The Blog To Love @ First Click - - ความเหงาไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่เจ้าของหัวใจที่ทำร้ายตน-- รักแรกคลิก

Pity Bear - ตราหมี เพื่อใครที่คุณลัก

ตอนเด็กๆ พ่อเคยแนะนำ หนังสือ ชีวิตของฉัน ลูกกระทิง เขียนโดยนายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล ให้อ่าน

ความที่เป็นหนังสือเก่า เล่มจึงทั้งหนาและหนัก ฉันนอนอ่านไม่ได้ แถมเรื่องราวข้างในก็ไม่สนุกโสภา มีแต่ชีวิตรันทดของสัตว์ป่าน่าสงสารอย่างลูกกระทิง ฉันจึงไม่ติดอกติดใจอะไรมากนัก


เวลาผ่านไป ฉันหยิบหนังสือหลายเล่มที่เคยชอบอ่าน และไม่ชอบอ่านสมัยเด็กๆมาทบทวนความทรงจำอีกครั้ง

ฉันพบว่าหลายเล่มที่เคยอ่านได้ซ้ำๆ บัดนี้ฉันไม่สนุกตื่นเต้นกับมันอีกแล้ว

ขณะที่หลายเล่ม เช่น ชีวิตของฉัน ลูกกระทิง ฉันกลับค้นพบแง่มุมบางอย่างที่วัยเด็กของฉันกวาดสายตาผ่านความนัยระหว่างบรรทัดไปอย่างไม่สนใจ


ไม่กี่สัปดาห์ก่อน เพื่อนคนหนึ่งของฉันเปรยว่าอยากไปเยี่ยม'เพื่อนๆ'ของเธอแถวบางละมุงสักหน่อย เพื่อนว่าเคยแต่ส่งเงินมาให้แต่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลย
ฉันอยากรู้จัก'เพื่อนๆ'ของเพื่อนบ้าง จึงอาสาเป็นสารถีพาไปให้

ช่วงแรกของการเดินทาง พวกเราลันลากันไปตามเรื่อง ผ่านถนนมอเตอร์เวย์ เส้นบายพาสชลบุรี - ระยอง แล้ววกเข้าเส้นทางที่จะไปอำเภอสัตหีบ พอเห็นป้ายเข้าสู่วัดญาณฯ ก็เลี้ยวขวาเข้าไป



เลี้ยวขวา ไม่เจอซาสี่ แต่เจอป้ายเยอะแยะ



จากนั้นเลี้ยวซ้ายตามลูกศร จุดหมายคือป้ายล่าง



ถึงแล้วบ้านพักของ'เพื่อนๆ' ประตูทางเข้าของแท้ต้องมีพี่หมีควายสวมเสื้อสีดำ คอวี



เพื่อนบอกว่า ที่แห่งนี้เป็นสถานที่เพาะพันธุ์และฟื้นฟูสัตว์ป่า เหตุที่ต้องนำพี่หมี และน้องหมีเหล่านี้มาดูแล เพราะในป่า มีคนล่าหมีเพื่อเอาอุ้งตีนหมีไปขายมากมาย




ฉันได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่สองคำ
Sun bear แปลว่า หมีหมา ไม่ใช หมีพระอาทิตย์Black bear แปลว่า หมีควาย ไม่ใช่ Buffalo Bear อย่างที่ฉันเคยเดา (ถ้าไม่มีภาษาไทยกำกับ ฉันคงแปลตามพจนานุกรมรักแรกคลิกว่า ...หมีเฉาก๊วย ...ไปแล้ว)


จากที่เคยลันลา สดชื่นรื่นเริงเหมือนแมวเมาวิสกัสกันมาตลอดทาง พอเข้าสู่สถานดูแลบรรดาหมีที่สภาพคล้ายคุกขังเดี่ยว ผสมห้องซาวน่ากลางแจ้ง
ฉันและเพื่อนกลับกลายเป็นแมวโดนยาเบื่อไปในทันที

ระหว่างที่ฉันและเพื่อนเดินสวนสนามชมแสนยานุภาพของบรรดาหมี และภูมิทัศน์อันอบอุ่น ( เกินเหตุ) ของที่แห่งนี้ ฉันก็นึกถึงเพลงประกอบละครยอดฮิตเมื่อหลายสิบปีก่อนขึ้นมา

ใครยังพอจำละคร ตุ๊กตา และเพลงประกอบสุดหลอน ที่ขึ้นต้นว่าหนูอยากกลับบ้าน นนนนน ได้

เราไปร้องเพลงนี้ด้วยกันเลยค่ะ ฉันทำเนื้อเพลง คาราโอเกะไว้ให้แล้ว...










ฉันจำได้ว่า ตอนเด็กๆเคยอยากได้ตุ๊กตาหมีเอามากๆ อ้อนพ่อจนแล้วจนรอด พ่อก็ซื้อให้แต่หนังสือ

B สำหรับพ่อคงเป็น B is for Book ไม่ใข่ B is for Teddy Bear ในความฝันของลูกสาวละมัง

วันวาน ฉันเคยอยากได้ Teddy Bear ไว้กอดเล่น
แต่วันที่ฉันได้มาเห็น Pity Bear ในวันนี้ ฉันอยากได้ป่ากว้างๆสักผืน กับความปลอดภัยบรรจุกระป๋อง และกุญแจไขกรงให้พวกเขาออกไปแทะเล็มอิสรภาพในป่าผืนนั้น



สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมของชีวิตหมีๆ เช็คที่ //www.dnp.go.th
หรือบริจาคเงินเพื่ออุปถัมภ์พวกเขาได้ที่

ชื่อบัญชี โครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ธ. ไทยพาณิชย์ จำกัด มหาชน สาขาบางบัว
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 053 424 505 9

หนึ่งอุ้งตีนหมี
เชื่อว่าช่วยเพิ่มพูน หมื่นแสนกำหนัด

หมื่นแสนกำหนัด
แลกไปเพื่อบรรลุความสุขชั่วขณะเดียว

สุขชั่วขณะเดียว
แลกด้วย หมื่นแสนหยดน้ำตา

หมื่นแสนหยดน้ำตา
แลกมาเพื่ออะไร






 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 31 พฤษภาคม 2553 16:30:06 น.
Counter : 2260 Pageviews.  

สัพเพเห'ร้อน'

ฤดูร้อนปีนี้ เกิดประวัติศาสตร์มากมายทั้งในทุกมุมโลก และในเสี้ยวชีวิตอันไม่สลักสำคัญของฉัน

ตั้งแต่เริ่มร้อนแล้ง จนกำลังล่วงถึงธรณีประตูของฤดูฝน อะไรต่อมิอะไรพัดมา หายไป และเกิดขึ้นใหม่ วนเวียนเหมือนลมร้อนและอองฝนที่พัดปะทะใจทุกๆวัน

เมื่อคืน ในความมืด ...ฉันทบทวนความทรงจำต่างๆตลอดฤดูร้อนปีนี้ และนำมาคัดแยก หมายเลือกเก็บเฉพาะที่ดีๆเอาไว้เป็นทุนรอนกำลังใจในฤดูกาลต่อไป



ห้างขายยาอังกฤษตรางูคงภูมิใจถ้ารู้ว่าฉันเป็นBrand ambassador ให้สินค้าเขาโดยไม่รับค่าจ้างมานานแล้ว และคงอมยิ้มถ้ารู้ว่า ฉันยกให้แป้งตรางูเป็นพระเอกประจำฤดูร้อนปีนี้ของฉัน


- 1 - น้องแป้ง

ฉันเป็นสาวกอันดับหนึ่งของแป้งเย็นตรางู รู้จักครั้งแรกตอนแม่เอามาโปะผิวแก้ผดให้เด็กขี้ร้อนอย่างฉัน สัมผัสผิวคล้ายเอาเข็มเล่มเล็กมาแทงให้จั๊กจี้เล่นสมชื่อจริงๆ ( prickly heat )

แล้วเลยติดใจถวายตัวเป็นสาวกมาแต่นั้น

ฤดูร้อนปี 2553 นี้ ร้อนแล้งและอบอ้าวสุดประมาณ แม้แต่พ่อยังออกปากว่า ตั้งแต่เกิดมาจนอายุปูนนี้ไม่เคยเจอฤดูร้อนสาหัสเท่าปีนี้เลย

ฉันเองยังนึกอยกาทดลองเลยว่า ถ้าซื้อองุ่นมาวางทิ้งไว้บนโต๊ะ สักพักพอจะหยิบเข้าปาก องุ่นจะกลายเป็นลูกเกดเลยหรือเปล่า

ฉันนึกถึงตัวเองแปลงกายเป็นเสือลาดพาดกลอนทุกครั้งหลังอาบน้ำ ออกลายมาเลย ออกลายให้เห็น ด้วยคาถาเป่าเสกของแป้งตรางู



บางวัน ก็เลยเถิดจนกลายเป็นแป้งปาท่องโก๋ ที่ต้องเอาผงแป้งโรยให้ทั่วก่อนลงกระทะ

- 2- ทูตมิตรภาพ



ทุกหน้าร้อน ฉันมีนัดกับแผงขายมังคุด เพราะมีเหตุจำเป็นต้องไปจับจ่ายงบประมาณบริโภคมังคุดประจำปี ทำให้ได้รู้จักกับคุณป้าแม่ค้าเสียงเหน่อแบบชาวระยองแท้คนหนึ่ง

เราคุยกันถูกอัธยาศัย ฉันเลยกลับมาซื้อมังคุดกับป้าเรื่อยๆ ครั้งหลังสุด ฉันเอาแป้งตรางูไปฝากแกกระป๋องหนึ่ง แกจะได้สบายตัวเวลาขายผลไม้ในอากาศอบอ้าว ตัวเหนอะหนะ


รอยยิ้มกว้างของป้าตอนรับแป้งตรางูแทนมิตรจิตมิตรใจ เห็นแล้วชื่นใจกว่าตอนโปะแป้งโรยลงบนตัวเสียอีก


- 3 - เชิงเทียน

เมื่อคืนฝนตกหนัก พร้อมกับไฟฟ้าดับกว่าสามชั่วโมง เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฉันพักที่นี่ที่ต้องผจญความมืดตอนกลางคืน

ฉันคลำทางหาเทียน และไม้ขีดไฟมาจุดสร้างบรรยากาศ พอได้อุปกรณ์ครบก็คว้าถ้วยตื้นๆ ใบเล็กใกล้มือมาเป็นเชิงเทียนแก้ขัด

มันคงโรแมนติกไม่น้อย ถ้าอากาศรอบตัวจะอบอ้าวน้อยกว่านี้

วิญญาณมารร้ายเริ่มออกฤทธิ์เมื่อฉันนั่งนิ่งก็แล้ว รำพัดก็แล้ว ( รำพัดที่ว่า คือการใช้นิตยสารเล่มหนาพัดลมเข้าตัวให้เย็น ต่างพัดลม) ยังไม่หายร้อน

ฉันเลยเดินเข้าห้องน้ำ หวังเอาน้ำชโลมตัวคลายร้อน

ไฟดับ ปั๊มไม่ทำงาน ... น้ำจึงไม่ไหล

ฉันนับหนึ่ง สอง สาม สงบอารมณ์ร้อน และเอาน้ำในถังที่มีอยู่หน่อยเดียวมาชโลมกายพอหายร้อนรุ่ม

เดินออกมา เช็ดตัว มองหาแป้งตรางูคู่กายในความสลัว โปะกายพอเย็นใจ แล้วก็จะปิดฝา


อ้าว ฝากระป๋องแป้งหายไปไหน หาไม่เจอ

จากรำพัด เริ่มอยากฟ้อนเล็บด้วยการกรีดผนังห้องและบีบน้ำตาพอเป็นพิธี

รู้สึกไม่สบายใจอย่างประหลาดถ้าไม่สามารถปิดฝากระป๋องแป้งได้ สุดท้ายฉันตัดสินใจเดินไปเอาเทียนมาช่วยหาด้วย

ถึงได้เจอว่า อ้าว เราเอาฝากระป๋องแป้งตรางูมาทำเป็นที่รองเทียนนี่เอง ....



ไฟฟ้ามาแล้ว ทุกอย่างรอบตัวสว่างไสวขึ้นทันตา
ฉันหันไปมองเทียนบนเชิงเทียนฝากระป๋องแป้ง ฝีมือตัวเองแล้วหัวเราะ

ฉันเดินไปปิดสวิตช์ไฟที่เปิดค้างไว้
และคงปล่อยให้เทียนวอมแวมอยู่อย่างนั้น

บางที ไฟฟ้าดับก็ดีเหมือนกัน
เพราะบางครั้ง
ความมืดก็ช่วยเว้นช่องไฟให้ความคิดได้ทำงาน
และได้พูดคุยกับตัวเองเงียบๆ





 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2553 16:37:59 น.
Counter : 4327 Pageviews.  

ขื่นโขง ของ น้องเปิ่นอมตะ

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันอ่านนิตยสารที่เก็บค้างไว้อย่างหิวกระหาย ด้วยเกรงว่าถ้าเก็บไว้นานกว่านี้ ตัวหนังสือในนิตยสารจะเริ่มมีรสเปรี้ยวอมหวานคล้ายมะม่วงแช่อิ่ม

สองในสี่เล่มเป็นนิตยสาร ฅ ฅน ฉบับหน้าปก รจนา เพชรกัณหา และ นิตยสารสารคดี หน้าปก ยายใฮ ชาวนานักต่อสู้ผู้เรียนความจริง

น่าแปลกใจระคนน่าสนใจที่ทั้งสองเล่มมีคอลัมน์วิกฤตแม่น้ำโขงเหมือนกัน

ดูเหมือนปัญหาแม่น้ำโขงตื้นเขินจะไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่เป็นประเด็นระดับภูมิภาคที่ทุกชีวิตที่เกี่ยวพันกับแม่น้ำต้องหันมาใส่ใจ


ตอนเด็กๆ ดญ.เปิ่นอมตะอย่างฉันคิดซื่อๆว่าเหล้าแม่โขง มีที่มาจากแม่น้ำโขง เขาคงจะเอาน้ำจากแม่น้ำโขงมาทำสุราละมังเนอะ...




โฆษณาแม่โขงฉบับคลาสสิก
ที่ดญ.เปิ่นอมตะเห็นครั้งแรกก็ ...ชอบแรกพบ


ขณะที่อีกครั้งหนึ่ง ระหว่างการเดินทางสัญจรประสาครอบครัวที่นครพนม พ่อเคยชวนลูกสาวตัวเล็กๆอย่างฉันเดินลงท่าน้ำ และวักน้ำขึ้นมาให้ดู พลางชวนให้ฉันถามน้ำในฝ่ามือพ่อว่า
แม่น้ำจ๋า เมืองจีนสวยไหม ...

ในวัยนั้น ฉันยังไม่รู้ที่มาที่ไปทางภูมิศาสตร์ของแม่น้ำโขง ไม่รู้ต้นสายปลายน้ำของแม่น้ำสายนี้ ฉันจึงยังไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงการกระทำของพ่อ จึงได้แต่เอาคิ้วผูกเงื่อนพิรอดและคิดในใจว่าพ่อพูดอะไรตลกจัง


อีกนานพอดู กว่าฉันจะเข้าใจว่าสุรากลั่นยอดฮิตที่ว่าไม่มีวัตถุดิบสักหยดจากแม่น้ำโขง

และลำน้ำที่ฉันเคยทอดสายตามุ่งมองอยู่ข้างๆพ่อแห่งนี้ มีต้นกำเนิดจากที่ไกลถึงเทือกเขาหิมาลัย



ฉันศึกษาแผนที่เขื่อนต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นทางต้นน้ำในประเทศจีน จากคอลัมน์พิเศษในสารคดีก็ได้แต่ร้าวใจ ที่ต้นน้ำมีการสร้างเขื่อนใหญ่ๆหลายเขื่อนกั้นทางน้ำไว้


กว่าน้ำจะเดินทางมาถึงปลายน้ำยังประเทศอื่นๆรวมถึงไทย คงต้องผ่านประตูเงิน ประตูทองของเขื่อนเหล่านี้ให้วุ่นวาย




รากต้นไม้ ริมฝั่งโขง ที่ฉันเก็บได้จากทริปหลวงพระบางเมื่อหลายปีก่อน
เผยให้เห็นว่าแม่น้ำโขงมีรากฐานยึดเหนี่ยวผู้คนมายาวนานเพียงใด



ฉันกังวลเหลือเกินว่าในวันข้างหน้า
เมื่อฉันแวะไปเยือนแม่น้ำโขงอีกครั้ง
ฉันจะมีโอกาสเดินลงไปเอามือวักน้ำ
และพูดคุยกับแม่น้ำเหมือนอย่างที่พ่อเคยสอนให้ฉันทำตอนเด็กๆอีกไหม




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2553 17:01:59 น.
Counter : 3555 Pageviews.  

'รามา' ในดวงใจ


สมัยก่อน ในตัวเมืองชลบุรีจะมีโรงหนังเด่นๆไม่กี่โรง ส่วนมากมักลงท้ายด้วยคำว่า รามา เช่น เพชรรามา เมืองชลรามา ตะวันออกรามา

ทำให้ฉันในวัยเด็กนึกทึกทักเอาเองว่า อะไรที่ลงท้ายว่า รามา รามา ต้องเป็นโรงหนังแน่ๆ

ครั้งหนึ่ง พ่อบอกว่า จะไปเยี่ยมญาติที่ รามา ( หมายถึง โรงพยาบาลรามาฯ กทม.)

ดญ. รักแรกคลิกที่คิดอะไรไร้สาระได้เป็นตุเป็นตะเสมอ เข้าใจผิดคิดว่าพ่อจะไปดูหนังกับญาติ เลยดีดดิ้นอยากเป็นตูบตามเกวียน* ขอติดสอยห้อยตามไปด้วยตามระเบียบ

( *สำนวน ตูบตามเกวียน นี้เป็นของพ่อ แผลงมาจากสำนวนเดิมว่า หมาตามเกวียน ใช้แซวฉันเวลาขอตามไปโน่นไปนี่ด้วย ซึ่งตูบตัวนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากเป็นตัวเกะกะ)

ฉันมั่นใจว่านิสัยชอบดูหนังของพี่ๆและฉัน คงถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อโดยไม่ต้องสงสัย

พ่อมีเรื่องเล่าคลาสสิกในชีวิตพ่อเกี่ยวกับโรงหนัง และการดูหนังมากมาย เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงชีวิตตัวเอง ฉันก็เพิ่งเจนใจว่าฉันก็มีเกร็ดชีวิตมันๆเกี่ยวกับการดูหนังไม่แพ้พ่อเหมือนกัน

ทักษะการชมภาพยนตร์ของฉันพัฒนาขึ้นตามวัยและถึงยุครุ่งโรจน์สูงสุดเมื่อมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ

ฉันรู้จักการชมภาพยนตร์แบบสียงในฟิล์มเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ และหลังจากนั้นก็เกิดจริตไม่อาจดูหนังแบบเสียงพากย์ได้อีกต่อไป

ฉันเริมริอ่านตีตั๋วดูหนังคนเดียว และเชี่ยวชาญการบริหารเวลาในการชมภาพยนตร์หลายเรื่องต่อกันโดยเวลาไม่ชน

โรงหนังที่เคี่ยวกรำวิชาให้ฉันคือโรงหนังในเครื่อง APEX ซึ่งโรงหนังสยาม ลิโด้ สกาล่า ล้วนเป็นแหล่งบ่มเพาะความทรงจำแสนดีให้ฉันเสมอมา


ไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อนโทรมาแจ้งข่าวว่าโรงหนังสยามถูกลอบวางเพลิง และถล่มลงมาแล้ว

ความทรงจำเก่าๆ ของโรงหนังสยามฟื้นขึ้นมาเป็นริ้วๆ พร้อมก้อนสะอื้นที่ค่อยๆขึ้นมาประชุมตัวกันอยู่แถวปลายหลอดลม


ภาพด้านหน้าของโรงหนังสยาม ( ขอบคุณภาพจาก google)


เบาะนุ่มๆ ม่านเก่าๆ บรรยากาศขรึมขลัง และกลิ่นแอร์คอนดิชั่นกึ่งอับ กึ่งหอมอ้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

การเลือกที่นั่งระบบแมนนวล ที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้ปากกา ขีดกากบาทลงบนช่องที่ลูกค้าเลือก

ตั๋วหนังแบบกระดาษ ระบุหมายเลขที่นั่งด้วยลายเส้นปากกา ซึ่งความหวัดของลายมือเจ้าหน้าที่บนตั๋วจะแปรผกผันกับคิวผู้ซื้อตั๋วว่ายาวหรือสั้นแค่ไหน

พนักงานตรวจตั๋วในชุดสูทเหลืองภูมิฐาน ผู้มาพร้อมรอยยิ้มและไฟฉายคู่ใจ


ปิดเทอมครั้งหนึ่ง ฉันเคยบอกพ่อว่าวันนี้จะขอเข้ากรุงเทพฯมาพบรุ่นพี่ เมื่อมาถึงกรุงเทพฯฉันก็แวะโรงหนังสยาม ชม Shakespeare in love แล้วก็กลับชลบุรี

เปล่าฉันไม่ได้โกหก ... ก็เชคเสปียร์เป็นรุ่นพี่ในวงวิชาการของฉันจริงๆนี่นา เขาเขียนตำราให้ฉันอ่านนี่นะ...

ถ้าเอาจำนวนตั๋วทั้งหมดที่ฉันทำธุรกรรมร่วมกันกับโรงหนังสยามมาเรียงต่อกัน
บางทีอาจต้องเช่าสนามฟุตบอลของเทศบาล หรือของโรงเรียนไหนสักแห่งเพื่อทำการทดลองนี้

แต่ถ้าจะเอาความทรงจำดีๆที่ฉันเคยมีต่อโรงหนังสยามมาวางต่อกัน หรือวางซ้อนกัน
ฉันไม่แน่ใจว่าควรไปทำการทดลองที่ไหน
ที่จะพอบรรจุความทรงจำของฉันได้

โดยไม่ล้นออกมา


ใครที่รักโรงหนังสยาม ตามไปอ่านความทรงจำของคนที่มีอารมณ์ร่วมคล้ายกันได้ในกระทู้นี้ค่ะ
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9274774/A9274774.html





 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 13:04:33 น.
Counter : 3200 Pageviews.  

รวยทันตา ไม่ต้องรองวดหน้า



เงินไม่ใช่ทุกสิ่ง...




แค่ยื่นแขนเฉยๆ เราก็เป็นเศรษฐี และเป็นฮีโร่กู้ชีพได้


คนเรานั้นถึงไม่ถ่ายเลือดเพื่อบริจาค ร่างกายเราก็จะขับถ่ายเลือดที่ใช้แล้วออกมาในรูปเหงื่อและผลิตเม็ดเลือดแดงใหม่ขึ้นมาทดแทน

ในความคิดของฉัน การบริจาคโลหิตก็เหมือนการต่อเทียน เทียนของเรายังสว่างและไม่ได้ถูกปันส่วนไปไหน แต่กลับทำให้คนอื่นได้มีแสงสว่างจากเทียนของเราต่อไปเรื่อยๆ เป็นการต่อชีวิตได้อีก อย่างน้อยๆก็ช่วยคนป่วยได้สามคนต่อการบริจาคหนึ่งครั้ง


ตอนฉันเรียนหนังสือต่างแดน ก็ยังเคยขวนขวายเป็นสมาชิกผู้บริจาคของสภากาชาดออสเตรเลียกับเขาด้วย

ระบบการบริจาคเลือดที่ออสเตรเลียค่อนข้างเคร่งครัดและต้องโทรจองคิวบริจาคล่วงหน้านานนับเดือน หากจะเปลี่ยนวันเวลาก็ต้องโทรมาเลื่อนนัดก่อน ซึ่งใช่ว่าจะเปลี่ยนได้ทันที แถมยังถูกซักประวัติสุขภาพละเอียดยิบหลายรอบ นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่โทรมาขอสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ก่อนวันบริจาคจริงแล้ว พอถึงวันบริจาคก็จะถูกสัมภาษณ์สดจากพยาบาล ก่อนรอคิวเพื่อบริจาคอีกรอบหนึ่งด้วย


บัตรสมาชิกพิเศษของฉัน โปรโมชั่น :ยื่นแขนวันนี้ ได้อิ่มใจฟรีอีกหลายวัน


แต่นั่นก็เป็นประสบการณ์ดีๆที่ทำให้ฉันได้รู้จักระบบการบริจาคเลือดของต่างชาติ และทำให้ฉันภูมิใจว่า ระบบสภากาชาดไทย ไม่แพ้ชาติไหนในโลก
นับย้อนไปหลายปีก่อน ใกล้เปิดเทอมช่วงหนึ่ง ฉันแพ็คกระเป๋าหนีตามแม่มาพักร้อนกันสองต่อสองที่โรงพยาบาล มันเป็นช่วงเวลาหดหู่แต่หอมหวานช่วงหนึ่งของชีวิต เพราะฉันได้อยู่ดูแลแม่ราวกับเป็น 7-11 สาขาเฉพาะให้แม่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

แม้สภาพแวดล้อมในโรงพยาบาลจะไม่เอื้อกับการสร้างสรรค์บรรยากาศพิเศษ แต่ฉันก็ประดิดประดอยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในแต่ละวันให้แม่รู้สึกเหมือนมาตากอากาศกับลูกสาว

วันหนึ่งฉันเปิดตู้เย็นในห้องพัก แล้วพบถุงใสใส่ของเหลวสีเหลืองอ่อนอัดอยู่เต็มตู้หลายถุง ฉันเลยแซวแม่อย่างเอิกเกริกว่าแม่ไปเหมาน้ำเก๊กฮวยที่ไหนมา


วันนั้นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเรียนรู้ว่า เลือดสีแดงข้นของคนเรานั้น สามารถผ่านกระบวนการคัดแยก กลายเป็นเซลล์เม็ดโลหิต ( ฉันเรียกส่วนนี้ว่า น้ำกระเจี๊ยบ) นำไปรักษาผู้ป่วยที่เสียเลือดมาก

หรือจะนำไปสกัดเป็นพลาสม่าหรือเกล็ดเลือด ( ฉันให้ฉายาว่า น้ำเก๊กฮวย) เพื่อใช้รักษาภาวะการแข็งตัวของเลือดสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกล็ดเลือดต่ำก็ได้

ฉันไม่รู้ว่าแม่ต้องใช้น้ำเก๊กฮวยนั้นกี่ถุง และใครบ้างที่เป็นเจ้าของเลือดที่บริจาคมาเพื่อการณ์นี้สำหรับแม่ แต่ฉันก็รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณบุคคลนิรนามเหล่านั้น

ฉันไม่รู้จะขอบคุณพวกเขาอย่างไร ฉันเลยขอบคุณตามวิธีของฉันด้วยการตั้งใจว่า นับแต่นี้ ตราบใดที่ฉันยังแข็งแรงดี ฉันจะมีนัดหมายกับสภากาชาดไทยทุกๆสามเดือน

เมื่อวาน ฉันชวนพี่ชายไปบริจาคโลหิตที่โรงพยาบาล เพราะครบกำหนดสามเดือนที่เราจะบริจาคได้อีก

เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมประจำไตรมาสของเราสองพี่น้อง


ปกติแล้ว ที่โรงพยาบาลจะมีคนมาบริจาคไม่มากนัก และฉันไม่เคยต่อคิวยาวเกินสองคน แต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันประหลาดใจที่มีคนมาออ ต่อคิวหน้าห้องรับบริจาคเกือบสิบคน และยังเดินทางมาต่อเนื่อง


ฉันไม่เปิดทีวีรับข่าวสารตลอดวันเสาร์ เลยไม่รู้ว่าทางการเขาประกาศขอรับบริจาคเลือดเพื่อเตรียมการสำหรับเหตุไม่สงบในประเทศ

เห็นอย่างนี้แล้ว ฉันอดประทับใจไม่ได้ที่ถึงอย่างไร คนไทยก็มีจิตใจเอื้ออารีต่อกันเป็นสรณะ

เมื่อเสร็จภารกิจ ฉันกับพี่ชายก็ไต่บันไดลงมาชั้นล่างเพื่อเดินทางกลับ ฉันเห็นกลุ่มคนมายืนต่อคิวอยู่พอสมควรแถวทางเดิน ฉันฉงนใจว่าเขามาตั้งจุดรับบริจาคเลือดกันถึงข้างล่างเชียวหรือ แต่เมื่อเสเท้าเข้าไปดู ก็เพิ่งแจ้งใจว่า อ้อ ...วันที่ 16 เป็นวันหวยออกนี่นา เขามารอซื้อลอตเตอรี่หน้าแผงกันต่างหาก

ฉันอยากสะกิดบอกคนที่รอต่อคิวแถวนี้จังว่า ถ้าอยากรวยทันตา ไม่ต้องรองวดหน้า ขึ้นไปต่อแถวที่ชั้นสามไหมคะ

เราไปต่อคิวที่นั่นมาแล้ว บริจาคเลือดเสร็จ สุขยิ่งกว่าถูกหวย ไม่ต้องรอลุ้นเลขที่ออกตอนบ่ายๆด้วย




 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 17 พฤษภาคม 2553 13:30:25 น.
Counter : 1313 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

Love At First Click
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




An ordinary woman who loves to write and who loves to know what love is.
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Love At First Click's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.