เล่ห์ลวงใจ ตอนพิเศษ คั่นเวลา 1
สำหรับคนที่เพิ่งได้อ่านนิยายเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ขออธิบายล่วงหน้าว่าเรื่องนี้จะเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกสองคนซึ่งเป็ชายทั้งคู่ และอาจมีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสำหรับเยาวชน หรือคนที่ไม่นิยมรื่องแนว Boy's Loveดังนั้นหากไมชอบอ่านนิยายแนวที่ไม่มีนางเอก ขอแนะนำว่าให้คลิกไปอ่านหน้า About me , เท้าพาไป หรือ พร่ำ(เพ้อ)รายสะดวก ซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปค่ะ เราเตือนคุณแล้วนะคะ
++------++
เล่ห์ลวงใจ ตอนพิเศษคั่นเวลา 1: เสียงเพรียกของหัวใจในยามค่ำคืน
ธีระรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึก ใช่ว่าอากาศร้อนจนอึดอัดหรือหนาวจนนอนต่อไม่ได้ ความจริงแล้วอุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศออกจะเย็นสบายกำลังดีด้วยซ้ำ แล้วเขาก็ไม่ได้รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ จึงไม่มีเหตุผลเลยว่าทำไมปุบปับถึงได้ตื่นขึ้นมา "อืม..." เสียงครางต่ำในคอดังมาจากคนที่กำลังหลับ สายตาที่เริ่มชินกับความสลัวของธีระมองเห็นกฤตภาสซึ่งกำลังนอนตะแคงหันหลังให้ ลาดไหล่เปลือยเปล่าและแผ่นหลังกว้างปรากฏให้เห็นเป็นเงาตะคุ่มในความมืดสลัว ถ้าหากความสัมพันธ์ของพวกเขาดีกว่านี้ ธีระคงไม่ลังเลที่จะกระถดตัวเข้าไปหาแล้วกอดเอวอีกฝ่ายเพื่อขอแบ่งปันไออุ่น บางทีกฤตภาสอาจบ่นงึมงำบ้างที่ถูกรบกวนการนอน แต่ก็คงยอมให้เขาอิงแอบเพื่อซึมซับอุณหภูมิร่างกายแต่โดยดี และพวกเขาก็คงหลับเคียงข้างกันเช่นนั้นไปจนถึงเช้า น่าเสียดายที่มันคงเป็นภาพซึ่งไม่มีวันจะเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน เด็กหนุ่มค่อยๆ ยันตัวขึ้นนั่งอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เตียงยวบจนเกินไป เขายกมือขึ้นถูต้นแขนทั้งสองข้างก่อนจะลุกเดินออกไปยังห้องครัว แสงจันทร์ซึ่งส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องทำให้สามารถเดินไปหยิบแก้วมาเทน้ำดื่มได้โดยไม่สะดุดอะไร ธีระดื่มน้ำจนหมดแก้วก่อนจะเดินไปที่หน้าต่าง ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามค่ำคืน เสียงของเข็มนาฬิกาในห้องนั่งเล่นดัง ติ๊ก...ติ๊ก...ติ๊ก ลอยมาเข้าหูอย่างชัดเจน เขายื่นมือไปดึงผ้าม่านเหนือกระจกหน้าต่างที่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานออก เผยให้เห็นผืนฟ้าสีน้ำหมึกซึ่งมีดวงจันทร์ลอยเด่นและแต่งแต้มด้วยริ้วเมฆสีเทาประดุจลูกไม้ แสงจันทร์กระจ่างอาบไล้ลงมาบนร่างอันเปลือยเปล่าที่ยืนนิ่ง กระนั้นเขาก็ไม่ได้ใส่ใจว่าจะมีใครมองมาเห็นเพราะบริเวณโดยรอบคอนโดของกฤตภาสไม่มีอาคารที่สูงเท่า และเวลานี้ก็ผ่านเลยเที่ยงคืนมาเกินกว่าจะมีใครยังตื่นนอนกันอยู่อีก เขายืนมองทิวทัศน์ของท้องฟ้ายามราตรีได้ครู่หนึ่งก็เดินกลับเข้าไปในห้อง ถึงแม้จะไม่รู้สึกง่วงสักเท่าไหร่ แต่วันรุ่งขึ้นเขายังต้องรับมือกับอารมณ์ที่แปรปรวนยากจะคาดเดาของกฤตภาส ดังนั้นยิ่งพักผ่อนเพื่อออมแรงให้ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น เด็กหนุ่มก้าวกลับเข้าไปในห้องนอนอย่างเงียบเชียบ เงาของเขาทาบทับลงบนร่างของกฤตภาสที่พลิกตัวกลับมานอนหงายพลางหายใจอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้จะดูขัดกับบุคลิก แต่เวลานอนกฤตภาสมักหลับสนิทยาวจนถึงเช้า ถ้าหากไม่มีเสียงดังมากๆ หรือถูกปลุกจริงๆ ก็จะไม่ค่อยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึก ไม่เหมือนกับเขา... นี่เขาช่างสังเกตผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ตอนไหนกันนะ... 'เนื้อคู่ของน้องจะเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ อายุมากกว่าหลายปีนะจ๊ะ แล้วก็...จะได้เจอกันเพราะเหตุอันไม่คาดฝัน หรือเจอกันในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปกติ' จู่ๆ คำพูดของหมอดูไพ่ทาโรต์ที่เขาเคยไปดูเล่นๆ ตอนที่ยังคบกับณรงค์ก็ดังขึ้นในหัว ตอนนั้นพวกเขายังเพิ่งเริ่มคบกันได้ไม่นาน แต่เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ธีระคบกับใครอย่างจริงจัง แถมอีกฝ่ายยังอายุมากกว่าหลายปี เขาจึงค่อนข้างตื่นเต้นกับประสบการณ์อันแปลกใหม่นี้ไม่น้อย 'อุ๊ย! ก็ตรงอยู่นะคุณเจ๊ ถ้าดูจากที่ที่แกเจอกับพี่เขาครั้งแรกน่ะ ใช่มั้ยตี้?' สุเมธซึ่งไปด้วยกันทำท่าจีบปากจีบคอคุยกับหญิงวัยกลางคนซึ่งตั้งโต๊ะรับดูดวงอยู่ในตลาด ฝ่ายธีระเพียงแต่อมยิ้มโดยไม่ว่าอะไรเพื่อนที่เอ่ยกระเซ้า ความจริงแล้วคืนที่เขาได้เจอกับณรงค์นั้นก็เป็นสุเมธที่ยุให้เขาเดินเข้าไปชวนณรงค์คุยก่อนเสียด้วยซ้ำ หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วแล้วเอียงคอ เธอมองธีระก่อนจะเบนสายตาลงพิจารณาไพ่ที่เรียงรายอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง จากนั้นก็ส่ายหน้า 'คนนี้ยังไม่ใช่ ถ้าตามหน้าไพ่นี่ล่ะก็ คนที่เป็นเนื้อคู่ของน้องยังไม่เคยได้เจอกันเลย' 'อ้าว?' เด็กหนุ่มทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกัน พวกเขาสบตากันก่อนที่ธีระจะเป็นฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ 'แต่เงื่อนไขอย่างอื่นตรงไม่ใช่เหรอครับ ที่พี่บอกว่าจะเป็นคนตัวสูง อายุมากกว่า' 'ใจเย็นๆ พี่ก็พูดตามที่อ่านจากไพ่น่ะจ้ะ บางทีคนที่เป็นเนื้อคู่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องได้อยู่ด้วยกันก็ได้ แต่ที่แน่ๆ คนปัจจุบันของน้องเขามีชะตาผูกพันอยู่กับคนอื่น' ธีระจำไม่ได้ว่าตนทำสีหน้าเช่นไรหลังได้ฟังประโยคสุดท้าย รู้แต่ว่าสุเมธพยายามช่วยเบนความสนใจเขาด้วยการขอให้หมอดูคนนั้นดูดวงของตัวเองต่อ พอทั้งคู่ดูดวงเสร็จและเดินจากมาแล้วถึงค่อยหันมาปลอบเขาว่าหมอดูคู่กับหมอเดา แต่ธีระก็ยังหวั่นไหวเพราะอดคิดไม่ได้ว่า 'คนอื่น' ที่ชะตาของณรงค์ถูกร้อยรัดไว้คู่กันนั้นน่าจะเป็นใคร เวลาล่วงเลยมาหลายเดือนจนถึงบัดนี้ เขาได้ประจักษ์กับตัวเองแล้วว่าสิ่งที่หมอดูคนนั้นเคยพูดเกี่ยวกับณรงค์เป็นความจริง เพียงแต่ในส่วนที่เป็นเนื้อคู่ของเขาเองนั้น...ธีระก็สุดจะรู้ว่าคนในคำทำนายจะปรากฏตัวที่ไหนหรือเมื่อไหร่ และเขาก็ไม่คิดจะหวนกลับไปให้หมอดูคนนั้นทำนายซ้ำให้ต้องกระวนกระวายใจอีก แต่ต่อให้จะพยายามไม่คิดแล้วก็ตาม ธีระก็อดจะนึกถึงคำทำนายเหล่านั้นไม่ได้เมื่อทอดสายตามองไปยังคนที่กำลังหลับไหลอยู่ตรงหน้าในยามนี้ ถ้าเป็นผู้ชายคนนี้ล่ะ...เป็นไปได้หรือเปล่าว่ากฤตภาสคือเนื้อคู่ของเขาที่หมอดูคนนั้นเคยพูดถึง? คนที่ขี้โกงและเอาแต่ใจสารพัด ใช้วิธีสกปรกเพื่อปรนเปรอตัวเองโดยไม่สนใจความรู้สึกของเขาเลยคนนี้น่ะเหรอ? ไหล่ผอมสั่นเมื่อความคิดแล่นมาถึงตรงนี้ เขาเม้มปากแล้วเดินไปเอนหลังลงบนเตียงโดยพยายามไม่คิดอะไรต่อ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้ว ดังนั้นเขาควรจะหยุดคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วก็นอนพักผ่อนเสียที ไปไหนมา? ธีระสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำถามอย่างงัวเงีย เขาเหลือบมองคนที่นอนตะแคงหันมาหาแล้วก็รีบพลิกตัวหนี เวลานี้สิ่งสุดท้ายที่เขาอยากทำก็คือการต่อปากต่อคำกับคนร่วมเตียง "แค่ออกไปกินน้ำครับ ผมจะนอนต่อแล้ว" "หืม...แต่เนื้อตัวเย็นขนาดนี้ ท่าจะไม่ได้แค่ออกไปกินน้ำอย่างเดียวล่ะมั้ง" เด็กหนุ่มสะดุ้งอีกเมื่อจู่ๆ มือใหญ่ก็สอดมารอบเอว จากนั้นก็รั้งร่างเขาเข้าไปหาจนแผ่นหลังชนกับแผงอกกว้าง เขาพยายามทำเสียงฮึดฮัดเพื่อให้คนข้างหลังปล่อย ยิ่งถูกริมฝีปากอุ่นแนบลงมาตรงซอกคอ ธีระก็ยิ่งแสดงการขัดขืนมากขึ้น "ไม่เอาน่า ฉันไม่ได้จะทำอะไรมากกว่านี้สักหน่อย แต่ถ้ายังดิ้นไม่หยุดฉันอาจจะ 'ตื่น' บ้างก็ได้นะ" เสียงกระซิบข้างหูทำให้ธีระหยุดดิ้นทันที หัวใจของเขาเต้นถี่แรงราวกับรัวกลอง เด็กหนุ่มรู้ดีว่ากฤตภาสไม่ใช่คนที่ชอบขู่ใครเล่นๆ และหากตนยังไม่เลิกขัดขืนก็อาจทำให้อีกฝ่ายนึกสนุกจนอยากสานต่อให้ค่ำคืนนี้ยาวนานกว่าที่ควรก็ได้ เขาจึงทำได้เพียงหลับตาและเม้มปากแน่นขณะที่มือใหญ่ลูบไล้ผิวกายไปมา ส่วนริมฝีปากอุ่นก็พรมจูบไปทั่วคอและบ่าราวกับจงใจแกล้ง "คุณกฤต...ขอผมนอนเถอะ ผมเหนื่อย" ธีระต้องพยายามเต็มที่เพื่อบังคับเสียงไม่ให้สั่น เขารับรู้ได้ถึงลมหายใจของกฤตภาสบนต้นคอ เช่นเดียวกับความรู้สึกว่ากำลังถูกนัยน์ตาคมกริบจับจ้องราวจะมองให้ทะลุไปเห็นความคิดในหัวของเขา เวลาคงไหลผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที แต่มันกลับดูเหมือนเนิ่นนานเหลือเกินกว่าธีระจะได้ยินคำตอบที่ทำให้ใจเขาสงบลงได้ "งั้นก็ตามใจ" อ้อมแขนที่โอบกอดเมื่อครู่ผละไป เช่นเดียวกับไออุ่นที่จางหายเมื่อกฤตภาสพลิกตัวกลับไปอีกทาง ธีระค่อยๆ ระบายลมหายใจยาวออกมาด้วยความโล่งอก พลันก็หัวใจกระตุกเมื่อได้ยินเพื่อนร่วมเตียงเอ่ยขึ้นเรียบๆ "ถึงคืนนี้จะเลี่ยงได้ แต่พรุ่งนี้ฉันคงไม่ใจเย็นให้แบบนี้หรอกนะ" พอสิ้นประโยคนั้นกฤตภาสก็ไม่เอ่ยอะไรอีก ไม่นานเด็กหนุ่มก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอซึ่งบ่งบอกว่าอีกฝ่ายหลับแล้ว เขาได้แต่ดึงผ้าห่มขึ้นจนถึงต้นคอแล้วก็หลับตาแน่นเพื่อกันไม่ให้หยาดน้ำตาไหลริน รวมทั้งกัดริมฝีปากเพื่อสะกดเสียงสะอื้นไม่ให้หลุดผ่านลำคอออกมาด้วย 'เนื้อคู่ของน้องจะเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ อายุมากกว่าหลายปีนะจ๊ะ แล้วก็...จะได้เจอกันเพราะเหตุอันไม่คาดฝัน หรือเจอกันในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปกติ'
ไม่มีทางหรอก... ยังไงคำทำนายนั่นก็ไม่มีทางจะหมายถึงกฤตภาสไปได้ เนื้อคู่ที่เขาเฝ้ารอต้องไม่ใช่คนใจดำที่ทำเหมือนชั่วชีวิตนี้ไม่คิดจะเปิดใจทำความรู้จักกับความรักแบบนี้แน่...
++---TBC---++
A/N: ไทม์ไลน์ของตอนนี้จะอยู่ราวๆ ช่วงที่ตากฤตเริ่มบังคับให้น้องตี้นอนด้วยช่วงแรกๆ ค่ะ เนื่องจากหลังเรากลับจากทริปญี่ปุ่นแล้วก็ยังไม่มีเวลาได้เขียนตอนใหม่แบบเต็มๆ เลย แต่เพื่อเอาใจคนอ่านที่ Bellbomb หายไปน้านนาน วันนี้ก็เลยมาลงตอนคั่นเวลาสั้นๆ ของน้องตี้กับตากฤตให้ก่อน อ่านแล้วอาจหวานปนขมนิดหน่อย (มีตรงไหนหวานละเนี่ย?) คงช่วยให้หายคิดถึงน้องตี้กันได้บ้างนะคะ (เพราะคงไม่มีใครคิดถึงตากฤตมั้ง?) แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าที่จะพยายามเข็นมาให้ไวๆ ค่า
Create Date : 07 ธันวาคม 2556 |
Last Update : 7 ธันวาคม 2556 19:19:44 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1437 Pageviews. |
|
|