ธนู หวิงปัด แนะเทคนิคทำองุ่นหวานส่งประกวด ธนู หวิงปัด แนะเทคนิคทำองุ่นหวานส่งประกวด องุ่น ผลไม้เศรษฐกิจระดับสากลนิยมบริโภคกันทั่วโลก มีมากมายนับร้อยๆ สายพันธุ์ ถ้าเอ่ยถึง "องุ่นหวาน" ในเมืองไทย เชื่อว่าทุกท่านเป็นต้องนึกถึงท้องถิ่นย่านอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เพราะดินแดนแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกองุ่นแหล่งใหญ่ของประเทศ และมีการปลูกกันมาช้านานแล้ว จนองุ่นกลายเป็นผลไม้สัญลักษณ์ของอำเภอดำเนินสะดวกแห่งนี้ไปเลย ซึ่งทั้งๆ ที่ปัจจุบันองุ่นมีการปลูกกันอย่างแพร่หลาย ที่สระบุรีและนครราชสีมาก็เป็นแหล่งปลูกองุ่นแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่ง และเป็นองุ่นสายพันธุ์ต่างประเทศยอดนิยมเสียด้วย แต่ก็ยังไม่อยู่ในความทรงจำของประชาชนทั่วไป ที่ว่าเมื่อนึกถึงองุ่นเป็นต้องนึกถึงดินแดนสวยอำเภอดำเนินสะดวกและตลาดน้ำที่โด่งดังของจังหวัดราชบุรี องุ่นเป็นไม้ผลที่ปลูกไม่ยากแต่การดูแลให้ได้ผลผลิตนั้นยาก และยิ่งจะทำให้ได้ผลผลิตจนสามารถส่งเข้าประกวดในงานประกวดผลไม้จนได้รับรางวัลชนะเลิศนั้นยิ่งยากกว่า เทคนิคการทำองุ่นเพื่อส่งเข้าประกวดนั้นมีขั้นตอนกรรมวิธีมากมาย ผู้ปลูกดูแลจะต้องมีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการให้ปุ๋ย ให้ฮอร์โมนบำรุง เพื่อให้องุ่นได้ผลผลิตตามที่ต้องการได้ จึง "ไม่ธรรมดา อะฮ้า ไม่ธรรมดา" เหมือนอย่างกับ คุณไชยา มิตรชัย เขาร้องไว้ คุณลุงธนู หวิงปัด เกษตรกรคนเก่ง วัย 62 ปี กำลังเอ๊าะๆ สำหรับสาวแก่แม่ม่ายทั้งหลาย ทำสวนองุ่นอยู่ที่บ้านหมู่ 2 ตำบลดอนคลัง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ใช้ชีวิตคลุกอยู่ในสวนองุ่นมานาน บ้านเกิดของคุณลุงธนูเป็นคนท้องถิ่นย่านดอนคลังแห่งนี้ เกิดมาก็เห็นต้นไม้เห็นสวนแล้วรับมรดกวิชาชีพการเป็นเกษตรกรมาจากคุณพ่อคุณแม่ แรกเริ่มเดิมทีคุณลุงธนู บอกว่า ทางบ้านทำสวนพริก มะละกอ ละมุด มาก่อน คุณลุงธนูก็ยึดอาชีพทำสวนเรื่อยมา ราคาผลผลิตของพืชแต่ละชนิดที่ปลูกบางช่วงก็ดีบางช่วงก็แย่ ลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด ระยะหลังเมื่อ 15 ปีก่อน องุ่นเข้ามามีบทบาทในท้องถิ่นย่านอำเภอดำเนินสะดวก คุณลุงธนูก็หันมาปลูกองุ่นกับเขาบ้างเพื่อไม่ให้ตกกระแส และไม่ให้น้อยหน้าเพื่อนบ้านหากองุ่นล่มก็จะได้ล่มด้วยกันเป็นซะอย่างนั้นไป คุณลุงธนู บอกว่า ปลูกองุ่นก็เหมือนพืชทั่วๆ ไปนั่นแหละ บทมันจะไม่ได้ก็ไม่ได้ แล้วแต่ดินฟ้าอากาศ สมัยก่อนยาเคมียังไม่ทันสมัยเหมือนสมัยนี้ การทำองุ่นต้องใช้ฝีมือมาก ใครไม่เก่งพออยู่กับเขาไม่ได้หรอก ครั้นพอมีฝีมือดีๆ กันทุกคน ปลูกองุ่นกันมากขึ้น ผลผลิตออกมามากจนล้นตลาดราคาองุ่นก็ตก คนทำก็หน้าย่น ต้องเป็นหนี้เขาเพราะขาดทุน การทำองุ่นมีต้นทุนสูง หากราคาองุ่นไม่ดี เป็นต้องสะอื้นกันทุกราย การปลูกองุ่นไม่ยากอย่างที่บอกไว้คือ ขุดหลุมเอากิ่งพันธุ์ลงปลูกแค่นี้ก็ปลูกองุ่นสำเร็จแล้ว แต่จะทำให้ได้ผลผลิตดีนั้น คุณลุงธนู บอกว่า ยากพอสมควร ถ้าคนไม่เคยทำแล้วมาปลูกองุ่นเลย รับรองนอนตาลอยก่ายหน้าผากเป็นปีเลยทีเดียว เหตุเพราะการปลูกองุ่นนั้นมีรายละเอียดมาก ต้นทุนสูง คุณลุงธนู กล่าวต่อไปว่า เริ่มตั้งแต่หาซื้อกิ่งพันธุ์มาปลูกก็ต้องเลือกแหล่งที่ไว้ใจได้ กิ่งพันธุ์ต้องดีไม่มีโรคติดมา ราคากิ่งพันธุ์ก็เป็นต้นทุนแล้ว พอได้กิ่งพันธุ์มาก็ต้องมาเตรียมแปลงปลูก ต้องท่วมน้ำไล่โรคไล่แมลงในดินออกให้หมด แล้วยกร่องตีดิน จากนั้นก็ตากดินให้แห้ง พอดินแห้งดีแล้วก็ไถปรับพื้นที่ จึงเอากิ่งพันธุ์ลงปลูก หาไม้หลักปักทำเสาให้ต้นพันธุ์เลื้อยขึ้นไป ระยะนี้ก็ต้องทำค้างเพื่อรับกับยอดองุ่นที่เจริญเติบโตพุ่งขึ้นเร็วมาก ทำค้างสูงประมาณ 1.70 เมตร เมื่อยอดองุ่นสูงขึ้นค้างก็เด็ดยอดออกให้ยอดแตกออกสองข้าง พอยอดยาวประมาณ 1 เมตร ก็เด็ดยอดออกอีก คราวนี้ยอดสองข้างจะแตกยอดออกมาเป็น 4 ยอด และก็เด็ดอีกครั้งเมื่อยอดยาวประมาณ 1 เมตร ยอดก็จะแตกออกเป็น 8 ยอด ยิ่งเด็ดยอดๆ ก็จะแตกออกเป็นสองยอดตลอด คุณลุงธนู กล่าวต่อไปว่า สมัยก่อนกว่าองุ่นจะติดดอกได้ต้องรอต้นสมบูรณ์ดูสภาพอากาศด้วยว่าเหมาะที่จะทำให้องุ่นติดดอกหรือยัง แต่สมัยนี้เขาปลูกองุ่นแบบไฮเทค 8 เดือน ก็เริ่มทำให้ติดดอกกันแล้ว ใช้ยาใช้ปุ๋ยอัดกันเข้าไป เมื่อจะทำผลก็ต้องพรุนเด็ดใบออกให้หมด ดูอากาศด้วยว่าเป็นหน้าไหน ถ้าหน้าหนาวก็ต้องใช้สารกระตุ้นให้ต้นแตกตาดอกเยอะๆ ปุ๋ยทางดินก็ต้องใส่ ก่อนจะพรุนต้องใส่ปุ๋ยตัวกลางสูง พอพรุนเสร็จส่วนใหญ่เขาจะใส่สูตร 15-15-15 สลับ 13-13-21 พอติดดอกติดช่อก็ต้องเสริมด้วยฮอร์โมน สาหร่ายแคลเซียมโบรอน ประมาณ 1 เดือน ดอกบาน ระยะนี้ต้องประคับประคองให้ดี เรียกว่าช่วงนี้ต้องดูแลบำรุงรักษากันสุดฤทธิ์ องุ่นจะติดผลดีหรือไม่ดีก็ตรงช่วงนี้แหละ ต้องฉีดยาป้องกันแมลง เชื้อรา "ยาร้อนก็ฉีดไม่ค่อยได้ ต้องฉีดยาเย็น ขืนฉีดยาร้อนจะทำให้ดอกร่วง" อันว่ายาเย็นหรือยาร้อนนั้นต้องสอบถามร้านขายปุ๋ยยาเคมีในท้องถิ่นดู คุณลุงธนูนั้นเชี่ยวชาญมากในเรื่องนี้ คุณลุงบอกว่า เมื่อองุ่นติดลูกแล้วคราวนี้ค่อยยังชั่ว ต้องดูด้วยว่าในช่อมีเม็ดหินมากไหม ถ้ามีก็ต้องเอายายืดมาฉีดให้มันดีดลูกทิ้งไป แล้วก็ต้องฉีดอาหารเสริมให้ลูกโต ฉีดยายืดอีกด้วย ชนิดของยาอยู่ที่สูตรใครสูตรมัน พอใช้ยายืดเสร็จก็มาใช้ยาขยาย ทางดินใส่ปุ๋ยช่วงแรกใส่ปุ๋ยตัวหน้าสูงให้ต้นมันงามแล้วลูกมันจะโต พอองุ่นได้ 2 เดือน ก็ต้องฉีดฮอร์โมน ทางดินหันมาใส่ปุ๋ยตัวพื้น คือครั้งแรกใส่ปุ๋ยตัวหน้าสูงก่อน ครั้งที่สองใส่สูตรเสมอพวก 16-16-16 หรือ 17-17-17 ก็ได้ ใส่ไป 3 ครั้ง พอครั้งที่ 4 ใส่ตัวท้ายสูง 13-13-21 ก็ได้เวลาองุ่นแก่จัดเก็บได้แล้ว ตอนองุ่นแก่ใกล้เก็บก็ต้องฉีดแคลเซียมโบรอน อาหารเสริมบำรุงด้วย "อาหารเสริมและฮอร์โมนนั้น ลุงฉีดอาทิตย์ละครั้ง เทคนิคทำให้องุ่นลูกยาว ใหญ่ ส่งเข้าประกวดได้อยู่ที่ฮอร์โมน ก่อนเก็บอาทิตย์หนึ่งต้องฉีดยายืดช่อให้มันออกทรง" ส่วนความหวานนั้น คุณลุงธนู บอกว่า ใส่ปุ๋ยตัวท้ายสูง 13-13-21 รับรองหวานชัวร์ไม่มั่วนิ่ม การฉีดยายืดขยายผลจะฉีดต่างหาก ไม่รวมกับฮอร์โมนบำรุงที่เป็นพวกแคลเซียมโบรอนและฮอร์โมนที่ตัวท้ายสูงๆ เช่น 0-0-50 เป็นต้น สูตรการใช้ยาบำรุง การใช้ฮอร์โมนเหล่านี้ คุณลุงธนู บอกว่า ไม่มีใครเขามาสอนหรอก บริษัทขายปุ๋ยขายยาเขาก็ไม่ได้มาสอน เขามาก็จะให้เราซื้อๆ ๆ ๆ ยาเขาลูกเดียว เรื่องเทคนิคและรายละเอียดต่างๆ นั้น เราจะต้องศึกษาด้วยตนเอง ไปพูดคุยกันแล้วก็เก็บเอาข้อมูลเหล่านั้นมาลองทำกับสวนของเรา "สวนละแวกบ้านส่วนใหญ่ก็พรรคพวกกันทั้งนั้น ไม่ค่อยปิดบังกันหรอก" สำหรับการป้องกันโรคระบาดหรือศัตรูองุ่นนั้น คุณลุงธนู บอกว่า ยาป้องกันกำจัดศัตรูต่างๆ จำเป็นมาก ต้องฉีดตลอดขาดไม่ได้เลย เริ่มพอดอกบานก็ต้องฉีดยาป้องกันเพลี้ยไฟ ไรแดง จากนั้นก็ต้องฉีดยาป้องกันหนอน ส่วนมากจะเป็นยาน็อค ถ้าหนอนไม่น็อคคนก็น็อค เพราะมันกินยอดกินใบหมด ยานั้นผสมรวมกันได้ ฉีดทุก 5 วัน 7 วัน ตลอดเว้นไม่ได้เลย ส่วนแมลงวันทองนั้น คุณลุงธนู บอกว่า กลางเดือนเมษายนจะมีมากหน่อย เพราะเป็นช่วงที่มะม่วงกำลังสุก แมลงพอมันลงมะม่วงเสร็จก็จะมาร่วมวงปาร์ตี้ผลองุ่นด้วย ก็ต้องฉีดยาที่มีกลิ่นแรงๆ เหมือนกับไล่มันไป พอองุ่นแก่จัดก็ต้องใช้สารล่อแมลงวันทองเอาไปแขวนไว้รอบๆ แปลง และทั่วบริเวณ คือต้องทำทุกวิถีทางที่เห็นว่าดีสามารถไล่แมลงวันทองไปได้ "แมลงวันทองใช้ยาฉีดไปก็เท่านั้นแหละ เพราะเวลาเราฉีดยามันก็บินหนีไปอยู่ที่อื่น พอยาฉีดหมดมันก็กลับมาอีก ฉีดมากเข้าๆ แมลงวันทองไม่ตาย คนฉีดจะแย่ ทางที่ดีต้องใช้สารล่อหรือกับดักกาวเหนียว" คุณลุงธนูกล่าวและว่า การทำองุ่นให้ได้ผลดีสามารถส่งเข้าประกวดได้ คนทำต้องเข้าใจสภาพธรรมชาติขององุ่น ของสิ่งแวดล้อม ของโรคและแมลงศัตรูองุ่น รวมไปถึงเข้าใจการใช้ปุ๋ย ใช้ฮอร์โมนบำรุง เพื่อให้องุ่นมีช่อและผลใหญ่สวย "คนทำองุ่นนั้นส่วนใหญ่จะมีความรู้ทันๆ กันหมด อยู่แต่ว่าใครจะมีเทคนิค พลิกแพลงมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง" ฉะนั้นการทำองุ่นให้ได้ดีจึงไม่ง่ายเลย มีขั้นตอนมีเทคนิคและกรรมวิธีต่างๆ สลับซับซ้อนมากมาย อย่างที่คุณลุงธนูแนะนำ ที่สวนคุณลุงธนูนั้น ผลผลิตองุ่นที่ได้ออกมา 5 ไร่ จะเก็บองุ่นได้ประมาณ 20 ตัน หรือเก็บผลหมดก็ต้องใส่ปุ๋ยบำรุงต้น ฉีดฮอร์โมนอย่างน้อย 3-4 ครั้ง ให้ต้นสร้างตาดอกขึ้นมา บำรุงให้ใบเป็นมันเข้ม ต้นสมบูรณ์ดี พอเห็นว่าใบองุ่นเข้มสมบูรณ์ใช้ได้ ก็พรุนนิ่ง คือเด็ดใบออกให้หมด ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอทางดิน ฉีดยาล้างไล่พวกไรที่แฝงอยู่ตามกิ่งตามต้นออกให้หมด พอองุ่นเริ่มแตกตาก็ฉีดยาเปิดตาออก เมื่อติดดอกเข้าช่วงดอกบานเป็นระยะสำคัญก็ต้องฉีดยา ให้ฮอร์โมนบำรุงเข้ารอบการบำรุงดอกและผลต่อไป คุณลุงธนู บอกว่า เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ของการทำองุ่นให้ได้ดีนั้นมีมากมาย สำหรับองุ่นที่สวนของคุณลุงธนูปีนี้ตัดเอาไปส่งเข้าประกวดในงานประกวดองุ่น "เทศกาลองุ่นหวานและของดีอำเภอดำเนินสะดวก" ประจำปี 2549 ได้รับรางวัลที่ 1 ซึ่งคุณลุงธนูบอกว่า ลุงเองไม่ได้เอาองุ่นไปประกวดด้วยตนเองหรอก มีพรรคพวกเขามาขอไปประกวดก็ให้เขาไป "เรื่องประกวดลุงไม่สนใจหรอก สนใจเรื่องราคาองุ่นมากกว่า ปีนี้ราคาองุ่นหน้าสวนอยู่ที่ 30-35 บาท ก็พออยู่ได้ครับ ไม่ขี้ริ้วจนเกินไป" คุณลุงธนู กล่าวอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับบอกว่า นี่ถ้าไม่รักกันจริงไม่บอกเทคนิคให้นะนี่ ส่วนท่านที่สนใจอยากจะทำสวนองุ่นกับเขาบ้างก็ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนลงมือปลูก...ค่อยๆ ฝึกวิทยายุทธ์หาประสบการณ์ไป...เรียกว่า "มือใหม่หัดขับ" อย่าผลีผลามเป็นอันขาด..."องุ่น" รับประทานง่ายแต่ไม่ใช่พืชที่ใครๆ คิดจะล้อเล่น ลงทุนปลูกทีละมากๆ เลยเชียวนา...แบบนี้เจ๊งกับเจ๊งมามากแล้ว...สวัสดี
|
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [