มะแขว่นพันธุ์พื้นเมือง และมะแขว่นพันธุ์ใหม่ พืชพรรณดีเมืองพะเยา
รายงานพิเศษ พะเยา เมืองน่าอยู่

การุณย์ มะโนใจ



มะแขว่น พืชพื้นบ้านที่เป็นเครื่องเทศทางเหนือ ชื่ออื่น ลูกระมาศ หมากมาศ (กรุงเทพฯ) กำจัด กำจัดต้น มะแขว่น (เหนือ) มะแข่น มะข่วน บ่าแข่น หมักข่วง (แม่ฮ่องสอน)

ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Zanthozylum Limonella Alston วงศ์ส้ม Rutaceae มี 2 ชนิด คือพันธุ์หนัก และพันธุ์เบา มักขึ้นในป่าดิบแล้ง หรือป่าดิบเขา เป็นไม้ยืนต้น สูง 5-10 เมตร มีหนามตามลำต้นและกิ่งก้าน

ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับกัน มีใบย่อยประมาณ 6-8 คู่ ใบมีลักษณะยาวรีหรือรูปขอบขนาน ฐานใบไม่เสมอกัน ปลายใบเรียวแหลม ดอกออกเป็นช่อและก้านดอกยาว ดอกมีขนาดเล็กสีขาวอมเขียว เป็นดอกไม่สมบูรณ์เพศ คือดอกเพศเมียและเพศผู้อยู่คนละต้น จะออกดอกประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน

ผลมีลักษณะแห้งกลม ผิวขรุขระสีน้ำตาล เมื่อแก่ผลจะแตกจนเห็นเมล็ดสีดำกลม ผิวเรียบเป็นมัน มีกลิ่นหอมฉุนคล้ายผักชี มีรสเผ็ดเล็กน้อย

พะเยา พบในแถบตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง ที่ได้ชื่อว่าเป็นมะแขว่นที่มีคุณภาพดีของภาคเหนือ

มีบทเพลงพื้นบ้านกล่าวถึงมะแข่นว่า "มะแข่นดีปี๋ ไผมีขะใจ๋เอามา คั่วเหียนาใส่ลาบบ่ขื่น" แปลว่า ใครมีมะแข่นกับดีปลี ให้รีบเอามา แล้วคั่วใส่ลาบจะได้ไม่มีรสขื่นมาก นอกจากนี้ ยังนิยมใส่ในยำเนื้อไก่ หลู้ แกงขนุน แกงผักกาด ช่วยทำให้รสชาติของอาหารดีขึ้น และถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ใช้กินแก้สำหรับอาหารจานที่มีเนื้อสัตว์มาก เพราะช่วยย่อยเนื้อได้ ส่วนที่ใช้ในการประกอบอาหารคือ ใบอ่อนและผล ใบและยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดจิ้มน้ำพริก ลาบ ยำ ผล เป็นเครื่องเทศที่นิยมในภาคใต้และภาคเหนือ โดยเฉพาะทางภาคใต้ นิยมผสมในเครื่องแกง เช่น แกงฟักทอง แกงปลาไหล เป็นต้น ช่วยให้แกงมีรสเผ็ดร้อน และมีกลิ่นหอม

สรรพคุณทางยา แพทย์แผนโบราณใช้รากและเนื้อไม้เป็นยาขับลมในลำไส้ ลมขึ้นเบื้องสูงทำให้หน้ามืดตาลาย วิงเวียน ลดความดัน เป็นยาขับโลหิต ระดูของสตรี แต่ไม่ใช้กับหญิงมีครรภ์ เมล็ดสามารถสกัดน้ำมันหอมระเหย

มะแขว่น จัดเป็นพืชเศรษฐกิจของภาคเหนือ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด อายุ 3-5 ปี จึงให้ผลผลิต ปัญหาที่พบในการปลูกมะแขว่นในปัจจุบัน ได้แก่ ปัญหาปลวกกัดกินรากและโคนต้น ทำให้ต้นกลวงและถูกมดดำเข้าทำลายซ้ำ ทำให้ต้นตาย หรือถูกสัตว์จำพวกตัวตุ่นกัดกินราก ทำให้ยืนต้นตายบางส่วน และที่พบเห็นบ่อยคือถูกไฟป่าเผาทำลาย



วิธีปลูกมะแข่วน

วิธีการปลูกมะแขว่น มี 3 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนแรก การเพาะเมล็ดมะแขว่น

นำเมล็ดมะแขว่นสด ขูดเอาส่วนของเนื้อหุ้มเมล็ดออกก่อนโดยใช้ทรายถู จากนั้นนำไปเพาะในกระบะทราย คอยรดน้ำเป็นระยะ แต่อย่าให้น้ำขังมากเกินไปเป็นเวลาประมาณ 1-2 เดือน เมื่อต้นกล้างอกแล้วย้ายลงปลูกในถุงเพาะชำ เพื่อเตรียมย้ายลงแปลงปลูกต่อไป

ขั้นตอนที่สอง การปลูกมะแขว่น

เนื่องจากมะแขว่นเป็นพืชที่ชอบดินที่ระบายน้ำได้ดี และไม่ขังมาก และความสูงของพื้นที่สูงกว่า 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล จึงควรปลูกตามไหล่เขา หรือพื้นที่สูงชัน และการปลูกไม่ควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ย และห้ามรดน้ำมากเกินไป ควรปลูกในฤดูฝน นิยมปลูกสลับกับพืชสวนป่า ระยะห่างของหลุมปลูก ประมาณ 8x8 เมตร

ขั้นตอนการเก็บผลผลิตมะแขว่น

จะเริ่มเก็บผลผลิตเมื่อผลมะแขว่นแก่ โดยจะสังเกตจากสีเมล็ดเปลี่ยนเป็นสีดำ ซึ่งมะแขว่นจะออกดอกและให้ผลผลิตเมื่อมีอายุได้ประมาณ 3 ปี



กิจกรรมการแปรรูปมะแขว่น

มีวิธีการดังนี้

การนำเอาผลมะแขว่นสดไปตากแห้งเพื่อเก็บเอาไว้ขายนอกฤดูกาล การนำเอาผลมะแขว่นสดดองไว้ในขวดแก้ว วิธีการดองมะแขว่น และการทำมะแขว่นป่น

การเตรียมมะแขว่นเพื่อดอง นำมะแขว่นดิบที่เด็ดจากพวงมาล้างให้สะอาด แล้วนำมาผึ่งน้ำให้พอหมาด ต้มน้ำเปล่าให้เดือด และต้มน้ำปลาให้เดือดแล้วทิ้งให้เย็น จากนั้นนำขวดแก้วสำหรับบรรจุไปอบหรือนึ่ง

นำมะแขว่นดิบที่เตรียมไว้ลงลวกในน้ำเดือดแล้วนำไปแช่น้ำเย็น จึงตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ นำน้ำปลาที่เตรียมไว้ เทให้ท่วมผลมะแขว่น บรรจุลงในขวดแก้วที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วนำมาปิดฝาให้สนิท

การทำมะแขว่นป่น นำมะแขว่นแห้งที่เตรียมไว้ใส่เครื่องบดแล้วบดให้ละเอียด บรรจุมะแขว่นที่บดแล้ว ลงในขวดแก้วที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว แล้วปิดฝาให้สนิท



มะแขว่นพันธุ์ใหม่

คุณเจริญ หน่อแก้ว เกษตรกรหัวก้าวหน้าที่ประสบผลสำเร็จผู้ยึดแนวทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ ในพื้นที่กว่า 20 ไร่ ซึ่งแบ่งพื้นที่ปลูกเป็นส่วนๆ โดยมีพืชที่ปลูก เช่น ไผ่ตงหวาน ออกหน่อตลอดปี ไม้ผล พืชผัก ทำนาข้าว เลี้ยงปลา เลี้ยงกบ เลี้ยงปลาในนาข้าว เป็นต้น สวนเจริญฟาร์ม ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ที่ 8 บ้านสันกว้าน ตำบลบ้านตุ่น อำเภอเมืองพะเยา โทรศัพท์ (081) 103-0354 และ (054) 440-862 นับว่าเป็นสวนตัวอย่างและแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานของเกษตรกรรายอื่นๆ ที่สนใจ

ฟังจากคุณเจริญเล่าและผมได้ไปเยี่ยมถึงสวนพบว่า มีพืชที่ปลูกมากมายแต่ทว่าคุณเจริญได้แยกประเภทของพืชเป็นสามลักษณะคือ พืชเศรษฐกิจในปัจจุบัน พืชเศรษฐกิจในอนาคต และพืชพอเพียง

ซึ่งคุณเจริญได้อธิบายว่า

พืชเศรษฐกิจในปัจจุบันคือ พืชที่ปลูกแล้วทำรายได้ดี ในตอนนี้ ได้แก่ ไผ่ตงหวาน ออกหน่อตลอดปี สามารถทำรายได้ถึง 50,000 บาท ต่อไร่ ผักไฮ่ยอด เป็นผักใช้กินยอดทำรายได้ไร่ละเป็นหมื่นบาท เลยทีเดียว มะแขว่นพันธุ์ใหม่ เป็นพืชที่อดีตทำรายได้ดี แต่ตอนนี้ก็ยังทำรายได้ให้สวนอยู่ แต่น้อยลง

พืชเศรษฐกิจในอนาคต ได้แก่ ไผ่หวาน มะพร้าว มะข่วง และไม้ประดับ ซึ่งมีปลูกในสวน แต่ตอนนี้ยังไม่ทำรายได้เข้าสวน

พืชเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ ลำไย ชมพู่ ชะอม ขนุน มะละกอ พริก มะเขือ นอกจากนี้ ยังเลี้ยงปลา และกบอีกด้วย

ในส่วนของมะแขว่นพันธุ์ใหม่ ต้นกำเนิดอยู่ที่ไต้หวัน โดยคนไทยที่ไปขายแรงงานที่นั่นพบ แล้วนำเมล็ดกลับมาเพาะที่พะเยา ในปี 2540 ซึ่งเพาะแล้วงอกเป็นต้นเพียง 2 ต้น เมื่อปลูกไว้ 2 ปี ก็ติดเมล็ดให้ผลผลิต เป็นที่ฮือฮากันในหมู่บ้าน เพราะเหตุว่าไม่เคยมีมะแขว่นในพื้นที่ราบ ส่วนใหญ่มะแขว่นจะเจริญเติบโตบนพื้นที่สูง

เมื่อติดเมล็ดจึงพากันนำเมล็ดมาเพาะต่อๆ กันมา ซึ่งในปี 2543 เป็นจุดเริ่มต้นของมะแขว่นพันธุ์ใหม่จากไต้หวัน โดยผู้ที่เพาะสำเร็จเป็นคนแรกสามารถเพาะได้เปอร์เซ็นต์ความงอกถึง 60 เปอร์เซ็นต์ คือ คุณพ่อปุก เสธา คนอื่นเพาะแล้วไม่งอกแม้แต่ต้นเดียว

คุณพ่อปุกแนะเทคนิคการเพาะให้กับคุณเจริญ ด้วยวิธีการเพาะแบบโบราณ โดยนำเมล็ดมาใส่ตะกล้าเพาะแล้วใส่ดิน จากนั้นจึงรดน้ำจะงอกดี สาเหตุเนื่องจากท่านได้บอกว่าให้นำเมล็ดที่ออกจากเปลือกใหม่ๆ หมายถึงเมล็ดแก่จัด แต่ยังไม่แห้ง นำลงเพาะในตะกร้าทันที ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี จึงมีการเพาะขยายพันธุ์จำหน่าย

สำหรับประโยชน์ของมะแขว่นนั้นทางภาคเหนือนิยมนำมาเป็นเครื่องเทศประกอบอาหารคาว แปรรูปโดยการดองเป็นเครื่องเคียงอาหารประเภทลาบ ส้า แกงอ่อม ยำต่างๆ ทำเป็นพืชสมุนไพรขับไล่แมลง เป็นยาสมุนไพรแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ทั้งในคนและสัตว์เลี้ยง

ข้อดีของมะแขว่นพันธุ์ใหม่คือ ให้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ เมล็ดของมะแขว่นพันธุ์ใหม่มีขนาดโตสม่ำเสมอ ต้นไม่สูงมาก ขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด แต่ไม่ชอบน้ำขัง ด้วยความสูงที่ไม่สูงมากนัก ผู้ปลูกสามารถดูและเก็บเกี่ยวเมล็ดที่อ่อนเพื่อนำไปเป็นเครื่องปรุงหรือกินเป็นเครื่องเคียงได้

จากการพูดคุยกับคุณเจริญ

เราถามว่า การปลูกมะแขว่นพันธุ์ใหม่ดีไหม คุณเจริญตอบว่าดี แต่สำหรับคำถามว่า ปลูกมะแขว่นพันธุ์ใหม่เป็นพืชเศรษฐกิจได้หรือไม่ คุณเจริญตอบว่า ไม่ได้ เพราะหากปลูกน้อยจะไม่มีปัญหาเรื่องตลาด แต่ถ้าปลูกมากๆ จะไม่มีตลาดรองรับ เพราะมีผู้บริโภคน้อย โดยเฉพาะมะแขว่นพันธุ์ใหม่ จะขายเป็นมะแขว่นแห้งหรือทำเป็นเครื่องเทศไม่ได้ เพราะไม่อร่อยและไม่มีกลิ่นหอมเหมือนพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งข้อดีของพันธุ์พื้นเมืองคือสามารถตากแห้งทำเป็นเครื่องเทศ ส่วนมะแขว่นพันธุ์ใหม่ เหมาะสำหรับการบริโภคสด และแปรรูปโดยการดอง ลำต้นใช้ปลูกเป็นแนวรั้วและสามารถขับไล่แมลงได้เนื่องจากมีกลิ่นฉุน แมลงไม่ชอบผลอ่อน นำไปดองช่วยเจริญอาหาร ผู้ที่จะปลูกจำเป็นต้องคำนึงถึงตลาดเป็นสำคัญ ตอนแรกๆ ที่ปลูกคุณเจริญบอกว่าเป็นพืชที่ทำรายได้ดีทีเดียว ปลูกเพียง 100 กว่าต้น เฉพาะปีแรก ขายได้ 20,000 กว่าบาท เป็นพืชที่ดูแลง่าย แต่มาตอนนี้ขายไม่ได้มาก แต่ก็ไม่ขาดทุน

มะแขว่นพันธุ์ใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถนำไปขายที่ตลาดทุกวัน โดยขายปลีกเองจะทำรายได้ให้ดีกว่าพืชอื่น มะแขว่นพันธุ์ใหม่ มีศัตรูคือ ผีเสื้อยักษ์ และปลวกเท่านั้น แต่คุณเจริญเลยปล่อยมะแขว่นพันธุ์ใหม่เป็นพืชประดับสวนไปแล้ว ใช้บริโภคในครัวเรือนและขายส่งให้กับพ่อค้าและร้านอาหารพื้นเมือง

อย่างไรก็ตาม หากท่านสนใจในรายละเอียดเกี่ยวกับมะแขว่นพันธุ์ใหม่นี้สอบถามคุณเจริญได้ที่เจริญฟาร์ม โทรศัพท์ (081) 030-0354 และ (054) 440-862 ยินดีแลกเปลี่ยนความรู้และให้คำแนะนำได้



Create Date : 23 ธันวาคม 2550
Last Update : 23 ธันวาคม 2550 8:07:34 น.
Counter : 12617 Pageviews.

0 comments
บานแข่งกะซากุระ เธอ Heloniopsis orientalis สมาชิกหมายเลข 4313444
(10 เม.ย. 2567 19:35:55 น.)
ดอกไม้หายาก เอื้องดอกมะเขือ สมาชิกหมายเลข 4313444
(3 เม.ย. 2567 13:06:48 น.)
นุ่งซิ่นชมสวน๑/๖๗ ตะลีกีปัส
(3 เม.ย. 2567 10:35:45 น.)
ดอกติ้วขาว บานแล้ว สมาชิกหมายเลข 4313444
(30 มี.ค. 2567 03:12:50 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Hoonvi.BlogGang.com

hoon_vi
Location :
ขอนแก่น  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]

บทความทั้งหมด