เข้าตามตรอก ออกประตูหลังบ้าน
วันดีคืนดี ฉันชอบพาคุณนายเอี่ยม - มอเตอร์ไซค์คันเก่าแก่ประจำบ้านไปเที่ยวตามทางแปลกๆ โดยโปรดปรานเส้นทางสายเล็กที่ลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยของชุมชนชาวบ้านเป็นพิเศษ
ถนนบางเส้น ทำให้ฉันค้นพบทางลัดใหม่ๆไว้ย่นย่อเวลาเดินทางในคราวหน้า
ขณะที่บางเส้น ทำให้ฉันรู้ว่า นอกจากจะมีรายการวงเวียนชีวิตในทีวีแล้ว ในชีวิตจริงก็มี ถนนวงเวียนให้เราหลงขี่วกไปเวียนมาเล่นๆ เพียงเพื่อจะวนมาบรรจบที่จุดเดิมได้ด้วย
ถนนสายเล็กๆแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของตรอกเล็กๆในประวัติศาสตร์ชีวิต
ฉันแวะกลับไปทักทายตรอกเล็กๆนี้อีกครั้ง หลังจากหลายสิบปีก่อนฉันเคยนั่งรถสามล้อเบียดกันมากับแม่สองคนบนเบาะรถสามล้ออันแคบๆ
ลุงคนขี่สามล้อพาเราลัดเลาะมาทางตรอกหลังตึกแถว เพื่อหลีกการจราจรติดขัดของถนนเส้นหลัก
ฝนตกปรอยๆ และเริ่มลงเม็ดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนลุงคนขับสามล้อต้องหยุดรถข้างทาง เพื่อดึงม่านผ้าใบแบบใส สีชมพูอ่อนลงมาคลุมตัวรถทั้งสี่ด้านเพื่อให้ผู้โดยสารไม่เปียก
เวลานั่งรถสามล้อท่ามกลางฝนแล้วมีม่านผ้าใบคลุมแบบนี้ ฉันมักนึกถึงเกี้ยวแบบที่นางเอกหนังจีนมักใช้นั่งเดินทางไปไหนต่อไหน
แม้สามล้อจะมีม่านผ้าใบใสๆบริการผู้โดยสาร แต่เม็ดฝนก็ยังลอบเข้ามาทางขอบหลังคาสามล้อ บ้างก็กระเซ็นเข้ามาจากรอยต่อของม่าน จนเม็ดฝนหยดเป็นทางตรงโน้นตรงนี้
แม่กระชับวงแขนห่อตัวฉันไว้แน่น ราวกับจะเป็นเสื้อกันฝนชนิดพิเศษที่ฉันอยากให้คลุมตัวฉันไว้ตลอดชีวิต
ฉันวางแขนทั้งสองข้างเกยตักแม่ พลางซุกหน้ากับลำตัวของคนนั่งข้างๆ กิริยาเหมือนตูบน้อยหวงเจ้าของ อยากบอกลุงขี่สามล้อว่าไม่ต้องรีบถีบก็ได้ หนูไม่รีบ...แต่ไม่กล้า
แม่นึกว่าฉันคงหนาว จึงถามเบาๆว่า เป็นไงบ้าง
ฉันเงยหน้าขึ้นมองแม่แว่บหนึ่ง และเพียงแว่บนั้นแม่ก็รู้ได้โดยทันทีว่า มันเป็นแค่อาการออดอ้อนขั้นแรกของลูกสาวที่น่าเอ็นดูยามอารมณ์ดี แต่จะเพิ่มระดับความน่าหมั่นไส้ในทันทีเวลาแม่ยุ่งๆ
ฝนซาเม็ดแล้ว ภาพจากนอกม่านผ้าใบแบบใส สีชมพูอ่อนที่พราวน้ำฝน สวยงามแปลกตา
ใครไม่เคยสัมผัสคงไม่รู้หรอกว่า กลิ่นฝนเพิ่งตกใหม่ๆที่เจือกลิ่นหอมอ่อนๆของแม่นั้น หอมแค่ไหน *******
ฉันหยุดคุณนายเอี่ยมเข้าข้างทาง และหยิบกล้องรุ่นคุณปู่คู่กายขึ้นมาเปิดหน้ากล้อง
มุมนี้เป็นประตูหลังบ้านของใครสักคนในละแวกนั้น บานประตูดูเก่าคร่ำคร่าเหมือนที่เคยผ่านตาบนรถสามล้อเมื่อหลายสิบปีก่อน
...บ่ายวันนี้แดดจ้า และบนฟ้าไม่มีเค้าฝน...
กลิ่นแดดหอมอ่อนๆ แต่ไม่หอมสู้กลิ่นอดีตที่หอมไม่บ่อย แต่หอมทนและหอมนาน
หลบลึก ลับเร้น เช่นประตูหลังบ้าน ต้องชิดเชื้อ จึงล่วงผ่าน สู่เรือนชานความในใจ
หลายครั้งในชีวิตที่เราตอบคำถาม 'เป็นไงบ้าง' ของใครต่อใครว่า 'สบายดี' มันเป็นคำตอบที่สามัญ และเป็นสูตรสำเร็จของบทสนทนา เหมือนการทักทายคนรู้จักที่บังเอิญแวะผ่านมาที่ประตูหน้าบ้าน
แต่คำถามเดียวกันของคนที่เราคุ้นเคยและไว้ใจ คำตอบของเราอาจมีรูปประโยคหรือการแสดงออกที่ซับซ้อนกว่านั้น
เพราะเราคงจูงมือเขาไปนั่งตรงประตูหลังบ้าน และตอบคำถาม 'เป็นไงบ้าง' ให้เขาฟัง อย่างที่ใจรู้สึก
ซึ่งบ่อยครั้ง กับใครคนนั้น เพียงสบตา นั่นคือคำตอบ
Create Date : 06 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2553 16:55:26 น. |
|
18 comments
|
Counter : 3984 Pageviews. |
|
|
|
เช่นประตูหลังบ้าน
ต้องชิดเชื้อ จึงล่วงผ่าน
สู่เรือนชานความในใจ"
ไพเราะ คมคาย
รูปทำเก่งนะครับ ทำคล้ายภาพบนผืนผ้าใบ