"ไมเคิล แจ็กสัน" ทำเงินไปแล้ว 700 ล้านเหรียญฯ หลังเสียชีวิต 5 ปี
แม้จะเสียชีวิตไปตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2009 แต่ชื่อของราชาเพลงป๊อป ไมเคิล แจ็กสัน ก็ยังขายได้ และทำเงินได้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง 5 ปีหลังจากนั้น กองทุนมรดกของ ไมเคิล แจ็กสัน ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการทรัพย์สิน และผลประโยชน์ต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ไมเคิล กลับสามารถทำรายได้ไปถึง 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 22,700 ล้านบาทเลยทีเดียว
ก่อนจะเสียชีวิต ไมเคิล แจ็กสัน เคยมีปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก และต้องดิ้นรนไม่น้อยไม่ให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพล้มละลายจากหนี้สินล้นพ้นตัว จนต้องตัดสินใจเซ็นสัญญาเพื่อเปิดคอนเสิร์ตใหญ่หลายสิบรอบ ก่อนที่จะเสียชีวิตระหว่างการซ้อมคอนเสิร์ตในครั้งนั้น แต่ตอนนี้ ไมเคิล แจ็กสัน กลับทำเงินได้มากกว่าเดิมเสียอีก จะว่าไปแล้ว 5 ปีหลังเสียชีวิตไป เขาทำเงินได้มากกว่าตอนที่โด่งดังมากที่สุดด้วยซ้ำ
ในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด ไมเคิล แจ็กสัน คือศิลปินที่ได้ชื่อว่าเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสร้างรายได้ด้วยชื่อเสียงของศิลปิน จนเขาสามารถทำเงินได้เกิน 100 ล้านเหรียญฯ ต่อปี โดยเฉพาะในยุคที่อัลบั้ม Thriller ของเขาทำยอดขายถล่มทลาย และถึงตอนนี้ก็ยังเป็นอัลบั้มเพลงที่มียอดขายสูงที่สุดตลอดกาล และเขายังประสบความสำเร็จกับการซื้อลิขสิทธิ์เพลงเก่าๆ ของ The Beatles เมื่อปี 1985 ด้วยเงินเพียง 47.5 ล้านเหรียญฯ แต่ปัจจุบันเพลงเหล่านั้นมีมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านเหรียญฯ ไปเรียบร้อยแล้ว
ก่อนจะเสียชีวิตไม่กี่ปี แจ็กสัน ได้ชื่อว่าเป็นคนใช้เงินมือเติบ และต้องหยิบยืมเงินเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายต่างๆ จนช่วงหนึ่งเขาเคยเป็นหนี้ถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จนต้องตัดสินใจกลับมาขึ้นเวทีคอนเสิร์ต และเสียชีวิตระหว่างการซ้อมเพื่อขึ้นแสดงเมื่อปี 2009 ซึ่งหลังเสียชีวิต กองทุนมรดกของ ไมเคิล แจ็กสัน ก็เริ่มทำงาน และประสบความสำเร็จทันทีด้วยการนำภาพเบื้องหลังการซ้อมคอนเสิร์ตที่ไม่ได้เล่น มาตัดต่อเป็นหนังสารคดี This is It จนทำเงินได้ถึง 200 ล้านเหรียญฯ ในการฉายทั่วโลก
นอกจากนั้น หลังจากเสียชีวิตเพียงไม่กี่เดือน กองทุนมรดก และบริษัท Sony ยังได้เซ็นสัญญามูลค่าสูงถึง 200 ล้านเหรียญฯ เพื่อนำเพลงที่เขาเคยบันทึกเสียงเอาไว้ แต่ไม่ได้เผยแพร่มาเรียบเรียงปรับปรุงใหม่ มาออกเป็นอัลบั้มทั้งหมด 7 ชุด ซึ่งจะวางจำหน่ายในระยะเวลา 10 ปี
เมื่อเดือนก่อน ไมเคิล แจ็กสัน ยังเพิ่งจะได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตอีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีโฮโลแกรม ในงานมอบรางวัล Billboard 2014 Music Award ซึ่งเขาที่คืนชีพด้วยเทคนิคโลยีการสร้างภาพโฮโลแกรมได้โชว์ลีลาการร้อง และเต้นมูนวอล์กในเพลง A Slave to the Rhythm ซึ่งเขาเคยบันทึกเสียงเอาไว้ตั้งแต่ปี 1991 และเพิ่งจะถูกนำมาบรรจุในอัลบั้ม Xscape ผลงานล่าสุดของ แจ็คสัน และเป็นอัลบั้มแผ่นที่ 2 ที่ออกจำหน่ายหลังเขาเสียชีวิต หลังจากอัลบั้มชุดแรก Michael เมื่อปี 2010
Create Date : 26 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 26 มิถุนายน 2557 22:08:15 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1264 Pageviews. |
|
|
|
|
| |