เขียนถึงแม่(๑๑๓)
@สังคมไทย สมัยเก่า เราสร้างบ้าน
ปลูกเรือนชาน รายเรียง เคียงกันอยู่
ใครเจ็บไข้ ได้ป่วย ก็ได้รู้
จากเช้าตรู่ จรดค่ำ ช่วยดำนา
@พ่อแม่ลูก ผูกพัน กันเคียงใกล้
ตาย่ายาย ลุงป้าปู่ ดูหรรษา
ค่ำมืดลง ล้อมวง กินข้าวปลา
พร้อมหน้าตา เล่านิทาน ให้หลานฟัง
@สังคมไทย สมัยนี้ ไม่มีแล้ว
อยู่ห้องแถว ใกล้ชิด ไม่คิดหวัง
ไม่พึ่งพิง ไม่สุงสิง ไม่จริงจัง
เป็นไงบ้าง ไม่ถามไถ่ ให้รำคาญ
@เช้าลูกตื่น ไปเรียนร่ำ แม่คว่ำหน้า
ออกเวรมา ตีห้า น่าสงสาร
พ่อออกเร่ ส่งของ เมื่อคืนวาน
คงอีกนาน กว่าจะหลบ มาพบกัน
@บางบ้านแม่ ตื่นเช้า หิ้วข้าวกล่อง
ไปรองท้อง กับลูกชาย ก่อนไก่ขัน
ที่ศาลา ตอนคอยรถ แทบทุกวัน
ส่วนพ่อนั้น เพิ่งเข้านอน ตอนเปลี่ยนยาม
@เป็นอย่างนี้ ก็ชีวิต ในเมืองใหญ่
วุ่นกันไป สุขอยู่ไหน ไม่ต้องถาม
ต้องรีบเร่ง แข่งขัน ทุกเขตคาม
ไม่งั้นตาม หนี้ไม่ทัน ฉันล่ะกลัว
@กลับท้องทุ่ง บ้านนา ดีกว่าไหม
แดดใสใส ฟ้าสีฟ้า ใช่ฟ้าหลัว
สายลมแผ่ว พริ้วพราย รายรอบตัว
ดูฝูงวัว ฝูงควาย ที่ปลายนา
@กลับไปกราบ ตักแม่ ที่แก่เฒ่า
หอบลูกเต้า ไปเยี่ยมยาย บ้างเถิดหนา
กลับไปดู แลแกบ้าง ทั้งยายตา
ปีนี้ปา เข้าไป เท่าไหร่ปี
@ให้ลูกลูก ถูกหญ้าคา บาดขาบ้าง
ไปเก็บซาง ฟางข้าว มาเป่าปี่
ลองให้วิด ลูกคลัก ดูสักที
ของดีดี มีเกลื่อนไป ในทุ่งนา
@เริ่มตั้งแต่ วันแม่ ปีนี้เถิด
จะประเสริฐ กว่าสิ่งใด ที่ใฝ่หา
กลับไปหอม แก้มแม่ อีกสักครา
ตอนแม่...ตา หูยังดี มีเรี่ยวแรง
สมบูรณ์ เต็มชื่น/ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๓