว่าตลาดน้ำ
ตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม ก็คือ ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำยามเย็นแห่งแรกในประเทศไทย ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมคลองอัมพวา ตัวตลาดเป็นห้องแถวไม้
ประตูบานเฟี้ยมเรียงรายอยู่สองฟากฝั่งนับร้อยห้อง แต่ละห้องมีบันไดท่าน้ำทอดลงสู่ลำคลอง
ซึ่งในอดีตเคยเป็นทั้งตลาดบกและตลาดน้ำควบคู่กันไป


ผู้คนจะไหลมาเทมาที่ตลาดแห่งนี้ในช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่ตลาดอัมพวาเปิดค้าขาย
ซึ่งนอกจากจะได้อิ่มท้องไปกับอาหารนานาชนิดทั้งของคาว ของหวาน ผักและผลไม้จากสวนแล้ว
ยังมีเรือท่องเที่ยวที่บริการให้นักท่องเที่ยวได้ "ล่องแม่กลองเที่ยวคลองอัมพวา" กันด้วย

โดยมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ตลาดน้ำอัมพวา เรือพร้อมผู้บรรยายจะพาล่องเข้าไปในคลองอัมพวา
ผ่านตลาดเก่าอัมพวาที่อยู่ปากคลองอัมพวา จนพบกับย่านสวนเก่าบางช้าง ระหว่างทางจะเห็นภาพบ้านเรือนไทย
แบบเก่าแทรกตัวอยู่ตามเรือกสวนเขียวขจี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสวนส้มโอ มะพร้าว ลิ้นจี่


เจดีย์มุเตาในวัดปรมัยยิกาวาส สัญลักษณ์ของเกาะเกร็ด

จากคลองอัมพวาเลี้ยวเข้าสู่คลองผีหลอก ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ สองฝั่งคลองปกคลุมด้วยป่าและ
บ้านเรือนบางตา ไม่นานเรือจะทะลุออกสู่แม่น้ำแม่กลอง ที่จะได้สัมผัสกับลมแม่น้ำที่พัดให้ความเย็นสบาย
สองฟากฝั่งเต็มไปด้วยดงมะพร้าว บ้านเรือน ร้านอาหาร และที่พัก แทรกตัวสลับกับวัดเก่าแก่ อย่างลงตัว

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำแม่กลอง นักท่องเที่ยวจะได้เห็นโพงพางอุปกรณ์จับปลาพื้นบ้านตั้งอยู่เป็นระยะ
และกระชังปลาขนาดใหญ่ริมน้ำก็มีให้เห็นมากมาย เรือจะวิ่งผ่านวัดเก่าสำคัญๆหลายวัด ที่สามารถขึ้นไปเที่ยวชม
พร้อมกราบไหว้ทำบุญได้ อาทิ วัดอัมพวาเจติยาราม นิวาสสถานดิมของพระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1,
วัดภุมรินทร์กุฏีทอง มีกุฏิเขียนราดรดน้ำปิดทอง,วัดบางแคน้อย ชมโบสถ์ไม้สักแกะสลักสวยงาม,
วัดปากน้ำ มีวิหารที่เกาแก่น่าชม เป็นต้น จากนั้นก็เลี้ยวกลับมายังตลาดอัมพวาเช่นเดิม

ล่องเรือชมบรรยากาศรอบเกาะเกร็ด


"เกาะเกร็ด" ในจังหวัดนนทบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงอีกแห่งหนึ่งที่เป็นที่นิยมทั้งนักท่องเที่ยว
ชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่นี่เป็นชุมชนมอญที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่ง บนเกาะเกร็ดนี้มี "วัดปรมัยยิกาวาส"
เป็นวัดสำคัญในเกาะ มี "เจดีย์มุเตา" เจดีย์ทรงรามัญริมฝั่งน้ำที่ทำท่าเอนเอียงราวกับจะล้มแต่ก็ไม่ล้ม
ที่เห็นเอนแบบนี้ก็เพราะว่าตลิ่งทรุด องค์เจดีย์จึงเอียงอย่างที่เห็น
และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ดที่ใครเห็นก็ต้องจำได้


บรรยากาศในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเกาะเกร็ด

ก่อนจะไปเดินสำรวจเกาะ เราไปชมเกาะเกร็ดในมุมกว้างด้วยการไปล่องเรือรอบเกาะเกร็ด
ในแม่น้ำเจ้าพระยากันก่อนดีกว่า โดยจะมีเรือคอยอยู่ที่ท่าเรือหน้าวัดปรมัยยิกาวาสและจะออกให้บริการเป็นรอบๆ
ในสนนราคา 60 บาท เรือจะพาเราล่องไปตามแม่น้ำ ชมบรรยากาศของเกาะเกร็ดกัน
ซึ่งเท่าที่เห็นก็ยังเต็มไปด้วยเรือกสวนแน่นขนัด บ้านเรือนปลูกสร้างกันริมน้ำ ดูแล้วน่าสบาย

นั่งเรือรับลมเพลินๆอยู่ครู่หนึ่ง เรือก็พาเราเข้าสู่คลองขนมหวาน ชื่อคลองน่ารักและน่ากินแบบนี้ก็เนื่องจากเป็นย่าน
ที่ชาวบ้านทำขนมไทยกันแทบ ทุกบ้าน จนทำให้ขนมไทยนั้นเป็นของขึ้นชื่อในเกาะเกร็ดด้วยเช่นกัน
เรือแวะจอดที่บ้านหลังหนึ่งให้นักท่องเที่ยวได้ลงเลือกซื้อขนมไทยเป็นของกิน ของฝาก ก่อนจะเดินทางกันต่อ
ซึ่งจุดหมายต่อไปก็คือร้านขนมไทยอีกนั่นแหละ แต่ร้านนี้นอกจากจะขายขนมหวานแล้วก็ยังมีความน่าสนใจตรงที่
มีการสาธิตการทำ ขนมให้เราชมกันอย่างใกล้ชิดกันด้วย ให้เห็นเลยว่าทองหยอดเขาหยิบเขาทำกันอย่างไร

ได้ชิมและได้ซื้อขนมของฝากกันเต็มไม้เต็มมือแล้ว คราวนี้เราก็แวะไปไหว้พระกันบ้าง ที่ "วัดแสงศิริธรรม"
หรือเดิมชื่อว่าวัดขวิด เป็นวัดซึ่งอยู่คนละฝั่งกับเกาะเกร็ด แต่เรือก็จอดแวะให้เราลงไปไหว้พระ
เพราะเป็นวัดเก่าแก่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อโต และหลวงพ่อดำ
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพของชาวบ้านในแถบนั้นมายาวนาน
ไหว้พระเสร็จแล้วอย่าลืมแวะซื้อขนมปังไว้ให้อาหารปลากันก่อนจะขึ้นเรือสัก หน่อย


บรรยากาศตลาดย้อนยุคที่ตลาดน้ำดอนหวาย

มาถึงตอนนี้เรือก็พาเราแล่นมาจนเกือบครบรอบเกาะเกร็ดแล้ว อีกสักครู่เรือก็จอดส่งให้เราขึ้นฝั่งกันใกล้ๆ
วัดปรมัยยิกาวาส คราวนี้เราก็จะได้เดินสำรวจเกาะเกร็ดกันเสียที ซึ่งก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องชมบรรดาแหล่งผลิต
เครื่องปั้นดินเผา อันเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของชาวมอญที่เกาะเกร็ด งานนี้จะแค่เลือกซื้อเลือกชม หรือจะลง
ไปลองปั้นด้วยตัวเองเลยก็ได้เช่นกัน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสนุกๆของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะเกร็ด
รวมไปถึงการหาของกินอร่อยๆ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านไม่ว่าจะเป็นทอดมันหน่อกะลา
และหากไปในช่วงสงกรานต์นี้ก็ย่อมจะได้เจอข้าวแช่ชาวมอญแท้ๆให้ได้ชิมกันอีก ด้วย

ล่องเรือชมวิว อิ่มท้องที่ตลาดน้ำดอนหวาย
กิจกรรมล่องเรือเที่ยวใกล้กรุงอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดก็คือการล่องเรือตลาดน้ำดอนหวาย ที่จังหวัดนครปฐม
ที่จะพาเราให้เพลิดเพลินไปกับทั้งธรรมชาติสองฝั่ง ทั้งบ้านเรือนผู้คน วัดวาอาราม และพรรณไม้ต่างๆริมฝั่งแม่น้ำ

นักท่องเที่ยวสามารถเลือกขึ้นเรือท่องเที่ยวได้ทั้งที่ตลาดน้ำดอน หวายหรือวัดไร่ขิง
จากนั้นเรือพร้อมผู้บรรยายจะพาเราล่องไปตามแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำสายสำคัญของชาวนครปฐม
ชมบรรยากาศสองฟากฝั่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ด้านหนึ่งเป็นย่านอุตสาหกรรมมีโรงงาน และชุมชน
ส่วนอีกด้านหนึ่งของฝั่งแม่น้ำก็จะพบเห็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน
ที่ส่วนใหญ่จะใช้เรือในการสัญจร แต่นับว่าเป็นความแตกต่างที่อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว


เรือนำเที่ยวที่ดัดแปลงมาจากเรือแบบเก่า

ระหว่างเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้แวะให้อาหารฝูงปลาสวายและปลาเทโพ มากมายที่วังปลาที่ใหญ่ที่สุดในนครปฐม
อีกทั้งจะได้ชมเรือโบราณ อายุกว่า 100 ปี และทัศนาภาพบ้านเรือนริมสองฟากฝั่งแม่น้ำทั้งแบบไทยโบราณ
ไทยประยุกต์ และไทยโมเดิร์น แต่บ้านที่เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวก็คือ
บ้านทรงไทยหลังเล็กๆที่เคยใช้ถ่ายละครเรื่องคู่กรรม สมัยที่พี่เบิร์ดเล่นเป็นโกโบริ และกวาง กมลชนก เล่นเป็น
อังสุมาลิน ก่อนที่จะมาปิดท้ายกันที่วัดไร่ขิง หรือตลาดน้ำดอนหวาย
(หรือหากใครอยากไปไกลกว่านั้น ก็สามารถเลือกไปในเส้นทางเส้นทางวัดไร่ขิง-สวนสามพรานได้เช่นกัน)

แต่ที่พลาดไม่ได้ก็คือการได้มากราบไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิง พระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพศรัทธาของคนมากมาย
อีกทั้งต้องไม่พลาดชมตลาดน้ำดอนหวายอันเป็นอีกจุดไฮไลท์ ซึ่งเป็นตลาดวิถีไทยอันอุดมไปด้วยอาหารนานาชนิด
ทั้งอาหารคาว หวาน ขนมไทย ผลไม้ และของกินของขายอีกสารพัดอย่าง นักท่องเที่ยวจะได้อร่อยกับการกินอาหาร
ท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่นจากตลาดน้ำ ดอนหวาย
พร้อมกับได้อุดหนุนสินค้าเกษตรกรรมของท้องถิ่นในราคาแบบชาวบ้านอีกด้วย

ล่องเรือเที่ยวสวนในคลองมหาสวัสดิ์
จากกรุงเทพฯวิ่งคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีเข้าสู่เขตอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพื่อจะมายังจุดมุ่งหมาย
"คลองมหาสวัสดิ์" คลองประวัติศาสตร์อันเก่าแก่เปรียบดั่งเส้นเลือดของชาวมหาสวัสดิ์ โดยในสมัยรัชกาลที่ 4
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ มหาโกษาธิบดี(ขำ บุญนาค)
ดำเนินการขุดในปี พ.ศ.2400-2403
เพื่อใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์


ล่องเรือสัมผัสนาบัวอย่างใกล้ชิด


คลองสายนี้ขุดเชื่อมระหว่างแม่น้ำท่าจีนกับแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านในชุมชนนี้ส่วนใหญ่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ
หรืออยู่ตามเรือกสวนไร่นา ซึ่งแม้วันนี้จะมีถนนตัดผ่านแต่ชาวบ้านก็ไม่ทิ้งการเดินทางโดยทางเรือ และด้วยสภาพ
ธรรมชาติที่ยังคงสวยงาม น้ำในคลองมีความสะอาดพอที่ชาวสวนจะใช้น้ำไปรดพืชพรรณต่างๆสองฝั่งคลอง
ก็ทำให้ในปัจจุบันคลองมหาสวัสดิ์กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่สำคัญอีก แห่งหนึ่ง

สำหรับผู้ที่ชอบเที่ยวไปชิมไปก็ไม่ควรพลาด เพราะเรือจะพาล่องผ่านบ้านเรือนต่างๆริมคลองทั้งบ้านไม้เก่าที่น่า
อนุรักษ์ และบ้านปูนสมัยใหม่ ดูวิถีชีวิตของชาวมหาสวัสดิ์ แล้วก็พาล่องต่อไปยัง สวนบัว ที่มีการสาธิตการทำนาบัว
และยังสามารถลงเดินตามคันดินชมสวนผลไม้นานาชนิดได้อีกด้วย นอกจากนั้นเรือก็จะพาไปชมสวนกล้วยไม้
หลากหลายพันธุ์หลายสีสัน ก่อนจะไปต่อกันที่ป้ายต่อไปก็คือ สวนผลไม้ ทั้งส้มโอ มะม่วง ขนุน
และผลไม้อีกหลากชนิด ซึ่งจุดนี้เองที่จะสามารถเที่ยวไปชิมไป หรือจะซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านก็ไม่ว่ากัน
ก่อนที่เรือจะพาไปจบลงที่กลุ่มแม่บ้านเกษตรมหาสวัสดิ์ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อของฝากของใช้ของกินที่
ผลิตเองโดยชาว แม่บ้านมหาสวัสดิ์

สนนราคาการนั่งเรือนั้นก็อยู่ที่ 300 บาท ต่อลำ หนึ่งลำนั่งได้ 6 คน พร้อมด้วยคนขับเรือที่รับตำแหน่งควบคู่
ไปกับผู้นำชมและบรรยายเรื่องราวต่างๆ ให้เราฟังกันอย่างสนุกสนาน


หน้าตาของเรือพาล่องคลองมหาสวัสดิ์

* * * * * * * * * * *

การล่องเรือแม่น้ำบางปะกง
มีเส้นทางจากวัดโสธรฯ-ตลาดบ้านใหม่-วัดจีนประชาสโมสร ใช้เวลาประมาณ 2
ชั่วโมง มีมัคคุเทศก์บรรยายตลอดเส้นทาง ค่าบริการคนละ 100 บาท เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 120 ซ.ม.
ไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันจันทร์-ศุกร์มีเรือให้บริการสองรอบคือเวลา 12.00 และ 14.00 น.
ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีให้บริการเวลา 09.00-15.00 น. ออกทุกชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดโทร.0-3851-4333, 08-9668-1726

การล่องเรือแม่น้ำแม่กลอง คลองอัมพวา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมท่องเที่ยวสมุทรสงคราม โทร 08-1855-1684
เทศบาลตำบลอัมพวา โทร. 0-3475-1351

การล่องเรือรอบเกาะเกร็ด
ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าบริการคนละ 60 บาท มีเรือให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ สองรอบคือ 12.00
และ13.00 ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เรือจะออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 10.00-17.00 น.

การล่องเรือที่ตลาดน้ำดอนหวาย
ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. จังหวัดนครปฐม โทร.0-3475-2847-8

การล่องคลองมหาสวัสดิ์
ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลที่ กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ หมู่ที่ 1 บ้านสุวรรณาราม
ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม โทร.0-3429-7152, 08-1495-9091

ที่มา ผู้จัดการ


เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง
ล่อง คลองมหาสวัสดิ์ สัมผัสเสน่ห์วิถีชุมชน




 

Create Date : 16 เมษายน 2552
0 comments
Last Update : 16 เมษายน 2552 12:24:28 น.
Counter : 1350 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.