ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ชาวบ้านแห่ดูตะเคียนทองยักษ์ อัศจรรย์น้ำไหลจากโคนต้นไม่หยุด

ชาวบ้านแห่ดูตะเคียนทองยักษ์ อัศจรรย์น้ำไหลจากโคนต้นไม่หยุด

หวยเด็ดงวดนี้ ชาวบ้านและเซียนหวยจำนวนมากแห่นำผ้าเจ็ดสีผูกตะเคียนทองยักษ์ จุดธูปบูชาโรยแป้งฝุ่นทาถูหาเลขเด็ด สุดอัศจรรย์มีน้ำไหลออกจากโคนต้นไม่หยุด หลังพบตะเคียนทองยักษ์ ขณะขุดบ่อบำบัดก่อสร้างโรงงานแป้ง ตั้งแต่กลางเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนทำพิธีอัญเชิญมาไว้วัดโคกกลาง พบเต็มไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวโยงกับตัวเลข เจ้าอาวาสบอกมีคนถูกหวยเอาสิ่งของมาถวายแม่ตะเคียนแล้วหลายราย

     วันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณวัดโคกกลาง ต.หนองบัว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เต็มไปด้วยชาวบ้านและนักเสี่ยงโชคจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งใน จ.บุรีรัมย์ และต่างจังหวัดจำนวนมาก หลังทราบข่าวการขุดพบต้นตะเคียนยักษ์ขนาดประมาณ 3-4 คนโอบ 1 ต้น และขนาดสองคนโอบอีก 1 ต้น ที่บ้านหนองน้ำขุ่น หมู่ 1 ต.หนองบัว อ.ปะคำ เป็นต้นโดยตะเคียนที่ขุดพบขณะผู้รับเหมาให้คนงาน นำรถแบ็คโฮ มาขุดลอกบ่อบำบัดก่อสร้างโรงงานแป้ง โดยตะเคียนต้นดังกล่าว ผู้รับเหมาขุดพบที่ความลึก 6 เมตรเศษ และได้มีการทำพิธีอัญเชิญมาเก็บรักษาไว้ที่วัด จึงพากันเดินทางมากราบไหว้ และอธิษฐานขอโชคลาภ หาเลขเด็ดกัน

     โดยนักเสี่ยงโชคบางรายได้นำน้ำหอมมาประพรมใช้แป้งฝุ่นทาถูและนำผ้าเจ็ดสีมาผูกบริเวณต้นตะเคียนยักษ์ดังกล่าว ซึ่งแต่ละรายจะเห็นเลขเด็ดแตกต่างกันไป ตามความเชื่อ หรือจินตนาการของแต่ละบุคคล


ชาวบ้านแห่ดูตะเคียนทองยักษ์ อัศจรรย์น้ำไหลจากโคนต้นไม่หยุด


  นายห้อย หลอดกระโทก รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองบัว อ.ปะคำ เล่าว่า หลังจากขุดพบต้นตะเคียนยักษ์ที่จมอยู่ใต้ดินลึก 6-7 เมตร ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.58 ที่ผ่านมา ระหว่างผู้รับเหมาให้คนงานขุดบ่อบำบัด ขณะกำลังก่อสร้างโรงแป้งมัน จึงได้แจ้งไปยังนายอำเภอปะคำ หลังจากนั้นได้ใช้รถแบ็คโฮ มาช่วยพยายามชักลากต้นตะเคียนขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ

     กระทั่งได้ปรึกษาหารือเจ้าอาวาสวัดโคกกลาง และชาวบ้าน พร้อมขอความอนุเคราะห์จากผู้รับเหมา นำรถเครน มาช่วยกันยกต้นตะเคียนขึ้นจากบ่อที่ขุดพบ ก็ยังยกขึ้นมาไม่ได้อีก จึงได้นำชุดไทยสีชมพูมา พร้อมมีการจุดธูปขอขมาบอกกล่าวแม่ตะเคียนว่า ถ้าหากนำขึ้นมาได้จะนำไปเก็บรักษาไว้ที่วัดโคกกลางเพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้กราบไหว้บูชา จากนั้นทั้งรถเครน รถแบ็คโฮ ต่างก็ช่วยกันยกต้นตะเคียนยักษ์ขึ้นมาไว้บนฝั่งได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

     จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายมาไว้ที่วัดโคกกลาง ซึ่งต้นตะเคียนยักษ์ต้นแรก วัดความยาวได้ถึง 18.84 เมตร วัดรอบเส้นผ่าศูนย์กลางได้ 3.87 เมตร และชั่งน้ำหนักด้วยรถเครน ได้น้ำหนักประมาณ 30 ตัน ส่วนตะเคียนอีกต้นวัดความยาวได้ถึง 20.22 เมตร วัดรอบเส้นผ่าศูนย์กลางได้ 1.43 เมตร


ชาวบ้านแห่ดูตะเคียนทองยักษ์ อัศจรรย์น้ำไหลจากโคนต้นไม่หยุด


     นายห้อย กล่าวต่อว่า ได้ปรึกษากับพระสงฆ์ และชาวบ้านว่าจะนำต้นตะเคียนดังกล่าว เก็บรักษาไว้ที่วัดโคกกลาง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องของต้นไม้โบราณ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่มีอายุหลายร้อยปี จึงเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาหาความรู้สำหรับผู้ที่สนใจ แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก เพราะมีน้ำไหลออกจากบริเวณโคนต้นตะเคียนยักษ์ตลอดเวลา ไม่แห้ง ทำให้ชาวบ้านต่างนำน้ำมาประพรมบนศีรษะ เพื่อเป็นสิริมงคล ตามความเชื่อ

     พระอธิการ เจนยุทธ กุสลจิตโต เจ้าอาวาสวัดโคกกลาง กล่าวว่า หลังจากได้นำต้นตะเคียนยักษ์มาเก็บรักษาไว้ที่วัดแล้ว ได้มีพิธีประพรมน้ำมนต์ ส่วนเรื่องของความเชื่อของคนที่เชื่อเรื่องของสิ่งลี้ลับเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งก็มองว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนไทย ตั้งแต่ดั้งเดิมก็จะเป็นแบบนี้ เมื่อมีการพบต้นตะเคียนก็จะมีการกราบไหว้ การบูชาด้วยวิธีต่างๆ การเสี่ยงโชค ซึ่งมองเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีกันบ้าง

     ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่และจากต่างอำเภอที่ทราบข่าว ต่างก็พากันเดินทางนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ขอโชคลาภ หรือนำชุดไทยมาถวายแม่ตะเคียนอย่างไม่ขาดสาย บางรายติดตามข่าวมาดูต้นตะเคียนยักษ์ตั้งแต่ที่พบในบ่อ และมีโชคลาภถูกเลขเด็ดไปแล้วก็หลายราย จึงได้มีการนำสิ่งของมาถวายแด่แม่ตะเคียน ซึ่งทางวัดก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด

ที่มา...ข่าวสด


Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2558 8:36:21 น. 0 comments
Counter : 1347 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]