หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รุกไล่บี้โครงการจัดซื้อ จัดจ้างและโครงการลงทุนของหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจทั้งหลายโดยตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ล้วงลูกเข้าตรวจสอบโครงการเมกะโปรเจกท์ที่มักมีรายการ ซุกใต้พรม ของรัฐวิสาหกิจต่างๆ
ล่าสุด คตร.ได้ประกาศระงับโครงการจัดซื้อจัดจ้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ไปหลายโครงการทั้งซ่อมบำรุงรถจักรเก่า 56 คันวงเงินกว่า 3,300 ล้านบาท ซึ่ง คตร.เห็นว่าไม่คุ้มที่จะซ่อมหัวรถจักรบุโรทั่งเหล่านี้ สู้ให้การรถไฟไปจัดทำโครงการจัดซื้อมาใหม่จะดีกว่า พร้อมสั่งให้รถไฟกลับไปทบทวนโครงการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ 50 คันวงเงิน 6,000 ล้านบาท และโบกี้โดยสารเชิงพาณิชย์ 115 คัน วงเงิน 5,000 ล้านบาท ที่นัยว่าแต่ละโครงการที่เสนอมานั้นส่งกลิ่นโชยมาแต่ไกล
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับขบวนม้าเหล็กรถไฟยามนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบไปถึงเก้าอี้ของ ประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟนับวันยิ่งสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อยๆ
โครงการจัดซื้อโบกี้โดยสาร 115 คันวงเงินเกือบ 5,000 ล้านบาทที่คาราคาซังมานาน เมื่อย้อนกลับไปดูจากการประมูลที่นัยว่าการรถไฟ ลงทุนนำเอาระบบอีออกชั่นเข้ามาใช้ แต่ผลประมูลที่ได้และบริษัทที่ชนะการประมูลก็ดูแปลกๆ เพราะบริษัทที่ชนะประมูลไปนั้นเห็นว่ายังอยู่ในระหว่างเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้เสียด้วยซ้ำ แถมยังมีข่าวว่ามีการออกใบสั่งซื้อกันแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญา ส่วนเบื้องลึกเบื้องหลังจะเป็นอย่างไรคงเป็นหน้าที่ของ คสช.ที่จะไปล้วงมาดูแล้วล่ะ
นอกจาก 2 โครงการข้างต้นแล้ว ยังมีโครงการจัดซื้อจัดจ้างในการรถไฟที่รอให้ คตร.เข้ามาตรวจสอบ อย่างโครงการ โอเวอร์ฮอลล์ ซ่อมบำรุงใหญ่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ 9 ขบวนวงเงินกว่า 630 ล้านบาทที่พูดกันให้แซดว่าดันกันจริง บางกระแสข่าวถึงขั้นระบุว่ากะจะดันให้จัดซื้อจัดจ้างกันด้วยวิธีพิเศษ อ้างเหตุผลว่าเวลาเหลือน้อย หากประมูลจัดหาด้วยวิธีการปกติจะไม่สามารถดำเนินการซ่อมใหญ่ได้ตามกำหนดเวลา ซึ่งจะกระทบต่อคุณภาพบริการ
แต่เมื่อเจาะลงไปดูไส้ในโครงการนี้ ก็ดูจะเป็นอีกโครงการที่ส่อมีปัญหา เพราะมีความพยายามจะผลักดันให้ดำเนินการจ้างเหมาด้วยวิธีพิเศษ ที่ผ่านมาก็ไม่รู้มัวไปทำอะไรกันอยู่ถึงได้ทอดเวลาให้มาจวนตัวขนาดนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้สุดท้ายจะไปตกที่ใครได้นอกจากคนคุ้นเคย
ส่วนโครงการจัดซื้อรถไฟฟ้าใหม่ 7 ขบวน 28 คัน วงเงินกว่า 4,850 ล้านบาทนั้นก็มีความพยายามที่จะ รีพีท ออเดอร์ จัดซื้อจากผู้ผลิตรายเดิมโดยไม่ต้องเปิดประมูลใหม่ด้วยอ้างว่าผู้ผลิตจัดหาต่างรู้ข้อบกพร่องของระบบเดิมที่จัดส่งให้การรถไฟอยู่แล้ว สามารถจะแก้ไขให้ตรงกับความต้องการของการรถไฟและแอร์พอร์ตลิงค์ได้ แต่ความพยายามในการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าใหม่ที่ว่าต้องชะงักงันลงไป เพราะเกิดเหตุรัฐประหารยึดอำนาจโดย คสช.เสียก่อนแผนที่วางไว้จึงชะงักงันไปหมด
ก็ไม่รู้ว่าอภิมหาโปรเจกท์โครงการนี้ ทางการรถไฟได้รายงานขึ้นไปยัง คตร.และ คสช.หรือยัง หรือว่าไปทำแฟ้มตกหล่นที่ไหนเพราะไม่เห็นมีในรายงานการตรวจสอบของ คตร.
เห็นโครงการม้าเหล็กที่ว่าแล้ว ก็ให้หนักใจแทนบิ๊กรถไฟ ประภัสร์ จงสงวน จริงๆ