โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 
Yoga Vidya Gurukul- 14 March 2551-Bad Dog

01.00

ฉันสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงสุนัขเห่าตอนราวๆตี1 เราทุกคนมีปัญหามาก ไม่มีใครสามารถหลับลงได้ ซึ่งการเห่ายังคงดำเนินต่อไปจนถึงเวลาราวๆ ตี4 โอ้พระเจ้า ใช่... ฉันหมายความว่าเราต้องตื่นตี5 ใช่ม๊า วาลาเรียทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นมาดุมันหลายครั้ง และก็หาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมมันไม่หยุดเห่าเสียที

พอถึงตี 5 เราก็แทบลุกไม่ไหวเลย แต่ก็ต้องลุกเพื่อไปทำภารกิจของเราต่อ เราไปดื่มเครื่องดื่มตอนเช้าซึ่งก็คือ นม และกาแฟถั่วเหลือง ซึ่งอันหลังเนี่ยฉันเพิ่งจะเคยได้ยิน ซึ่งเมื่อก่อนเขาไม่อนุญาตให้ดื่มกาแฟ ฉันคิดว่าภายหลังคงมีคนบ่นเรื่องนี้ขึ้นมา กานด้าจึงได้จัดกาแฟเทียมขึ้นมาให้แทน ที่เขาไม่ทานกาแฟกันเพราะเหมือนว่ากาแฟจะกระตุ้นให้เรากระวนกระวายมากไป โยคะจึงไม่ดื่มกาแฟกัน

เรามีกัน 19 คน ( หนึ่งหนุ่มจากไปเมื่อเย็นวาน เจวีโต้ ผู้ซึ่งชื่อแปลว่าแพะ และเขาหน้าตาเหมือนแพะ มีเคราเหมือนแพะด้วย ฉันคิดว่าสิ่งที่เขาต้องการไม่ได้อยู่ที่นี่) เช้านี้เราไปฝึกกันในโถงเก่า เพราะโถงใหม่เล็กเกิน เวลาฝึกจึงสะกิดกันเล็กน้อย (บางทีอาจได้เท้าบางคนผ่านหน้าฉันไป) ซึ่งทำให้การฝึกเป็นไปด้วยดี ซึ่งอาสนะยังเป็นท่าง่ายๆอยู่

อาหารเช้าที่อารามจะเป็นมื้อง่ายๆที่ทานกับผลไม้สดและผักสด ย่อยง่ายและเน้นความสดใหม่เสมอ ฉันหมายความว่าอย่างนั้นจริง เพราะทางอายุรเวท อาหารที่ทำนานกว่าสามชั่วโมงจะสูญเสียพลังชีวิตที่มีไปเรียบร้อยแล้ว เพราะฉันนั้นคนครัวจึงมีงานที่ต้องทำทั้งวันเพื่อให้ได้อาหารที่ใหม่และสด และให้พวกเราได้รับพลังจากธรรมชาติอย่างเต็มที่ กานด้าเตือนพวกเราเมื่อคืนว่าอย่าออกมาเดินตากแดดมากนักเพราะแดดอินเดียนั้นแรงมาก ซึ่งก็จะร้อนขึ้นร้อนขึ้นอีก ได้ถึง 45 องศาในเดือนพฤษภาคม ขนาดฉันเพิ่งมาถึงได้ไม่กี่วัน ผิวก็เริ่มลอกแล้ว คงต้องทาโลชั่นมากว่านี้อีกนิด

เช้านี้เราเรียนกับกูรูจีอีกเช่นเคย ก่อนที่จะมีโยคะนิทราคั่นรายการ ซึ่งทุกคนก็เฝ้ารอรายการนี้ ปกติฉันมักจะลุกได้ในเวลาที่ได้ยินสียงคนขยับ แต่วันนี้เผลอหลับไปได้ไงไม่รู้สิ ตื่นขึ้นมาทันเห็นเคที่กำลังกดชัตเตอร์พอดี ทำเอาเขินไปเลย เพราะพวกเขาบอกว่า พยายามเรียกหลายทีแล้ว แต่ฉันไม่ตื่นสักที ซึ่งก็แทบไม่น่าเชื่อเพราะว่าฉันเป็นคนตื่นง่าย แต่นี่ทุกคนยืนยันว่าพยายามเรียกแล้วจริงๆ ฉันคงต้องยอมรับแหละ เพราะสุนัขตัวนั้นแหละ ทำเอาไม่ได้นอนเลย

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในวันนี้ก็คือ กูรูจีพูดถึงโรงพยาบาล (ซึ่งเป็นแบบโยคะ และธรรมชาติบำบัด ) จะมีคนไข้จริงๆให้เราได้ทำรายงานส่งด้วย ซึ่งฉันก็สนใจมาก อาจจะขอฝฝึกหรือไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลสักหน่อย จะได้เรียนรู้จากของจริง เพราะแน่นอนว่าเวลาแค่1 เดือน เราคงไม่สามารถได้อะไรมากมาย แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

อาหารกลางวันในอารามก็มีข้าว ซุบและสลัด เป็นหลัก วันนี้มีนมใส่ผักชีด้วย ก็ประหลาดดีสำหรับฉัน ซึ่งตอนนี้ที่อารามมีคนทำครัวถึงหกคนแน่ะ คงเพราะเหตุนี้ เราจึงได้เห็นอาหารที่มีความหลากหลายมากขึ้นมากกว่าสองปีที่ผ่านมา

บ่ายนี้ฉันนั่งคอนเวิร์ดไฟล์ให้เล็กลง เห็นที่จะต้องเปิดไว้ทั้งคืนแน่นอน เพราะค่อนข้างจะใช้เวลาอยู่ แต่ก็อยากให้ทุกคนได้ซีดีกลับไปเพื่อทบทวนสิ่งที่เรียนไป ซึ่งทุกคนก็ยินดีเป็นอันมาก ซึ่งฉันจะทำวีดีโอพรีเซ้นต์เกี่ยวกับทุกคนด้วย (ถ้ามีเวลานะ พยายามอยู่ แต่ว่าไฟฟ้าที่นี่มันไม่เป็นใจเลยนี่นา )

พอบ่ายสามไฟฟ้ามา ฉันก็แอบนั่งต้มชาผสม มาซาลากับนม ทานในห้องขณะที่คนอื่นๆไปดื่มเครื่องดื่มในห้องอาหาร หลังจากนั้นก็เป็นเวลาของการบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งวันนี้เราต้องทำความสะอาดห้องตัวเอง ซึ่งหมายความตามนั้นจริงๆนะ เคที่ค่อนข้างจริงจังกับการทำความสะอาดมาก เพราะว่าห้องเพิ่งผ่านการใช้มาได้ไม่นาน ทำให้มีฝุ่นและคราบสกปรกฝังแน่น ฉันกับเคที่ทำที่ห้องนอน วาลาเรียกับแฟนันดาทำห้องน้ำ สองคนต่างขัดถูอย่างจริงจังมากในห้องน้ำ ทำเอาเราเกือบไปเรียนคาบต่อไปไม่ทัน

อาสนะเป็นไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้น กูรูสอนว่า ให้เราคิดว่าอย่างคนไข้ เพราะคนไข้ทำท่าอาสนะยากๆไม่ได้ เราต้องให้เขาทำท่าง่ายๆ จนค่อยๆพัฒนาไปสู่ท่ายาก และบางคนอาจจะไม่ได้ต้องการอาสนะเพียงอย่างเดียว เขาอาจต้องการปราณยาม การสวดมันตราและนั่งสมาธิด้วย เราต้องรู้ว่าอะไรเหมาะกับใคร ไม่ใช่ยัดเยียดทุกอย่างที่มีให้
เย็นนี้พระอาทิตย์สวยมาก ฉันออกมาจากห้องก็ตรงรี่ไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศรอบๆอาราม และได้เก็บบันทึกวีดีโอของเพื่อนๆด้วย

ฉันพยายามแก้ปัญหาการไม่มีแบตถ่ายวีดีโอในตอนบ่าย ด้วยการขอให้อนันจีซื้อสายไฟมาให้ จะได้เอาไว้ถ่ายในตอนบ่าย เท่านั้นฉันก็จะสามารถผ่านปัญหานี้ไปได้ ซึ่งทุกคนก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน เลยส่งฉันอยู่แนวหน้าคนเดียวทุกครั้งไป ดีว่ามีวาลาเรียเป็นแม่ทัพคู่ใจ เพราะหูไม่ค่อยดี

ตอนค่ำเราบ่นกับกานด้าไปเรื่องสุนัข เขาบอกว่านั่นไม่ใช่สุนัขของอาราม แต่เพราะมีคนที่มาเข้าคอร์สให้อาหารมัน มันจึงเห่าเตือนว่า ยังไม่ได้ให้อาหารมัน เขาบอกว่า อาจจะเอามันไปปล่อยในหมู่บ้านอื่น เพราะมันจะได้ไปหาอาหารที่อื่นแทน แต่สำหรับเขา ไม่เป็นปัญหา เพราะเขานอนอยู่ไกล ( แหงะ)

ก่อนเข้านอน สาวๆอย่างพวกเราก็คุยกัน สอบถามเรื่องครอบครัวบ้าง อายุบ้าง วาลาเรียก็ทำให้ทุกคนประหลาดใจ เพราะอายุมากสุดทั้งที่ดูเด็กกว่าความเป็นจริง ซึ่งพวกเราทุกตนก็ดูเป็นเช่นนั้น อาจจะเพราะว่าโยคะ ทำให้เป็นเช่นนั้นก็ได้ เพราะมีคำกล่าวว่า ถ้าฝึกโยคะวัน อายุเราก็จะลดลงไปอีกหนึ่งวัน เพราะฉนั้นวาลาเรียฝึกมากว่าสิบปี่ เธอจึงหยุดอายุไว้ที่ยี่สิบกว่าๆสบายๆ


กูรูจี

อาหารในอาศรม

มิสเตอร์ชามา อาจารย์ที่สอนอาสนะและปราณยาม

วาลาเรียเป็นแบบแสดงอาสนะ

ดอนน่า เธอยิ้มได้น่ารักมาก ช๊อบ..ชอบ

Hari Om



Create Date : 27 มีนาคม 2551
Last Update : 15 สิงหาคม 2551 17:26:46 น. 0 comments
Counter : 773 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.