ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

วิหารบนดาวอังคาร (เรื่องลึกลับ)

ดังที่เคยเป็นข่าวมาเป็นระยะๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของดาวอังคารหรือดาวแดงของบางท่าน บนดาวอังคารมีอะไร ? อเมริกาตอบคำถามนี้ด้วยการส่งยานไปสำรวจดาวอังคารมานานนับเป็นร้อยปีแล้วครับ หลังจากที่เรา(หมายถึงทางอเมริกา) พิชิตดวงจันทร์ได้ ดาวอังคารก็เป็นเป้าหมายต่อไป นับมาตั้งแต่การสำรวจนับครั้งไม่ถ้วน เช่น ยานมารีเนอร์ (Mariner) ยานไวกิ้ง 1,2 (Viking) สำรวจเมื่อปี ค.ศ. 1976 ต่อมาในปี 1996 ก็ส่งยาน Mars Global Surveyor ไปอีก และในปีเดียวกันกับยาน Mars Pathfinder ซึ่งก็ไม่ได้อะไรมากไปกว่าบรรดาภาพถ่ายนับพันใบที่ส่งมายัง NASA เป็นไปได้หรือกับการที่ส่งทั้งยานอวกาศ ดาวเทียมและยานสำรวจไปตั้งมากมาย แต่กลับสิ่งที่เราได้รู้เพิ่มเติมภายหลังจากการสำรวจแต่ละครั้ง ก็ไม่ได้มากมายไปกว่าการสำรวจมหาสมุทรหรือท้องทะเลในโลกเราเลย เค้าอาจจะรู้แต่เราไม่รู้ ? แต่ก็ไม่แน่ครับว่าทาง NASA อาจจะ "ซุกซ่อนและปกปิด" อีกครั้งตามความถนัดของทางพี่เค้าเองอีกหรือเปล่า ?








ทางดาวอังคารนั้นก็มีดาวบริวารเหมือนกันครับหรือที่เราเรียกว่าดวงจันทร์ของดาวอังคารอยู่ 2 ดวง ชื่อโฟโบส (Phobos) กับ ไดโมส (Deimos) มีรูปร่างเกือบกลมและมีขนาดเล็กมาก เล็กกว่าดวงจันทร์ของโลกเราเสียอีก ว่ากันว่าแต่เดิมเนี่ยดวงจันทร์ทั้งสองดวงเนี้ยไม่ใช่ดาวบริวารของดาวอังคาร แต่อาจจะถูกแรงดึงดูดของดาวอังคารจับเอาไว้ตอนมันโคจรผ่านเข้ามาแล้วก็เลยกลายเป็นดาวบริวารไป และโคจรอยู่ใกล้กับดาวอังคารมากจนเห็นได้ชัด แต่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นมานานกี่แสนกี่ล้านปีมาแล้ว ก็ยังไม่อาจทราบได้








บริเวณที่อเมริกาชอบส่งบรรดายานสำรวจหรือดาวเทียมถ่ายภาพระยะไกลทั้งหลายแหล่ไปนั้น เป็นส่วนที่เรียกกันว่า "ไซโดเนีย (Cydonia)" ทำไม๊ ทำไมถึงชอบไป Landing บริเวณนี้กันนักหนาล่ะ สำรวจทีไรก็ไซโดเนีย หรือไม่ก็ไม่ไกลจากบริเวณนั้นไปเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพียงพิกัดหรือบริเวณที่เหมาะแก่การสำรวจเท่านั้น แต่ !! ถ้ามีบางสิ่งอยู่ตรงบริเวณนั้นล่ะ ? บางสิ่งที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ในเวลานี้หรืออาจจะตลอดไปตราบเท่าที่ทางอเมริกาจะสามารถทำได้ แล้วมันคืออะไรละ ? จำได้มั๊ยครับว่าบริเวณ Cydonia นั้นมีอะไรอยู่ ใช่แล้ว มันคือรูปภาพหน้าคนที่เราเรียกกันว่า "Face on Mars" หินที่ก่อตัวจนเป็นรูปหน้าคน บังเอิญหรือว่ามีอะไรหรือใครไปสร้างเอาไว้บนนั้น ได้มีการพิสูจน์กันว่าแท้ที่จริง "Face on Mars" คืออะไรกันแน่ เป็นเพียงภาพหินธรรมดาที่บังเอิญแสงและเงาทำให้เกิดภาพเช่นนี้ขึ้นมา หรือว่ามันเป็นสิ่งก่อสร้างของสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาบนดวงดาวนั้น หลายท่านอาจจะเคยผ่านตากับภาพชุดนึงที่เค้าว่าเป็นภาพถ่ายจากทางด้านข้างหรือทางด้านอื่นๆ ของ "Face on Mars" นี้ แล้วได้มีการสรุปออกมาว่า มันเป็นเพียงภาพก้อนหินใหญ่ธรรมดาที่โดนเล่นตลกด้วยแสงเงา จนเป็นรูปร่างหน้าคนขึ้นมา แต่ก็มีบรรดานักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์บางท่าน รวมไปถึงนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญและบรรดาชายขี้สงสัยทั้งหลายไม่เห็นด้วยและได้แย้งเอาไว้ว่า มันจะง่ายไปหน่อยหรือเปล่า กับการที่จะสรุปว่ามันเป็นเพียงก้อนหินธรรมดาที่ไม่มีอะไรหรือบังเอิญเกิดขึ้นจากธรรมชาติ โดยอาศัยบทสรุปเพียงภาพถ่ายจากทางด้านข้างหรือด้านอื่นที่ไม่ใช่ภาพด้านบน "ลองมองลายเส้นนาซก้าจากบนดินซิ คุณเห็นอะไรมั๊ย ? วิหารต่างๆ ละ ทำไมต้องสร้างให้มันใหญ่โตด้วย เพื่ออะไร ? แล้วปิระมิดหรือบรรดาสิ่งก่อสร้างโบราณที่ใหญ่ยักษ์ทั้งหลายล่ะ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเหตุผลใด ? เพื่อบูชาและเป็นเครื่องหมายแสดงถึงการเคารพและเพื่อให้พระเจ้าของเขามองเห็นได้ง่ายยังไงล่ะ เมื่อเทพเจ้าของพวกเขาเสด็จหรือมองลงมาจากท้องฟ้า" ครับ ก็ว่ากันไป











เมื่อมีการสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาได้นั่นย่อมแสดงว่าบนดาวอังคารย่อมมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาอาศัยหรือ "เคยอาศัย" อยู่บนนั้น ดังที่อาจจะรู้กันแล้วว่าบนดาวอังคารนั้นไม่ได้มี "Face on Mars" เพียงหน้าเดียว ที่ถูกควรจะเป็น "Faces on Mars" มากกว่า ใช่ครับยังมีอีกใบหน้าหนึ่งนอกจากใบหน้าที่เราๆ ท่านๆ คุ้นเคยกัน แต่มีลักษณะที่เล็กกว่าและอยู่ถัดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (แต่ก็เป็นกิโลแน่ะ) ดวงจันทร์สองดวงนี้กับใบหน้ามีความเกี่ยวข้องอะไรกันหรือเปล่า ? เป็นประเด็นที่มีการขบคิดของบรรดาผู้ที่(อยาก)รู้ กันครับ








แล้วสรุปกันออกมาว่า มันน่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นมาเพื่อสักการะหรือบูชาต่อดวงจันทร์ทั้งสองดวง โอ้โฮ ! ช่างสรุปกันได้น่าสนใจทีเดียว เอ ลองฟังไว้ก็ไม่เสียหลายนี่นา ว่าแล้วก็ฟังหรือดูกันเลย ขอย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1976 ที่ NASA ส่งยานไวกิ้ง (Viking) ไปถ่ายภาพดาวอังคาร หนึ่งในหลายๆ ภาพนั้นเป็นภาพของก้อนหินเป็นรูปร่างที่มีองค์ประกอบต่างๆ เช่น ดวงตา จมูก ปากและที่ครอบศีรษะหรือบางทีอาจจะเป็นหัว อยู่อย่างชัดเจน พูดกันง่ายๆ ว่ามันดูเหมือนใบหน้าของสิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายกับมนุษย์ !!!





เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ก็เป็นข่าวไปทั่วโลกว่าพบสิ่งก่อสร้างหรือใบหน้ามนุษย์บนดาวอังคาร แต่ทาง NASA ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลหรือรายละเอียดมากไปกว่าที่เราทราบกัน ทั้งภายหลังยังพยายามออกมาชี้แจงรวมทั้งนำภาพถ่ายอื่นๆ จากทางด้านข้างและด้านอื่นให้ดูว่ามันไม่ใช่อะไรที่มากไปกว่าหินหรือภูเขาก้อนหนึ่งเท่านั้น เอ มันก้อแปลกๆ นาทำอย่างนี้ จนกระทั่งได้มีการวิเคราะห์และตรวจสอบกันจากทางทั้งนักดาราศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญและนักสืบเอกชน (ไปเกี่ยวไรด้วยว๊า -_-'') และนำมาตีแผ่ต่อสื่อ รวมทั้งต่อว่าทาง NASA ว่าปกปิดข้อมูลที่แท้จริงเอาไว้ และทาง NASA ก็ได้ออกมาโต้กลับว่า ก็มันไม่มีอะไรจริงๆ นี่น๊า จะไม่เชื่อกันบ้างหรือไง มันก็เป็นเพียงก้อนหินเท่านั้นไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นเล๊ย และจากภาพถ่ายของดาวอังคารแถบบริเวณ Cydonia เค้าว่าถ้าสังเกตให้ดีบนภาพจะมีจุดอยู่ 4 จุด ถัดจาก "Face on Mars" ออกไปหรือก็คือมันล้อมรอบ "Face on Mars" อยู่นั่นเอง ซึ่งเค้าว่ากันว่าแต่ละจุดเปรียบได้กับมหาปิระมิดของอียิปต์ ซึ่งเราก้อได้ทราบกันไปบ้างแล้วใช่มั๊ยครับ ว่ามีการค้นพบสิ่งก่อสร้างที่คล้ายกำแพงเมืองและปิระมิด (Pyramid) รวมไปถึง สฟิงซ์ (Sphinx) บริเวณนั้นด้วย มาว่ากันต่อเรื่องจุดนั้นมีการเรียงตัวเป็นมุมทั้ง 4 และล้อมรอบด้วยกลุ่ม ปิระมิดเล็กๆ ที่ไม่เล็กเสียทีเดียว โดยทั้งบริเวณนี้กินเนื้อที่ไปกว่าหนึ่งไมล์หรือราว 1.6 กิโลเมตรโดยประมาณ แถมทั้งหมดนี่ยังมีการเรียงตัวที่เป็นเส้นตรงซะอีกแน่ะ








ซึ่งเค้าว่ากันว่ามันดันเหมือนกับจุดศูนย์กลางกองบัญชาการของเพนทากอน (Pentagon) หรือกระทรวงกลาโหมของอเมริกาเพียงแต่เพนทากอนนั้นมีอยู่ 5 มุม อุ อุ อุ แต่ก็คล้ายกับ "Face on Mars" ที่ล้อมรอบด้วยจุดหรือปิระมิดเหล่านี้เช่นกัน !!! หรือที่เรียกจดศุนย์กลางนี้ว่า "The Center Point" ทีนี้เราลองไปทางตะวันตกจาก Cydonia อีกหน่อยก็จะเจอกับหินที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับหัวแครอทหันไปทางใต้ อันนี้ละครับที่เค้าว่ามันคล้ายกว่าใบหน้าของสิ่งมีชีวิตมากกว่าอันแรกเสียอีก !! ซึ่งประกอบไปด้วยสองตา ริมฝีปากและคาง แม้แต่สันจมูกด้วยซ้ำไป รวมจากองค์ประกอบมันแล้วเป็นอะไรที่คล้ายใบหน้ามาก แต่ทว่าไม่น่าจะใช่ใบหน้าของมนุษย์อย่างเราๆ แน่นอนเลยครับ กับ "The Second Face" เป็นชื่อที่เรียกกันของสิ่งนี้





เอาละครับทีนี้เรามาถึงข้อมูลที่ทฤษฎีนี้ว่ากันไว้เมื่อตอนต้นว่า สิ่งเหล่านี้คืออะไรกันแน่และทำไมชาวดาวอังคาร (Martians) ถึงสร้างมันขึ้นมา ?? คำตอบที่เค้าว่าเอาไว้ก็คือ มันถูกสร้างเพื่อให้เป็นวิหารไว้สำหรับเคารพและสักการะบูชาต่อดวงจันทร์ทั้งสองของดาวอังคาร !! โดยชาวดาวอังคารก็เคยถูกมาเยือนด้วยสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาจากระบบสุริยะที่ไกลออกไป และสั่งสอนศิลปะวิทยาความรู้ให้แล้วก็จากไป เช่นเดียวกันกับที่อาจจะเกิดขึ้นบนโลกเรานี้กับอารยธรรมโบราณต่างๆ !?!?! และผลพวงนั้นก็ทำให้เกิด Cydonia Complex ขึ้นมาเพื่อที่จะพยายามติดต่อและเพื่อเป็นที่สักการะของเหล่าชาวดาวอังคารต่อพระเจ้าของพวกเขานั่นเอง ด้วยการสร้างใบหน้าให้หันขึ้นไปบนท้องฟ้า เพื่อให้พระเจ้าของเค้ารู้ว่าพวกเขากำลังคอยการกลับมาของพระองค์อยู่ ฟังแล้วคุ้นๆ มั๊ยครับเหมือนกับหลายอารยธรรมบนโลกนี้เอาเสียจริง มันจะเป็นการบังเอิญที่เกินไปหรือเปล่า








ถ้าเกิดครั้งหนึ่งบนดาวอังคารเคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่และมีอารายธรรมอยู่บนนั้น ดังที่เคยกล่าวไปแล้วว่า ชาวอังคารอาจจะเคยถูกเยือนด้วยสิ่งมีชีวิตและทรงปัญญากว่าพวกเขาตอนนั้น แล้วก่อนหน้าที่จะมีผู้มาเยือนละ ? มันหมายถึงว่าในขณะนั้นพวกเค้าอาจมีเทคโนโลยีและความรู้ที่อาจยังล้าหลัง เหมือนยุคบรรพบุรุษของเราในยุคหินหรือยุคที่ยังมีความเชื่อต่อพระเจ้า และสิ่งที่มองไม่เห็นก็อาจเป็นได้ และเมื่อมีผู้มาเยือนจากฟากฟ้าแล้วสั่งสอนวิทยาความรู้ให้แล้วก็ทรงเสด็จกลับไปยังบนฟ้า และนึกว่าดวงจันทร์เป็นที่ที่พระองค์ทรงเสด็จลงมา ก็เลยสร้างวิหารและปิระมิดขึ้นมาตามที่กล่าวไว้ข้างต้น อย่างนี้เปรียบได้กับอารยธรรมส่วนใหญ่บนโลกเราทื่มีการสักการะบูชาต่อดวงจันทร์ หรือว่าเราจะเดินตามรอยชองชาวดาวอังคารอีกคำรบนึง ? มาดูตัวอย่างบรรดาอารยธรรมที่มีการสักการะบูชาต่อสิ่งบนฟ้ากันดีกว่าครับ ชาวอียิปต์โบราณบูชาพระอาทิตย์และดวงดาว ชาวสุเมเรียนเคารพและบูชาดวงจันทร์ ชาวกรีกและโรมันนับถือต่อดวงดาวต่างๆ หลายๆ อย่างที่มองไม่เห็นและน่าเชื่อถือจะกลายเป็นพระเจ้าของพวกเขาไปในที่สุด แล้วถ้าเกิดชาวดาวอังคารเคยทำอย่างนี้มาก่อนละ ? กับดวงจันทร์ที่คิดว่าพระเจ้าอาศัยอยู่บนนั้นและคอยพิทักษ์รักษาพวกเขาอยู่ Cydonia Complex เลยกลายเป็นคำตอบในเวลาต่อมาจาก "The First Face" สร้างขึ้นเพื่อสักการะต่อดวงจันทร์โฟโบส และ "The Second Face" ต่อไดโมส "Deimos"











นอกจากนี้ยังมีในส่วนความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ของตรีโกณระหว่าง Cydonia Complex ที่ลงตัวกันอย่างเหมาะเจาะกับระบบวงโคจรของดวงจันทร์ทั้งสอง เมื่อเปรียบเทียบมาเป็นอัตราส่วนที่เท่าๆ กัน เหมือนดังปิระมิดของอียิปต์ที่มีอัตราส่วนหลายๆ อย่างไปตรงกันกับความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์เช่น จำนวนขั้นของปิระมิดเมื่อนำมาคำนวณทางคณิตศาสตร์ (ขอโทษขะรับ ผมจำไม่ได้ว่ายังไงแล้ว -_-''') จะได้ออกมาเท่ากันกับจำนวนวันของโลกคือ 365 วันและระยะทางระหว่างจากโลกไปดวงดาวต่างๆ ก็มีบอกอยู่ (อันนี้ลองหาอ่านกันดูนะขะรับ ผมจำได้แค่นี้ง่ะ -_-''') ก็เป็นข้อมูลระหว่างดวงจันทร์ทั้งสองดวงและ Cydonia Complex ที่เค้าว่าเอาไว้ อ้อ มีทิ้งท้ายนิดนึงครับ "เป็นไปได้ที่หินเพียงก้อนนึงอาจจะดูเหมือนใบหน้าได้ แต่เป็นไปได้ยากที่หินหลายๆ ก้อนมารวมตัวกันแล้วมีลักษณะคล้ายสิ่งก่อสร้างและใบหน้า รวมไปถึงกับระบบโคจรของดวงจันทร์ที่มีความลงตัวกันทางคณิตศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อรายละเอียดมันค่อนข้างที่จะสมบูรณ์"








ครับทั้งหมดก็เป็นเรื่องราวของวิหารบนดาวอังคารจากแนวคิดและการวิเคราะห์ของทางฝรั่งเค้า ที่ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลแนวความคิดมาจากอารยธรรมโบราณของโลกเราไม่น้อยเลย แต่ถ้าครั้งหนึ่งมันเคยเกิดขึ้นบนโลกเราจริงๆ ล่ะ ???





เรากำลังเดินตามรอยชาวอังคารกระนั้นหรือ ?








ยานไวกิ้ง ได้ถ่ายภาพบริเวณตอนเหนือของดาวอังคาร


นาซ่าเรียกมันว่า ไซโดเนีย (Cydonia)


โดยถ่ายภาพจากพื้นดินเหนือไป 1000 กว่า กิโลเมตร








เอ๊ะ.. นอกจากภาพที่เหมือนใบหน้าคน (รึเปล่าหว่า?)


มีอะไรมากกว่านั้นมั้ย (ต้องใช้จิตนาการสูงมาก)





ใช่แล้วครับ... สิ่งก่อสร้างที่ไม่รู้ว่าธรรมชาติสร้าง


หรือคนสร้าง


สิ่งที่คล้ายๆปิรามิดนั่นเอง









ปี 1993 ยานมารส์ ออป เซอร์เวอร์ ได้ถูกกำหนดแผนการไว้ให้ถ่ายภาพใบหน้าลึกลับอีกครั้งก็ไม่สามารถถ่ายภาพส่งกลับมาได้ นาซ่าแถลงว่าเกิดจากยานสูญเสียการควบคุมในช่วงนั้นพอดี จึงไม่สามารถถ่ายภาพมาได้ตามแผน





ปี 1977 ยานอวกาศพาทไฟน์เดอร์ มีทีท่าว่าจะถ่ายภาพนี้กลับมาส่งโลก ก็ไปแค่ผ่านๆเท่านั้น


ปี 1997 ยานโกลบอลเซอร์เวเยอร์ที่เดินทางถึงดาวอังคาร โคจรรอบดาวอังคารเพื่อถ่ายภาพทำแผนมาตลอด ก็ไม่ได้ถูกกำหนดให้ถ่ายภาพใบหน้าลึกลับนี้เลย





นาซ่าไม่สนใจมันเพราะเป็นเพียงภูเขาธรรมดาลูกนึงจริงๆรึ











แล้วจู่ๆปี 2001


นาซ่าคลายความสงสัยชาวโลก


เมื่อออกมาบอกทันทีว่า


ไม่มีอะไรจริงๆหรอก~~











สิ่งที่ดูเหมือนเสา หรือแท่งหิน



ซึ่งแน่นอน นาซ่าบอกว่าไม่สนใจมัน


รวมถึงสิ่งที่คล้ายปิรามิดนี่ด้วย








สิ่งที่ดูคล้ายๆซากเมือง








ถ่ายโดนยานสปิริต เมื่อ มีนาคม 2004









ซูมเข้าไปใกล้ๆ








นอกจากนี้ ยานสปิริตยังได้ถ่ายสิ่งที่คล้ายหัวกระโหลกได้








รวมถึงสิ่งที่คล้ายๆ ท่อ แก้ว หรือรู อะไร









สิ่งดูเหมือนสิ่งก่อสร้าง ใหม่ๆ














สิ่งที่คล้ายสิ่งก่อสร้าง เสาหิน ?









ป่า ?








ถ่ายโดยยานมาร์ส โรเวอร์








นอกจากนี้ยังมีภาพแปลกๆอีกมากมายที่นาซ่า ไม่บอกอะไร



แต่พี่แกยังคงส่งยานอวกาศไปป่วนเปี้ยนบริเวณที่บอกว่าไม่มีอะไรเสมอๆ








อะไรอยู่ในหลุมอุกกาบาต ?








กลับมาดูโดมอีกทีก็ได้ครับ








สิ่งนี้ คืออะไร ?








คล้ายมั้ยครับ ?








มีการเคลื่อนไหวของน้ำ


ถ่ายโดยยานGlobal Surveyor





รูปซ้ายเนี่ย E11-03412


ถ่ายในวันที่ 22 ธันวา 2001





รูปขวา SO9-02603


ถ่าย 26 สิงหา 2005








เมื่อสัก 5-6 ปีก่อน นาซ่าก็ออกมาบอกเองว่ามีน้ำอยู่บนดาวอังคารนะครับ อยู่ในรูปของน้ำแข็งคลุกปนอยู่กับดิน ฝุ่นละอองและหิน ปกคลุมผิวพื้น อยู่หนา 3 ฟุต และเครื่องตรวจวัดบนยานโอเดซซีจับพบว่า มีก๊าซไฮโดรเจน









คณะนักวิทยาศาสตร์ที่ควบคุมยานฟินิกซ์เขาก็บอกนะครับว่าดินบนดาวอังคาร มีความคล้ายคลึงกับดินที่พบในทะเลทรายของชิลี และ ยานก็ได้พบส่วนสารเคมีในตัวอย่างดินที่ได้มาจากพื้นผิวของดาวอังคารด้วย





เขาระบุว่า สารเคมีที่พบ คือ เพอร์คอเรต และคล้ายกับที่พบในทะเลทรายอาตาคามา ของชิลี ที่มีจุลินทรีย์เป็นจำนวนมาก








ยานอวกาศ มาร์ส โอดิสซี ที่โคจรอยู่รอบดาวอังคาร พบถ้ำ 7 แห่ง บริเวณเนินลาดของภูเขาไฟบนดาวอังคาร









ดูดีๆนะครับ ภาพซ้ายนี่ ดาวอังคาร


ภาพขวา แอนตาร์กติก้า (ดาวโลก)








ทั้งร่องรอยของน้ำ...








และน้ำแข็ง...








เด๋วคืนนี้มาต่อน่ะคับ



เครดิต //www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=186745



Create Date : 11 กันยายน 2552
Last Update : 11 กันยายน 2552 17:38:42 น. 18 comments
Counter : 12366 Pageviews.  

 
น่าจะมีสิ่งมีชีวิตบ้างนะเนี่ย


โดย: ผู้ไร้ปัญญา IP: 125.26.222.2 วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:21:07:50 น.  

 
Face on Mars


โดย: 65 IP: 61.19.52.58 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:14:44:55 น.  

 
น่าจะมีสิ่งมีชีวิตเพราะมีหลังถานหลายอย่าง อาจารย์เทพพนม ทั้นก็มีเพื่อนเป็นมนุษย์ต่าวดาวอยู่บนดาวอังคาร


โดย: สยนันย์ สวงันแดน IP: 1.2.238.197 วันที่: 8 มิถุนายน 2555 เวลา:18:20:14 น.  

 
ถ้าอยากรู้เรื่องมนุษย์ต่างดาว ให้พิม กลุ่มเขากะลา
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เด็กหัวหมู่


โดย: สิงหนุ่ม ผู้ร้อนเเรง ชมรมเรื่องลึกลับ IP: 1.2.238.197 วันที่: 8 มิถุนายน 2555 เวลา:18:26:43 น.  

 
ช่วยกันบอก nasa ใหัส่งภาพชัดๆหน่อย ทุกภาพที่ลงมาให้ดูกำกวมทั้งนั้นเลยคนดูตัดสินใจไม่ได้ หรือจะตั้งใจให้เป็นแบบนี้ เรื่องเทคโนโลยี่การถ่ายภาพยุคนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรแล้ว กล้องถูกๆระดับ 2พันกว่าบาทยังชัดใสแจ๋วกว่ากล้องnasaอีกขนาดซูมแล้วยังเห็นหัวสิวเลย เห็นลงทุนส่งยานแต่ละครั้งหมดเงินไปนับ1,000ล้านดอลล์ (ก็หลายหมื่นล้านบาทเชียวนะ) ทำไมทำให้เบลอเวลาขยายภาพ.... หรือไม่อยากให้รู้ความจริงกลัวคนแตกตื่น


โดย: พ่อแป้ง / กทม IP: 110.168.195.99 วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:8:06:29 น.  

 
เป็นไปได้มั้ยที่ดาวอังคารเคยมีสิ่งมีชีวิตก่อนบนโลก แล้วเกิดภัยพิบัติ สูญพันธุ์ จิตนาการสูงคับ


โดย: nonameman IP: 101.109.13.86 วันที่: 27 มีนาคม 2556 เวลา:9:42:00 น.  

 
น่าสนใจและติดตามมากคับเรื่องนี้
นาซ่าปกปิดข้อมูลหลายๆเรื่องคับ
ไม่รู้เพราะอะไรถ้าคิดแบบเล่นๆ
หรือทางนาซ่าได้ทำข้อตกลงอะไร
ซักอย่างกับสิ่งที่เขาปกปิดใว้ว่า
ห้ามเปิดเผยข้อมูลของพวกเค้าก่อนได้รับ
ความยินยอมหรือเปล่าเพราะนาซ่าเนี่ยมีอะไร
ปิดบังเยอะคับทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆต่างๆ
เอเรีย51และที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า(คิดว่าสัมพันกันนะคับ)อันนี้ยกตัวอย่างในดาวโลกยังสามารถกำเนิดสิ่งมีชีวิตได้
ผมคิดว่าดาวดวงอื่นๆก็อาจจะกำเนิดสิ่งมีชีวิตได้เหมือนกัน
เพราะจักรวาลไม่ได้มีแค่เรากาแลคซี่เดียวยังมีอีกนับไม่ถ้วน
กาแลคซี่หนึ่งในนั้นอาจจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่นะคับ
แต่หน้าตาอาจจะไม่เหมือนเราแต่ถ้าเราไปถึงพวกเค้าได้
พวกเค้าคงจะมองพวกเราเป็นมนุษย์ต่างดาวเพราะหน้าตาไม่
เหมือนพวกเค้า
ยังมีอีกเยอะคับทุกสิ่งทุกอย่างทางของอเมริกามีมาอวด
ชาวโลกก่อนเสมอ(อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคับคือชอบ
และติดตามเรื่องพวกนี้มานานแล้วคับ)ขอบคุณกับข้อมูล
ดีดีที่มีประโยชน์นะคับ


โดย: tumza IP: 37.228.107.52 วันที่: 17 เมษายน 2556 เวลา:1:12:42 น.  

 
ถ้ามีพิระมิดบนดาวอังอาร ก็เป็นไปได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่


โดย: คนธรรมดา IP: 182.53.19.200 วันที่: 8 พฤษภาคม 2557 เวลา:18:09:13 น.  

 
ในทางพีระมิดของเราอยู่ๆความรู้ในการสร้างก็สูญหายตายไปกับคนสร้างไม่ได้สืบทอดไว้ให้คนรุ่นหลัง แล้วพบพีระมิดที่ดาวอังคาร เป็นไปได้มากแค่ไหนที่สิ่งมีชีวิตที่สร้างพีระมิดขึ้นมาเป็นสิ่งเดียวกัน สิ่งนั้นอาจตะสร้างที่ดาวอังคารมาก่อนแล้วมาสร้างบนโลกเรา หรือพวกเราคือวิวัฒนาการจากมนุษย์ดาวอังคาร


โดย: Back IP: 49.230.150.196 วันที่: 24 ตุลาคม 2557 เวลา:12:41:23 น.  

 
This information is priceless. Where can I find out more?
north face jackets girl //www.shayspaniola.com/outlet/it-northface/19IUI4V3K9/


โดย: north face jackets girl IP: 192.99.14.34 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2557 เวลา:16:03:14 น.  

 
If you are looking for fashion advice, you have come to the right place. You do not have to look like a fashion reject any longer. All it takes is a little work to make yourself look better than you do now. Check out these tips to become more knowledgeable about fashion.
Nike Outlet //www.aachendom.de/


โดย: Nike Outlet IP: 192.99.14.34 วันที่: 22 ธันวาคม 2557 เวลา:18:38:55 น.  

 
กำเนิดโลกจะเหมือนกำเนิดดาวอังคารหรือเปล่าน่า


โดย: จิราภา สุทธหลวง IP: 58.8.58.102 วันที่: 4 มิถุนายน 2558 เวลา:4:00:48 น.  

 
Attractive part of content. I simply stumbled upon your weblog and in accession capital to assert that I acquire actually enjoyed account your blog posts. Any way I'll be subscribing for your feeds or even I success you get right of entry to persistently quickly.
taglie occhiali ray ban //www.cupidndt.com/site.php?it-taglie-occhiali-ray-ban-22600.html


โดย: taglie occhiali ray ban IP: 192.99.14.36 วันที่: 18 ตุลาคม 2558 เวลา:14:16:25 น.  

 
Highly descriptive blog, I liked that a lot. Will there be a part 2?
peuterey azienda italiana //europeanvoluntaryservice.org/?it-peuterey-azienda-italiana-11574.html


โดย: peuterey azienda italiana IP: 192.99.14.34 วันที่: 19 ตุลาคม 2558 เวลา:17:09:17 น.  

 
Terrific article! That is the type of info that should be shared around the web. Disgrace on the search engines for not positioning this publish upper! Come on over and talk over with my web site . Thank you =)
peuterey sconti //ngoadvocacy.eu/?it-peuterey-sconti-13106.html


โดย: peuterey sconti IP: 192.99.14.36 วันที่: 20 ตุลาคม 2558 เวลา:13:02:03 น.  

 
wgfigjr

//www.demetz.co.uk/adidas-tubular-radial-k-293.html
//www.wallbank-lfc.co.uk/233-adidas-shoes-women-blue.htm
//www.verkeersschoolhaan.nl/adidas-gazelle-kurk-809.htm
//www.ehev.es/848-zapatos-prada-espaa.htm
//www.tinget.es/zapatos-adidas-de-futbol-174.html

[url=//www.amstructures.co.uk/adidas-nmd-r1-ladies-737.html]Adidas Nmd R1 Ladies[/url]
[url=//www.rwpieters.nl/670-mizuno.html]Mizuno[/url]
[url=//www.cpac.org.es/longchamp-granate-718.html]Longchamp[/url]
[url=//www.lexus-tiemens-arnhem.nl/307-balenciaga-schoenen-zwart-heren.htm]Balenciaga Schoenen Zwart Heren[/url]
[url=//www.groenlinks-nh.nl/superstar-adidas-lichtroze-870.html]Superstar Lichtroze[/url]


โดย: Scottgax IP: 188.165.201.164 วันที่: 11 มิถุนายน 2560 เวลา:15:37:06 น.  

 
[url=https://kloviagrli.com/]best place to buy viagra online forum[/url] [url=https://vigedon.com/]cost of viagra at walmart[/url] [url=https://llecialisjaw.com/]cialis vs. viagra[/url] [url=https://jwcialislrt.com/]adderall and cialis[/url] [url=https://jecialisbn.com/]cialis 20mg side effects[/url]


โดย: Grvteeva IP: 188.40.113.83 วันที่: 29 มีนาคม 2564 เวลา:19:06:27 น.  

 
[url=https://ljcialishe.com/]us pharmacy prices for cialis[/url] [url=https://cialisvja.com/]cialis samples[/url] [url=https://viagraonlinejc.com/]viagra instructions[/url] [url=https://viagratx.com/]viagra military[/url] [url=https://buycialisxz.com/]cialis 20 mg price costco[/url]


โดย: BrfgFunc IP: 188.40.113.83 วันที่: 30 มีนาคม 2564 เวลา:3:25:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]