วันนี้ ( 14 ก.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสว่า รายงานชิ้นหนึ่งในวารสารการแพทย์ แลนเซ็ต  เผยแพร่ในวันนี้ ระบุว่า ผู้ที่ทำงานหนัก และมีความเครียดสูง เสี่ยงป่วยด้วยโรคหัวใจมากกว่าคนทั่วไป 23% แต่อัตราเสี่ยงยังน้อยกว่าผู้ที่สูบบุหรี่ หรือนั่งทำงานติดที่เป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ

น.ส.มิกะ คิวิมากิ นักระบาดวิทยาจาก ยูนิเวอร์ซิตี คอลเลจ ออฟ ลอนดอน ( ยูซีแอล ) ในฐานะหัวหน้าทีมวิจัยในเรื่องนี้ กล่าวว่า ระดับความเครียดในการทำงานสามารถเพิ่มความเสี่ยงที่จะป่วยด้วย โรคหลอดเลือดแดงเลี้ยงหัวใจอุดตัน ( ซีเอชดี ) ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้

ทั้งนี้ ผลการวิจัยอ้างอิงจากรายงาน 13 ชิ้น ที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างปี 2528-2549 ในประเทศยุโรป 7 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์  เนเธอร์แลนด์ สวีเดน เบลเยียม อังกฤษ และฝรั่งเศส จากกลุ่มตัวอย่าง 197,473 คน ที่ไม่มีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจ ซึ่งทีมงานจะเก็บข้อมูลทางสุขภาพเฉลี่ยทุก 7.5 ปี

รายงานบ่งชี้ว่า 30,214 คน จากกลุ่มตัวอย่าง มีอาการเครียดจากการทำงาน สาเหตุเนื่องมาจากปริมาณงานที่มากเกินไป สภาพแวดล้อมในการทำงานที่กดดัน และไม่ได้รับโอกาสให้เสนอแนะความคิดเห็นในการทำงานเท่าที่ควร นอกจากนี้ ผลการตรวจสุขภาพยังพบด้วยว่า 2,356 ราย เริ่มมีอาการป่วยเบื้องต้นด้วยโรคหัวใจ คิดเป็น 23%
อย่างไรก็ตาม ชาวยุโรปมีแนวโน้มเครียดจากการทำงานเพิ่มมากขึ้น  สาเหตุจากปัจจัยด้านวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังรุมเร้าอยู่ในปัจจุบัน

//www.dailynews.co.th/world/155098