กล้วยไม้ติดดินอีกชนิดหนึ่งที่ชอบไม่น้อย "เอื้องพร้าว" โดยทั่วไปถ้าเรียกเอื้องพร้าว มักหมายถึง ชนิดที่กลีบดอกสีออกน้ำตาลและปากสีชมพูบานเย็น เหมือนต้นที่เคยนำมาลงบันทึกแล้ว เอื้องพร้าวตอนเก่าที่นี่ ข้อดีของเอื้องพร้าวคือ วงจรช่อดอกยาวนานมาก ตั้งแต่เริ่มเห็นช่อดอก กว่าจะยืดยาว กว่าจะคลี่บานแต่ละดอก ไปจนสุดปลายช่อ ยาวนานหลายเดือน ไม่ต้องกังวลว่าไปไหนมาไหนกลับมาจะไม่ได้เห็นดอกบาน แต่ข้อเสียคือมีดอกเพียงปีละหนึ่งครั้ง
เอื้องพร้าวต้นใหม่ เดินผ่านไปมาที่ร้านขายหลายเดือน จนเมื่อดอกคลี่บานถึงสังเกตว่าสีนี้ยังไม่มี เมื่อแรกบานกลีบปากขาว กลีบดอกด้านหลังสีขาวด้านในสีเขียว ช่อดอกสีขาวเขียวสวยสงบเย็นตา

เอ็นข้อมือซ้ายยังไม่หายปกติสักที รอจนซิมบีเดียมบานหมดช่อ กัดฟันหยิบกล้องมาบันทึกภาพ การถ่ายภาพแต่ละครั้งสุดทรมานจากอาการปวด ไม่เพลิดเพลินเหมือนเดิม ภาพมีไม่มาก เก็บความสวยงามไม่ค่อยได้ดี รูปร่างดอกสวยกลีบดอกคลี่บานเหมือนปีกนกกางอย่างอิสระ กลีบปากยามแรกบานสีขาวบริสุทธิ์ เมื่อเวลาผ่านไปเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล สวยไปอีกแบบ สีประจำตัวข้าวของเครื่องใช้ตั้งแต่เด็กๆ ถ้าไปซื้อของกับพ่อไม่ต้องเลือกสี พ่อหยิบเหลืองให้เลย พ่อบอกเกิดวันจันทร์

ใกล้ๆอีกสักภาพ วันนี้สีเหลือง ขาว เขียว เฉดนี้สวยสุภาพเรียบร้อย

เอ้องพร้าวต้นนี้ มีข้อเสียอย่างเดียว ดอกเธอหน้าคว่ำ ถ้าเป็นคนหน้าคว่ำหงิกงออย่างนี้ คงไม่ต้องมองหน้ากันเพราะมักอดทนกับคนหน้าหงิกได้น้อยมาก จะจับย้ายกระถางวางที่สูงและยกกล้องขึ้นส่อง คงถูกบ่นมากเพราะนานมากแล้วข้อมือไม่หายสักที ต้องจับก้านดอกเธอแหงนขึ้น ภาพไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

เนื่องจากดอกเธอคว่ำลงขนานกับพื้นดิน ถ้าเดินผ่านจะเห็นแต่ด้านหลังของดอกสีขาว



จับไว้คู่กับสำเภางามเสือทอง สวยไปคนละแบบ สองกระถางนี้ราคาเท่ากัน ซิมบีเดียมได้มาหนึ่งช่อ ส่วนเอื้องพร้าวกระถางนี้มีถึง 5 ช่อ

นำมาตกแต่งวางในสวน สวยเหมือนแจกันดอกไม้แต่อยู่ได้นานคุ้มค่ามาก