มุมของฝ่ายความมั่นคง หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงประเมินว่า สถานการณ์การเมืองหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะ แต่ไม่ได้ชี้ทางออกใดๆ หรือระบุว่าเป็นความผิดของฝ่ายใดนั้น เสมือนหนึ่งเป็นก้าวแรกของการมุ่งสู่ความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงรอบใหม่จากความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายมากกว่าเดิม

                         คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทำให้ประเด็นที่ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลนำไปปลุกระดมมวลชนเอาไว้ว่ารัฐบาลกำลังถูก "รุมกินโต๊ะ" จากองค์กรอิสระ กลายเป็นความจริงขึ้นมาในความรู้สึกของมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการจัดทำ "ผังล้มประชาธิปไตย" เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียในวงกว้างด้วย 

                         เมื่อกางปฏิทินเวลา หลังจากนี้หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ฐานเพิกเฉยละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว จนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อรอกระบวนการถอดถอน การเมืองจะก้าวไปสู่จุดแตกหัก! 

                         หน่วยข่าวความมั่นคงประเมินว่า สถานการณ์การเมืองจะรุนแรงขึ้นทั้งใต้ดินและบนดิน กล่าวคือ 

                         - พบความเคลื่อนไหวสั่งการไปยังผู้ควบคุมกองกำลังติดอาวุธให้เพิ่มความถี่ในการก่อกวน ตั้งแต่ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราวคำสั่งเนรเทศ นายสาธิต เซกัล นายกสมาคมนักธุรกิจอินเดีย-ไทย พร้อมเจาะจงเป้าหมายไปยังกลุ่มกรรมการองค์กรอิสระและกลุ่มตุลาการมากขึ้นหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

                         - ในแง่จิตวิทยา มีการกระจายข้อมูลชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของกรรมการองค์กรอิสระที่ลงมติหรือวินิจฉัยประเด็นที่เป็นโทษต่อรัฐบาล 

                         - จับกุมแกนนำและกลุ่มติดอาวุธ รวมทั้งการ์ดของ กปปส.และเครือข่ายต่อต้านรัฐบาล พร้อมปฏิบัติการข่าวสาร (ไอโอ) เพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือว่าการชุมนุมของ กปปส.ไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ (ตัวอย่างกรณีมือปืนป๊อปคอร์น) 

                         - พบความเคลื่อนไหวของการ์ดและกองกำลังติดอาวุธบางส่วนพยายามสร้างสถานการณ์หรือก่อกวนเพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และหาจุดเปลี่ยนเพื่อยกระดับสถานการณ์

                         - เปิดรับสมัครการ์ดอาสาเพิ่มเติม 

                         - แกนนำ นปช.เตรียมจัดชุมนุมปกป้องรัฐบาลในกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน อาจมีการชุมนุมหยั่งเชิงในเร็วๆ นี้ก่อน ป.ป.ช.มีมติชี้มูลนายกฯ ในคดีละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว

                         - ฝ่าย กปปส.จะตรึงกำลังชุมนุม และนัดระดมพลใหญ่อีกครั้งในเร็ววันนี้ เพื่อแสดงศักยภาพและสร้างหลักประกันให้องค์กรอิสระปฏิบัติหน้าที่ไปตามกฎหมาย ไม่ต้องหวั่นแรงกดดันจากฝ่ายอื่น

                         - กองทัพจะไม่ทำรัฐประหาร และไม่ลดจำนวนบังเกอร์กับกำลังทหารที่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยจุดล่อแหลม 176 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยจะแสดงบทบาทค้ำประกันให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไปตามกฎหมาย รวมทั้งคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัย ด้วยการจัดชุดรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ให้แก่ศาลและองค์กรอิสระเป็นการเฉพาะ

                         ทั้งนี้ การใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคง) ต้องถือว่ากองทัพบกมีความเชี่ยวชาญมากเป็นพิเศษ เนื่องจากกฎหมายออกแบบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นหน่วยงานหลักที่มีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง และกองทัพบกก็เป็นหน่วยหลักใน กอ.รมน.

                         หน่วยข่าวความมั่นคงประเมินจากท่าทีของคู่ขัดแย้ง พบว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณการเจรจาที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จ และการเจรจาที่ผ่านๆ มาคู่ขัดแย้งหลักไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขของอีกฝ่ายหนึ่งได้ 

                         จึงต้องจับตา เดือนเมษายน-พฤษภาคม จะเป็นเดือนที่สถานการณ์ตึงเครียดสูงสุด !