มีโอกาสไปร่วมงานแถลงข่าวของททท.ภูมิภาคภาคกลาง กับแผนปี 2564 #Lifestyle Travel@ภาคกลาง สนุกสนานกับบรรยากาศชิลด์ๆ
แนวคิด “Lifestyle Tavel@ภาคกลาง” ส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ระยะใกล้ เดินทางสะดวก เน้นการเดินทางท่องเที่ยวแนวใหม่ (New Normal) เน้นเส้นทางระยะทางใกล้และเดินทางสะดวก
นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง บอกว่า ภูมิภาคภาคกลางมีความหลากหลาย มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม มีอาหารรสชาติอร่อยเป็นเอกลักษณ์ มีเกจิอาจารย์ที่เป็นเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของผู้คนมาช้านาน
โดยมีโครงการที่โดดเด่นที่จะดำเนินการดังต่อไปนี้
โครงการแรก คือ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว Lifestyle Travel @ภาคกลาง  ดำเนินการภายใต้แนวคิด “Camping and Camper @ River Legacy”  เพื่อสนับสนุนนักท่องเที่ยวที่สนใจการพักค้างแคมแบบกางเต็นท์หรือพักค้างแรมบนรถบ้าน(Camper van) ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมและลดความเสี่ยงจากการสัมผัสหรือพบปะผู้คนจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมี โครงการ Luxperience @ภาคกลาง และ โครงการ More River Legacy วิถีเมือง ด้วยโครงการ “เปิดประสบการณ์อาหารถิ่น กินที่บ้าน ร่วมกับ เชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต” เสนอขายวัตถุดิบท้องถิ่นในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งได้รับมาตรฐาน GI (Geographical Indications) และวัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ในพื้นที่ เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารถิ่น 
รวมถึง โครงการ More River Legacy วิถีเมืองรอง ที่เน้นกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรองภาคกลาง 7 จังหวัด คือ จังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท สมุทรสงคราม ราชบุรี  ทั้งแคมเปญ “เมืองรองภาคกลางศิวิไลซ์” ส่งเสริมการขาย โปรโมชั่น และประชาสัมพันธ์ที่จะช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวและผู้สูงวัย เดินทางเข้าพื้นที่เมืองรองของภาคกลาง และ เปย์เมืองรองให้หนำใจ นำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรองภาคกลางผ่านช่องทางออนไลน์  Line @เมืองรองภาคกลาง และช่องทางออฟไลน์กับ กิจกรรมคาราวานนำร่องท่องเที่ยวภาคกลาง 2 วัน 1 คืน ตามเส้นทางจังหวัดสมุทรสงคราม-ราชบุรี จำนวน 20 คัน
รวมถึงแนวคิด “More River Legacy มรดกแห่งสายน้ำ” ดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ สร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวสู่เมืองรอง
บรรยากาศในงานเขาตกแต่งได้น่ารักมากๆ มีเต๊นท์และการแค้มปิ้งแบบเก๋ๆทุกมุม
ภายในงานมีวงสินเจริญ บราเธอร์ส มาร่วมขับกล่อม

เที่ยวอยุธยาให้สนุกต้องนี่เลย ตุ๊กตุ๊กหน้ากบหรือตุ๊กตุ๊กหัวกบ “ ชีวิตคือการเดินทาง” รถรับจ้างก็เช่นเดียวกัน ตอนนี้ในเมืองไทย น่าจะมีตุ๊กตุ๊กหน้ากบ หรือตุ๊กตุ๊กหัวกบ แค่2 จังหวัดคือที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอำเภอเมือง จังหวัดตรัง

เรื่องราวของรถหัวกบนี้ เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2500 ประเทศญี่ปุ่นเริ่มจำหน่ายรถบรรทุกสามล้อ ยี่ห้อไดฮัทสุ (Daihatsu) รุ่นมิดเจ็ท ดีเค (Midget DK) เป็นรถสองจังหวะ ( ZA 250 cc) มีไฟหน้าหนึ่งดวง และมีที่จับบังคับเหมือนรถจักรยานยนต์หรือที่เรียกว่า “แฮนด์”  ซึ่งเป็นรถต้นแบบ ตุ๊กตุ๊ก ของไทย

ปี พ.ศ. 2503 ประเทศไทยเริ่มมีการนำเข้ารถบรรทุกสามล้อ ยี่ห้อไดฮัทสุ รุ่นมิดเจ็ท ดีเค จากประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก บรรทุกมาทางเรือขึ้นที่ท่าเรือคลองเตย และนำออกจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายในย่านเยาวราช โดยคนไทยในยุคนั้นเรียกกันว่า “สามล้อเครื่อง” ต่อมาภายหลังได้มีการนำเข้ารุ่นมิดเจ็ท เอ็มพี 4 (Midget MP4) ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ที่เพิ่มส่วนประตูสองข้าง โดยได้ทำการขยายการจำหน่ายไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดตรังอีกด้วย นี่คือที่มาว่าเหตุใดตุ๊กตุ๊กหัวกบจึงมาอยู่ในอยุธยา

เอกลักษณ์ของตุ๊กตุ๊กหัวกบคือรูปโฉมคลาสสิค  สีสันสดใสสะดุดตา แล้วแต่ว่าเจ้าของจะแต่งหรือทาสีเป็นรูปอะไร

ว่าแล้วก็นั่งสัมผัสยามพลบค่ำ และแสงสีต่างๆของอยุธยา

ไปสัมผัส เมืองกรุงเก่า “อโยธยาศรีรามเทพนคร ” ด้วยตุ๊กตุ๊กหัวกบกันนะคะ

เรายังมีโอกาสไปที่พัก 2 แห่งในอยุธยา ซึ่งน่าสนใจมาก ที่แรกคือ Nice Nite Campervansตั้งอยู่ในอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา ใกล้กับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

เจ้าของคือคุณชาญ มานะกิจ ออกมาต้อนรับคณะ ซึ่งเจ้าของนั้นใจดี น่ารัก และใส่ใจลูกค้ามาก
ที่นี่เป็นรถแคมเปอร์แวนที่นำเข้าจากอังกฤษสามารถพักผ่อนได้อย่างสบาย มีพื้นที่นั่งเล่น โทรทัศน์ ที่ทำอาหาร ห้องน้ำส่วนตัว ระเบียง และสวนสวย ที่พักตั้งอยู่ห่างจากวัดไชยวัฒนาราม 2.4 กม.เท่านั้น
และอีกแห่งคืออยุธยา การ์เด้น ริวเวอร์ โฮม หรือ บ้านสวนริมน้ำ อยู่ที่อำเภอบางปะอิน เป็นที่พักในบรรยากาศแบบไทยๆ มีทั้งวิวสวน และวิวแม่น้ำ พร้อมทั้งแพหรือโป๊ะริมน้ำ ให้นั่งทานอาหาร พร้อมชมพระอาทิตย์ตกใกล้ชิดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
คุณอติภา เองตระกูล เจ้าของมาดูแลเป็นอย่างดี พี่เขาแม้อายุ 70 กว่า แต่แข็งแรงมาก เป็นนักกีฬาว่ายน้ำในรุ่นผู้ใหญ่ และยังแข่งว่ายน้ำอยู่เลย
พร้อมสาธิตการทำอาหารจากหม่อน
เรียกว่าทำได้หลากหลายสารพัด
ที่นี่ยังปลูกดอกบัวจำนวนมาก ทานเมี่ยงดอกบัวกันอร่อยมากๆค่ะ
อยากแนะนำในลองนอนพัก โดยเฉพาะห้องพักที่ชื่อศรีชล สะท้อนความเป็นอยุธยา และยังมีทางเข้าห้องน้ำที่เก๋ไก๋มากๆ นึกว่าเป็นตู้ แต่เปิดมาคือทางเดินไปเข้าห้องน้ำค่ะ
บรรยากาศก็แนบชิดแม่น้ำเจ้าพระยา สวยงดงาม ต้นไม้เขียวชอุ่ม
แล้วแวะไปเที่ยวภาคกลางกันนะคะ 
ขอบคุณที่ติดตามผลงานของ  Facebook Travelista นักเดินทางค่ะ