Group Blog
 
All blogs
 
รู้ให้รอบก่อนกินวิตามิน-อาหารเสริม

    วิตามิน อาหารเสริม

    รู้ให้รอบก่อนกินวิตามิน-อาหารเสริม (Lisa)


    เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรงมากจนเหมือนว่าการกินอาหาร 3 มื้อจะไม่เพียงพออีกต่อไป วิตามินและอาหารเสริมสารพัดอย่างสารพันยี่ห้อจึงวางขายกันเกลื่อน (แถมยังขายดีมากเสียด้วย)

            หากเดินเข้าไปในมุมวิตามินและอาหารเสริมของร้านขายยาสักแห่ง เชื่อสิว่าคุณจะต้องมึนกับความหลากหลายของสินค้าในกลุ่มนี้ที่มาพร้อมกับสรรพคุณแตกต่างกัน นั่งคิดจนปวดหัว อ่านจนปวดตัวก็ยังไล่ไม่หมด แต่ก่อนที่จะเลือกคว้าขึ้นมาสักกระปุก ถามตัวเองสักนิดดีไหมว่าคุณรู้จักสิ่งที่เลือกดีแค่ไหน และจำเป็นต้องกินจริง ๆ หรือเปล่า

    เมื่อไรที่ควรกินอาหารเสริม

    ใช้ชีวิตแบบแย่ ๆ เช่น สูบบุหรี่จัด หรือติดแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มที่

    กำลังตั้งครรภ์ เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน หรือร่างกายปฏิเสธอาหาร

    อยู่ท่ามกลางสภาวะเป็นพิษ ภูมิต้านทานอ่อนกำลังลง สุขภาพอ่อนแอง่ายกว่าปกติ

              ก่อนจะซื้ออย่าลืมคำนึงด้วยว่าไม่มีอาหารเสริมที่เหมาะสำหรับทุกคน แต่ควรจะเลือกให้เหมาะกับตัวเองเพื่อฟื้นฟูปัญหาสุขภาพได้อย่างตรงจุด และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย อย่าคิดว่ายิ่งกินมากย่งดี ควรกินตามปริมาณบริโภคที่แนะนำต่อวันเท่านั้น หากเกินปริมาณที่กำหนดไว้ก็อาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้


    อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ


    มารู้จักแหล่งวิตามิน-อาหารเสริมกันเถอะ

              วิตามินแบ่งออกเป็นสองชนิดคือแบบที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินซีและบี กับแบบที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ ดี อี และเค ส่วนอาหารเสริมชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่กินเพิ่มเข้ามาเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ร่างกายอาจจะขาดหรือได้รับไม่เพียงพอ แต่ที่จริงวิตามินและอาหารเสริมราคาแพง ๆ ที่เขาอัดเม็ดใส่กระปุกมานั้นต่างก็มีอยู่ทั่วไปและสามารถหากินเองได้ไม่ยาก

    วิตามินเอ

              ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง บำรุงสายตา สร้างภูมิต้านทานให้ระบบหายใจ ลดการอักเสบของสิวและลบเลือนจุดด่างดำ

    พบได้ใน : ผักและผลไม้สีเหลือง ส้ม แดง และเขียวเข้ม ตับ เนย ไข่แดง นมสด และหอยนางรม ร่างกายคุณต้องการวันละ 900 ug หากกินเป็นอาหารเสริมไม่ควรเกิน 3,000 ug

    วิตามินบี 1

              ช่วยในการทำงานของระบบประสาทหัวใจ และกล้ามเนื้อ เพิ่มการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ถ้าขาดจะเหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร ปวดกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว และเหน็บชาตามมือและเท้า

    พบได้ใน : ธัญพืช ข้าวซ้อมมือ ถั่วต่าง ๆ งา และขนมปัง ร่างกายคุณต้องการวันละ 1.2 มิลลิกรัม


    วิตามินบี


    วิตามินบี 2

              ช่วยในการเผาผลาญไขมันและกรดอะมิโนทริปโตฟาน ทั้งยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของสีที่เรตินาของลูกตา ถ้าขาดก็จะทำให้การย่อยอาหารไม่เป็นปกติ และเป็นโรคปากนกกระจอก

    พบได้ใน : ยีสต์ ไข่ นมสด เนย เนื้อสัตว์ และผักใบเขียว ร่างกายคุณต้องการวันละ 1.3 มิลลิกรัม

    วิตามินบี 6

              ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือด สร้างน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร และช่วยในการเผาผลาญโปรตีน รวมทั้งรักษาสภาพผิวหนังให้เป็นปกติ ถ้าขาดจะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดอุดตันและโลหิตจาง

    พบได้ใน : เนื้อสัตว์ ตับ ปลา กล้วย และผักต่าง ๆ ร่างกายคุณต้องการวันละ 1.3 มิลลิกรัม หากกินเป็นอาหารเสริมไม่ควรเกิน 100 มิลลิกรัม

    วิตามินบี 12

              ช่วยให้ร่างกายนำไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ไปใช้ได้อย่างสมบูรณ์ สร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยในการทำงานของระบบประสาท

    พบได้ใน : ตับ (มีวิตามินบี 12 มากที่สุด) นม ไข่ และเนย ร่างกายคุณต้องการวันละ 2.4 ug


    วิตามินซี

    วิตามินซี

              ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก การสร้างผิวหนัง กระดูก ฟัน และคอลลาเจน หากขาดจะติดเชื้อได้ง่ายและเป็นโรคเลือดออกตามไรฟัน

    พบได้ใน : ผลไม้และผักสด โดยเฉพาะมะเขือเทศ ฝรั่ง และส้ม

    วิตามินดี

              ช่วยดูดซึมและควบคุมปริมาณแคลเซียมในร่างกาย เสริมสร้างกระดูกและฟัน ถ้าขาดอาจปวดข้อและกระดูก ปวดเมื่อย และเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน

    พบได้ใน : ไข่ ปลา น้ำมันตับปลา นม และเนย (อาบแดดตอนเช้า ๆ สักนิดก็ได้วิตามินเหมือนกันนะ) ร่างกายคุณต้องการวันละ 15 ug หากกินเป็นอาหารเสริมไม่ควรเกิน 100 ug

    วิตามินอี

              ช่วยในการทำงานของระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และกล้ามเนื้อ และป้องกันการแตกสลายของเยื่อหุ้มเซลล์

    พบได้ใน : น้ำมันพืช เมล็ดทานตะวัน ถั่วต่าง ๆ ผักสีเขียวปนเหลือง และมันเทศ ร่างกายคุณต้องการวันละ 15 มิลลิกรัม หากกินเป็นอาหารเสริมไม่ควรเกิน 1,000 มิลลิกรัม

    วิตามินเค

              ช่วยในการแข็งตัวของเลือดและยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูก ถ้าขาดจะทำให้เลือดไหลไม่หยุดและส่งผลต่อระบบการดูดซึมในร่างกาย

    พบได้ใน : บรอกโคลี ผักกะหล่ำ ไข่แดง น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันตับปลา ร่างกายคุณต้องการวันละ 120 ug


    แคลเซียม

    แคลเซียม

              ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ห่างไกลโรคกระดูกพรุน ควบคุมน้ำหนักตัว และความดันโลหิต

    พบได้ใน : นม เนย โยเกิร์ต ผักใบเขียว และปลาตัวเล็ก ๆ ที่กินได้ทั้งก้าง ร่างกายคุณต้องการวันละ 1,000 มิลลิกรัม หากกินเป็นอาหารเสริมไม่ควรเกิน 2,500 มิลลิกรัม

    โอเมาก้า-3

              มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาท ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล

    พบได้ใน : ปลาทะเลน้ำลึกและปลาน้ำจืดบางชนิด


    อาหารเสริม

    แนะวิธีกินวิตามินเพื่อสุขภาพ

              อยากแข็งแรงต้องกินวิตามินจริงเท็จแค่ไหน มาคุยกับคุณหมอผิว พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล แพทย์ผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

              การกินวิตามินเพิ่มจะไม่จำเป็นเลยหากคุณยังอายุน้อย ๆ แค่การกินผักผลไม้หลากสีอย่างน้อย 5 กำมือต่อวัน นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ก็พอ แต่ถ้าคุณไม่ผ่านคุณสมบัติข้างต้น การกินวิตามินเสริมก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

    สาว ๆ แต่ละวัยควรกินอะไรบ้าง

    20+ : สาว ๆ วัยเลขสองร่างกายยังแข็งแรงไม่จำเป็นต้องกินอะไร แต่ถ้าอยากกินจริง ๆ วิตามินรวมสักวันละเม็ดก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย (แต่เป็นเรื่องเสียตังค์)

    30+ : พอขึ้นเลขสาม วิตามินรวมหนึ่งเม็ดต่อวันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรขาด แต่ถ้าดื่มสุราหรือทำงานหนักก็ควรเพิ่มวิตามินบีรวมกับพวกสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีและคิวเทนที่จะช่วยให้การดูดวิตามินซีดีขึ้น

    40+ : สาวเลขสี่จะเริ่มมีเรื่องโรคประจำตัวต่าง ๆ เข้ามา ก็ควรเน้นพวกอาหารเสริมที่จะเข้าไปช่วยเรื่องโรคนั้น ๆ เช่น หากมีปัญหาเรื่องคอเลสเตอรอลก็อาจจะกินน้ำมันปลาซึ่งมีโอเมก้า-3 ซึ่งช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลได้

    50+ : ช่วงนี้เป็นใกล้วัยหมดประจำเดือนควรระวังเรื่องกระดูก ให้เสริมพวกแคลเซียมและวิตามินดีมาก ๆ เชื่อไหมว่าสาวไทยกว่า 1 ใน 3 กำลังขาดวิตามินดีและเสี่ยงกระดูกพรุนนะคะ


    อาหารเสริม

    จะเลือกซื้อวิตามินอย่างไรดีคะ

    1. อ่านฉลากให้ละเอียด เลือกที่มีตรา อย. รับรอง ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกาก็ต้องมีตรา FDA หรือ USP

    2. วิตามินที่สกัดจากธรรมชาติจะดีและปลอดภัยกว่าพวกวิตามินสังเคราะห์และฉลากก็ควรอธิบายด้วยว่าที่บอกว่ามาจากธรรมชาติน่ะ สกัดมาจากอะไร

    3. ที่ฉลากข้างขวดจะมีตารางโภชนาการระบุว่า RDA หรือปริมาณที่แนะนำต่อวันอยู่ที่เท่าไร และความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์นี้คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของ RDA ให้เลือกแบบที่ไม่เกิน 100% ก็พอค่ะ

    4. เลือกกินแค่ที่เราต้องการเท่านั้นก็พอ พวกวิตามินที่ละลายในน้ำยังไม่เท่าไร แต่วิตามินที่ละลายในไขมันจะสะสมในร่างกายและอาจจะกลายเป็นพิษ ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้

    5. คนที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อวิตามินมากินเอง เพราะวิตามินบางตัวอาจจะไม่ถูกกับโรคของคุณก็ได้

    ต้องกิน 3 หยุด 1 เหรอคะ?

              เป็นแค่ความเชื่อแต่ไม่ใช่ความจริง น่าจะเกิดจากความกลัวว่าจะเกิดการสะสมของวิตามิน ประมาณว่ากล้า ๆ (อยากกิน) แต่ก็กลัว ๆ (ว่าจะมีอันตราย) แนะนำว่าสำหรับวิตามินที่ละลายในไขมันคือเอ ดี อี และเค ควรเลือกรับประทานปริมาณต่ำ ๆ หรือเจาะเลือดดูก่อนว่าจำเป็นต้องรับประทานหรือไม่ หรือง่ายที่สุดคือไม่ต้องรับประทาน เพราะมีโอกาสสะสมได้

    กินวิตามินให้สวยช่วยได้จริงไหม

              เรากินวิตามินและอาหารเสริมเพื่อความงามได้จริงหรือเปล่า เรามาไขข้อสงสัยกับคุณหมอก้อย พ.ญ.รุจิรัตน์ วงศ์ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ Genesis Skin Klinik ค่ะ

              ถ้าการกินแล้วสวยหมายถึงกินแล้วผิวกระจ่างใสขึ้นนั้น ก็คงจะเน้นไปที่การกินพวกแอนตี้ออกซิแดนท์ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้หน้าไม่หมอง ริ้วรอยลดลง ลดผลกระทบจากแสงแดด แล้วก็ทำให้หน้าดูเฟิร์มขึ้นเล็กน้อยด้วย ซึ่งกลุ่มนี้ก็จะประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินอี คิวเทน และโอเมก้า-3

    Basic Set เพื่อผิวใส

              เซตพื้นฐานที่สาว ๆ สามารถซื้อกินเองได้ทั่วไปและไม่อันตรายประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินอี และคิวเทน โดยให้กินวิตามินซีวันละ 500-1,000 มิลลิกรัม วิตามินอี 100-300 หน่วย และคิวเทน 30-100 มิลลิกรัม ที่จำเป็นต้องมีคิวเทนด้วยก็เพราะเจ้าตัวนี้จะทำให้วิตามินซีและอีทำงานได้ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น กินต่อเนื่องสักหนึ่งเดือนก็จะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงค่ะ

              อ้อ ! การเลือกวิตามินควรดูแบบที่เป็น Time Release คือจะค่อย ๆ ปล่อยวิตามินเข้าสู่ร่างกายทีละน้อย ระดับวิตามินในร่างกายจะได้คงที่และแสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่กว่า โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายในน้ำได้อย่างวิตามินซีต้องเลือกให้ดี ไม่อย่างนั้นกินเข้าไปเดี๋ยวเดียวก็ขับออกมาทางปัสสาวะหมด (สาว ๆ ก็จะได้ปัสสาวะราคาแพงมาแทน)

    กินกลูต้าฯ-คอลลาเจนไม่ช่วยให้ขาวเด้ง

              กลูต้าไธโอนเป็นสารที่ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น แต่สารตัวนี้แทบจะไม่ดูดซึมในกระบวนการย่อยอาหารเลย ดังนั้นต่อให้กินเข้าไปมากมายขนาดไหน ผิวก็จะไม่เปลี่ยนสีจากการกินกลูต้าฯ หรอกค่ะ เสียเงินเปล่า ๆ

              ส่วนคอลลาเจนก็ยิ่งไม่เกี่ยวข้องเลย ไม่ว่าจะกินแบบผสมในเครื่องดื่มหรือแบบอัดเม็ด บางคนกินแล้วรู้สึกดีอาจจะเป็นเพราะน้ำตาลหรือสารตัวอื่นที่เขาใส่เข้าไปโดยไม่ได้โฆษณา หรือไม่ก็เป็น Placebo Effect (อารมณ์เหมือนจิตนำกาย พอเราเชื่อว่ากินแล้วดีร่างกายเราก็ดีไปด้วย) ร่างกายของเราจะสร้างคอลลาเจนได้เอง ซึ่งการกระตุ้นให้สร้างเพิ่มขึ้นได้มีแต่ต้องใช้เลเซอร์เท่านั้น


    วิตามินมากมายจำไม่ไหว มัลติวิตามินก็เป็นตัวเลือกที่ดี

              วิตามินรวมหรือมัลติวิตามินจะมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ ที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันในปริมาณที่พอเหมาะอยู่แล้ว ทำให้สาว ๆ สามารถกินได้โดยไม่ต้องมานั่งคำนวณว่าตัวเองขาดแร่ธาตุอะไรเท่าไร ส่วนมากจะมีส่วนประกอบหลักคือแคลเซียมและธาตุเหล็ก

              แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วิตามินรวมของแต่ละยี่ห้อก็แตกต่างกันไป ต้องอ่านข้างกล่องให้ดีก่อนตัดสินใจนะคะ อ้อ ! ถ้ากลัวว่าวิตามินรวมจะมีวิตามินหลากชนิดเกินจำเป็น วิตามินบีรวมหรือบีคอมเพล็กซ์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะส่วนมากวิตามินที่เรากินได้ไม่ครบก็คือวิตามินบีนี่แหละ



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก



Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2557 17:42:51 น. 2 comments
Counter : 1130 Pageviews.

 
กินวิตามินก็ดีเป็นอาหารเสริม


โดย: กิตติยาภรณ์ อาจเทพ IP: 182.52.32.92 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:14:32:54 น.  

 


โดย: jureeporn วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:17:44:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.