เหตุเพราะว่า...ท้าทาย (บ้านบนที่ดินรูปสามเหลี่ยม)
อาคารที่มีรูปทรงแปลกตาบนที่ดินรูปสามเหลี่ยมที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ เพียงแค่ดูจากภายนอกก็พอเดาได้ ถึงความพิเศษของบ้านหลังนี้ แต่ก่อนที่เราจะไปค้นหาเหตุและผลต่างๆ ของการออกแบบบ้านหลังนี้ ว่าเป็นอย่าง ไร เราขอเกริ่นให้คุณผู้อ่านทราบถึงความเป็นมาของบ้านก่อนครับ เมื่อถึงวันนัดหมาย เราได้พบเจ้าของและภรรยา คุณฉัตรชัย ตั้งธนศฤงคาร, คุณชื่นชลอ วงศ์ปักษา และลูกชายอีกหนึ่งคน คุณฉัตรชัยเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบอาคารหลังนี้ด้วยตัวเอง เขาเล่าให้เราฟังว่า "เมื่อก่อนผมอยู่บ้านตึกแถว ชั้นล่างเป็นสำนักงาน ชั้นบนใช้พักอาศัย พอเราลงมาจากที่พักก็เจอที่ทำงาน หรือทำงานเสร็จก็ขึ้นไปเป็นที่พักเลย มันใกล้กันเกินไป จนแยกความแตกต่างระหว่างบ้านกับที่ทำงานแทบไม่ออก พอมาเจอที่ดินผืนนี้ ซึ่งมีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก ที่ตัดเส้นทแยงมุมมาจากรูปสี่เหลี่ยมเลย ก็รู้สึกท้าทายทันทีว่าจะสามารถทำอะไรกับเงื่อนไขแบบนี้ได้บ้าง อีกทั้งคนไม่ค่อยสนใจที่ดินรูปร่างแบบนี้ เราจึงต่อรองได้ในราคาพิเศษ "
คุณฉัตรชัยเปิดสำนักงานของตัวเอง เป็นบริษัททำธุรกิจด้านออกแบบสถาปัตยกรรม จึงปลูกอาคารเป็นโฮมออฟฟิศ มีทั้งส่วนสำนักงานและส่วนพักอาศัยอยู่รวมกัน
"โจทย์แรกคือจะต้องทำอาคารแยกเป็นสองส่วนต่างหาก เพราะไม่อยากให้เหมือนกับที่เคยอยู่ตึกแถวดังที่กล่าว ตอนแรกตั้งใจว่าทั้งออฟฟิศและบ้านพักจะมีส่วนเชื่อมถึงกัน แต่คิดไปคิดมาไหนๆ ก็แยกกันแล้ว ก็แยกขาดจากกันเลยดีกว่า แล้วใช้สวนรูปวงกลมตรงกลางเป็นตัวเชื่อมมุมมองทางสายตาก็แล้วกัน"
เจ้าของบ้านขยายความหลังจากพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ทำให้ทราบว่าคุณฉัตรชัยได้แนวคิดในการออกแบบมาจาก- การผสมผสานรูปทรงทาง เรขาคณิตสองอย่างคือ รูปทรงที่มีเหลี่ยมน้อยที่สุดอย่างสามเหลี่ยม กับรูปทรงที่มีเหลี่ยมมากที่สุดคือวงกลม นำมาจัดวางเป็นผังของอาคารนี้ที่สามารถใช้งานได้จริง โดยที่รูปร่างอาคารและที่ดินไม่เป็นอุปสรรคเลยแม้แต่น้อย
อาคารทั้งสองมีทางเข้าแยกกันต่างหาก เพื่อไม่ให้ปะปนกัน ส่วนอาคารสำนักงานมีจำนวนสามชั้น ปัจจุบันใช้งานเพียงชั้นล่าง แต่ในอนาคตเจ้าของคาดว่าจะให้เช่าชั้นล่าง แล้วย้ายสำนักงานขึ้นไปยังชั้นสองและชั้นสามแทน ส่วนบ้านพักอาศัยออกแบบเป็นสามชั้นเช่นกัน โดยชั้นล่างเป็นส่วนรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องน้ำ และครัวที่อยู่ด้านหลัง ชั้นสองเป็นห้องนอนใหญ่ ห้องนอนลูก ซึ่งเชื่อมกันด้วยส่วนนั่งเล่น-ดูโทรทัศน์ ชั้นสามเป็นห้องนอนแขกซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ใช้งานอะไร
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับการออกแบบของสถาปนิกนั่นก็คือ การคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ตั้งของอาคารหรือ "Site Analysis" ซึ่งเป็นการวิเคราะห์สภาพแดด ลม ฝุ่น ควัน เสียง รวมถึงทิศทางมุมมองต่างๆ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ และป้องกันผลกระทบเข้าสู่อาคารให้มากที่สุดนั่นเอง
" โชคดีที่ฝั่งถนนตรงข้ามเราเป็นสวนและบึงน้ำของโครงการบ้านจัดสรร ทำให้เรามั่นใจว่าจะเป็นมุมมองที่ดีไป- อีกนาน โดยไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆมาบดบังสายตา เมื่อมองผ่านผนังกระจกใหญ่ยาวตลอดแนวอาคารด้านหน้า อีกตัวอย่างคือวางห้องน้ำและห้องแต่งตัวในตำแหน่งที่ช่วยบังแดด และกันความร้อนในยามบ่ายให้ห้องนอน และยังช่วยให้ห้องน้ำแห้งอยู่เสมอ " เจ้าของบ้านทิ้งท้าย
บริเวณชั้นล่างของส่วนบ้านพักอาศัย การตกแต่งที่ใช้การโชว์เนื้อแท้ของวัสดุ เช่น พื้นปูนขัดมันผสมผงพื้นแกร่ง (Floor Hardener) ทำให้ทนทานในระยะยาว พื้นไม่สึกกร่อนเป็นผงฝุ่นซีเมนต์ หรือการเปลือยฝ้าเพดานโชว์แนวท่อสายไฟ มีประโยชน์ในยามหาแนวซ่อมงานระบบไฟฟ้า หรือเดินสายโทรทัศน์ก็สะดวก เฟอร์นิเจอร์รับแขกเป็นของเก่าย้อนยุคที่มีอยู่แล้ว เจ้าของนำมาหุ้มเบาะหนังแท้ใหม่
ส่วนรับประทานอาหารใกล้ส่วนรับแขก เน้นพื้นที่ส่วนนี้ ด้วยการปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเขียวสลับไม้จริง เหนือโต๊ะตรงฝ้าเพดานกรุแผงไม้อัดทำสีโอ๊กดำ แขวนโคมลายโมเสกคละสี ช่วยให้เกิดความน่าสนใจ มองทะลุผนังกระจกไปเห็นสวนตรงกลาง เป็นการนำธรรมชาติเข้าสู่ภายในได้อย่างดีเยี่ยม
เส้นสายของบันไดที่นำสายตาขึ้นไปสู่ชั้นบนได้อย่างลื่นไหล เจ้าของออกแบบทำช่องเปิดในแนวตั้ง เชื่อมชั้นสองและชั้นสาม แต่แยกจากชั้นล่าง ห้องนอนแขกทั้งสองห้องบนชั้นสามเชื่อมกันด้วยสะพานทางเดินขนาดพอดี ทำให้ภาพรวมของบริเวณนี้ ดูเป็นหนึ่งเดียวกัน
มองจากสะพานทางเดินชั้นสามลงมายังส่วนนั่งเล่น-ดูโทรทัศน์ และทะลุผ่านไปยังสีเขียวของต้นไม้ที่อยู่นอกผนังกระจก ทำให้ส่วนพักอาศัยเชื่อมกับธรรมชาติภายนอกได้เป็นหนึ่งเดียว เก้าอี้หุ้มหนังสีดำปรับเอนได้ แขวนพัดลมเพดานสั่งทำสีดำ ซึ่งดูเหมาะกับห้องที่มีเพดานสูงแบบนี้
กันส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยผนังกระจกใส ทำให้ยังดูเป็นส่วนเดียวกัน เนื่องจากผู้ออกแบบวางตำแหน่งห้องน้ำไว้ทางทิศตะวันตก จึงเปิดช่องแสงเหนือเพดานรับแดดในยามบ่าย ที่ส่องให้ห้องน้ำแห้งอยู่เสมอ
บริเวณสวนวงกลมตรงกลางที่ดูร่มรื่น ได้ออกแบบบันไดทางขึ้นชั้นสองของสำนักงานที่มีเส้นสายโค้งมนไปตาม- รูปร่างของตึก เผื่อในอนาคตจะแยกชั้นล่างของสำนักงานให้ผู้อื่นเช่า แล้วย้ายออฟฟิศขึ้นไปชั้นสองและชั้นสาม ทางเข้าจะได้ไม่ปะปนกัน
ขจัดความเป็นมุมอับของหัวมุมสามเหลี่ยมของอาคารส่วนสำนักงาน ด้วยการวางบันไดทางขึ้นลงไว้บริเวณดังกล่าว เป็นการบังคับให้ใช้พื้นที่ตรงนี้ได้อย่างคุ้มค่าและลงตัว นับเป็นความชาญฉลาดของผู้ออกแบบ การออกแบบเปลือยฝ้าเพดานโชว์งานระบบ เพื่อความประหยัดและทำให้ซ่อมบำรุงได้ง่ายด้วย
ภาพภายนอกของอาคารที่ดูโดดเด่นจนต้องเหลียวกลับมามองอีกครั้ง ผนังกระจกใหญ่ของอาคารสำนักงาน- ด้านซ้ายมือ เปิดรับวิวของสวนและบึงน้ำของโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ตรงข้าม
A. เว้นพื้นที่สำหรับเป็นที่จอดรถ ช่วยลดการกีดขวางทางจราจรและเพิ่มความสะดวกแก่ผู้มาติดต่อ
B. มุมอับของมุมสามเหลี่ยม แก้ไขด้วยการวางบันไดทางขึ้นลง บังคับให้คนใช้เป็นพื้นที่สัญจร เป็นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า
C. เว้นพื้นที่สวนวงกลมและที่ว่างตรงกลางไว้ ทำให้ลมพัดผ่านได้ดี เป็นการระบายอากาศและเปิดรับแสงธรรมชาติเข้าสู่กลุ่มอาคารได้
D. การวางพื้นที่บริการ เช่น ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ครัว ส่วนเตรียมอาหาร และส่วนซักล้างไว้ทางทิศตะวันตก ช่วยบังแดดในยามบ่ายให้ห้องนอนหรือห้องอาหารได้ดี เป็นการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมก่อนนำมาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์
E. บันไดขึ้นสำนักงานชั้นสองออกแบบให้เข้าได้จากภายนอก ในอนาคตหากให้ผู้อื่นเช่าชั้นล่างของสำนักงาน ทางเข้าจะได้ไม่ปะปนกัน
F. ช่องแสงสกายไลท์ให้แสงส่องไปสู่ห้องแต่งตัวกับห้องน้ำ ช่วยให้ห้องน้ำแห้งและได้แสงสว่างธรรมชาติอยู่เสมอ
เรื่อง : "มาเนค" ภาพ : ปิยะวุฒิ ศรีสกุล เจ้าของ - ออกแบบ : คุณฉัตรชัย ตั้งธนศฤงคาร ที่มา : //www.baanlaesuan.com
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : เรียนรู้ใช้...แสงธรรมชาติ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้าน เรื่องของระเบียงและช่องแสง
สารบัญตกแต่งบ้าน และ จัดสวน
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2553 18:03:54 น. |
Counter : 11092 Pageviews. |
|
|
|
กำลังสนใจที่ดินรูปสามเหลี่ยมคล้ายๆ ที่ของบ้านหลังนี้ แต่มุมไม่ฉาก มุมประมาณ 70-80 องศา ด้านที่ปิดมุมเป็นลำคลองโค้งปิดมุม
ที่ 4 ไร่ครึ่ง ที่ดินลักษณะนี้ควรซื้อไหมคะ
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
นงลักษณ์
email : nonglukb@hotmail.com