หนึ่งสตางค์ในยุคพ่อ
( ตีพิมพ์ครั้งแรก ในต่วยตูนพอคเกตบุค ฉบับปักษ์หลัง มีนาคม 2553)
เวลาพ่อเล่าเรื่องราวสมัยก่อนให้ฉันฟัง พ่อมักเทียบค่าเงินกับราคาก๋วยเตี๋ยวต่อหนึ่งชามในสมัยนั้นๆ เพื่อให้ฉันพอนึกภาพเปรียบเทียบกับยุคสมัยและค่าของเงินในปัจจุบันได้กระจ่างขึ้น
บางเรื่องที่พ่อเล่า ฟังแล้วเหมือนโกหก เช่นพอถึงเวลาทำกับข้าว บางทีถ้าไม่ทันตระเตรียมอะไรไว้ พ่อก็ลงไปใต้ถุนบ้าน เอามือลูบเสาบ้านริมคลองขึ้นมาก็ได้กุ้งมาทำแกงส้มบ้าง น้ำพริกบ้างตามเรื่อง
ขณะที่ปัจจุบันหาเสาบ้านริมคลองที่มีกุ้งผุดแทบไม่ได้ หรือจะหาซื้อกุ้งตามแผงแค่ขีดเดียว แม่ค้ายังมองหน้า
วันหนึ่งฉันนึกสนุกตั้งโจทย์ให้พ่อว่าย้อนกลับไปสมัยพ่อเด็กๆ ( ราวปี 2475-2476) ถ้าพ่อมีเงินในมือหนึ่งสตางค์ พ่อซื้ออะไรกินได้บ้าง
คำตอบของพ่อแสนน่าทึ่งเพราะหนึ่งสตางค์ในวัยเด็กของพ่อหาซื้อของกินได้มากมาย ตั้งแต่
เต้าฮวยใส่น้ำขิง หนึ่งถ้วย ( ถ้าหากใส่ปาท่องโก๋ด้วย ราคาเพียงสองสตางค์ แถมได้ชามใหญ่ขึ้น)
ปาท่องโก๋หนึ่งคู่
ก๋วยจั้บเปล่าราดน้ำพะโล้ บางทีก็แถมเลือดหมูมาให้แล้วแต่อารมณ์ของคนขาย ( ถ้ามีทุกอย่างครบเครื่อง ราคาสองสตางค์)
ลูกคะน้าเชื่อมแบบแห้ง ห่อมาในกระดาษสองชั้น ได้สองห่อต่อราคาหนึ่งสตางค์
กล้วยทอดสามชิ้น
น้ำแข็งไสราดน้ำแดง - - อร่อยที่สุดต้องร้านเจ๊กไฮ้เท่านั้น
เฉาก๊วยโบราณ ( ถ้าเป็นยุคนั้นคงยังเป็นเฉาก้วยทันสมัยอยู่) โปะน้ำตาลแดง หนึ่งถ้วยใหญ่
พ่อเล่าแถมให้อย่างอารมณ์ดีว่า ครั้งหนึ่งพ่อซึ่งยังตัวกระเปี๊ยกติดตามย่าไปตลาด ย่าเอ้อระเหยทำธุระติดลมจนพ่อหิวจัด สะกิดย่าขอสตางค์
ย่านึกว่าคงหิวขนมประสาเด็กจึงยื่นส่งเหรียญให้สองสตางค์ตัดรำคาญ พ่อได้เงินแล้วก็วิ่งตื๋อไปนั่งในร้านค้าและสั่งข้าวต้มมากิน
พอเจ้าของร้านยกข้าวต้มมาวางให้สองชาม เด็กชายพ่อ ( หมายถึงพ่อในวัยเด็ก) ก็เงยหน้าถามเสียงซื่อว่า
แล้วกับล่ะ
เจ้าของร้านคงนึกเคืองว่าชิชะ มีกับเขาสองสตางค์จะมาร้องเอากับข้าว จึงก้มหน้าลงไปมองหน้าเด็กให้ถนัด
พอเห็นหน้า เจ้าของร้านก็เอะอะพูดชื่อย่าออกมา จำได้ว่าลูกเต้าเหล่าใครเลยไปสับคอเป็ด และรินน้ำชามาแถมให้ สองสตางค์มื้อนั้นของพ่อจึงอลังการกว่าของว่างมื้อที่ผ่านมาโดยไม่ตั้งใจ
ฉันนึกไม่ออกเลยว่าปัจจุบันของฉัน ถ้ามีเงินหนึ่งบาทจะสามารถหาซื้ออะไรได้บ้าง แบบที่พอยื่นเหรียญให้แม่ค้าแล้วจะไม่โดนมองหน้าหรือค้อนควั่กเข้าให้
เอาอย่างง่ายๆ สมมติว่าฉันวิ่งตื๋อไปสั่งข้าวต้มด้วยเงินหนึ่งบาทแล้วยื่นหน้าไปให้เจ้าของร้านมองหน้าชัดๆ หวังจะให้สืบสาวประวัติบุพการีและใจดีแถมกับข้าวให้ เห็นทีนอกจากจะไม่ได้คอเป็ดมาแทะเล่นแล้ว อาจโดนตะหลิวเคาะหัวเหม่งเป็นมงคลก่อนถูกเชิญออกจากร้านเอาเสียด้วย
*******
คำถามไม่เต็มบาท (เพราะขาดอีกตั้ง 99 สตางค์) ประสารักแรกคลิก:
เวลาคุณเห็นเหรียญสตางค์แดง ที่ลักษณะเป็นเหรียญกลมๆ มีรูตรงกลาง คุณนึกถึงอะไร
ส่วนฉัน นึกถึงห่วงยางเล่นน้ำทะเล กับ ลูกอมรสมินท์ยี่ห้อโปโลล่ะ: )
Create Date : 15 มีนาคม 2553 |
Last Update : 15 มีนาคม 2553 11:07:36 น. |
|
12 comments
|
Counter : 2111 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หน่อยอิง วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:11:21:38 น. |
|
|
|
โดย: psyche IP: 119.31.126.141 วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:12:30:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:13:17:32 น. |
|
|
|
โดย: 1 IP: 183.89.43.212 วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:13:57:06 น. |
|
|
|
โดย: popang (popang ) วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:15:03:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:11:41:04 น. |
|
|
|
โดย: mrs.postman วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:16:02:38 น. |
|
|
|
โดย: Dingtech วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:21:27:08 น. |
|
|
|
โดย: warm407 IP: 167.67.140.51, 203.146.20.17 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:1:53:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:8:24:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:15:54:50 น. |
|
|
|
| |