ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ ใหม่
ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ ใหม่
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด เปิดตัวบ็อกซเตอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ถูกกล่าวขานว่า บ็อกซเตอร์ คันนี้ คือ ปอร์เช่ รุ่นใหม่ที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ และเป็นรถไฮไลท์ของปอร์เช่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สุดพิเศษหากซื้อปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ ได้ประกันจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีนาน 9 ปี หรือ Service Package นาน 4 ปี ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ รถยนต์เปิดประทุน 2 ที่นั่ง มีจุดเด่นที่ระยะยื่นจากล้อถึงปลายกันชนที่สั้นลง ตัวรถที่ราบแบนยิ่งขึ้น กระจกหน้าที่มีมุมตั้งไปทางด้านหน้ามากยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่หมด รวมไปถึงหลังคาที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมดและมีน้ำหนักเบา แนวคิดภายในห้องโดยสารที่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่นี้ส่งผลให้ผู้โดยสารมีพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งยังเสริมคอนโซลกลางรูปแบบใหม่ของปอร์เช่ที่ได้แนวคิดมาจากรุ่นคาร์เรร่า จีที เข้าไปเพื่อพัฒนาให้ภายในห้องโดยสารของรถนั้นถูกต้องตามหลักกลศาสตร์มากยิ่งขึ้น ทั้งบ็อกซเตอร์ และบ็อกซเตอร์ เอส ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบ เรียงนอน พร้อมด้วยระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง ระบบการดึงพลังงานกลับคืนหรือนำพลังงานในการเบรกกลับมาใช้ใหม่ ระบบการจัดการความร้อน และระบบสตาร์ท/หยุดอัตโนมัติอีกด้วย รุ่นธรรมดาจะมีพละกำลังสูงสุดถึง 265 แรงม้า (195 กิโลวัตต์) ซึ่งมาจากเครื่องยนต์ 2.7 ลิตร และถือได้ว่ามากกว่ารุ่นเดิมถึง 10 แรงม้าเลยทีเดียว สำหรับรุ่น บ็อกซเตอร์ เอส ในตอนนี้มีขนาดเครื่องยนต์ที่ 3.4 ลิตร และมีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 315 แรงม้า (232 กิโลวัตต์) มากกว่ารุ่นเดิมถึง 5 แรงม้า ทั้ง 2 รุ่นติดตั้งระบบส่งผ่านกำลังหรือระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะมาเป็นมาตรฐานให้กับรถ และสามารถเลือกติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะอย่าง Porsche Doppelkupplungsgetriebe (PDK) เป็นอุปกรณ์เสริมได้เช่นกัน ทั้ง 2 รุ่นมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมและมีอัตราเร่งที่เหนือชั้นอีกด้วย หากติดตั้งระบบเกียร์ PDK มาด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงจะอยู่แค่เพียง 7.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรสำหรับรุ่นธรรมดา และ 8.0 ลิตร/100 กม. สำหรับรุ่นบ็อกซเตอร์ เอส การเปลี่ยนเกียร์จะเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็วและการส่งผ่านกำลังนั้นจะไม่เกิดการสะดุดของการไหลเวียนพละกำลังอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในระยะเวลาแค่เพียง 5.7 วินาทีเท่านั้นสำหรับรุ่นบ็อกซเตอร์ และ 5.0 วินาทีสำหรับรุ่นบ็อกซเตอร์ เอส แพ็กเกจ Sport Chrono Package สามารถเลือกติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมได้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น และสามารถเลือกติดตั้งระบบควบคุมการกระจายแรงบิดไปยังแต่ละล้อเพื่อสมรรถนะในการเกาะถนน ที่มาพร้อมกับระบบเฟืองท้ายทางเพลาหลังได้อีกด้วยเช่นกัน ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 7.99 ล้านบาทในรุ่นบ็อกซเตอร์ และ 8.9 ล้านบาทในรุ่นบ็อกซเตอร์ เอส
Create Date : 30 มิถุนายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 30 มิถุนายน 2555 12:55:32 น. |
Counter : 1682 Pageviews. |
|
|
|