บริหาร การจัดการ การตลาด พัฒนาตนเอง พัฒนาความคิด กลยุทธ์ ธรรมะ จักรราศี ฯลฯ
จัดตั้งธุรกิจ ปรับปรุงกิจการ | ไขความลับสมองเงินล้าน | การเขียนแผนธุรกิจ | บริหารคน บริหารงาน | พัฒนาความคิด
พระไตรปิฎกฉบับหลวง | แด่องค์กรที่แสนรัก | สุขใจกับเด็กสมาธิสั้น
Group Blog
 
All Blogs
 
จริงๆแล้วทุกอย่างเริ่มจากพื้นฐานทั้งสิ้น... ดังนั้น สูงสุดก็มักจะคืนสู่สามัญ

สูงสุดคืนสู่สามัญ คำนี้ยังใช้ได้กับทุกๆเหตุการณ์ ไม่ว่าการบริหาร จัดการ หรือ การเปลี่ยนแปลงไปที่จะเกิดขึ้น... แมงมุมแข่งขันกันสร้างใยให้สูงขึ้นเพื่อดักจับแมลงที่จะบินสูงขึ้น เมื่อต่างคนต่างพยายามสร้างให้สุงขึ้น ก็จะมองเห็นว่า เหยื่อนั้น ได้บินต่ำลงเพื่อหลบใยที่สุงขึ้น... แมงมุมบางกลุ่มจะพยายามขยายรังของตัวเองออกให้กว้างใหญ่มากที่สุด เพื่อเผื่อว่าจะได้ดักจับได้มากที่สุด แต่กลับพบว่าการสร้างให้ใหญ่โตขึ้นนั้น กลับได้ผลตอบแทนที่เท่ากัน และ ถ้าเทียบกับขนาดและผลลัพธ์แล้ว รังเล็กๆ จะได้เปรียบกว่า และ สูญเสียน้องกว่าเสียอีก...

การพัฒนาของธุรกิจก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าเราจะพัฒนาทางด้านใด มันย่อมมีจุดสูงสุดของสายการพัฒนาทั้งนั้น และเมื่อถึงจุดสูงสุดของการพัฒนาทางด้านนั้นๆ ก็จะมีคนยกประเด็นพื้นฐานเพื่อสร้างขึ้นมาต่อยอด เอาแนวความคิดเดิมมาเปลี่ยนชื่อเรียกให้หรูขึ้น แล้วบอกว่านี่คือสิ่งใหม่ แต่ความเป็นจริง ทุกๆรุปแบบ ทุกๆความคิด มาจากพื้นฐานของทุกๆสิ่งทั้งนั้น...

พื้นฐานของ ธุรกิจ มีไม่กี่อย่าง เพียงแต่ เราจะเน้นเรื่องใด จะหยิบยกเรื่องใดขึ้นมาเป็นประเด็น ก็ขึ้นกับว่า ช่วงนั้น หนทางมันตันทางด้านใด ก็จะมีการแก้ปัญหาในจุดนั้นๆ โดยเริ่มจากการวิเคราะห์พื้นฐาน และ ผ่าทางตันออก แล้วก็จะหยิบยกเรื่องที่แตกต่างมา ในช่วงการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดกระแสที่ดูดี มีชื่อใหม่ คำศัพท์ใหม่ แต่ทั้งหมด ก็อยู่ในพื้นฐานของธุรกิจทั้งสิ้น...

จากยุคการเกษตรมาจนถึงยุคอุตสาหกรรม พื้นฐานคือต้องการเปลี่ยนสินค้าการเกษตรที่เพิ่มขึ้นมานั้นให้มาอยู่ในรูปของสิ่งที่เก็บไว้ได้นาน ก็เริ่มมีอุตสาหกรรมอาหารเกิดขึ้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลง และ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากความต้องการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมนั้นๆ แต่การเกษตรหายไปจากโลกนี้หรือ ไม่ใช่แน่นอน การเกษตรก็ยังมีผลอย่างมากทั้งในปัจจุบัน และ ในอนาคต เพราะ คนเราต้องกินต้องใช้ การเปลี่ยนให้ประเทศเป็นอุตสาหกรรมอย่างเดียว มันไม่ใช่ความจริงที่ควรจะเป็น เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงอะไร ทฤษฎีใหม่จะเข้ามามากมาย หรือ หนทางมันจะเปลี่ยนไปอย่างไร สิ่งเดิมที่เป็นพื้นฐานย่อมเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะเปลี่ยนแปลงไป หากหลงกับสิ่งใหม่ๆ จนไม่ได้ใส่ใจในสิ่งเก่าๆ ก็เท่ากับว่า กำลังจะยกเลิกการเกษตรมาเป็นอุตสาหกรรมทั้งหมด โดยจะเอาผลจากอุตสาหกรรมเท่านั้นมาบริโภค ซึ่งมันไม่ใช่โลกแห่งความจริงเลย....

พื้นฐานของคน คือ ความต้องการสิ่งที่จะดำรงชีวิต ความอยากที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น ความปราถนาในสิ่งที่ตนอยากได้ ความหวังในสิ่งที่ตนเองคาดหวัง ความสุขกับสิ่งที่ตนเองพึงพอใจ เบ็ดเสร็จ ไม่ว่าจะเจาะเรื่องการบริหารบุคคล การสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงาน ก็หนีไม่พื้นพื้นฐานของคนว่า เขาต้องการอะไร...

พื้นฐานของนายจ้างมีต่อลูกจ้าง คือ ความต้องการที่จะได้ผลงานจากลูกจ้างให้มากที่สุด ความอยากที่จะลดค่าใช้จ่ายในการจ้างงานลง ปราถนาให้ได้ผลลัพธ์จากการทำงานที่ดีที่สุด การบริหารบุคคล จึงเน้นแต่เรื่องความต้องการของนายจ้างมายังลูกจ้าง และ ทำอย่าไรให้ลูกจ้าง หรือ พื้นฐานของบริษัทฯ ผลิตสินค้า ก็ต้องการจำนวนสินค้า ต้องการคุณภาพสินค้า ต้องการสินค้าที่ลูกค้าซื้อหรือต้องการ เบ็ดเสร็จก็คือผลิตสินค้าเพื่อขายให้ได้ ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้า ก็เท่านั้น ดังนั้น ไม่ว่าระบบงานใหม่ชื่อใหม่ การควบคุมแบบใหม่ๆ ก็หนีไม่พ้นพื้นฐานของสิ่งต่างๆ ทั้งนั้น... เพียงแต่จะเน้นในจุดใด และ จะนำขึ้นมาพูดอย่างไร มีการทำให้เกิดขึ้นจริงแล้วหรือยัง เกิดแล้วมีผลดีอย่างไร และผลสุดท้าย ก็เอาเหล้าเก่ามาใส่ขวดใหม่ เพื่อทำให้คนเข้าใจว่า นี่เป็นสิ่งใหม่...

ถ้าคนเรามัวแต่ไปตามกระแสว่า เขาไปทิศทางไหน มีอะไรใหม่ ก็จะเรียนรู้ไปเสืยทั้งหมด เชื่อไปหมดที่คนอื่นกล่าวมาว่า มันจะเป็นอย่างนั้น มันจะเป็นอย่างนี้ จะทำให้หลงประเด็นว่า ความเป็นจริงนั้น ทุกสิ่งเกิดจากพื้นฐานของสิ่งเหล่านั้น และ พื้นฐานของสิ่งที่เราอยู่ ไม่ใช่พื้นฐานของคนอื่น เขารู้ว่าเขาเป็นเช่นใด แต่เขาไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้ว เราเป็นเช่นใด วันๆมีคนคิดและออกไอเดียความคิดมากมาย เพราะความคิดของเขามันง่าย ไม่มีต้นทุน เพียงแค่ศึกษาให้เข้าใจและบอกออกมาในรูปแบบใหม่ๆเท่านั้น แต่ที่แท้มันก็ยังอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงที่เป็นไปเท่านั้น มันยังไม่หลุดไปไหนเลย... เพียงแต่เราเข้าใจไปเองว่านี่คือสิ่งใหม่ นี่คือสิ่งที่เขาคิดมาอย่างดีแล้ว... ไปตามกระแสที่เขาสร้างขึ้นก็เท่านั้น...

มุมมอง และ ประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาของแต่ละคน ทำให้มีมุมมองในสิ่งเดียวกันแตกต่างกัน บางคนบอกว่า ต้องทำอย่างนี้ถึงจะดี มันอาจจะดีสำหรับบางที่ แต่มันอาจจะไม่ได้เรื่องสำหรับบางที่ สิ่งที่ดีสำหรับบางคน อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับอีกหลายคน บางคนชอบที่จะเป็นผู้นำ แต่บางคนก็ชอบที่จะเป็นผู้ตาม ลักษณะและพื้นฐานของแต่ละคน แต่ละสถานที่ แต่ละเหตุการณ์ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะของแต่ละคน แต่ละที่ แต่ละองค์กร... เหมือนที่พี่ขามเรียงให้ประเภทของคนที่มีความสามารถแตกต่างกันถึง 8 ด้าน คือ

๑.นักสร้างสรรค์ จินตนาการนักประดิษฐ์
๒.นักค้นคว้าสำรวจนำร่อง
๓.นักพัฒนาดัดแปลงและปรับปรุง
๔.นักรวบรวมจัดชุมนุม นักจัดทีม กลุ่มองค์การ
๕.นักผลิตประกอบสิ่งของ
๖.นักจับผิดนักตรวจตราละเอียดละออ
๗.นักถนอมห่วงใย บำรุงรักษาให้ยั่งยืน
๘.นักเสนอแนะ ให้คำแนะนำ


ซึ่งจริงๆแล้วก็คือลักษณะของนิสัยของคนโดยจัดแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ เป็นพื้นฐานที่ควรทราบในการแบ่งแยกประเภทคนเช่นกัน...


เมือรู้ว่าทุกอย่างมาจากพื้นฐานของสิ่งนั้นๆ ถ้ามัวแต่มองสิ่งที่คนอื่นอ้างอิงถึงสิ่งที่เขาคิดว่าเลิศเลอ จะทำให้เราต่ำต้อย แต่ถ้าเรามองตัวเองก่อนว่า เราทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเรา แล้ว แต่ให้ยึดพื้นฐาน และ หาพื้นฐานที่เรายังขาดให้ได้ ก็จะทราบว่า เราควรจะทำ ควรจะปรับปรุงในส่วนใด ไม่มีใครสามารถเข้าใจความต้องการของตัวเราเท่าตัวเราเอง...

แมงมุมชักใยก็เพื่อตัวของมันเอง ดังนั้น จะกระทำสิ่งใด จะพัฒนาสิ่งใด มันก็จะมองสภาพของมันเอง มันอยากจะสร้างรังให้ใหญ่โต แต่มีพื้นที่เพียงแคบๆ มันก็ไม่สามารถทำได้อย่างใจต้องการ เพราะสภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการกระทำ เหมือนกับบริษัทฯยักษ์ใหญ่เขาทำอย่างนั้น เขาทำอย่างนี้ บริษัทฯเล็กๆจะทำอย่างเขาหรือ มันถึงเวลาหรือยังที่จะทำอย่างเขา ในเมื่อสภาพแวดล้อม รายได้ของเราก็ไม่ได้เท่ากับเขา ถ้าเข้าใจพื้นฐานความแตกต่างแล้ว ก็จะไม่หลงประเด็นไปกับสิ่งที่เขาล่อลวง สิ่งที่เขาสร้างภาพให้เราเข้าใจว่า เขาเลอเลิศ ทั้งๆที่ก็แค่ปรับปรุงพื้นฐานในจุดที่คนอื่นไม่ได้มอง และ ใช้คำที่แตกต่างออกไป...

โดยเบ็ดเสร็จแล้ว การจะพัฒนาไปในทางใดนั้น ต้องคำนึง พื้นฐานของตนเอง และหาพื้นฐานที่ยังขาดการพัฒนาอยู่ หาพื้นฐานของสิ่งต่างๆเอาจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละพื้นฐาน มาจับคู่เพื่อหาแรงเสริม สนับสนุน หรือ แรงต้าน การยับยั้ง ในส่วนต่างๆที่ควรจะทำ เท่านี้ก็จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ต้องการได้ไม่ยากนัก... แต่คนที่มองพื้นฐานตัวเอง และ พื้นฐานสิ่งแวดล้อมออก มีจำนวนไม่มาก และ ยิ่งมีน้อยคนนัก ที่สามารถเอาพื้นฐานทั้ง 2 มาจับคู่เพื่อพัฒนาต่อยอด มันจึงเป็นจุดที่ทำให้งานทางด้านที่ปรึกษาเติบโตอยู่ในปัจจุบัน...


Create Date : 13 มิถุนายน 2548
Last Update : 13 มิถุนายน 2548 18:45:52 น. 2 comments
Counter : 1860 Pageviews.

 
อืม อ่านแล้ว ต้องฉุกคิด


โดย: zaesun วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:19:58:41 น.  

 
ดีมาก


โดย: 11111 IP: 222.123.45.227 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:02:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wbj
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]




ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544

วิทยากรเชิงกิจกรรม

วิทยากรกระบวนการ

ที่ปรึกษาธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการ

การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนกลยุทธ์

วิจัยธุรกิจ

IT Dashboard



ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด



<< Main Menu >>



ดวงถาวร


ดวงตามวันเกิด



ดวงตามปีเกิด






;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'

ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong

ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และ การวางแผนกลยุทธ์ วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ Executive & Management Coach

ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
Friends' blogs
[Add wbj's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friends


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.