Unfair , Unrealistic, ผลจากการพัฒนาทุนนิยมแบบไม่สมดุล [สารบัญ] [อ่านเรื่องอื่น] อ่านข้อความประโยคเด็ด วันนี้ ตัดตอนข้อความมาจาก "กับดักร่วมกันของเรา" โดย เกษียร เตชะพีระ หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน บทความน่าอ่านนะครับ แต่ยาวไปนิดนึง ผมกลัวว่าเพื่อน ๆ จะไม่อ่านกัน ก็เลยตัดตอนเฉพาะประโยคดี ๆ ให้อ่านครับ (ซึ่งเป็นช่วงท้าย ๆ ของบทความ) ถ้าอยากอ่านฉบับเต็ม click ที่นี่เลยครับ ภายใต้ตรรกะสองนัคราประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็น "คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล" หรือ "คนกรุงเทพฯล้มรัฐบาล" ก็เป็นภาวะที่อีหลักอีเหลื่อชอบกล สำหรับคนต่างจังหวัด การที่คนกรุงเทพฯล้มรัฐบาลที่พวกเขาเลือกมาด้วยเสียงข้างมากของชาติก็นับเป็นเรื่อง unfair หรือไม่เป็นธรรม แต่สำหรับคนกรุง การตัดสินอนาคตของชาติตามหลัก "เมื่อคนเราเท่ากัน อำนาจย่อมเกิดจากตัวเลข" ไม่ว่าใครอยู่ที่ไหนก็ 1 คน 1 เสียงเท่ากันนั้น พูดอย่างเลือดเย็นก็ต้องบอกว่า unrealistic หรือไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะความเป็นจริงที่น่าทุเรศอัปลักษณ์แต่ก็ยังคงจริงของเมืองไทยก็คือ คนไทยไม่เท่ากัน คนกรุงมีอำนาจมากกว่าคนต่างจังหวัด เพราะคนกรุงโดยเฉลี่ยมีรายได้ การศึกษาและเข้าถึงกลไกรัฐตลาดและสื่อสารมวลชนได้มากกว่าคนต่างจังหวัดมากมายหลายเท่า พูดอย่างไม่เกรงใจก็คือ คนต่างจังหวัดมีอำนาจเท่าคนกรุงวันเดียวในรอบสี่ปีคือ วันเลือกตั้ง ส่วนอีก 1,460 วันที่เหลือ คนกรุงมีอำนาจมากกว่า รวมทั้งชุมนุมประท้วงกลางเมืองได้บ่อยกว่าต่อเนื่องกว่าและยืดเยื้อกว่าด้วย (คิดดูง่ายๆ ว่าคาราวานชาวนาภาคเหนือและเกษตรกรภาคอีสานที่ ส.ส.และ รมว.ไทยรักไทยไประดมจัดตั้งมาจะทนทายาดเดินเท้าและขับรถอีแต๋นกับกระบะปุเลงปุเลงเป็นร้อยๆ กิโลเมตร เพื่อเข้ามาชุมนุมเชียร์รัฐบาลในกรุงเทพฯได้สักกี่รอบ กี่ครั้งและนานกี่วันกัน? ใครจะดูแลนาไร่? ทำมาหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องแทน?) จึงในกรณีปัญหานายกฯทักษิณนี้ ไม่ว่าจะเลือกออกด้วยหนทางใด, แบบ unfair หรือ unrealistic, ก็มิมีทางจะบรรลุฉันทามติของคนไทยทั้งชาติร่วมกันได้,อดที่จะมีรสเปรื่องปร่าขมฝาดสร้างบาดแผลในใจสำหรับเพื่อนร่วมชาติกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมิได้ ที่เป็นเช่นนี้ จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ความผิดของใครคนใดคนหนึ่ง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นกรรมรวมหมู่ของเราที่เดินมาบนหนทางพัฒนาทุนนิยมแบบไม่สมดุล ไม่เสมอภาคและไม่เป็นธรรมสายนี้ร่วมกันจนติด "กับดักสังคมเหลื่อมล้ำ" อยู่ด้วยกันที่นี่ จึงต่างฝ่ายต่างไม่เข้าอกเข้าใจกัน ทะเลาะขัดแย้งกัน โกรธแค้นเกลียดชังกันและกระทั่งอาจลงไม้ลงมือด้วยความรุนแรงถึงขั้นฆ่าฟันล้มตายกันที่นี่ เพื่อสิ่งใด? หมายเหตุ บทความที่อยู่ใน group blog "อ่านข้อความประโยคเด็ด" นี้ทุกบทความ ผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน และเปิดใจกว้าง..รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างด้วย เนื่องจากอาจจะมีอคติของผู้ประพันธ์เจือปนอยู่ในบทความ ทั้งนี้เนื่องจากคนเราทุกคนล้วนมีประสพการณ์ที่ไม่เหมือนกัน อนึ่ง การที่ผมนำเอาบทความต่าง ๆ มาลง มิได้แปลว่าผมมีความเห็นในแนวทางเดียวกัน จึงได้นำมาลง ตรงกันข้าม หลายบทความผมไม่เห็นด้วยเลย แต่ก็นำมาลงไว้เพราะได้ไปอ่านพบ และอยากให้คุณผู้อ่านได้ทราบกว้าง ๆ ว่า แต่ละคนมีความเห็น หรือเคยพูดอะไรไว้บ้าง สำหรับความเห็นที่เป็นของผมจริง ๆ จะอยู่ใน group blog "[สุ-จิ-ปุ-ลิ]:[ฟัง-คิด-ถาม-เขียน]", "พูดถึงหนังสือที่อ่าน", "คุยเรื่องหนังภาพยนตร์", และ "เห็นภาพ(ข่าว)แล้ว(เพ้อ)เขียน" ผมอ่านทั้งบทความแล้ว ผมเห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่นะครับ แต่ทว่า บางประโยคก็ไม่เห็นด้วย ประโยคที่ยกมานี้ก็เช่นกันครับ ผมไม่เห็นด้วยว่า คนกรุงทุกคนจะคิดแบบนั้น กล่าวคือ ผมไม่เชื่อว่าคนกรุงทุกคนจะคิดว่า เสียงของคนต่างจังหวัดมีค่าน้อยกว่าเสียงของตน อย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งละที่ไม่คิดแบบนั้น หากแต่ปัจเจกชนบางคน ชอบคิดว่าเสียงตัวเองดังกว่าเสียงคนอื่น ที่ถูกต้องน่าจะเป็นแบบนี้นะครับ คือแม้เป็นสังคมย่อยกลุ่มเดียวกัน เช่น การทำกิจกรรมอย่างหนึ่ง (ไม่ว่ากิจกรรมนี้จะเกิดในสังคมชนบท หรือ ในเมืองก็ตาม) ก็จะมีคนอยู่ 1-2 คนที่คิดว่า ความคิดตัวเองดีกว่าคนอื่น คนอื่นคิดตามไม่ทัน เสียงของเขาดังกว่าสมาชิกคนอื่นในกลุ่ม แม้จะมีกลุ่มอยู่ ก็รวมแต่ในนามเท่านั้น หาได้เป็นกลุ่มที่มีพลังของกลุ่มโดยแท้จริงไม่ คนลักษณะแบบที่ว่านี้ เห็นอยู่ดาษดื่นทั่วไปหมด หรือว่าคุณไม่เคยเห็นครับ เอ.... หรือว่าผมก็เป็นคนแบบที่ว่านี้ด้วยนะ ?? [สารบัญ] [อ่านเรื่องอื่น] [หน้าแรก Blog] |
บทความทั้งหมด
|
Louis Vuitton outlet online //www.sakabrasives.com/aboutus.html