น้ำใจไทยช่วยภัยน้ำท่วม(๑๔๓)
@ในยามนี้ บ้านเมืองเรา เศร้ากว่าเศร้า
น้ำไหลเข้า ท่วมไร่นา บ่าท่วมบ้าน
คงเจิ่งนอง อยู่อย่างนี้ ไปอีกนาน
น่าสงสาร คนชายน้ำ ต้องจำจน
@ก็โบราณ ขานกล่าว เล่ากันไว้
ปู่ย่ายาย ใช้แม่น้ำ ทำถนน
เทียวสัญจร ตะลอนมา หาผู้คน
ดูสับสน ขนของแจก แลกกันไป
@จนเกิดเป็น เมืองท่า ไว้ค้าขาย
เนิ่นนานกลาย ขยายเนื่อง เป็นเมืองใหญ่
ริมแม่น้ำ ตามแบบอย่าง สร้างกันไป
บ้างวิไล บ้างเลิศหรู ได้อยู่กัน
@เจ็ดแปดร้อย ปีล่วง ที่ช่วงโชติ
สร้างประโยชน์ ได้สมโภชน์ กันสุขสันต์
ประเพณี คนชายน้ำ สืบทอดกัน
ทุกปีนั้น ผ่านล่วงไป ไม่กังวล
@จนผู้คน ทิ้งร้าง ห่างสายน้ำ
ถนนดำ ทอดยาวไกล ไปทุกหน
กลางผืนป่า ขุนเขา ถูกผู้คน
ที่ซุกซน ขนต้นไม้ ไปสร้างเมือง
@จนภูเขา หลายภูเขา เหลือดินเปล่า
ไร้รากเหง้า มวลแมกไม้ เขียวแดงเหลือง
ยามฝนหลั่ง จากฟากฟ้า มานองเนือง
เข้าท่วมเมือง หลายหลายเมือง ริมชายคลอง
@ก็ใครเล่า เฝ้าทำลาย เมืองชายน้ำ
สร้างความช้ำ ชอกใจ ให้หม่นหมอง
คนชั้นใน ตัดไม้ กันก่ายกอง
ยามน้ำนอง จึงหลากล้น จนเกิดภัย
@คนชายน้ำ จึงรับน้ำ จนช้ำชอก
คิดไม่ออก จะเอาน้ำ ไปไว้ไหน
ได้แต่นั่ง มองน้ำ ช้ำทรวงใน
กรรมหรือไร น้ำตาไหล ใจระทม
@ขอส่งใจ ไปช่วย คนชายน้ำ
ให้หายช้ำ ก้าวผ่าน ความขื่นขม
น้ำใจไทย ทั่วหล้า จะระดม
ไปช่วยถม ความทุกข์ร้อน ให้ผ่อนคลาย
สมบูรณ์ เต็มชื่น/๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๓