25 มิย 57 ผกากรอง - Wild sage
ไม่ได้เขียนบันทึกมาหลายวัน ตั้งใจจะนั่งสมาธิแล้วนึกได้เรื่องบันทึกที่เขียนค้างไว้มาหลายวัน จับมาอัพใหม่ ทั้งหมดเพราะเกรงใจผู้เปิดแล้วเปิดอีก หน้าเดิมๆ และเพื่อขอบคุณผู้เยี่ยมชมทุกท่าน ดอกไม้เล็กๆน้อยๆในบ้านนำมาลงบันทึก สีสันสวยงามแบ่งปันกันชม ดอกไม้พื้นๆวันนี้ " ผกากรอง " ไม้ดอกที่ไม่เคยมีโอกาสเข้าแทรกอยู่ในจิตใจของเราเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าชาติตระกูล และคุณสมบัติทั้งหลาย ผกากรองจัดอยู่ในกลุ่มวัชพืช กำจัดยาก เป็นไม้ราคาถูก ถ้าไม่นำมาดัดแปลงเป็นบอนไซหรือดัดทรวดทรงให้มีราคาขึ้นมาบ้าง ดอกและใบมีกลิ่นเหม็น ทรวดทรงต้นระเกะระกะรกรุงรังต้องคอยตัดแต่งเป็นพุ่มเป็นทรง ผกากรองเป็นไม้โบร้าณ โบราณ ในวัยเด็กไม่มีไม้ดอกมากหลายเหมือนทุกวันนี้ ในบ้านโบราณหลายๆแห่ง จะมีผกากรองประดับตามสวน และมักถูกปลูกเป็นพุ่มกอใหญ่ ยามเด็กถ้าวิ่งเล่นล้มใส่กอผกากรองก็เลิกเลย เพราะใบผกากรองระคายคันผิวตัวกลิ่นเหม็นตลบอบอวล พุ่มใบดกหนามักมีกิ้งก่าสัตว์ไม่พึงปรารถนาหลบซ่อนตัวกลืนกับสีลำต้น
เขียนบรรยายด้านลบ ของผกากรองมาซะยืดยาว ที่จริงผกากรองก็มีข้อดี อยู่บ้าง ที่อึดถึกทน ยิ่งแดดแรงยิ่งชอบ แพร่พันธุ์ง่ายตายยาก หลากหลายสีสัน โตเร็วและราคาถูก โลกนี้เป็นอนิจจัง แม้แต่ความคิดความเห็น อย่าได้ไปยึดติด ไม่ต้องใคร แม้แต่ตัวเราเองคนมาตรฐานสูงกลับหิ้ว "ผกากรอง" ไม้โนเนมที่ไม่เคยอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยกลับมาบ้าน ทุกคนในบ้านต้องประหลาดใจที่เห็นภาพเราเดินจนเหงื่อโทรมคิดว่าจะได้ตนดีเด่น กลับหิ้ว ผกากรองโนเนมติดมือมาได้ต้นเดียวเพียงเพราะความชอบสีต้นนี้ล่ะ ณ วันนี้ ผกากรองโนเนมของเรา จับใส่กระถางสวยหรูตัดแต่งทรวดทรงให้ดูสวยงาม ก็เป็นจุดเด่นสวยไม่น้อย เสียดายไม่มีภาพทั้งกระถางหลักการบูรณาการของเรา เพราะภาพถ่ายชุดนี้ด้วยความยากลำบากแสงแดดแรงจนแสบผิว ได้ภาพดีๆมาเพียงไม่กี่ภาพ ขอให้มีความสุขในการรับชมสมความตั้งใจค่ะ 26 มิย เช้านี้แดดไม่ร้อน ลงภาพเพิ่มสักเล็กน้อยค่ะ
ชื่อไทย : ผกากรอง (PHA -KA- KRONG) ชื่อพื้นเมือง : ผกากรอง ก้ามกุ้ง เบ็ญจมาศป่า ขี้กา สาบแร้ง ต้นขะจาย ตาปู คำขี้ไก่ และสามสิบ ชื่อวิทยาศาสตร์ : แลนทาน่า แอคคิวลีทา (Lantana aculeate Linn.) และ แลนทาน่า แค็มมีระ (L.camera.Linn.) ชื่อวงศ์ : VERBENACEAE ลักษณะนิสัย : ชนิดพืช [Plant Type] ไม้คลุมดิน ขนาด [Size] สูง 30-45 เซนติเมตร สีดอก [Flower Color] สีเหลือง ขาว ส้ม ชมพู ม่วงอมชมพู หรือมีสองสีในช่อดอกเดียวกัน ฤดูที่ดอกบาน [Bloom Time] ตลอดปี อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] เร็ว ลักษณะนิสัย [Habitat] ชอบดินร่วน ความชื้น [Moisture] ปานกลาง แสง (Light) แดดเต็มวัน ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : เป็นไม้พุ่มที่พบทั่วไปในบ้านเรา เป็นพืชคลุมดิน ลำต้นเป็นพุ่มหรือไม้พุ่มกึ่งเลื้อย แตกกิ่งทอดเลื้อยได้ไกล 1-2 เมตร ใบจะมีสีเขียวเข้ม ใบรูปไข่ขอบใบจักเล็กน้อย ผิวใบจะมีขนอยู่ ทำให้รู้สึกสาก ๆ เมื่อจับต้อง ผกากรองนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ โดยอาจปลูกเป็นแถวหรืออาจปลูกเป็นกลุ่มให้เกิดเป็นพุ่มก็ได้ ดอกของ ผกากรอง มีลักษณะสีสันที่สวยงามมาก มีหลายสีตั้งแต่เหลือง ขาว ส้ม ชมพู ม่วงอมชมพู หรือมีสองสีในช่อดอกเดียวกัน มีกลิ่นฉุน ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแน่นที่ปลายกิ่ง ช่อละ 20-25 ดอก ดอกย่อยรูปกรวย โคนกลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 4 แฉก ทยอยบานจากด้านนอกเข้าไปด้านในช่อดอก ช่อดอกบานเต็มที่กว้าง 3-4 เซนติเมตร ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปไข่ถึงรูปใบหอก กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-6 เซนติเมตร ปลายใบมนกึ่งแหลม โคนใบมน ขอบใบจักซี่ฟัน ผิวใบด้านบนสีเขียวเช้ม หนา มีขนสั้นสากมือ ผล (Fruit) ผลสดมีเนื้อ ทรงกลม สีเขียว เมื่อแก่สีม่วงดำ มีเมล็ดจำนวนมาก การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) ดอกสวย มีสีสัน ปลูกเป็นพุ่มคลุมดิน ริมถนน ทางเดิน ริมทะเล ริมน้ำตก ลำธาร ทรงพุ่มตัดแต่งได้ การดูแลรักษา: แสง ต้องการแสงแดดจัด น้ำ ต้องการน้ำน้อย ดิน สามารถปลูกได้ในดินทุกชนิดแต่ดินที่เหมาะคือดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักบริเวณโคนต้น การขยายพันธ์ : โดยการเพาะเมล็ดและปักชำ (ส่วนใหญ่แล้วนิยมการปักชำเพราะสะดวกและรวดเร็วกว่า) โรคและแมลง : ไม่ค่อยพบโรคและแมลงรบกวนเท่าไหร่ การใช้ประโยชน์จากต้นผกากรอง : - เป็นไม้ประดับ เพราะดอกสวยงามและออกดอกดกตลอดปี ใช้ตกแต่งเป็นแนวรั้วได้อย่างดี - ดอกใช้ห้ามเลือด, ใบ ดอก ราก ใช้แก้อักเสบ - ใช้กำจัดแมลงศัตรูพืช สารมีพิษและสรรพคุณ : ที่ใบมีสารพิษคือแลนทานิน (Lantanin) เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงมาก โดยเฉพาะพวกแพะและแกะ พิษของผกากรองจะมีผลต่อระบบประสาทและจะส่งผลต่อตับ เมื่อสัตว์เลี้ยงกินเข้าไปจำนวนมากจะทำให้ตายได้ ส่วนที่นำมาใช้ทำยา คือ ใบ ดอก ราก โดยเก็บได้ตลอดปี จะใช้สดหรือตากแห้งก็ได้ "ใบ" มีรสขม เย็น ใช้แก้บวม ขับลม แก้แผลผดผื่นคันที่เกิดจากความชื้นหรือหิด ซึ่งเตรียมยาดังนี้นำใบสด10-15 กรัม มาตำและพอกบริเวณที่เป็น หรือ นำใบสดมาต้มแล้วนำน้ำที่ได้มาชะล้างบริเวณที่เป็น "ดอก" มีรสจืดชุ่ม แต่ให้ความรู้สึกเย็น ใช้แก้อักเสบ ห้ามเลือด แก้วัณโรค อาเจียนเป็นเลือด แก้ปวดท้องอาเจียน ต้นผกากรอง สามารถแก้ผื่นคันที่เกิดจากความชื้นและรอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระทบกระแทก โดยเตรียมยาดังนี้ ถ้าเป็นยารับประทานเพื่อรักษาอาการอาเจียนเป็นเลือด แก้วัณโรค แก้ปวดท้องอาเจียน ให้ใช้ดอกสด 10-15 ช่อ หรือ ดอกแห้ง 6-10 กรัม ต้มน้ำดื่ม จนกว่าอาการจะดีขึ้น ถ้าใช้รักษารอยฟกช้ำหรือผดผื่น ให้นำดอกสดมาตำและพอกบริเวณที่เป็น "ราก" ใช้แก้หวัด ปวดศีรษะ ไข้สูง ปวดฟัน คางทูม รอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระแทก โดยถ้าใช้รักษาอาการไข้ คางทูม ให้ใช้ราก 30-60กรัม ต้มน้ำดื่ม และถ้าใช้รักษาอาการปวดฟัน ใช้รากสด 30 กรัมกับเกลือจืด 30 กรัม ต้มน้ำบ้วนปาก การใช้ ผกากรองรักษาโรค ก็มีข้อควรระวัง คือ หญิงมีครรภ์ห้ามรับประทาน ส่วนที่ห้ามรับประทาน สำหรับทุกคนเพราะจะเกิดอันตรายจากพิษ คือ ผลแก่แต่ยังไม่สุกเนื่องจากสารกลุ่ม triterpenoid ได้แก่ lantadene A และ lantadene B ซึ่งรับประทานเมล็ดเข้าไปจะมีอาการเพลีย มึนงง ตัวเขียว ท้องเดิน หมดสติและเสียชีวิตในที่สุด วิธีเตรียมและการใช้ผกากรองป้องกันจำกัดศัตรูพืช : วิธีที่ 1 : บดเมล็ดผกากรอง 1 กิโลกรัม ผสมกับน้ำ 2 ลิตรแช่ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง แล้วกรองเอาไปใช้ฉีดพ่นฆ่าหนอนกระทู้ในแปลงผัก วิธีที่ 2 : ใช้ดอกและใบบดละเอียดหนัก 50 กรัม ผสมน้ำ 400 ซีซี แช่ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วกรองผสมน้ำ 1: 5 ส่วน ใช้ฉีดพ่น
|
บทความทั้งหมด
|
Mulberry Handbags //www.wooden-plantation-shutters-watford-london.co.uk/