นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 5 เม.ย.นี้ ที่ถนนอักษะ นั้น จะเป็นการแสดงจุดยืนในการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย โดยมั่นใจ ว่าจะมีมวลชนไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน และอาจจะมีการเคลื่อนขบวนบ้างเล็กน้อย แต่จะไม่เคลื่อนไปยังจุดที่จะทำให้เกิดการเผชิญหน้าหรือปะทะกับฝ่ายตรงข้าม เด็ดขาด และได้มีการทำหนังสือถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส) และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสินแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอเจ้าหน้าที่ ดูแลความปลอดภัยให้มวลชน ร่วมกับ การ์ดของ นปช.เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ นายจตุพร ยังยืนยันด้วยว่า นปช. จะไม่มีการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาร่วมชุมนุมอย่างเด็ดขาด และย้ำว่า ครั้งนี้เป้นเพียงการซ้อมเท่านั้น และการชุมนุมครั้งต่อไป จะมีขึ้นในช่วงหลังวันสงกรานต์ ที่คาดว่าองค์กรอิสระ ทั้ง ศาลรัฐธรรมนูญ แล ปปช. จะมีการตัดสินคดี ต่างๆ เพื่อล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง อีกครั้งและเชื่อว่าจะมีมวลชนเกิน 1 ล้านคนแน่นอน

ดีเอสไอเผยชุมนุมใหญ่5เม.ย.ควบคุมได้

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และเลขาธิการ ศอ.รส. เปิดเผยกับว่า จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้นของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย ที่มีการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 5 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ยังไม่สามารถให้ คำตอบได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะต้องมีการจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูและอย่างเคร่งครัด แต่ตนก็ขอความร่วมมือกับทางแกนนำทั้ง 2 ให้ดูแลผู้ชุมนุมของตนเอง อย่ามีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง รวมทั้งการ์ดของแต่ละฝ่าย อย่ามีการติดอาวุธหรือใช้อาวุธเพื่อให้เกิดความรุนแรงเลย ขอความร่วมมือ

ด้านกรณีที่ศาลอาญา มีการเพิกถอนหมายจับ "นายสุเทพ" และพวกแกนนำ กปปส. ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หลังรัฐบาลยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้น นายธาริต กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน มันเป็นตามพระราชกำหนด เมื่อพระราชกำหนดเลิกไปศาลก็ต้องมีการเพิกถอนเป็นธรรดา ซึ่งแกนนำหลายๆ คน ก็ยังมีหมายจับหลักฐานกบฏอยู่เช่นเดิม คดีความผิดนั้น ก็ไม่ได้พ้นไป ซึ่งไม่มีผลกับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นแน่นอน

เบื้องต้น ขอความร่วมมือกับทั้ง 2 ฝ่าย ให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบ ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวได้แน่นอน