ยามเมื่อสายลมแห่งรัก...พัดคืนใจ 3
เชียร์ส เป็นเสียงประสานจากสองสาวข้าวใหม่ปลามันเคล้ากันกับเสียงของแก้วใสที่กระทบกันของสองสาวที่หัวใจกำลังเปี่ยมสุขจะต่างกันก็ตรงที่สุขกันคนละเรื่อง สาวลูกครึ่งสุขที่ใจทะเยอทะยานของตนได้รับการเติมเต็มอีกหนึ่งหัวใจที่สุกใสกำลังสุกงอมกับหัวใจรักที่ได้รับการเติมเต็ม พี่ต้องขอบคุณแจนมากเลยนะคะ มือเรียวอีกข้างของสาวลูกครึ่งคว้าเอวของร่างที่บางกว่าเข้ามาชิดตัวก่อนจะประทับจูบอันแสนหวานไปบนริมฝีปากอวบอิ่มที่เผยอรอท่าอยู่แล้ว เพื่อพี่แอนนี่มากกว่านี้แจนก็จะช่วยค่ะน้ำเสียงอันสั่นพล่าประกอบกับนัยน์ตาที่ฉ่ำหวานของเจนจิราเข้าไปกระตุ้นอารมณ์หวามของอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ เมื่อแอลกอฮอล์ผสมผสานกันกับอารมณ์ที่ครุกรุ่นก่อเกิดจังหวะที่ปลุกเร้าประสานกันอย่างเร่าร้อนของสองร่างที่กำลังเปลือยเปล่าเพราะอาภรณ์ค่อยๆถูกกำจัดออกไปทีละชิ้นจนหมดสิ้นในไม่ช้า เพลงรักในท่วงทำนองที่ตื่นเต้นเร้าใจกำลังเริ่มขึ้นโดยสาวลูกครึ่งเป็นฝ่ายบรรเลงเจนจิราลุ่มหลงไปกับบทเพลงรักที่แสนจะวาบหวามเร้าใจของอมาเรียจนถอนตัวไม่ขึ้น ไม่ง่ายเลยที่จะแข็งใจไม่ให้หลงใหลได้สำเร็จกับสาวสวยรวยเสน่ห์แถมยังเก่งกล้าหาตัวจับได้ยาก ในวงการธุรกิจนำเข้า-ส่งออกอมาเรียเชิดหน้าชูตาเหนือหลายๆคน แต่หากเจนจิรารู้ความคิดของอมาเรียคงจะใจหายหัวใจยับยู่ยี่เพราะลมหายใจเข้าออกของอมาเรียมีเพียงพิชนีย์คนรักเก่า วาร์วเองก็หลงใหลเทิดทูนเธอไม่แพ้แจนแต่วาร์วจะแพ้แจนก็ตรงที่แจนไม่ได้เป็นน้องวาร์มคนที่ฉลาดเฉลียวทันไปซะทุกคนและมีพร้อมไปซะทุกอย่างคนที่ทำให้เธอรู้สึกพ่ายแพ้หมดท่าเสมอเวลาเผชิญหน้ากัน และที่สำคัญแจนเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของท่านรัฐมนตรีวุฒิชัยที่ตำแหน่งรัฐมนตรีสามารถอำนวยความสะดวกทางธุรกิจกับเธอได้ในหลายๆเรื่องเช่นในวันนี้หากในโปรเจ็กต์ไม่แนบความเห็นดีเห็นงามของท่านรัฐมนตรีวุฒิชัยมีเหรอที่เธอจะสู้ยักษ์ใหญ่อย่างศิราณุวัฒน์ได้ และถ้าวันหน้าท่านวุฒิชัยยิ่งใหญ่ขึ้นไปเป็นระดับนายกรัฐมนตรีโดยที่หัวใจลูกสาวของท่านยังอยู่กับเธอสิ่งที่เธอคาดหวังมันจะเกินฝัน เธอจะได้ในทุกๆอย่างที่เธอต้องการโดยเฉพาะเหยียบศิราณุวัฒน์ให้จมลงไป! กริ้งๆๆ
เสียงกระดิ่งที่ดังกังวานไปทั่วห้องดึงให้หญิงสาวที่กำลังหลับใหลต้องตื่นลืมตาขึ้น พิชนีย์รู้สึกได้ถึงสิ่งที่ผิดปกติใช่!เธอได้ยินเสียงกระดิ่ง สายตาตวัดมองไปยังกระดิ่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งทันทีใจหายวาบกับภาพเคลื่อนไหวที่เป็นเงาสลัวแต่มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดเธออาจจะตาฝาด ก็ก่อนนอนเธอได้แขวนพระไว้หน้าประตูแล้วนี่ แล้วผีจะเข้ามาได้ยังไงผีต้องกลัวพระซิถึงจะถูก หือ
ทำไมฉันจะต้องกลัวพระล่ะคะ พระท่านไม่ใช่สิ่งน่ากลัวสักหน่อย ฉันเองก็นับถือศาสนาพุทธนับถือพระนะ พิชนีย์กำลังแยกแยะว่ามันเป็นเสียงที่ดังอยู่ในหัวตนเองหรือดังอยู่หน้ากระจกโดยมีต้นเสียงเป็นเงาสลัวนั่นแขนเรียวยันตัวขึ้นมาเพ่งมองมองไปยังสิ่งแปลกปลอมอย่างลืมกลัวว่าสิ่งนั้นจะเป็นผีเพราะความอยากรู้มีมากกว่า แต่
ก็หลอนไม่หยอกเมื่อม่านตาปรับแต่งแสงสีจนเข้าที่ ความมืดสลัวก่อนหน้านี้ชัดเจนขึ้นใช่ แน่ๆสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอคือ ผี!!! เธอเข้ามาได้ยังไง พิชนีย์ตอกย้ำความคิดก่อนหน้านี้ที่เหมือนจะได้คำตอบมาแล้ว เข้ามาได้ซิก็ที่นี่บ้านฉัน พิชนีย์ขนหัวลุกเมื่ออีกฝ่ายโต้ตอบกลับมาแสดงถึงการมีตัวตนแต่เธออาจจะฝันอยู่ก็ได้ เร็วเท่าความคิดนิ้วเรียวจิกไปที่ต้นแขนของต้นเอง โอ้ย! พิชนีย์ร้องเสียงหลงเหตุมาจากการทำร้ายตนเอง ฉันดีใจมากเลยที่คุณเห็นฉัน เสียงเจื้อยแจ้วดั่งระฆังใส ไม่สนใจอาการเจ็บปวดของอีกฝ่ายก็จะตื่นเต้นไปใย เจ็บแค่นี้เดี๋ยวก็หายแต่เรื่องที่หล่อนเห็นเธอนี่ซิน่าตื่นเต้นกว่าตั้งเยอะ คุณไม่ต้องกลัวฉันหรอกนะคะฉันเป็นผีเรียนหนังสือ มีคุณธรรมและมีเหตุผลสิ่งที่เรียกว่าผียังเจื้อยแจ้วต่อไป ส่วนอีกคงก็นั่งฟังอย่างสงบแบบงงงวย สมองคิดหาทางรอดจากสถานการณ์อันแปลกประหลาดที่แสนจะไร้เหตุผลก็เธอกำลังถูกผีหลอกผีที่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีอยู่จริง แถมแม่ผีตนนี้ก็ยังดื้อดึงไม่ยอมกลัวพระตามหน้าที่และก็เข้ามาในห้องส่วนตัวของเธอโดยไม่ขออนุญาต ไม่ใช่แค่ฉันไม่กลัวพระนะคะผีรอบๆบ้านก็ยังกลัวฉันด้วย หือ
นี่เธอเจอกับผีตัวแม่เลยหรือนี่! เงาสลัวที่ดูออกว่าเป็นหญิงสาวร่างบางเลื่อนตัวใกล้เข้ามาพาให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงมีสติคิดไว้ว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องตนเองบ้างคิดได้แบบนั้นก็ดีดเด้งพรวดพราดลงมาจากเตียงไปอยู่อีกมุมหนึ่งที่เป็นมุมตรงข้ามกับผีสาว คุณรู้ไหมว่าคุณจะไม่มีวันเห็นฉันถ้าเราไม่มีบุญสัมพันธ์กันมาแต่เก่าก่อนเห็นไหมว่าฉันเป็นผีมีเหตุผลและที่ฉันไม่กลัวพระก็เพราะฉันไม่ใช่วิญญาณร่อนเร่ชั้นต่ำไร้บุญกุศลฐานจิตของฉันอยู่ในระดับสูง พิชนีย์ใจหายวาบอยากจะร้องก็ร้องไม่ออกเมื่ออยู่ผีสาวที่เคยเจื้อยแจ้วอยู่ห่างก็เข้ามาประชิดในระยะเอื้อมมือถึง คุณดูชั้นชัดๆซิคะว่าฉันหน้ากลัวเหรอ พิชนีย์พยายามจะเบี่ยงหน้าหนีเมื่ออีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาใกล้แต่อย่าว่าแต่เบี่ยงหน้าหนีเลยจะกระพริบตายังทำไม่ได้ แต่
ถ้าไม่นับว่าหล่อนเป็นผีวัดจากรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ใช่แค่ไม่น่ากลัวเท่านั้นนะสวยเลยแหละ ตากลมโตเสียอย่างเดียวไม่มีประกายใบหน้าเรียวยาวรับกันดีกับจมูกโด่งเป็นสันเชิดรั้นดั่งคนเอาแต่ใจ แถมยัง
หอมอีกด้วย หอมเหมือนดอกไม้ กลิ่นน้ำหอม Hypnose จากฝรั่งเศสค่ะ จะมีกลิ่นไม้หอมของตะวันออกอย่างดอกเสาวรส และหญ้าแฝก ผีสาวโต้ตอบความคิดของอีกฝ่ายและนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ใช่! หล่อนรู้ความคิดเธอ จากที่รู้สึกเกรงกลัวกลับเป็นขุ่นมัวไม่พอใจตามสไตล์ของคนที่มีนิสัยเอาแต่ใจที่ไม่ชอบให้ใครเข้ามาก้าวก่ายในพื้นที่ส่วนตัว ฉันได้ยินเองมันเป็นอัตโนมัติ ฉันขอโทษ ผีสาวเสียงอ่อยดั่งคนรู้สึกผิดแต่ก็ยิ่งไปกระตุ้นให้อีกฝ่ายขุ่นมัวเพราะถูกล่วงรู้ความคิดพิชนีย์คิดจะเอาคืนอีกฝ่ายโดยไม่เห็นว่าเป็นมิตร นะโมตัสสะ ภะคะวะโต
พิชนีย์สวดมนต์หวังหลุดพ้นจากพันธนาการจากผีสาว สัมมาสัมพุทธัสสะ เธอไม่ได้สวดพิชนีย์ขนหัวลุกหวาดกลัวผีดื้อด้าน อะไรกัน นั่นก็ไม่กลัว นี่ก็ไม่กลัวบ้าที่สุด ก็คุณไม่เชื่อที่ฉันพูดไงคะ ว่าฉันเป็นจิตวิญญาณที่อยู่ในระดับสูงคุณก็คิดก็ว่าฉันจะเป็นผีมาหลอกหลอนคุณแย่จังนะถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าคำว่า แย่จังนะที่ผีสาวพูดจะหมายถึงตนแต่ก็อดรู้สึกไม่พอใจไม่ได้ว่าตนกำลังถูกตำหนิโดยใครก็ไม่รู้ก็นอกจากพ่อกับแม่และบรรดาพี่ๆของเธอ ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าเธอ เฮ้อ! ที่แท้ก็เด็กเอาแต่ใจตามเคยกับการตอบโต้ทางความคิด ว่าแต่ทำไมเธอถึงเอาแต่คิดล่ะ ทำไมเธอไม่พูดอะไรบ้าง ฉันจะทำบุญไปให้ ขอร้องว่าอย่ามารบกวนกันพิชนีย์พูดออกไป ฉันไม่ได้ขาดบุญและคุณรู้ไหมการที่ใครจะอุทิศส่วนกุศลให้ใครได้นั้นก็ต้องมาจากจิตที่เป็นกุศลจากศีลที่เสมอกันหรือเหนือกว่า หือ มีงี้ด้วย ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย ก็ใช่ซิคะ หลายคนสับแต่แค่ทำบุญ อุทิศส่งๆไปและก็มานั่งเพ้อฝันว่าจะมีบุญมากมายส่งออกไปแต่ป่าวเลย มันเป็นแค่มะโนของคนติดดีที่คิดว่าทำแค่นี้แล้วก็จะส่งผลมากมายเพราะรากของบุญกุศลเกิดจากจิตที่เป็นกุศล จิตที่เป็นประธานโดนผีสอนมวยซะแล้วพิชนีย์คิดแบบปลงๆ แล้วฉันต้องทำยังไง คุณถึงจะไปเมื่อได้ยินคำถามนี้ผีสาวก็ดูเศร้าสลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ฉันขอโทษที่มารบกวนคุณ ก็ไม่แปลกหรอกนะถ้าคุณจะนึกรังเกียจไม่อยากจะปฏิสัมพันธ์กับผีแปลกหน้าอย่างฉันลาก่อนนะคะพิชนีย์ยืนมองผีสาวที่ถอยห่างออกไปจนลับก่อนที่แข้งขาจะอ่อนพับลงบนเตียงร่างกายคล้ายเหน็ดเหนื่อยจากการออกกำลังกายอย่างหนักก่อนจะเลื่อนไหลกายลงไปบนที่นอนและหลับใหลลงไปอย่างง่ายดาย สติสุดท้ายก่อนที่จะหลับใหล
นี่คือเรื่องจริงหรือมันเป็นเพียงฝันไปแต่ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือเพียงภาพฝัน ฉันก็ได้เห็นคนสวย สวย ใช่สวยสวยจนนึกเสียดาย
โดยลืมไปว่าความคิดของตนนั้นดังก้องออกมาดั่งปราศรัยผีสาวคลี่ยิ้มไปกับจิตสุดท้ายของอีกฝ่าย บ้าจริง! จะมาตื่นเต้นอะไรกับความสวยของเธอทั้งที่ตัวเองก็สวยน้อยอยู่ที่ไหนและที่สำคัญเราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ในความซับซ้อนที่ผีสาวไม่ได้นึกเอะใจคือความรู้สึกขวยเขินที่มีต่ออีกฝ่าย กริ้ง กริ้ง
เสียงกระดิ่งกังวานอยู่ในห้องแต่กังวานอยู่ในระดับของจิตวิญญาณที่อยู่ในอีกมิติหนึ่ง ที่ไม่ใช่มิติเดียวกับเรา พิชนีย์ปรือตาขึ้นเมื่อรู้สึกตัวก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมือถือบนโต๊ะหัวเตียงที่กำลังร้องปลุกเธออย่างบ้าคลั่งมือถือถูกวางลงที่เดิมเมื่อนาฬิกาปลุกถูกร่างบางยังนอนเหยียดยาวสมองครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องแม่ผีสาว ถึงแม้เหมือนจริงมากแต่ก็ยากที่จะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริงแล้วพี่วาร์มจะรู้ตัวบ้างไหมว่าได้เช่าบ้านราคาแสนแพงที่มีโปรโมชั่นแถมผีหน้าสวยให้กับเธอ
ใช่! ผีหน้าสวย หือ!! สินีนาฏฉงนกับเรื่องราวจากน้องสาวคนเล็ก ผีเนี่ยนะยัยวาร์วจะเป็นไปได้ยังไงก็ผันไม่มีในโลก ก็วาร์วเจอมานี่คะไม่รู้แหละ พี่วาร์มต้องจัดการให้วาร์วนะคะน้องน้อยกำลังเอาแต่ใจ แล้วจะให้พี่แจ้งกับทางผู้บริหารของบริษัทอินทัชว่ายังไงว่าหาที่อยู่ใหม่ให้ด่วนเพราะน้องฉันถูกผีหลอกอย่างนั้นเหรอถึงแม้จะอยากตามใจน้องสาว แต่ก็คิดไม่ตกว่าจะพูดเหตุผลอะไรออกไปหากจะพูดเหมือนกับที่น้องสาวเล่าว่าเพราะถูกผีหลอกก็คงจะเสียหายไปหมดกับภาพพจน์ผู้บริหารระดับสูงของศิราณุวัฒน์และก็ไม่ได้เสียแค่เธอกับวาร์วนะ เสียยันตระกูลนี่แหละหนาทุกข์ของคนมีหน้ามีตาทางสังคม ก็ แหม
น้องน้อยเสียงอ่อยในเรื่องที่กำลังทำให้พี่สาวหนักใจ งั้นวาร์วขอไปนอนโรงแรม ไปนอนที่โรงแรมจะสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านได้ยังไงและเราก็ต้องให้เครดิตบริษัทอินทัขหากเราเปลี่ยนแปลงอะไรรวดเร็วเขาจะว่าได้ว่าเราดูถูกน้ำใจเขา ก็จริง หญิงสาวท้อแท้ในหัวใจ พี่ว่าวาร์วคิดมาก เธอคิดว่าน้องสาวกำลังเสียใจเรื่องสูญเสียคนรักจนสมองเออเร่อไปละก็ผีมันไม่มีจริง! ก็
ปลง! พูดไปก็เท่านั้นใครไม่เจอเองกับตัวก็ยากจะเข้าใจ น่าวาร์ว พอบริษัทอินทัชเข้าที่เข้าทางเมื่อไหร่วาร์วก็ได้กลับบ้านแล้วตอนนี้พี่อยากให้วาร์วเอาสติทั้งหมดมุ่งไปที่งานและทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ค่ะ พี่ น้องทุกคนรักวาร์วนะ ค่ะ วาร์วรู้ หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อวางสายจากพี่สาวสายตากวาดมองไปรอบๆห้อง ความจริงเธอก็ไม่ได้หวาดกลัวอะไรมากมายหรอกแต่มันอาจจะเป็นแค่ความเอาแต่ใจที่ไม่ชอบถูกขัดใจ การที่ผีมาหลอกเธอนั่นไงคือการขัดใจกล้าดียังไงมาหลอกให้เธอกลัว แถมยังมาล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของเธอไม่ได้สนิทอะไรกันไม่ควรเสียมารยาทแบบนี้ พิชนีย์คิดเพ้อเจ้อไปเรื่อยก่อนจะหยิบข้าวของเดินเข้าห้องน้ำไป ตอนนี้พี่แอนนี่จะเป็นยังไงบ้างนะมันอดไม่ได้จริงๆที่จะนึกถึง ใช่นึกถึง ไม่ใช่คิดถึง พี่แอนนี่ไม่ได้มีค่าขนาดนั้นแล้วเธอก็แค่อยากรู้ว่าพี่แอนนี่จะมีความสุขมากขนาดไหนกับคนรักใหม่อยากรู้ให้ใจมันเจ็บไปอย่างนั้นเพราะเมื่อวันที่ใจมันเจ็บจนมันด้านชามันก็หมายถึงค่าที่เคยมีในใจได้หมดสิ้นไปแล้ว ใครโทรมาแต่เช้าคะ โชติกากระโจมอกเดินออกมาจากห้องน้ำ ผิดสังเกตเมื่อเห็นมือถือในมือคนรัก ยัยวาร์วน่ะโทรมาบอกว่าเจอผี หือ
ผี สาวลูกครึ่งญี่ปุ่นรีบทิ้งตัวลงนั่งข้างคนรักก็ ผี เป็นคำแสลงเธอไม่ชอบฟัง หือ
โตป่านนี้แล้วยังกลัวพี่อีกเหรอ กลัวซิคะก็ผีน่ากลัว ไม่มีตัวตน และจับต้องไม่ได้ แต่พี่ชอบผีประเภทหนึ่งนะแบบชอบมากๆเลยล่ะ สาวลูกครึ่งญี่ปุ่นมีแววฉงนพี่วาร์มชอบผีอะไร? มีคนชอบผีด้วยเหรอเหรอ? พิลึกพิลั่นจริง ก็ผีผ้าห่มไง ผีผ้าห่ม สาวลูกครึ่งทวนคำกำลังประมวนคำภาษาไทยเป็นญี่ปุ่นแต่ก็ไม่เท่าทันความเจ้าเล่ห์เพราะถูกอีกฝ่ายคลุมด้วยผ้าห่มไปแล้ว และผ้าที่คลุมตัวอยู่ก่อนหน้านี้ก็ถูกคนเจ้าเล่ห์กระตุกให้หลุดออกจากกายอย่างง่าย ว้าย! พี่วาร์มเล่นอะไรคะ สาวลูกครึ่งโวยวาย เล่นพี่ผ้าห่มไงคะโรสจะได้เลิกกลัวผี พี่วาร์ม
กำลังจะพูดต่อว่าเดี๋ยวลงไปสายแต่เรียวปากก็ถูกปิดสนิทไปแล้วมีเพียงเสียงอู้อี้ที่เล็ดลอดออกมาแม้จะมีอาการขัดขืนเพราะขัดใจคนรักแต่ไม่นานก็คล้อยตามลื่นไหลไปกับบทรักอันแสนหวานที่คนรักบรรจงป้อนให้อย่าว่าแต่พี่วาร์มจะหลงเด็กอย่างเธอเลย เธอเองก็หลงผู้ใหญ่ไม่น้อยไปกว่ากัน พิชนีย์เดินลงมาพบเด็กอ๊อดในชุดนักเรียนยืนอยู่รอรับอยู่หน้าบันได เชิญด้านนี้ครับ เด็กชายผายมือไปยังทิศที่จะไปก่อนจะเดินนำออกไป ยังไม่ไปโรงเรียนเหรอจ๊ะหญิงสาวชวนคุยไม่ถือตัว ยังครับอยู่ช่วยงานยายให้เสร็จก่อนครับโรงเรียนผมอยู่ถัดไปสองซอยเองครับ เด็กชายตอบแบบอายๆเพราะไม่คุ้นชินกับเจ้านายสาวที่มาจากกรุงเทพฯเมืองฟ้าอมรแถมคุณคนนี้ยังสวยมากอีกด้วย แล้วไปยังไงใครไปส่ง ปั่นจักยานไปครับ แล้วฝนตกแบบนี้ไม่เปียกเหรอ เปียกครับแต่เข้าร่มสักแป็บก็แห้งครับ เด็กน้อยพูดยิ้มๆในเรื่องที่คนเมืองลูกคุณหนูไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่สำหรับเธอตอนเด็กๆอย่าว่าแต่ตากฝนแล้วจะป่วยเลยแค่ถูกละอองฝนก็เตรียมตามหมอกันแล้ว การสนทนายุติลงเมื่อถึงโต๊ะอาหารที่ไม่ใช่ที่เดียวกับเมื่อวานแต่เป็นลานโล่งยื่นออกไปจากชายคาบ้าน เห็นสวนเกษตรเรียงตัวเป็นระเบียบสุดลูกหูลูกตาแนวหลังถูกปิดล้อมด้วยทิวเขาอีกชั้น สวยจัง พิชนีย์รำพันอยู่กับตัวเอง ในบั้นปลายของชีวิตเธอก็คงจะต้องการชีวิตที่สุขสงบแบบนี้มีเพียงบ้านที่ให้พักพิงปลอดภัย มีคนที่รักและคอยอยู่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่า แต่ใครล่ะจะมาอยู่ดูแลเธอจนแก่เฒ่าขนาดตอนนี้เธอยังสาวยังสวยยังดูแลตัวเองได้ไม่ต้องเป็นภาระใครเธอก็ยังถูกทิ้ง!หญิงสาวหยุดความคิดไว้ที่ตรงนี้ก่อนจะเดินไปนั่ง เลิศชัยทานหรือยัง จะเป็นเจ้าคนนายคนต้องรู้จักอาทรคนใต้บังคับบัญชาของตน มีสุขก็สุขร่วมกันมีทุกข์ก็ต้องร่วมกันฝ่าฟัน พ่อรูปหล่อทานเรียบร้อยแล้วค่ะ พิชนีย์พยักหน้าน้อยๆเป็นการรับทราบ อาหารบนโต๊ะมี ข้าวต้มกุ๊ย ไข่ตุ๋น หมูทอดยำปลาสลิด แล้วอีกอย่าง
ฉันรู้จักดอกสลิด พิชนีย์พูดยิ้มๆอิ่มใจกับความรู้ของตนเอง เธอรู้จักเจ้าดอกนี้จากมณีคนรักของพี่แววและเธอยังรู้จักดอกไม้อีกหลายอย่างเลยแหละเพราะมณีมักจะสรรหาทำมาให้ทาน ใช่ค่ะป้าปลูกไว้หลังบ้านกำลังงามเลยค่ะเพราะได้ฝนทุกวันไม่คิดว่าเจ้านายเมืองกรุงฯอย่างคุณจะรู้จักด้วย น้องสะใภ้ฉันเขาเก่งเรื่องอาหารการกินข้าวตอกดอกไม้ฉันเลยพลอยได้อานิสงค์ทางความรู้ไปด้วย พูดจบหญิงสาวจึงหันไปสนใจกับอาหารตรงหน้าตักผัดดอกสลิดมาทานเป็นอย่างแรกเพราะเป็นของชอบเธอชอบทุกอย่างที่เป็นลูกไม้ ดอกไม้ อร่อยจ้ะ พิชนีย์แย้มยิ้มเป็นกันเอง ชื่นชมอย่างจริงใจเป็นไปโดยธรรมชาติธรรมชาติของคนที่มีเมตตาต่อผู้ที่ด้อยกว่าและโดยเฉพาะคนที่อยู่ในวัยชรา ป้าน้อยยิ้มจนแก้มปริเมื่ออาหารที่ตนทำถูกปากเจ้านายจากกรุงเทพฯ ด้านนอกฝนยังคงโปรยปรายต่อเนื่องจากเมื่อคืนซึ่งเป็นปกติของที่นี่ในฤดูมรสุม พิชนีย์รวบช้อนและหยิบน้ำขึ้นมาดื่มเป็นอันเสร็จสิ้นมื้อเช้า เดี๋ยวให้อ๊อดนั่งรถออกไปด้วยกันนะจ๊ะสายๆจะให้คนเอาจักยานไปส่งให้ที่โรงเรียน พิชนีย์มีเมตตา อุ่ย ไม่เป็นไรค่ะเจ้าอ๊อดมันชินซะแล้ว ป้าน้อยเกรงใจสุดกำลัง จะให้ลูกหลานคนต่ำต้อยไปนั่งรถหรูคันงามร่วมกับเจ้านายมันเป็นเรื่องไม่สมควรและทางคนที่มาติดต่อเช่าบ้านคือบริษัทอินทัชก็เน้นย้ำมานักหนาว่าคุณพิชนีย์เป็นคนสำคัญห้ามขาดตกบกพร่องไม่ว่าเรื่องใด ฉันอนุญาตแล้วตามนั้นนะจ๊ะพิชนีย์เน้นสียงหนักขึ้นหน่อยเพื่อหยุดความคิดเกรงใจของหญิงชรา อ๊อดไปเตรียมตัวจ้ะเดี๋ยวฉันจะไปแล้วเด็กน้อยหน้าเหวอเมื่อเจ้านายสาวพูดกับตนโดยตรง ก่อนจะหันไปขอความคิดเห็นจากยายหญิงชราเพียงพยักหน้า เพราะไม่อยากมีเรื่องขัดใจเจ้านาย เด็กชายวิ่งหายไปและวิ่งกลับเข้ามาพร้อมกระเป๋าเป้สีมอซอที่มีตราโรงเรียนและมีอีกสิ่งในมือคือปิ่นโตสามเถาแปลกตาดีสำหรับคนเมือง เมื่อเดินออกไปหน้าบ้านก็พบว่ากนกและเลิศชัยยืนรออยู่ชายหนุ่มทั้งสองสนใจเด็กชายที่เดินตามเจ้านายสาวออกมาด้วย เดี๋ยวไปส่งอ๊อดที่โรงเรียนก่อน ครับ กนกรับทราบ และเดินไปเปิดประตูรอ โดยพิชนีย์ขึ้นไปก่อนและขยับเข้าไปด้านใน อ๊อดมานั่งกับฉัน แม้จะประหม่าเพราะความไม่คุ้นชินแต่ก็ตื่นเต้นไม่น้อยไม่คิดว่าจะมีวาสนาได้นั่งรถเบนซ์คันโตแบบนี้ส่วนเลิศชัยที่แม้จะยังงงๆแต่ก็รีบเปิดประตูเข้าไปนั่งคู่กับคนขับ เพียงอึดใจรถหรูคันโตก็ขับมาจอดอยู่หน้าโรงเรียน มีร่มมาใช่ไหม มีครับ โอเคตั้งใจเรียนนะหนุ่มน้อย ครับผมขอบคุณมากนะครับจากนั้นเด็กน้อยก็ไล่ไหว้ขอบคุณทุกคนจนครบและเดินลงจากรถไปเมื่อสังเกตจะเห็นว่าเด็กเล็ก เด็กโตหรือแม้แต่ครูต่างสนใจรถหรูเพราะนอกเมืองแบบนี้ไม่ใช่จะมีมาให้เห็นบ่อยๆเด็กอ๊อดก็พลอยได้รับความสนใจไปด้วย ใครมาส่งเธอเหรอปัญญา ครูภาษาอังกฤษลุคสาวเท่ทักทายลูกศิษย์ตัวน้อย เจ้านายที่มาเช่าบ้านครับ เอ่าไหนตอนนั้นบอกไม่ให้ใครเช่าไงสาวเท่ฉงนเพราะเคยไปติดต่อขอเช่าตอนเพื่อนจากต่างประเทศจะมาเยี่ยมตนที่นี่ เห็นว่าเจ้าของบริษัทอินทัชเขาเป็นเพื่อนคุณท่านครับ อ๊อดเล่าไปตามที่ได้ยินได้ฟังมา อ่อคงเป็นคนสำคัญซินะ สาวเท่รำพันกับตัวเอง ไปได้ละเดี๋ยวจะได้เวลาเคารพธงชาติแล้ว ครับ เมื่อเด็กน้อยให้หลังไปสาวหล่อก็ครุ่นคิดถึงบ้านที่เคยอยากไปเช่าอยู่แต่แม้จะมีเงินก็เช่าไม่ได้เพราะเจ้าของไม่ปล่อยเช่าคล้ายๆจะหวงแหนนักหนา แต่ก็นะเรามันไม่ใช่คนสำคัญ คิดถึงแค่นั้นก็หยุดคิดคิดไปก็ปวดหัวกับสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม ไม่นานจากนั้นเสียงออดบอกเวลาเข้าแถวหน้าชั้นก็ดังขึ้นสาวเท่จึงเดินไปทำหน้าที่ของตนในฐานะครูประจำชั้นประถมปีที่5
Create Date : 14 กรกฎาคม 2558 |
Last Update : 14 กรกฎาคม 2558 13:13:35 น. |
|
0 comments
|
Counter : 572 Pageviews. |
|
|