0015. 5 มีนาคม 2544 ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ผู้บ
คำกล่าวของ นายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร)

ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค

และผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด ทุกจังหวัด

ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม 2544 เวลา 13.30 น.



กล่าวทักทายผู้เข้าร่วมประชุม

เรียน ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ท่านผู้บริหารระดับสูง จากกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกท่าน ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งผมถือว่าเป็นศิษย์เก่าของกระทรวงมหาดไทยคนหนึ่ง เพราะเมื่อก่อนที่กรมตำรวจอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ผมยังจำได้ว่า 2 เมษายน 2516 รับพระราชทานกระบี่ ตอนสมัยก่อนยังไม่มีปริญญาบัตร ผมยังไปถ่ายรูปที่หน้าอนุสาวรีย์กรมพระยาดำรงราชานุภาพ หลังจากที่รับพระราชทานกระบี่แล้ว ก็เป็นศิษย์เก่ามหาดไทยคนหนึ่ง เป็นศิษย์เก่ากรมตำรวจ

ผมต้องเรียนว่าที่ได้ดิบได้ดีมาทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งคือการปรับการใช้ชีวิตที่เป็นตำรวจเข้าสู่ความเป็นจริงของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นจิตสำนึกของความเป็นข้าราชการยังอยู่ในใจผมตลอดเวลา และวันนี้ถึงแม้ผมจะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ผมก็อยากกลับไปดูหน้าที่เดิมที่ผมเคยทำ แล้วอยากให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ วันนี้จึงถือโอกาสนี้มาเปิดประชุมเพื่อให้รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย
ได้ประชุมพวกท่าน โดยที่ผมขออนุญาตเปิดการประชุมและพูดคุยกับทุกท่านบ้างครับ

องค์กรที่มีความพร้อมทั้ง ไอคิว อีคิวและเอคิว

ผมขอเรียนว่า ความผูกพันที่อยากจะเห็นองค์กรนี้เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนนั้นมีสูง เราเป็นองค์กรที่มีหน้าที่หลัก คือบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้กับประชาชน เป็นองค์กรที่ถือว่ามีคนที่มีความพร้อมทั้ง ไอคิว อีคิว และเอคิว สูงสุดองค์กรหนึ่ง คำว่า ไอคิว ก็คงไม่มีปัญหา คือเรื่องของเชาว์ปัญญา คนส่วนใหญ่ก็จบมหาวิทยาลัย บางคนเป็นนักเรียนทุนรัฐบาล บางคนเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ กว่าจะสอบแข่งขันเข้ากันมาก็แข่งขันกันพอสมควร ก็มีไอคิวดีแน่นอน ส่วน เอคิว คือความสามารถในการฝ่าฟันอุปสรรค คนที่อยู่สายอำเภอ สายปกครอง สายตำรวจนี้ เรื่องคำว่าเอคิว ได้ถูกพัฒนามาตลอดเวลา คุณต้องทำงานหนัก ต่อสู้ ต้องไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก คำว่า อีคิวเป็นความสามารถทางอารมณ์นั้น ผมเชื่อว่าการที่ท่านทั้งหลายต้องอยู่ร่วมกันตั้งแต่เป็นนักเรียน กินนอนมาด้วยกันนักเรียนนายร้อย หรือท่านทั้งหลายต้องทำงานกับประชาชนสัมผัสกับประชาชน ท่านถูกพัฒนามาหมด เพราะฉะนั้นคนที่มีความพร้อมทั้ง ไอคิว อีคิว เอคิว นั้น พร้อมที่จะแสดงศักยภาพตัวเองเต็มที่ เหลือแต่ว่าระบบและโอกาสเปิดให้ทำได้หรือไม่เท่านั้น

นโยบายแก้ปัญหาที่รากฐานของปัญหา

วันนี้ผมได้มาพูดคุยกับข้าราชการทั้งประเทศ ซึ่งหลายท่านก็นั่งฟังเมื่อเช้านี้ ผมอยากให้รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาล ที่เปิดโอกาสให้พวกท่านทั้งหลายได้ใช้ศักยภาพของท่านอย่างเต็มที่ ในการที่จะทำหน้าที่ของเรา คือบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ และนโยบายรัฐบาลนี้ก็เป็นนโยบายที่แก้ปัญหาที่รากฐานของปัญหาอย่างแท้จริง เมื่อเราแก้ปัญหาตรงนั้นก็จะทำให้หน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขบรรเทาไปในระดับหนึ่ง เพราะการแก้ปัญหาที่รากฐานของปัญหานั้น จะช่วยทำให้ชาวบ้านคือประชาชนพี่น้องของเราได้พ้นจากความยากจน พ้นจากความทุกข์ยากที่เป็นเรื่องสามัญประจำวันลงไป เพราะฉะนั้นโอกาสที่เขาจะต้องตกเป็นเหยื่อของการพัฒนาที่ไม่สมบูรณ์นั้นก็จะลดน้อยลงไป

มองปัญหาด้วยเมตตาธรรมเพื่อการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น

ใน 2 ส่วนนี้สิ่งที่ผมอยากจะกราบเรียนก็คือว่า ท่านทั้งหลายต้องมองปัญหาที่ท่านทำอยู่นั้นด้วยเมตตาธรรม ถ้าท่านไม่มองปัญหาด้วยเมตตาธรรม โอกาสที่การแก้ปัญหาของชาติจะดีขึ้นนั้นยาก เพราะท่านเป็นหน่วยงาน ที่สัมผัสกับประชาชนโดยตรง ท่านต้องเข้าใจว่าสังคมส่วนหนึ่งในวันนี้เขายังช่วยตัวเองไม่ได้ สังคมส่วนหนึ่งในวันนี้ กำลังต้องการการปรับปรุงโครงสร้างในการแก้ปัญหา นั่นคือเรื่องความยากจน ซึ่งเป็นปัญหาโครงสร้าง ไม่ใช่เป็นปัญหาที่เกิดจากความขี้เกียจของคนจน หรือการไม่เรียนหนังสือของคนจน เขาอยากทำงานแต่มันไม่มีงานให้เขาทำ เพราะฉะนั้นปัญหาที่โครงสร้างของปัญหาทั้งหมด ทั้งกฎหมาย ทั้งสังคม ทั้งโอกาสทั้งหลาย มันทำให้เขาต้องลำบาก ท่านพระพุทธทาส ฯ ใช้คำว่ามนุษย์คือเพื่อนร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น ถ้าท่านเริ่มต้นด้วยเมตตาธรรม ผมคิดว่าหลังจากนั้นท่านทำงานต่อง่าย ความเข้าถึงประชาชนนั้นง่าย

เรามีคำหนึ่งที่ใช้ในทฤษฎีคือคำว่าการใช้ไม้แข็งและไม้นุ่ม เพราะหน้าที่ของท่านเป็นหน้าที่ที่ต้องใช้ทั้งไม้แข็งและไม้นุ่ม แต่ไม้แข็งและไม้นุ่มนั้นจะใช้กับใครต้องเลือกไม้ให้ถูกต้อง อย่างภาษาตำรวจเขาบอกว่า ถ้าเราไปจัดการกับอาชญากรรม อาชญากร เราต้องใช้ไม้แข็ง แต่ถ้าคนที่เดือดร้อนคนที่ประสบวิบากกรรมจากปัญหา เราต้องใช้ไม้นุ่ม คือต้องใช้มือนุ่ม ๆ ใช้เมตตาธรรม แต่ทั้งสองก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นไม้แข็ง 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นไม้นุ่ม 100 เปอร์เซ็นต์ มันเป็น 2 ทางที่จะใช้ส่วนผสมที่ผสมกันได้ ท่านต้องเข้าใจคำว่าส่วนผสม ภาษาที่พระพุทธเจ้าท่านใช้คำว่าเดินสายกลางหรือความพอดีนั่นเอง คือส่วนผสมเป็นเรื่องสำคัญมากว่าท่านจะใช้แค่ไหนอย่างไร เพราะฉะนั้นท่านก็ต้องเลือกส่วนผสมที่ดีที่สุด ให้เกิดความพอดีในการที่จะแก้ปัญหาของคน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี

ผมมองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศในระดับจังหวัด เพราะเรามอบอำนาจการจัดการ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปทำที่ในจังหวัดนั้น ๆ ท่านต้องเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีในการบริหารจังหวัดนั้น เพราะท่านต้องรู้จักนโยบาย รัฐบาลอย่างแท้จริง ท่านต้องสามารถที่จะประสานการทำงานร่วมกับตัวแทนของกระทรวงต่าง ๆ ที่อยู่ในจังหวัดนั้น เพราะฉะนั้นท่านคือผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี ท่านไม่ได้เป็นผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย ถ้าไม่เช่นนั้นท่านจะมองว่าท่าน ต้องทำงานในสายมหาดไทยเท่านั้น แล้วการแยกกันระหว่างตำรวจกับมหาดไทยก็จะกลายเป็นปัญหาใหม่ ท่านแยกกันเฉพาะองค์กรตามกฎหมาย แต่ภารกิจของท่านนั้นต้องเป็นปาท่องโก๋ ต้องทำงานร่วมกัน เป็นหุ้นส่วนกัน แต่การแยกกันนั้นว่ากันไปตามกติกาตามกฎหมาย แต่อย่าให้การแยกองค์กรนี้เป็นกำแพงขวางกั้นการทำงานร่วมกันนะครับ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวกลางที่สำคัญของประชาชนและรัฐบาล

ผมมองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี ท่านจะต้องทำงานตรงนี้ให้เป็นลักษณะเหมือนตัวแทน ของผมในการบริหารจัดการในจังหวัด เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมพบท่านคุยกับท่านเรื่องสภาพปัญหาการดำเนินนโยบาย ท่านต้องช่วยตอบผมด้วยว่าเพราะอะไร เพราะนโยบายของรัฐบาลก็เปรียบเหมือนยารักษาโรค ให้ไป 1 เม็ดต้องถามว่าเม็ดนี้รักษาหายไหม แล้วมีผลข้างเคียงไหม ต้องบอกได้ เพราะท่านต้องรู้ แล้วถามว่ามันรักษาทั่วถึงไหม กินยาแก้อักเสบเข้าไปกลืนเข้าไปทางปาก บังเอิญว่ามันมีแผลที่ขามันรักษาหายไหม มันถึงไหมนะครับ เพราะฉะนั้น ตรงนี้คือสิ่งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องเป็นลักษณะของผู้รอบรู้เรื่องทั่วไปมากขึ้น ท่านไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เฉพาะด้านสายมหาดไทยเท่านั้น ท่านต้องเป็นผู้รอบรู้เรื่องทั่วไปต้องรู้กว้างขึ้น อีกอันหนึ่งคือผมมองว่าท่านอยู่ในที่ใกล้
ประชาชนที่สุด สายมหาดไทยกับสายตำรวจใกล้ประชาชนที่สุด เพราะฉะนั้นท่านใกล้ชิดกับประชาชนแล้ว สะท้อนความต้องการ หรือปัญหาของประชาชนเข้ามาสูงเท่าไร แล้วการแก้ปัญหากลับไปเท่าไร เป็นการสื่อสารแบบสองทางระหว่างประชาชนกับรัฐบาล เพราะฉะนั้นท่านเป็นคนกลางในการนำการปฏิบัติงานจากรัฐบาล นำนโยบายจากรัฐบาลไปสู่ประชาชน สะท้อนปัญหา ความต้องการของประชาชนกลับมายังรัฐบาล ท่านจะต้องเป็นตัวกลางที่สำคัญของประชาชน และของรัฐบาล เพราะฉะนั้นขอฝาก ให้ท่านช่วยทำตรงนี้ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมมาก ๆ ใกล้ชิดประชาชนมาก ๆ ขอให้ใกล้ชิดประชาชนกว่าเดิม ท่านจะช่วยผมได้มาก

เร่งหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อสนองความต้องการของประชาชน

วันนี้ความขัดแย้งของสังคมมีมากขึ้นเรื่อย ๆ NGO ทำงานหนักขึ้น เพราะเขามาเติมงานในส่วนที่ภาครัฐขาด เพราะถ้าเมื่อไรการพัฒนาประเทศกับการพัฒนาการบริหารตามกันไม่ทัน พัฒนาการทางสังคมไปเร็วกว่า ระบบสื่อสารคมนาคมส่งเสริมประชาชน ประชาชนรู้เรื่องมากกว่า ระบบราชการพัฒนาตัวเองช้ากว่า ตอบสนองสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ เป็นหน้าที่ที่ NGO เข้ามาเติม จะเห็นว่า NGO เกิดขึ้นมากมาย เพราะเขามาเติมในส่วนที่ขาด เพราะเขากำลัง ทำหน้าที่ให้ประชาชนแทนส่วนขาดของภาครัฐ เพราะฉะนั้นส่วนนี้ยิ่งมากขึ้น แน่นอนครับท่านได้เห็นว่ารัฐบาลทำงานยาก ข้าราชการทำงานยาก ความขัดแย้งมีมากขึ้นก็เพราะว่าส่วนนี้มันขาด เพราะเราพัฒนาไม่ทัน เพราะฉะนั้นวันน ี้ขอให้ทางกระทรวงมหาดไทยก็ดี ตำรวจก็ดี ที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด ต้องรีบนำเสนอปัญหาแล้วหารือกัน ถ้าเป็นไปได้เสนอแนวทางแก้กัน เพราะวันนี้เราต้องร่วมเป็นหุ้นส่วนกันในการแก้ปัญหา ถ้าเราแก้เร็วเท่าไร ความต้องการของประชาชนก็ได้รับการตอบสนองเร็วเท่านั้น แต่แน่นอนครับในยุคใหม่ นอกจากเราพูดถึงสิทธิของประชาชน เราต้องพูดถึงหน้าที่พลเมืองด้วยเหมือนกัน

สร้างความสมดุลในการบริหารงาน

เมื่อก่อนนี้ในสมัยที่รัฐบาลเป็นเผด็จการ เราพูดแต่หน้าที่พลเมือง เราไม่พูดถึงเรื่องสิทธิของประชาชน แต่พอตอนหลังมาเราเป็นประชาธิปไตย เราพูดแต่สิทธิประชาชนเราไม่พูดถึงหน้าที่พลเมือง ซึ่งเรื่องนี้คือความไม่สมดุล เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องสร้างความสมดุล เพราะเมื่อใดที่องค์กรไหนบริหารโดยขาดความสมดุล องค์กรนั้นมีปัญหา ดี 100 เปอร์เซ็นต์ก็มีปัญหา เลว 100 เปอร์เซ็นต์ก็มีปัญหา อย่างที่ผมพูดไปว่าร่างกายมนุษย์มีเชื้อโรค 18 เปอร์เซ็นต์ ถ้าใครบอกว่าร่างกายมนุษย์คนไหนไม่มีเชื้อโรคเลย รับรองติดเชื้อง่ายมาก หรือใครบอกว่าร่างกายมนุษย์มีเชื้อโรคเกินกว่านี้ มีถึง 40 เปอร์เซ็นต์ก็เตรียมตัวตายครับ เพราะมันมากไป เพราะฉะนั้นทุกอย่างมีความพอดี มีสัดส่วนของมันอยู่ ท่านทั้งหลายจะต้องเข้าใจความไม่สมดุลตรงนี้ พยายามปรับความสมดุลให้ได้ แล้วช่วยแนะนำกันด้วย เพราะท่านอยู่ใกล้ชิดที่สุด พร้อม ๆ กันนักการเมืองก็ใกล้ชิดประชาชน ข้าราชการที่ใกล้ชิดกับประชาชนก็คือมหาดไทยกับตำรวจ ถ้าเราคุยกันมากเท่าไร การแก้ปัญหาของชาติก็ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ถูกจุดขึ้น ประหยัดขึ้นครับ



ช่วยกันเสนอแนะการดักปัญหาเชิงรุก

ผมขอเรียนว่าต่อไปนี้เราต้องทำงานเชิงรุก อย่าตั้งรับอย่างเดียว เพราะมันทำไม่รอด สิ่งที่ตามมาบางทีไม่ใช่หน้าที่ของท่าน ท่านต้องรับหน้าที่ แน่นอนราคาสินค้าเกษตรตกต่ำไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย แต่ก็ต้องรับปัญหาถ้าประชาชนเดือดร้อน เพราะท่านมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข คือเมื่อไรมีทุกข์ เมื่อไรไม่มีสุข เมื่อไรมีทุกข์อยากได้สุขเป็นหน้าที่ของท่านหมด เพราะฉะนั้นคือท่านกำลังรับสิ่งที่เกิดจากการพัฒนาที่ผิดพลาด พัฒนาที่ช้าพัฒนาที่ล้มเหลว กระทรวงมหาดไทยกับตำรวจเป็นคนรับ เมื่อท่านไปรับท่านจะตั้งรับตลอดก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นท่านต้องช่วยรุก ช่วยมองปัญหาล่วงหน้า แล้วเตือนรัฐบาลในการเตรียมตัวรับปัญหาล่วงหน้าด้วย ถ้าท่านไม่เตือนบางทีเราก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีเราก็รู้บางทีก็ไม่รู้ เพราะระบบขณะนี้ระบบข้อมูลข่าวสาร ของประเทศยังอ่อน ถ้าเราจัดรวมระบบข้อมูลข่าวสารแล้วตรงนั้นก็คงจะดีขึ้น แต่วันนี้ใน 1 – 2 ปีแรกนี้ต้องอาศัยกระทรวงมหาดไทยและตำรวจช่วย โดยช่วยเสนอแนะการดักปัญหาเชิงรุก เพราะไม่เช่นนั้นจะเจอปัญหาร้ายแรงอย่างหนึ่ง สินค้าเกษตรตกต่ำอย่างหนึ่ง ก็คือสิ่งนี้ตอนแรกไม่ใช่เรื่องของท่าน ตอนหลังมันกลายเป็นเรื่องของท่านโดยอัตโนมัติ ก็น้ำท่วม ภัยแล้ง สินค้าเกษตรตกต่ำ ผลสุดท้ายกลับมาที่มีผู้เดือดร้อน



ทำหน้าที่ด้วยเมตตาธรรม

ผมขอย้ำขอเรียกคนเหล่านี้ถ้าเขามาร้องเรียนเพราะเขาเดือดร้อนว่าผู้เดือดร้อน อย่าเรียกเขาว่าม็อบ แต่ถ้าเขาปิดถนนเมื่อไรคือม็อบ ถ้าปิดถนนทำผิดกฎหมายเมื่อไรทำผิดกฎจราจร ทำให้กลุ่มอื่นเดือดร้อน เราเรียกว่าม็อบ แต่เมื่อไรยังไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน พวกเขามาร้องเรียนสะท้อนความเดือดร้อน เราต้องมองเขาว่าเขาคือผู้เดือดร้อน กำลังต้องการความช่วยเหลือ แต่เมื่อพูดกันแล้วเขาก็ไม่ฟังยังจะเป็นม็อบปิดถนนอยู่นั้น ผมคิดว่าตรงนั้นไม่ถูกต้องแล้ว แต่ต้องพูดกับเขาด้วยเมตตาธรรม ต้องใช้ความเมตตาธรรม ผมขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเอง อย่ามัวไปตีกอล์ฟแล้วให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลในวันที่เหตุเกิดอย่างนี้ ฝากด้วยครับ และก็ขออย่าให้มีการปิดถนน เมื่อปิดถนนท่านต้องรีบพูด ตำรวจต้องร่วมมืออย่าให้มีปิดถนน กลุ่มไหนที่ปิดถนน ผมไม่เจรจา ผมไม่ต้องการเห็นการปิดถนนใด ๆ ทั้งสิ้น ผมมองปัญหาคนจนด้วยเมตตาธรรม ผมไม่ชอบให้ทำผิดกฎหมายเพราะว่าผู้ที่เดือดร้อนต้องการแก้ปัญหา ต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย เพราะท่านไม่ได้อยู่คนเดียวในประเทศไทยนี้ ท่านไม่ได้เดือดร้อนกลุ่มเดียวมีคนอื่นเดือดร้อนด้วย เพราะฉะนั้นคนที่เดือดร้อนกลุ่มหนึ่งต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้อีกกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้ตัวเองได้รับการแก้ปัญหา ไม่ใช่วิธีที่ผมนิยม แล้วผมจะไม่ตอบสนองความต้องการแบบนี้ เพราะฉะนั้นก็ขอให้ท่านได้ทำหน้าที่ของท่านด้วยเมตตาธรรม โดยยึดหลักกฎหมาย

รัฐบาลประกาศสงครามกับยาเสพติด

เรื่องของยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลนี้ประกาศสงครามกับยาเสพติด เมื่อเช้านี้พูดแล้วว่ายาเสพติดทำลายสมอง เท่ากับทำลายสิ่งที่เป็นทรัพยากรของชาติในอนาคตเป็นล้าน ๆ คน วันเสาร์ – อาทิตย์นี้เราจะมีการพูดคุยดังนี้อย่างหนัก ในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหายาเสพติดจึงเป็นปัญหาที่ตรงกับทฤษฎีของโรเบิร์ต เมอร์ตัน คือเมื่อวิธีการทำมาหากิน ที่ถูกกฎหมายไม่เปิดโอกาสให้คนได้ดำเนินชีวิตแบบนั้น แต่มีวิธีการดำเนินชีวิตที่ผิดกฎหมายเปิดขึ้นมา แล้วโอกาสถูกลงโทษมีน้อย แต่ได้ผลตอบแทนสูง คนก็จะเข้าสู่จุดของการทำมาหากินที่ผิดกฎหมาย ที่ไม่ค่อยถูกลงโทษและผลตอบแทนสูงทันที ทฤษฎีนี้มีมานานมากแล้ว และวันนี้เศรษฐกิจผิดปกติเศรษฐกิจผิดกฎหมายก็โตอย่างผิดปกติคือยาเสพติด ผมขอร้องว่าเราคงต้องเด็ดขาด ผู้เสพย์เราจะใช้ไม้นุ่มนำเข้าสู่การบำบัด อันนี้เราจะมีกฎหมาย หลังเสาร์ – อาทิตย์นี้เราคงจะต้องปรับ กันมาก แต่ขณะเดียวกัน ผู้กระทำความผิดนั้นเราใช้ไม้เด็ดขาดแน่นอน

ผมขอร้องให้ทุกท่านได้เป็นหูเป็นตาแทนผมด้วย อย่าให้ข้าราชการหรือนักการเมืองไม่ว่าระดับไหนทั้งนั้น เข้าไปเกี่ยวข้องมีอิทธิพลต่อยาเสพติด ท่านรายงานผมมาได้ ถ้าผมพบว่าเป็นความผิดจริง ผมจัดการเด็ดขาดผมไม่ไว้หน้าใคร เพราะผมถือว่าเรื่องนี้ทำลายชาติ ทำลายอนาคตเยาวชนของชาติ เราต้องเด็ดขาดแน่นอน ส่วนเรื่องการแพร่กระจาย ยาเสพติดทั้งหลายนั้น กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย เราหย่อนยานกันมาเยอะ ขอย้ำอีกครั้งในอดีต ผมเห็นใจบางคนกว่าจะได้ตำแหน่งเสียเงิน เพราะฉะนั้นก็เลยเปิดร้านห้องแถวหาเงินเพื่อใช้หนี้ หมดยุคนั้นแล้ว รัฐบาลนี้ไม่มีการให้การซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นข้าราชการก็ต้องช่วยรับเจตนารมณ์ของนโยบายที่ว่า อย่าให้มีการซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้นในองค์กรใด ๆ เพราะฉะนั้นข้าราชการจะได้ทำงานด้วยความทุ่มเทได้ โดยที่ไม่มีการไปตั้งหน้าตั้งตาทำมาหาเงินเพื่อมาชดใช้หนี้ในการได้ตำแหน่ง

ช่วยกันดูแลเยาวชนของชาติ

เรื่องสถานบริการทั้งหลายที่มีกฎหมายอยู่แล้ว วันนี้กฎหมายยังใช้อยู่เราก็ปล่อยกัน วันนี้เด็กอายุ 12 ปีก็เข้าสถานบริการแล้ว เกิดขึ้นได้อย่างไรครับ เรามีกฎหมายห้ามอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่ใช่หรือครับ เพราะฉะนั้นต้องขอทั้งจังหวัด ต่างจังหวัดมากนะครับไม่ใช่กรุงเทพ ฯ ต่างจังหวัดวันนี้เด็กตัวเล็กตัวน้อย เด็กดิ้นรนไปหาเงินเพื่อเที่ยวเตร่ หาเงินเพื่อซื้อของแพง ผลสุดท้ายขายตัว ซึ่งเรื่องนี้เราต้องช่วยพ่อแม่เขาด้วยเหมือนกัน เพราะพ่อแม่ก็ต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำไม่มีเวลาปกครองลูก พอไม่มีเวลาก็ให้เป็นเงินแทน พอให้เป็นเงินเสร็จปุ๊บ ตอนหลังว่าลูกก็ไม่ได้ลูกก็ดื้อ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องรักษากติกาเพื่อให้จุดหนึ่งสกัดไว้ ให้กฎหมายกลับมาศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งหนึ่ง คงไม่ต้องบอกรายละเอียด

ผมเชื่อว่าท่านทั้งหลายรู้กฎหมายดี ขอให้ศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งหนึ่งและขอให้เริ่มขันน็อตให้เข้มขึ้น เราคงไม่ขันสกรูทีเดียวไปถึง 20 สกรู เราขันไปทีละขั้น คือการเปลี่ยนแปลงซ้ายขวา ขวาซ้ายมันอันตราย แต่ต้องเริ่มขันน็อตได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แล้วสักระยะหนึ่งถ้าน็อตยังไม่ตึง มันควรจะตึงแล้วผมจะบอกอีกที แต่ต้องเริ่มขันตั้งแต่วันนี้เลย เพราะไม่เช่นนั้นเราจะปล่อยให้เยาวชนของชาติเดินผิดทาง โดยผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ช่วยกัน ช่วยกันดูเขาให้เขาเดินถูกทางบ้าง ก็ขอให้ดูเรื่องนี้ด้วย เพราะมันเป็นที่แพร่กระจายยาเสพติด ทำให้เด็กหลงผิดเดินทางผิดในชีวิต เราต้องช่วยกันขอให้กฎหมายเป็นกฎหมาย

ขอให้เข้มงวดเรื่องบัตรประจำตัวประชาชน

เมื่อเช้านี้ผมได้พูดเรื่องของการกระจายเงิน ท่านปลัด ฯ คงทราบรายละเอียด ถ้าท่านสงสัยตรงนี้ท่านถามผู้อำนวยการสำนักงบประมาณได้ครับ ที่เงินกระจายอำนาจที่ยังไปอยู่ในส่วนจังหวัด ขอให้กระจายลงถึงบรรดา อบจ. อบต. โดยเร็วเพื่อให้เงินเหล่านี้เกิดการจ้างงานในชนบท เพราะวันนี้ชนบทมีรายได้ไม่พอใช้ กำลังซื้อตกต่ำมาก สิ่งที่อยากจะขอให้ท่านได้ดูคือเรื่องนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย และของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนอื่นขอฝากอีกงานหนึ่งหลังจากที่ฝากตำรวจแล้วขอฝากมหาดไทยด้วย วันนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรครับ พ่อค้ายาเสพติดมีบัตรประจำตัว 5 ใบ เรามีระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบัตรประชาชนอย่างดี เมื่อวานนี้ผมได้รับสำเนาภาพถ่ายพ่อค้ายาเสพติดมีบัตรประจำตัวประชาชน 5 ใบ ระบบทะเบียนราษฎร์ท่านช่วยดูให้หน่อยนะครับ แล้วคนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในประเทศแล้วมาได้บัตรประชาชนไทย โดยที่ไม่ต้องไปทำแปลงสัญชาติ แล้วเข้ามาทำมิจฉาชีพทั้งหลาย ตรงนี้อยากให้เข้มงวดกันอีกนิดหนึ่ง ขอฝากด้วย



Internet ตำบล

เราจะเข้าไปสู่ระบบ E Government ที่เราพูดเมื่อเช้านี้ก็คือเรื่องของการจัดระบบข้อมูลข่าวสารที่ใช้เป็นฐานข้อมูลระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อจะได้เชื่อมโยงได้ เราจะทำ Internet ตำบล ซึ่งผมจะมอบหมายให้ท่านรัฐมนตรี ฯ สมบัติ ฯ ช่วยดูการจัดทำ Internet ตำบล เพื่อให้ได้ข้อมูลโดยละเอียดถึงตำบล ถึงข้อมูลเรื่องของการทำงานในตำบล เรื่องของแหล่งท่องเที่ยว เรื่องของผลผลิตสินค้าเกษตรของเขา เขาจะมีผลผลิตเมื่อไร เรื่องของงานฝีมือทักษะต่าง ๆ สินค้าของชาวบ้าน อีกหน่อยก็พัฒนาสู่ E Government ของตำบลได้ หลังจากที่เราครบวงจรแล้ว

เมื่อวันก่อนผมได้แวะไปดูร้านทดลอง ร้านตัวอย่างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ Golden Place หรือร้านชื่อว่าสุวรรณชาติ ท่านทำที่พระราชวังไกลกังวล ท่านตั้ง 3 วันเสร็จขายสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าถ้าหากรัฐบาลสามารทำศูนย์กระจายสินค้าอย่างนี้มาก ๆ ให้เกษตรกร ๆ จะมีที่ขายและขายได้ราคา ซึ่งก็เป็นแนวทางที่ในหลวงรับสั่ง เพื่อจะให้รัฐบาลมีข้อคิดที่เอาไว้ร่วมกับทางกระทรวงมหาดไทย ที่จะช่วยเหลือให้ประชาชนได้ขายสินค้าเกษตรกับเขาได้ ซึ่งก็ต้องเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาล 2 – 3 เรื่อง เรื่องหนึ่งก็คือการสร้าง Internet ตำบล โดยที่เราจะมาดูว่าข้อมูลไหนควรจะอยู่ในนี้บ้าง ผมได้ทดลองทำไว้แล้วด้วย ระหว่างที่ทำพรรคนี้ได้ทำ Internet ตำบลแล้ว 20 กว่าตำบล ใช้เงินส่วนตัว ท่านลองเข้าไปดูในเว็บไซด์ไทยตำบลดอทคอม ท่านจะเห็น แล้วค่อยมาปรับปรุงกันว่าจะปรับปรุงข้อมูลข่าวสารอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลข่าวสารที่เกิดประโยชน์ แล้วเราจะเชื่อมโยงอีกอันหนึ่งคือเรื่อง 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ บางคนถามว่าทำไมตำบลเดียวมีมากกว่า 1 ผลิตภัณฑ์ไม่ได้ มี 100 ผลิตภัณฑ์ก็ไม่ว่ากันแต่ขอให้มี ผลิตภัณฑ์สัก 1 ผลิตภัณฑ์ ถ้าเรามีผลิตภัณฑ์เก่งประจำตำบล 1 ผลิตภัณฑ์แสดงว่าเรามี 7,000 กว่าผลิตภัณฑ์คือ 7,000 กว่าตำบล แล้วถ้าสินค้าเหล่านี้กระจายขายทั่วไปหมด เราก็จะสามารถมีสินค้าที่ผลิตในไทย ขายแทนการนำเข้าได้มาก แล้วในที่สุดก็ส่งออกบางอย่าง เรื่องนี้ที่ญี่ปุ่นทำแล้ว เป็นเรื่องที่เราต้องทำกันมากพอสมควร ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทยด้วย

เรื่องของกองทุนหมู่บ้านซึ่งเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทยโดยตรง หลักก็คือการกระจายเงินนั่นเอง กระจายเงินไปสู่มือประชาชน เพราะอยากให้เขาได้เข้าถึงแหล่งทุน เพื่อโอกาสในการประกอบอาชีพนอกฤดูเก็บเกี่ยว นอกฤดูเพาะปลูก เพื่อได้มีอาชีพเสริมในการจ้างงาน ถ้าคนเหล่านี้มีงานทำมีอาชีพ แน่นอนครับอาชญากรรมก็น้อยลง ยาเสพติดก็น้อยลง ก็ต่อเนื่องกัน ขอฝากไว้คร่าว ๆ แค่นี้เนื่องจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคงอยากให้นโยบายในการทำงาน



รัฐบาลทำงานในลักษณะเป็นหุ้นส่วนกับภาคราชการ

ผมขอเรียนว่าตำรวจกับมหาดไทยยังต้องทำงานร่วมกัน เพราะเรามีหน้าที่ที่สุดท้ายปลายทางคือบำบัดทุกข์บำรุงสุขร่วมกันอยู่แล้ว ทางกรุงเทพมหานครด้วยต้องช่วยกัน ขอเรียนอีกครั้งว่ารัฐบาลนี้ต้องทำงานแบบเป็นหุ้นส่วนกับภาคราชการ เพราะฉะนั้นมีอะไรพูดกันได้ทุกเรื่อง และขอเรียนว่าผมไม่มีรูปแบบ ผมมีแต่สาระ รูปแบบเรื่องเล็ก ผมจะเอาเรื่องของงานเป็นหลัก เพราะฉะนั้นถ้าเวลาที่ผมไปไหน ท่านทั้งหลายไม่ต้องมาจัดพิธีต้อนรับผมเป็นเรื่องเป็นราว ขอไม่ต้องมีรูปแบบ แต่ว่าอย่างน้อย ๆ มาแล้วช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยเถอะว่า นโยบายของรัฐบาลวันนี้ที่จังหวัดนี้เป็นอย่างไร และประชาชนจังหวัดนี้เดือดร้อนอะไร ปัญหาอะไร ถ้าท่านรู้ งานของท่านตรงนั้น นั่นคือการที่ท่านได้กรุณาผมมากแล้ว ไม่ต้องห่วงผม ผมไปไหนไม่ต้องมาค่าโรงแรม ดอกไม้ ขนม ไม่ต้องห่วงผมเลย ขออย่างเดียวผมอยากได้คือข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง คือสิ่งที่ผมอยากได้ที่สุด นั้นคืออาหารอันโอชะของผม ระหว่างเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ต้องห่วงว่าผมกินอะไรอร่อยหรือไม่อร่อย ไม่ต้องห่วงเลย ผมนี่ง่ายมาก ข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างกินได้หมด แต่ขออย่างเดียวขอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้ผม ทั้งตำรวจทั้งจังหวัด



อย่ามองนักการเมืองเหมือนคนที่มาจากคนละชาติ

ผมขอฝากอีกนิดหนึ่ง สิ่งที่ผมขอมาผมไม่อยากให้คนอื่นเจอ อย่ามองนักการเมืองเหมือนคนที่มาจากคนละชาติ เขาอยู่ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็คือคนไทยด้วยกัน อย่างท่านอดีตนายก ฯ ท่านจะไปจังหวัดไหน ใครรู้ว่าท่านไป จะแวะไปเยี่ยมไปคุยไปหา ต้องอย่าไปเหนียมอย่าไปเกรงว่าท่านอยู่ฝ่ายค้าน ท่านคือคนไทยท่านคืออดีตผู้นำไทย ท่านควรที่จะได้รับการดูแลตามความเหมาะสม เช่น ความปลอดภัย ท่านเป็นฝ่ายค้านก็จริง แต่ท่านอยากจะรู้ทุกข์สุขของประชาชนในจังหวัดนั้น ๆ เล่าให้ท่านฟัง ท่านจะได้รู้ข้อเท็จจริง เพราะว่าผมไม่ต้องการมีความลับอะไร

ผมต้องการการทำงานร่วมกัน ต้องการแสดงความคิดเห็นที่บริสุทธิ์ต่อกันเพื่อบ้านเมือง เพราะฉะนั้นนโยบายตรงนี้ผมเข้าใจผมลืมอดีตหมดครับ บางจังหวัดก็สั่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่กำลังจะเกษียณมาหาผม เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดเขาไปต่างจังหวัดตลอด บังเอิญผมไปเมื่อไรก็ออกต่างจังหวัดตลอด ผมเพียงอยากได้ข้อมูล ผมไม่อยากได้อะไรเลย เพราะฉะนั้นตรงนี้ในสมัยนี้ท่านอย่าไปคิดมาก มีผู้ว่าราชการจังหวัดกล้ามาพบผมไม่กี่คนตั้งแต่ผมเดินหาเสียงมา 2 ปีครึ่ง บางคนตอนก่อนนี้รู้จักกันอย่างดี ผมไปนึกว่าจะมีโทรศัพท์สักกริ๊งหนึ่ง ได้คุยกันสัก 3 นาทีก็เสีย 9 บาทอย่างมากถ้าใช้มือถือ แต่ไม่มีเลย ไม่คุยเลย ผมอยากได้ข้อมูลผมไม่อยากได้อะไรเลย แล้วผมไปนี่ผมไม่คาดหวังอะไรเลยจากท่าน ขอข้อมูลขอความเป็นไปความเป็นอยู่ของราษฎรเท่านั้นผมพอใจ แล้วท่านก็ควรที่จะทำอย่างนี้กับอดีตรัฐมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคยบริหารประเทศมา มีคุณูปการต่อประเทศ แต่คนไหนที่เคยโกงชาติมาถ้าไม่ไปหาก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องไปสนใจ แต่คนที่มีคุณูปการต่อประเทศ ท่านไปเยี่ยมเยียน เจอท่านไม่ต้องเหนียม พอเห็นผมหรือเห็นฝั่งรัฐบาล รู้แล้วไปเหนียม บอกคบกับฝ่ายค้าน อย่าไปคิดอย่างนั้นเพราะคนไทยด้วยกัน

วันนี้ผมต้องการสามัคคีในชาติกลับมาให้ได้ ความรู้สึกดี ๆ ต้องเกิดขึ้นกับคนไทย ในยามอย่างนี้ต้องรวมสมองกันแก้ ลืมเรื่องเก่าเลย ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีแกนนำผู้นำฝ่ายค้านเป็น ส.ส.หรือเป็นอะไร ขอให้ดูแลท่าน เคยทำอย่างไรท่านทำไปอย่างนั้น ไม่เป็นไรอย่าคิดว่าผมจะไปว่าอะไรท่าน รับรองไม่เกี่ยวเรื่องนั้นแน่ ถ้าจะถูกย้ายถูกอะไรไม่ใช่เพราะเรื่องนี้แน่นอน แล้วไม่อยู่ในสมองผมเลยครับ เป็นเรื่องงานอย่างเดียว ผมเป็นคนที่เอาเรื่องของผลงานเรื่องของงาน เรื่องของความซื่อสัตย์ในการทำงานเป็นหลัก ต้องเรียนให้ท่านเข้าใจมิฉะนั้นจะเข้าใจว่าผมเป็นอีกสไตล์หนึ่ง ไม่ใช่ครับ



ทำหน้าที่บริการประชาชนให้มากที่สุด

ผมขอฝากกระทรวงมหาดไทย ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยว่า มีกฎหมายอื่นใดที่จะเป็นปัญหาในการปฏิบัติงาน เพราะเรามีองค์กรอิสระมีอะไรต่ออะไรเกิดขึ้นมากมาย ขนาดที่ผมยังตั้งตัวไม่ทัน เพราะฉะนั้นท่านก็ว่าไป เรื่องไหนที่ต้องแก้ไขก็บอกมา เราพร้อมเปลี่ยน วันนี้ผมขอเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายที่คิดว่าอะไรต้องเปลี่ยน ไปคิดกันเลยทำให้เต็มที่เลย ท่านมีกลไกมีคนมาก ช่วยกันคิดแล้วก็เปลี่ยนในทางที่ดีเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้ได้ ให้ทำหน้าที่บริการประชาชนให้มากที่สุด วันนี้จำเป็นต้องปรับ



แก้ปัญหาสินค้าเกษตร

เรื่องของสินค้าเกษตรเป็นเรื่องซึ่งผมเองเข้ามาใหม่ก็เจอสินค้าราคาตกต่ำ แต่ผมต้องมององค์รวมทั้งหมด รีบแก้ไขโดยด่วนเพราะมิฉะนั้นผมก็ต้องลำบาก เพราะการแก้ปัญหาเรื่องของสินค้าเกษตรนั้นเป็นเรื่องที่เรื้อรังกันมา แล้วแก้ที่ปลายเหตุทุกครั้ง ผลสุดท้ายก็มาประกันราคา ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ ซึ่งเรากำลังมองปัญหาที่ต้นเหตุหลายเรื่อง ส่วนในช่วงปัจจุบันเราคงต้องดูแล ที่จะตามมาคือเรื่องข้าว เพราะวันนี้ผมโดนระเบิดเวลา ไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งไม่ได้ตั้งใจก็ไม่เกี่ยว แต่ถือว่ามันเป็นระเบิดที่ผมอุ้มอยู่ ไม่ใช่ระเบิดเครื่องบินเมื่อวันก่อนนะครับ ที่อุ้มอยู่คือข้าวสาร รัฐบาลที่แล้วรับซื้อไว้ 750,000 ตัน ซื้อเป็นข้าวสารด้วย เก็บได้ 6 เดือนก็มอดจะขึ้นแล้ว นานกว่านั้นก็เป็นหิน แล้วก็พ่อค้ารู้ ถ้าผมระบายตัวนี้ไม่ได้มีปัญหาราคาข้าว ผมต้องมีแนวทางใหม่ในการจัดการเรื่องสินค้าเกษตร

ผมต้องรีบนั่งทำการบ้านว่า 750,000 ตันนี้ ผมจะเอาไปทำอะไรดี สงสัยจะขายไว้เลี้ยงหมู เพื่อจะได้ไปสู่ตลาดไม่ใช่ไปทุ่มตลาด เพื่อข้าวใหม่จะได้ขึ้นราคา ถ้าผมขายให้พ่อค้าหมู แล้วพ่อค้าหมูเอาไปเลี้ยงหมู ลดราคายอมขาดทุน รัฐบาลขาดทุนตั้ง 1,000 ล้านบาท ราคาข้าวเปลือกขึ้นมา 1 บาท ประชาชนได้มาอีก 20,000 กว่าล้านบาท รัฐบาลขาดทุน 1,000,000 ประชาชนได้เงิน มีกำลังซื้อ 20,000 กว่าล้านบาท ก็น่าคิดอยู่ ตอนนี้ผมกำลังคิดหลายวิธี ต้องไปคุยกับส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องที่ต้องมีเรื่องให้คิดมากเหมือนกัน ในเรื่องของปัญหาที่หมักหมมมีมากเหมือนกัน แต่ผมก็สนุกกับงาน วันนี้ยังสนุกอยู่ และยังขอทำงานอย่างเดิม



การประชุมเชิงปฏิบัติการ

เมื่อเช้านี้ผมได้เรียนไป แต่บางคนยังไม่ได้เข้าประชุม คือเรื่องหนึ่งที่ผมอยากไปทำคือ ผมอยากทำการประชุมเชิงปฏิบัติการ ผมมองว่ามันได้ผล งานที่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงผมจะเป็นประธาน แต่งานที่เกี่ยวข้องกับหลายกรมแต่กระทรวงเดียวให้รัฐมนตรีเป็นประธาน และทำการประชุมเชิงปฏิบัติการนี้การแก้ปัญหาจะเร็วมาก เพราะจะได้ทำลายกำแพงกั้นระหว่างกฎหมายที่แยกองค์กร ซึ่งเราบริหารแบบระบบตามหน้าที่ เราจัดองค์กรแบบระบบแบ่งตามหน้าที่มานาน ซึ่งปัจจุบันนี้ระบบแบ่งตามหน้าที่รับผิดชอบนั้นไม่เวิร์คแล้ว องค์กรใหม่ ๆ เขาใช้ในลักษณะเป็นองค์กรที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งมันยาก ภาคเอกชนยังทำไม่ค่อยได้ ภาครัฐยิ่งลำบาก ดังนั้นเราจะใช้กิจกรรมตามวาระบนพื้นฐานของวาระ ถ้าบนพื้นฐานของวาระปั๊บ เราจะมีการทำเป็นลักษณะประชุมหารือเชิงปฏิบัติการเพื่อให้งานร่วมกันแบบนี้ และหลังจากนั้นค่อยมาฉีกงานเป็นชิ้นว่าเป็นหน้าที่ของใครทำ ถ้าหากว่าเราเอาแต่ละคนทำงานเราเอาตัวล่างมาเป็นตัวตั้ง เราจะไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่ถ้าเราเอาเป้าหมายมาเป็นตัวตั้งปุ๊บ แล้วเราก็มาแบ่งกิจกรรมให้แต่ละกรมแต่ละกองแต่ละกระทรวงแล้วงานจะเดินได้ดี

เพราะฉะนั้นลักษณะของการทำในเชิงกึ่งการประชุมหารือเชิงปฏิบัติ ผมคิดว่าจะทำให้การขับเคลื่อนดี เพราะฉะนั้นผมจะทำในระดับที่ข้ามกระทรวง แต่ระดับในกระทรวงเดียวกันนั้นให้รัฐมนตรีทำ ถ้าเราทำอย่างนี้ทุกกระทรวงงานจะเดิน ก็ฝากท่านช่วยกันคิดว่า ใครจะมีกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวข้องกับตรงนี้ก็ทำ ช่วงนี้ไปอย่างน้อย ๆ ก็ 2 ปีแรกของรัฐบาล พวกเราคงต้องทำงานกันหนักมาก เพราะบังเอิญว่าเราเข้ามาในสถานการณ์ที่หนัก และบังเอิญเป็นช่วงที่ต้องเปลี่ยน ความจริงแล้วประเทศไทยต้องเปลี่ยน ช้าที่สุดเมื่อประมาณ 1996 – 1997 ควรจะเปลี่ยนระบบตั้งหลายอย่าง แต่เราก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้ จนเราไปเจอวิกฤต ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่ทัน แล้วต้องเปลี่ยนไปด้วย โชคดีที่เรายังปฏิรูปการเมืองทัน แต่เรายังต้องเปลี่ยนระบบคิดระบบบริหารจัดการ ระบบการศึกษา เพราะฉะนั้นตรงจุดนี้เวลานี้เราต้องเปลี่ยนกันมาก พวกท่านทั้งหลายที่พร้อมทั้ง ไอคิว อีคิว และเอคิว ซึ่งผมด้วย เราทำงานด้วยกัน



ร่วมกันแก้ปัญหาให้ประชาชนและประเทศชาติ

เป้าหมายของเราร่วมกันคือแก้ปัญหาให้ประชาชนและประเทศชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เป็นคนที่ผมได้เลือกสรรแล้ว เป็นคนดีมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ เป็นศิษย์เก่ามหาดไทยเช่นเดียวกับผม หวังว่าคงจะได้ร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มความสามารถ รัฐมนตรีช่วย ฯ ทั้ง 2 ท่านก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถคนละแบบ ไปช่วยกันทำงาน ท่านสมบัติ ฯ ไปจากกระทรวงคมนาคม บางคนก็บอกว่าทำไมถึงมาอยู่มหาดไทย วิสัยทัศน์อันหนึ่งของท่านก็คือว่าช่วยทำ Internet ตำบลให้ผมให้แจ๋ว ๆ ไปวางระบบข้อมูลข่าวสารให้ผมอย่างดี เพื่อให้เราสำคัญที่สุดก็คือว่า ถ้าเราได้ข้อมูลที่ดีแล้วเราจะแก้ปัญหาได้ดีขึ้น เร็วขึ้น แม่นยำขึ้น ประหยัดขึ้น จึงถือเป็นวิสัยทัศน์พิเศษนอกเหนือจากภารกิจทั่วไปของกระทรวง

ขอฝากบ้านเมืองไว้กับพวกเราทุกคน ซึ่งได้ทำงานกันมาโดยตลอดและทำต่อไป ขอเอาการเมืองอยู่ข้าง ๆ เพราะกระทรวงท่านและหน่วยงานเป็นหน่วยงานที่การเมืองเข้าไปยุ่งมากที่สุดในอดีต ต่อไปนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีการเมือง แต่เอาการเมืองไว้ข้างหลัง เอาบ้านเมืองมาก่อนนะครับ เราจะได้แก้ปัญหาได้ และถ้าใครยังไม่สบายใจเรื่องการเมือง กลัวผมจะมองตรงโน้นตรงนี้ จะมาสารภาพบาปกับผมก็ได้ ว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้างที่ผ่านมา เพราะผมพอรู้ จะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันต่อ ขอขอบคุณทุกท่านที่จะร่วมมือกันทำงาน สวัสดีครับ



----------------------------------------



ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่

สำนักโฆษก

สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

Resource:
//www.thaigov.go.th/webold/news/speech/thaksin/sp05mar44-2.htm



Create Date : 12 มีนาคม 2551
Last Update : 12 มีนาคม 2551 14:11:44 น.
Counter : 557 Pageviews.

0 comments
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
ไม่ลอดช่องโหว่ ปัญญา Dh
(2 ม.ค. 2567 13:44:30 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Moonfleet.BlogGang.com

moonfleet
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]

บทความทั้งหมด