มทร. ศรีวิชัย สร้างเครื่องผลิตไม้เทียม เน้นคุณภาพ เทคนิคไม่ซับซ้อน
มทร. ศรีวิชัย สร้างเครื่องผลิตไม้เทียม เน้นคุณภาพ เทคนิคไม่ซับซ้อน
"ไม้ " ได้มีบทบาทและความสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์มาช้านาน นิยมใช้เป็นวัสดุในการก่อสร้าง ผลิตเฟอร์นิเจอร์ เครื่องมือและเครื่องใช้ต่างๆ เช่น บานประตู หน้าต่าง เก้าอี้ โครงสร้างบ้าน ทั้งนี้ เนื่องจากไม้มีความสวยงามและแข็งแรง แม้ว่าในปัจจุบันจะมีวัสดุอื่นๆ ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อใช้แทนไม้ แต่คุณลักษณะที่ดีบางอย่างของไม้ทำให้ปริมาณการใช้ไม้แทนที่จะลดลงกลับเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการตัดไม้ทำลายป่า พื้นที่ป่าลดลงอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสังคมไทยมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านการบริโภค บรรจุภัณฑ์ต่างๆ มีการใช้พลาสติคกันอย่างแพร่หลาย เช่น ขวดน้ำ ขวดเครื่องดื่ม ขวดเครื่องสำอาง และถุงพลาสติค ฯลฯ เมื่อใช้แล้วทิ้งจึงเกิดเป็นมลภาวะ เนื่องจากพลาสติคพวกนี้ย่อยสลายช้าหรือเกือบไม่ย่อยสลายเลย ถ้ากำจัดไม่ถูกวิธีก็ยิ่งเพิ่มมลพิษให้กับโลกมากขึ้น
จากเหตุผลดังกล่าว ผศ.พิทยา อำพนพนารัตน์ อาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ไสใหญ่) ได้คิดค้น "เครื่องผลิตไม้เทียมจากเศษวัสดุ " ขึ้น ซึ่งมีกรรมวิธีไม่ซับซ้อน ต้นทุนต่ำ ใช้วัตถุดิบที่หาง่าย ราคาถูก เพื่อให้ได้ไม้เทียมมาทดแทนไม้จริง โดยการนำขวดพลาสติค (ขวดน้ำดื่มชนิดขุ่น) เกรดรีไซเคิล มาสับย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมกับขี้เลื่อยไม้ยางพารา นำมาหลอมรวมกัน ใส่เบ้าอัดขึ้นรูปหรือกดรีดขึ้นรูป โดยทั่วไปอุณหภูมิของเบ้าสำหรับการอัดอยู่ในช่วง 140-200 องศาเซลเซียส เป็นตัวกดทับ
เบ้าที่ใช้มีหลายรูปแบบแล้วแต่การนำไปใช้งาน เช่น รูปวงกลม รูปสี่เหลี่ยม รูปสามเหลี่ยม เป็นต้น ซึ่งไม้เทียมที่ได้จะมีคุณสมบัติเท่าเทียมกับไม้จริง สามารถตัดแต่ง ไส ตอกตะปู ทาสีได้ มีความแข็งแรง ทนทาน มด ปลวก แมลง ไม่สามารถทำอันตรายได้ สำหรับขั้นตอนการผลิตไม้เทียมจะผสมผสานเทคโนโลยีของเครื่องกดรีดขึ้นรูป (Extrusion Molding) กับเครื่องผลิตเชื้อเพลิงเขียว (Green Fuel) เข้าด้วยกัน เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพื่อให้เหมาะกับวัตถุดิบที่ใช้คือ ขี้เลื่อยธรรมชาติ (ขี้เลื่อยที่ไม่ผ่านการบดละเอียด เพียงแค่ลดความชื้นเท่านั้น) เห็นได้ว่า การนำเอาวัสดุที่ไม่ใช้แล้วแต่หาได้ทั่วไปในสังคมและท้องถิ่นทั้งสองอย่างมาแปรรูปใหม่ ทำให้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมากคือ ได้กำจัดขี้เลื่อยและกำจัดพลาสติค
นอกจากนี้ ยังนำมาประยุกต์กลายเป็นไม้เทียมทดแทนไม้จริง ใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ หรืออาจนำไม้เทียมไปแปรรูปเป็นสินค้าส่งออก หรือสินค้า OTOP ก็ได้ และสามารถส่งเสริมให้ผู้ที่สนใจ บริษัท ห้างร้าน โรงงานอุตสาหกรรม นำเครื่องผลิตไม้เทียมจากเศษวัสดุ เทคโนโลยีที่เน้นคุณภาพ เทคนิคไม่ซับซ้อน ผลิตจากภูมิปัญญาคนไทย ไปผลิตไม้เทียม ส่งขายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศหรือทำใช้ภายในครัวเรือน เป็นการประหยัดเงินและช่วยชาติกำจัดมลภาวะอีกด้วย
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.พิทยา อำพนพนารัตน์ คณะเกษตรศาสตร์ มทร.ศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ไสใหญ่) โทรศัพท์ (087) 277-6189 หรือ E-mail : UPITTAYA@HOTMAIL.COM
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [