โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 
Yoga Vidya Gurukul- 22 March 2551

Namaste

22 March 2008

แทบไม่อยากตื่นเลยแฮะ แต่ก็ไม่มีเหตุผล และไม่อยากพลาดการอัดวีดีโอด้วย แต่โชคดีหน่อยที่เราใช้ห้องสมุดเลยไม่ต้องเดินไกล แต่ตอนนั่งสมาธิก็เผลอหลับไปเหมือนกัน ออกมาชั่งน้ำหนัก โอ้พระเจ้าจอร์จ ลดไปหนึ่งโลได้ไง กว่าจะกลับคงเป็นก้างพอดี

เสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปเรียนข้างบน แทบไม่อยากเดินเลย เฮ้อ
ฝึกท่ามาสเตอร์คลีนซิ่ง 4 ชุด พรุ่งนี้ต้องทำ 6 ชุด กว่าจะทำมาสเตอร์คลีนซิ่งจริงๆคงจะราวๆ 10 รอบ เพิ่มขึ้นทุกเช้า 2 รอบ

การทำมาสเตอร์คลีนซิ่งเป็นการล้างทั้งระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่ปาก กระเพาะ ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ตั้งแต่ต้นจนจบเลย โดยการดื่มเกลือผสมมะนาวนิดหน่อย เริ่มต้นทีละ2 แก้ว แล้วต่อด้วยทำท่าอาสนะ 6 ท่า 2รอบ และก็ไปดื่มน้ำอีก 2 แก้ว ทำอย่างนี้ไปเรื่อยจนกว่าจะถ่ายออกมาเป็นน้ำใสๆ แล้วก็หยุด หลังจากนั้นเราควรที่จะทานอาหารใดๆ เพราะทั้งระบบได้ถูกล้างด้วยกรดจากมะนาว และก็ล้างเอาแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่ดีออกไปทั้งหมดด้วย ดั้งนั้นเราต้องรอให้จุลินทรีย์ต่างๆขึ้นมาซะก่อน เพราะฉนั้นทางเดินอาหารของเราจะเหมือนเด็กแรกเกิด ทานได้แต่อาหารที่ย่อยง่ายๆ และอาหารมื้อแรกของเราจะเป็นคิเชอรี่กับกีครึ่งถ้วย และคงต้องกินอย่างนั้นไปอีก2-3 วัน ซึ่งก็ดีกับเราด้วย เพราะได้พักร่างกาย อาจจะสงสัยกันว่าทำไมต้องทำท่าต่างๆ เพราะว่าเป็นการเร่งและผลักดันน้ำให้เข้าไปล้างซอกเล็กซอกน้อยออกให้หมด ซึ่งปกติเมื่อเราทานอาหารเข้าไปกว่าจะถ่ายออกมาก็ 16 ชั่วโมง แต่นี่จะแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง

หลังจากนั้นมีโชว์อาสนะหลังจากคลาสตอนเช้า เป็นการโชว์อาสนะยากๆที่เราไม่ค่อยจะได้เห็น คราวนี้ฉันได้เห็นกานดาทำอาสนะด้วย รู้สึกโชคดีจัง เพราะสองปีก่อนจะเห็นแต่อนันเท่านั้น คราวนี้มีมิสเตอร์ชามาด้วย ซึ่งมิสเตอร์ชามานั้นอายุ 65 ปีแล้วนะ แต่สามารถทำอาสนะได้ทุกท่าเลย คราวนี้มิสเตอร์ชามาก็โชว์ศรีษะอาสนะในท่าดอกบัวให้เราดู ซึ่งกานดาก็แซวว่าถ้าคนปกติขาก็นั่งท่าดอกบัวแบบธรรมดา แต่มิสเตอร์ชามาต้องทำแบบหัวทิ่มลงมา เขาจึงจะรู้สึกดี






โอยยยยยย......ง่วงมากๆๆๆๆๆ แต่ก็ต้องไปเรียนต่อ อากาศร้อนมากๆ แล้วก็ต้องเดินขึ้นเดินลง พอหลังจากดูโชว์แล้ว รอยอิส เคเรนและหลุยส์ซ่า ชวนกันไปถ่ายรูปทำอาสนะที่โถงต่อ ทั้งสามคนใส่ชุดขาว พอถ่ายรูปกับโถงสะอาดๆแล้ว สวยมาก เสียดายฉันไม่มีชุดขาว เพราะสีน้ำตาลเนี่ยก็เลยไม่เข้าพวกเท่าไหร่

พอถ่ายรูปเสร็จก็ได้เวลาไปเลคเชอร์ เกือบไม่มีเวลากินข้าวแน่ะ วาลาเรียบอกว่า ฉันโชคดีที่มาทานสาย เพราะเมื่อกี้ไม่มีที่นั่งเลย ฉันนั่งสัปหงกตลอดรายการช่วงเช้า และคอยเตือนวาลาเรียให้ปลุกตอนโยคะนิทราด้วย เพราะต้องการนอนจริงๆ

พอถึงเวลาอาหรกลางวัน ก็เหมือนกับสงครามแย่งที่นั่งกัน แต่โชคดีที่เราอยู่ที่ห้องสมุด เราเลยได้นั่งก่อน คนที่มาที่หลังก็ต้องไปนั่งตรงทางเดิน อิ่มมากๆเลยแฮะ ชักรู้สึกปวดท้องหน่อยๆแล้วสิ

มิสซิสมานดลิกเตือนให้พวกเราใส่หมวกหรือผ้าคลุม เพราะแสงแดดที่แรงมากทำให้ศรีษะเราร้อนขึ้นมาก ทางที่ดีควรคลุมหัวไหล่ด้วย เพราะขณะที่พวกเราหลายคนก็ป่วยแล้ว มีอาการท้องเสียด้วย

ฉันใช้เวลาตลอดบ่ายอยู่ที่ห้องสมุด พยายามตั้งค่าGPRS ในเครื่อง และในPC แต่ก็ยังไม่เวิร์คซะที
พอบ่ายสองดอกเตอร์ก็มาสอนใช้เครื่องมือวัดความดันแบบโบราณ เหตุที่ต้องใช้แบบโบราณ เพราะดอกเตอร์บอกว่า บางทีอิเล็กโทรนิคมันไม่ค่อยชัวร์ เราต้องรู้จักที่จะหาว่าเส้นเลือดเราอยู่ตรงไหน ต้องฟังตรงไหน

ตอนบ่ายมีเลคเชอร์เรื่องโรคปวดหลัง หรือเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ฟังยากมากแต่ก็ต้องพยายามฟังให้รู้เรื่อง

ฉันไม่ไหวแล้ว คงต้องขอนอนตลอดชั่วโมงฝึกอาสนะ ไปถึงฉันก็ตั้งกล้องไว้ แล้วก็หลับไปเลย ตื่นมาอีกที มิสเตอร์ชามาก็เข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ทำให้ฉันซาบซึ้งใจมาก

ฉันกลับมาที่ห้องและไม่ไปร่วมสวดมันตราที่มีทุกวันเสาร์ เพราะอยากพัก วาลาเรียมีไข้ ฉันปวดท้อง ฉันจึงกินยาไป เพราะท่าทางอาการลำไส้แปรปรวนจะกลับมาเนื่องจากเครียดเรื่องเรียน กับไม่มีเวลาพักแน่เลย สักพักสาวัตตีก็เอาซุปแครอทมาให้ ตอนแรกวาลาเรียไม่ค่อยอยากทานเท่าไหร่ แต่พอลองทานไปแล้วก็รู้สึกดีขึ้น ฉันจึงเอาที่เหลือไปทานกับข้าวและสลัด
วันนี้มีบาจันตอนดึก แต่ไม่ได้ไปเพราะอยากนอนแต่เช้า มีคนมาเยอะจากข้างนอก เพราะเป็นเทศการ holy

วันนี้คนที่นอนดึกที่สุกลายเป็นเคที่ เพราะว่าเธอสบายดีที่สุด แฟนันดาก็ปวดไหล่ นวดให้หลายทีแล้วก็ยังไม่หาย เธอได้รับการรักษาจากหนุ่มชาวโปรตุเกสแทน เขารักษาเธอด้วยการนวดกดจุดและเรกิ เธอบอกว่าเธอรู้สึกเหมือนโลกหมุนไปมา เขาต้องตรึงเธอไว้แล้วดึงเธอกลับมา เธอบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกมาก ฉันได้ยินเสียงพวกเขาคุยกัน เขาเป็นพ่อครัวด้วย แหง่ม...

Hari Om



Create Date : 27 มีนาคม 2551
Last Update : 27 มีนาคม 2551 17:23:41 น. 1 comments
Counter : 762 Pageviews.

 
โอ้ววววว แม่เจ้า อีกหน่อยเพื่อนเราจะเป็นโยคี ทำแบบนี้ได้จริงๆหรือนี่ เอาใจช่วย


โดย: myurieo IP: 125.24.73.228 วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:13:27:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.