โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 
Yoga Vidya Gurukul- 20 March 2551

Namaste

20 March 2008

วันนี้ฉันเอาชาไปใส่ในนมด้วย เสร็จก็ต้องรีบเดินไปโถงโยคะ วันนี้เราใช้ที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย เพราะTTC จะเริ่มเย็นนี้แล้ว คนเยอะมาก

เช้าเราฝึกการทำสมาธิโดยให้ท้องป่องและท้องยุบในท่านอน เกือบหลับไปแล้วสิ พักนี้นอนน้อยไปหน่อย เพราะมัวแต่ทำไอ้โน่นไอ้นี่ เรื่องวีดีโอนี่แหละ เฮ้อ....

เช้านี้อาหารเช้าค่อนข้างแปลก เพราะทำจากกล้วยหอม ผสมกับอะไรสักอย่าง ต้องไปค้นในอินเตอร์เนทซะหน่อยว่าคืออะไร แต่มันหวานแปลกๆฉันเลยบีบมะนาวใส่เข้าไปด้วย ก่อนที่จะทานผักผลไม่เข้าไปเยอะๆ เพราะสังเกตุได้ว่าท้องผูกซะแล้ว ทั้งที่กินผักผลไม้เยอะแล้วนะ คงเพราะทานน้ำน้อยไป เลยทำให้ลำไส้ไม่ลื่นไหล (ว่าไปนั่น)

ปกติต้องเป็นเลคเชอร์ แต่กานดาเปลี่ยนเอากรรมโยคะขึ้นมาก่อน เพราะเราต้องทำความสะอาดโถงโยคะ ทั้งของเราและของกรุ๊ปใหม่ จากนั้นค่อยมาพักด้วยโยคะนิทรา ฉันอยู่ในกรุ๊ปที่ทำโถงใหญ่ ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานหรอก พวกเราแซวอนันตรวีว่าทำงานของผู้หญิงได้เก่งมาก

แต่พอจะทำโยคะนิทรา ก็มีสาว (อายุเยอะ)มาร่วมด้วย ซึ่งก็คงไม่เป็นไร เพราะฉันเห็นเธอมาหลายวันแล้ว คงจะมาเรียน TTC แต่ปรากฎว่าหลังโยคะนิทรา เธอตามเราเข้าไปเลคเชอร์ด้วย ซึ่งเราก็งงเป็นอันมากว่าทำไมถึงมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ่ออยู่ แถมพอฉันบอกว่า เธอน่าจะอยู่ข้างนอก เธอก็พูดทำนองว่า จะเป็นไรไป ฉันจะนั่งหากมีที่ว่างสักหน่อย ตอนหลังฉันจึงรู้ว่า เธออยากเรียนโยคะเธอราพีมากกว่า แต่มันคงเต็มละนะ

กลางวันฉันรับหน้าที่เป็นคนถือกุญแจห้องสมุดเป็นผลัดแรกกับเคที่ ซึ่งฉันก็ได้ทำการก็อปปี้หนังสือได้เล่มหนาๆเล่มหนึ่ง แต่ก็ใช้เวลาไปเกือบสองชั่วโมง ที่ต้องก๊อป เพราะว่ามันไม่มีขายตอนนี้ สั่งพิมพ์อยู่ ถ้าอันไหนมีก็ซื้อ

เลคเชอร์ตอนบ่ายก็ดีมาก ฉันก็ทำหน้าที่อัดตามเคย แต่รู้สึกเพลียเล็กน้อย สงสัยต้องรีบนอนแต่เช้า เลคเชอร์กินเวลายาวไปถึงห้าโมงครึ่ง ดังนั้นเวลาฝึกอาสนะจึงมีไม่มาก เราฝึกทำท่าใหม่ และเตรียมตัวก่อนมาสเตอร์คลีนซิ่ง

พอได้เวลาเราก็ไปทานข้าวกัน ฉัน วาลาเรียและแฟนันดาเห็นคนเริ่มน้อยก็เลยคุยกัน เรื่องที่คอร์สTTCมีคนเยอะมาก ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะมีบางคนที่เดินทางมาโดยไม่ได้ถามความเห็นชอบจากทางอาราม และก็พยายามตื้ออยู่ ซึ่งฉันคิดว่ามันก็ไม่ถูกต้องเท่าไหร่ สักพักกานดาก็เดินเข้ามาหาเราและบอกว่านักเรียนเก่าควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้นักเรียนใหม่ เพราะว่าถ้าเขาเห็นเราคุยกัน เขาก็จะทำบ้าง ซึ่งก็ถูกต้อง

ฉันพยายามใช้GPRSผ่านโทรศัพท์ แต่ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้ เอาอีกแล้ว อินเดีย เล่นฉันอีกแล้วสิ

วันนี้เรามีทดสอบความจำด้วยการพยายามจำคำศัพท์ 25 คำ เสร็จแล้วหลังจากนั้น15นาที ก็เขียน คำที่จำได้ลงในกระดาษ ซิลแวงเพื่อนฉันพยายามจะพูดคำที่จำได้ออกมา เพราะมิสเตอร์ชามาบอกให้คุยกันระหว่างที่รอเวลา ซิลแวงจึงพยายามเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับศัพท์ที่จำได้ มิสเตอร์ชามาต้องคอยเบรก ซิลแวงก็ต่อคำกลับว่าก็ไหนว่าให้เล่าเรื่องอะไรก็ได้ไงครับ จนท้ายที่สุดมิสเตอร์ชามาต้องเปลี่ยนไปร้องเพลงแทน ฉันเขียนลงไปได้ 17 คำ แต่ก็มานึกได้ทีหลังเมื่อโทรศัพท์ของมิสเตอร์ชามาดังขึ้นมา ฉันจึงเขียนคำสุดท้ายลงไปว่า Mobile

ตอนแรกเราก็นึกกันว่าจะหมดเพียงแค่นั้นซะอีก แต่มิสเตอร์ชามาต้องมาเตรียมตัวให้พวกเราทำเนติกัน เนติคือการล้างจมูกด้วยน้ำเกลืออุ่นค่ะ โดยที่เราจะใส่เกลือประมาณ 1 ชช. ต่อน้ำ ครึ่งลิตร (รึจะใช้น้ำเกลือสำเร็จรูปก็ได้ค่ะ) แล้วเติมใส่กาเนติ (ซึ่งรูปร่างคล้ายกาน้ำชาแต่ว่าคอยาวกว่า) ประมาณ 250 CC. ต่อ 1 ข้าง กรวยกาจะมีปากเล็กลงเพื่อให้สามารถปิดจมูกได้พอดี เราต้องเอนศรีษะลงเพื่อให้น้ำเกลือสามารถไหลผ่านรูจมูกข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งได้ (โดยหลักการ G –Force—ว่าไปนั่น มันก็แรงโน้มถ่วงละนะ) เมื่อทำทั้งสองข้างแล้วก็ต้องทำการสบัดให้น้ำไหลออกให้หมด และก็นำเอาสิ่งสกปรกออกไปด้วย

แต่ก่อนจะถึงขั้นตอนนั้น เราต้องทำการหล่อลื่นจมูกด้วยเนยอินเดีย (กี)ซะก่อน โดยเฉพาะคนที่เพิ่งทำเป็นครั้งแรก จมูกจะไม่ชินกับการมีน้ำไหลผ่าน อาจระคายเคืองได้ (โห... อุตส่าห์เล่าซะยาวถึงขั้นตอนการทำ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่มีอะไรเล่าหรอกเนี่ย) เราจะต้องนอนหงายให้มิสเตอร์ชามาหยอดกีลงกับจมูกก่อน แล้วก็สูดเข้าไปให้ลึกที่สุด ซึ่งทุกคนก็ดูตื่นเต้นเป็นอันมาก ฉันเองก็เลยตื่นเต้นตามทั้งที่ทำเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ถ้าเราไม่มีกี เราสามารถใช้น้ำมันงาแทนได้ โดยเอานิ้วก้อยจุ่มลงไปในน้ำมัน แล้วแหย่เข้าไปในจมูกให้เยอะๆ (ทำจมูกบานๆค่ะ)

ฉันว่าคืนนี้ฉันต้องฝันถึงคุกกี้แน่เลย เพราะกีแท้ๆ ฉันรักกี

PS. ไม่ต้องน้อยใจนะเฌอ แม่รักหนูเสมอเลย เห็นได้จากที่แม่โทรหาหนูวันเว้นวันเลย (เอ่อ... ขอตัวแป๊ปนะลูก แม่จะอ๊วก) เพิ่งเติมค่าโทรศัพท์ไปนะเนี่ย สงสัยไอ้ที่จะใช้มากที่สุดในการมาอินเดียครั้งนี้ คงเป็นค่าโทรศัพท์เนี่ยแหละ


Hari Om



Create Date : 27 มีนาคม 2551
Last Update : 27 มีนาคม 2551 17:13:58 น. 0 comments
Counter : 547 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.