นิราศรักปักษ์ใต้ @ตื่นตีสี่กระปรี้กระเปร่าจัง จะได้นั่งรถใหญ่ไปล่องใต้ คนภาคอื่นตื่นเต้นแสนดีใจ คนภาคใต้ยังไงก็มืดมัว @ตีห้ากว่าแล่นถลาจากโรงเรียน รถวิ่งเวียนวกวนจนเวียนหัว มองเห็นสะพานแขวนดูมัวซัว หลายคนงัวเงียงอนคออ่อนกัน @ก็เพราะตื่นเช้าไปนอนไม่อิ่ม ทำหงุมหงิมง่วงหลับเหลือเพียงฉัน นั่งมองทางมองฟ้ามองตะวัน มันน่าขันนัก-นักเรียนนายอำเภอ @ถูกเขาสั่งเขาสอนให้นอนนั่ง ถูกเขาสั่งจงระวังอย่าพลั้งเผลอ บังคับให้นั่งเรียนเสียจนเบรอ แต่ได้เจอเพื่อนใหม่อีกหลายคน @ผ่าน สมุทรสาคร ตอนเริ่มหาว นาเกลือยาวลิบลับดูสับสน ที่นี่ทำนาเกลือกันทุกคน ริมถนนเขาวางขายออกก่ายกอง @ทำนาเกลือทำง่ายไม่ต้องซื้อ น้ำเค็มหรือหลากหลายไหลตามช่อง ขุดเป็นนาขังน้ำไว้ให้เจิ่งนอง ปล่อยแดดส่องเผาไหม้จนได้เกลือ @ใส่ในถุงน้อยใหญ่ไปวางขาย ทำง่ายง่ายรายได้ก็มากเหลือ ช่างอิจฉาอาชีพทำนาเกลือ ไม่น่าเบื่อเหมือนทำนาบนหลังคน @รถวิ่งลิ่วฉิวผ่าน บ้านหนองเสือ สุดงามเหลือเห็นนาข้าวทุกแห่งหน เขียวขจีลิบลิบสุดตาคน นกกาวนเวียนจ้องมองหาปลา @เห็นนาข้าวแล้วเศร้าจิตคิดสมเพศ ช่างทุเรศแสนทุรังจังเลยหนา ปุ๋ยโคตรแพงยาฆ่าแมลงขึ้นราคา แต่ไหงหว่าราคาข้าวช่างถูกเกิน @ไม่คุ้มแรงกำเคียวเกี่ยวหลังขด เหนื่อยจนหมดแรงเรี่ยวเที่ยวเดินเหิน ขายข้าวแล้วเศร้าใจเสียเหลือเกิน จำต้องเดินน้ำตาไหลกลับไปนา @แปดโมงเช้ากินข้าวที่ เมืองเพชร รสชาติเด็ด แม่ล้วน ไม่กังขา เมนูเด่นไข่มะตูมเด็ดเชียวนา แกงเนื้อมาเคียงทอดมันนั้นปลากราย @แสนเสียดายลิ้นปักษ์ใต้ไม่ใคร่หรอย เผ็ดยังน้อยกร่อยลิ้นกินจืดหลาย แต่ยังดีมีแกงจืดมาละลาย พอรับได้แทนทดซดน้ำเกลือ @ออกเดินทางต่อไปในวิถี ซ้ายขวามีต้นตาลละลานเหลือ ทำขนมทำน้ำตาลหวานเหลือเฟือ มากมายเหลือขนมหวานน้ำตาลแดง @แม่กิมไล้กิมเล้งโน่นกิมโล้ย มากจริงโว้ยวางขายกันเป็นแผง นี่ทองหยิบโน่นทองหยอดนั่นหม้อแกง ขายไม่แพงจัดแจงใส่ในถุงพลัน @เดินทางต่อห้อตะบึงถึง ท่าแซะ เที่ยงกว่าแวะ คุณสาหร่าย ใกล้บ้านฉัน หิวตาลายฟาดข้าวอย่างเมามัน อาหารนั้นแบบบ้านบ้านทานสบาย @ฝนตกพรำฉ่ำฟ้าแกล้มอาหาร เป็นสัญญาณชี้ว่าถึงซึ่งแดนใต้ เมืองชุมพร ด่านหน้าอ้าแขนไว้ ต้อนรับให้ทุกท่านสำราญทรวง @ดินแดนใต้ฝนตกได้ทุกวันวี่ แดดพอมีอุ่นสบายเหมือนแดนสรวง คนเมืองใต้จริงใจไม่หลอกลวง เชิญท่านล่วงล่องเมืองใต้ให้สำราญ @ถึง ไชยา แวะไหว้องค์พระธาตุ เขตประกาศศาสนามหาศาล เป็นเมืองเก่าเก่าแก่แต่โบราณ รุ่งเรืองนานอาณาจักรศรีวิชัย @แวะเข้าไปสวนโมกข์พลาราม ช่างงดงามนานาแมกไม้ใหญ่ เสียงนกการ้องทักดังก้องไพร แสนสุขใจเดินไปก็ชมไป @ก่อนหน้านี้มี " ท่านพุทธทาส " ได้ประกาศหลักธรรมอันผ่องใส ให้ละวางตัวตนทุกคนไป อย่าเที่ยวได้ยึดมั่นถือมั่นเลย @ตอนท่านอยู่ผู้คนช่างล้นหลาม คนคลาคล่ำพร่ำมาเพื่อวางเฉย ดื่มด่ำรสพระธรรมจนปลงเลย ละสิ่งเคยลดสิ่งค้างที่กลางใจ @มาวันนี้หลังที่ท่านละสังขาร พ้นสังสารวัฏฏะเช่นเทียนไข ละลายแท่งเผาไหม้ตนพ้นลับไป เหลือทิ้งไว้พระธรรมคำบูชา @จากสวนโมกข์พ้นโศกพ้นทุกข์เศร้า น้อมยึดเอาคำสอนตามข้างฝา เป็นเข็มทิศนำร่องลำนาวา ชิวิตาต่อไปในโลกจริง @ถึง บ้านดอน แวะนอนที่ " วังใต้ " โรงแรมใหญ่ริมตาปีสงบนิ่ง เป็นสายน้ำแห่งชีวิตให้พึ่งพิง หล่อเลี้ยงสิ่งต่างต่างสร้างสรรค์เมือง @หกโมงเย็นเห็นจ่ามาต้อนรับ เตรียมพร้อมสรรพน้ำเมรัยสีเหลืองเหลือง พร้อมข้าวปลาอาหารอย่างนองเนือง รวมทั้งเครื่องดนตรีมีครบครัน @กล่าวต้อนรับเสร็จสรรพจับไมค์ร้อง ส่งเสียงก้องร้องเพลงแสนสุขสันต์ จนดึกดื่นเมื่อยล้าไปตามกัน หัวหูหันคลานกันไปในห้องนอน @ตื่นเช้ามาคารวะพ่อเมืองใหญ่ มอบหมายให้รองผู้ว่ามาสั่งสอน ให้ความรู้น้องน้องพร้อมไหว้วอน อย่านิ่งนอนดูดายจนตายใจ @หมั่นออกไปให้ความรู้แก่ชาวบ้าน สอดประสานองค์ความรู้แบบใหม่ใหม่ ให้ชาวบ้านอยู่ได้อย่างปลอดภัย จะได้ไม่ประท้วงหน้าศาลากลาง @แล้วออกไปดูงาน"กาญ-ดิษ"ต่อ อบจ.สร้างไว้อย่างกว้างขวาง โรงงานผลิตไบโอฯอยู่ข้างทาง เป็นการสร้างพลังงานจากผลปาล์ม @ลงทุนไปสิบแปดล้านโรงงานเด่น แต่ก็เป็นปัญหาน่าซักถาม จุดคุ้มทุนมีไหมอยากติดตาม วันนี้ความต่อเนื่องจึงไม่มี @คิดไปไยคิดไปก็ปวดหัว ขึ้นรถทัวร์จากไปใช่หลีกหนี เพราะท้องร้องจ๊อกจ๊อกหิวเต็มที มุ่งไปที่ ลำพูสอง คงท้องกาง @อาหารเด็ดเป็ดไก่ไม่พูดถึง ตะลานลึงแลหานัยน์ตาขวาง ปลากะพงนึ่งบ๊วยช่วยนำทาง ปูดำวางตัวใหญ่ได้อารมณ์ @แกงส้มปลากุ้งผัดมะขามเปียก ยินเสียงเรียกข้าวแถมกันเสียงขรม อบจ.จ่ายเงินให้ขอชื่นชม ทุกคนชมหรอยทุกอย่างก้างกองลุย @เสร็จแล้วเคลื่อนเลื่อนล้อห้อหักเห ถึงทะเลคลื่นเห่โชยกลิ่นฉุย หอมน้ำเค็มเห็นทะเลคลื่นโขลุย สุรีย์ลุ่ยรุ่มร้อนอ่อนกายา @โอ้"ขนอม"วันนี้มิเหมือนก่อน ต้องโอนอ่อนเอนไหวเปลี่ยนไปหนา มีโรงงานแยกก๊าซมหึมา สูงเสียดฟ้ากว้างใหญ่ริมชายเล @เอาก๊าซจากอ่าวไทยมาใส่ถัง ส่งทั่วทั้งภาคใต้ไม่ไขว้เขว สร้างเปลวไฟให้เราได้ฮาเฮ เที่ยวเตร็ดเตร่กลางคืนค่ำร่ำเมรัย @อีกรีสอร์ทโรงแรมแซมตามหาด ดารดาษดื่นดับนับไม่ไหว เศรษฐกิจนำพาให้ก้าวไกล ชุมชนในขนอมย่อมไม่จน @จากขนอมเขยกโขยกรถโยกเยก ตามทางเอกสายเอเซียไม่สับสน เพชรเกษมสายสี่ไม่วกวน ขับดั้นด้นถึง นคร ตอนฟ้ามัว @โรงแรมใหญ่ในเมืองเลื่องลือชื่อ ที่ว่าคือ"ทวินโลตัส"ของเจ้าสัว ดอกบัวคู่และสินค้าอีกหลายตัว สีมัวมัวด้วยตัวยาสมุนไพร @ตึกสูงใหญ่หลายร้อยห้องให้จองได้ แสนสบายไม่ว่ามุมไหนไหน เป็นคอมแพล็คพร้อมพรั่งอยู่ภายใน ดูดเงินได้ทุกทุกห้องเชิญลองดู @ทั้งนวดไทยเท็คเลาจน์และโอเกะ ทั้งคาเฟ่ย์คอฟฟี่ช๊อปครบเลิศหรู อยู่คืนเดียวต้องเผ่นเสียแล้วตู ถ้าขืนอยู่คงได้เสียวเชียวหนอเรา @รุ่งเช้าก้าวขึ้นรถด้วยหดหู่ ต้องจากหนูนวดไทยใจหงอยเหงา ไป"สงขลา"หวังว่าคงบรรเทา จะเข้าเล๊าจน์"เลดี้พิ๊งค์"พักพิงใจ @แวะเข้า"วัดพระศรีมหาธาตุ" ดารดาษองค์เจดีย์ทั้งน้อยใหญ่ ร่วมแห่ผ้าขึ้นธาตุปลาบปลื้มใจ ธำรงไว้ศาสนาบูชาธรรม @ก้มกราบ"องค์จตุคาม-รามเทพ" เหมือนได้เสพสุขใจจนอิ่มหนำ ขอให้สมตั้งใจเหมือนดั่งคำ ที่เขาพร่ำ มีกูไว้มึงไม่จน @แล้วเข้ากราบคารวะพ่อเมืองคอน ท่านสั่งสอนเคเอ็มไม่สับสน พร้อมมอบองค์จตุคามให้ทุกคน ไว้เป็นมนต์มหาอุดหยุดเภทภัย @เร่งออกไปดูงานการเกษตร เป็นสาเหตุให้ชาวนาใบหน้าใส น้อมนำเอาความพอเพียงมาเคียงใจ ทุ่มลงไปเทลงดินสิ้นทุกแปลง @ที่"พระพรหม"ชมเกษตรแบบอินทรีย์ "ลุงเชิด"มีทีเด็ดมาแถลง ทุกภาคีร่วมคิดร่วมลงแรง พลิกดินแล้งแห้งน้ำเป็นสำคัญ @จนดินดีมีผักปลอดสารพิษ ชุบชีวิตสร้างรายได้เป็นล่ำสัน เห็นบอกว่าขายดีปลูกไม่ทัน คนขยันหมั่นปลูกลูกสบาย @จากนั้นไป"ช้างซ้าย"หมายลุล่วง บ้าน"ลุงช่วง สิงโหพล"คนมากหลาย รอต้อนรับพวกเรากันมากมาย ดูวุ่นวายเตรียมข้าวน้ำจานชามกอง @บ้านลุงช่วงเรียงรายหลากหลายผัก ถูกใจนักผักบ้านบ้านนั้นทั้งผอง ทั้งผักกูดเล็บยิ่วสะตอดอง ล่องลอยฟ่องผักกะเฉดผักบุ้งไทย @กินอะไรปลูกไว้ทุกทุกสิ่ง เมล็ดหน่อกิ่งปักฝังไว้อย่าสงสัย ทำลืมลืมอย่าคิดรุ่มร้อนใจ ล่วงผ่านไปใบดอกออกพรั่งพรู @อาหารเที่ยงเขาเลี้ยงแบบพื้นบ้าน สุขสำราญใต้ร่มไม้ไม่ต้องหรู ปลาดุกร้าน้ำชุบลองทานดู หรอยจังหูตามด้วยเฉาก๊วยดำ @พออิ่มหนำสำราญลนลานจาก ลุงช่วงฝากเพลงเด็ดแบบขำขำ คุณทำไมแกร้องเสนอนำ จบแล้วจำใจพรากจาก"เมืองคอน" @ออกจากคอนจรไกลไป"สงขลา" หนุกหนักหนา"เมืองหาดใหญ่"แลสลอน ทั้งจีนหรั่งแขกไทยไม่เหมือน คอน เข้าพักผ่อน"ลีกาเด้นท์"เด่นกลางเมือง @มุ่งหมายมั่นปั้นมือซื้อของฝาก หลากหลายหลากขนมส้มแดงเหลือง ช็อกโกเล็ตวางขายทั่วทั้งเมือง ชื่อลือเลื่อง กิมหยงลองไปแล @อีกเสื้อผ้าผลไม้วางขายเกลื่อน พวกของเถื่อนหนีภาษีมิอยากแฉ สันติสุขซีดีเถื่อนวางเป็นแพ ตำรวจแลไม่เห็นบ้างหรืออย่างไร @ยามพลบค่ำคลาคล่ำคนมากหน้า แสงล่อตาสีล่อใจให้หวั่นไหว น้องน้องนุ่งผ้าผืนนิดปิดอะไร ยิ้มแย้มให้ตาเยิ้มเคลิ้มเลยเรา @"พิ๊งค์เลดี้"มีนวดนาบหยาบละเอียด นั่งเบียดเสียดเต็มตู้ดูหงอยเหงา น้ำมันแพงไม่ค่อยมีคนมัวเมา หนูเลยเศร้าน้องเลยสร้อยหงอยทรวงใน @อีกของกินมากมายรายทางล้วน กลิ่นเชิญชวนเรียกน้ำย่อยให้หลั่งไหล ชี้เชิญชวนชิมไปแถมบ่นไป ช่างเหมือนใครบางคนสับสนจริง @ตื่นเช้าเดินทางไกลไป สะเดา ฟังเขาเล่าเรื่องร้ายหลากหลายสิ่ง สี่อำเภอของสงขลาเขาแย่งชิง ลำบากยิ่งยิงกันทุกวันคืน @ตอนหลังดีมีในหลวงทรงรับสั่ง เข้าใจบ้างเข้าถึงบ้างอย่าขัดขืน พัฒนาให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน จะพลิกฟื้นคืนคนเขาเป็นคนเรา @ให้ชาวบ้านช่วยชาวบ้านที่ลำบาก ใครอดอยากยากไร้อย่าทิ้งเขา ติดอาวุธทางปัญญาอย่าหูเบา ปล่อยให้เขาปั่นหัวได้ไร้เกียรติตน @ไทยฆ่าไทยแล้วใครจะเหลือเล่า อย่างี่เง่าให้เขาสร้างความสับสน แผ่นดินไทยหน้าไหนอย่ามาปน อย่าคิดค้นหมายยื้อแย่งแบ่งดินแดน @ขอสาปแช่งพวกแบ่งเชื้อแบ่งชนชาติ อย่าบังอาจดินแดนไทยไทยหวงแหน สมบัติปู่ทวดย่าอย่าดูแคลน พันหมื่นแสนล้านโกฎิปีต้องมี ไท @เที่ยงกว่ากว่าเดินทางมา ร้านป้าแผ้ว ได้กลิ่นแล้ว แกงไตปลาน้ำลายไหล เสียงก๊องแก๊งกินข้าวอย่างว่องไว เพื่อจะได้เข้าไป มาเลเซีย @ถึง ด่านนอกตะโกนบอกขอเข้าหน่อย เขาก็ปล่อยให้เข้าเงินไม่เสีย นายอำเภอกับจ้าวด่านตามมาเคลียร์ มาเลเซียเพลียใจไม่กล้าชน @ดิวตี้ฟรีมีของขายหลากหลายอย่าง อส.ย่างตามติดคิดช่วยขน จับจ่ายซื้อสินค้ากันทุกคน ดูสับสนวุ่นวายจนลายตา @เห็นปากกาเชฟเฟอร์เออช่างถูก ใจพันผูกคลั่งไคล้เป็นหนักหนา เลือกเลือกเลือกจนได้ติดมือมา ร้อยกว่ากว่าแต่ดูดีมีสกุล @บางคนเลือกกระเป๋าลากโครกครากล้อ บางคนปร๋อเข้าใกล้ไปอุดหนุน บางคนเลือกซื้อน้ำหอมกลิ่นละมุน บางคนวุ่นเลือกหาสุราดี @เหล้าบุหรี่หลายยี่ห้อรอจำหน่าย เขาลดให้เป็นพิเศษคณะฯนี้ เดินสองชั้นกินเวลาหลายนาที พอเสียทีลาเจ้าสาวมาเลย์ @บ่ายอ่อนอ่อนพักผ่อนโรงแรมเก่า ปวดหัวเข่าหิวโซตาโหลเหล ต้องหากินกันเองกันทั้งเพ เขาไม่เปย์เขาไม่เลี้ยงเดี้ยงไปเลย @เดินทอดหุ่ยฉุยฉายไปตามตรอก ดูย้อนยอกวกวนสับสนเหวย เจอก๋วยจั๊บปีกไก่รีบสั่งเลย รสคุ้นเคยอร่อยลิ้นกินเกลี้ยงชาม @สองทุ่มครึ่งบึ่งไปในโรงหนัง มีคนนั่งข้างในไม่ล้นหลาม เพียงเก้าคนดูไปไม่มากความ เกือบสองยามซมซานคลานไปนอน @เช้าวันศุกร์รีบลุกขึ้นอาบน้ำ ใจชุ่มฉ่ำโทรทางไกลกันสลอน บ่นคิดถึงคนึงหาแม่บังอร อรชรอ่อนองค์เจ้าคงคอย @รอพี่นิดเถิดหนาแม่ตาหวาน อีกไม่นานจะกลับมาอย่าเหงาหงอย น้องจงหมั่นผัดแป้งไว้รอคอย พี่จะถอยหมอนน้องให้ผ่องพรรณ @จงเข้าใจไกลเจ้าพี่เฝ้าเพ้อ หลงละเมอเผลอไผลเก็บไปฝัน คิดถึงนิ่มเนื้อน้องทุกคืนวัน เร่งตะวันเร่งเดือนเคลื่อนคล้อยไป @ยามจะกินพี่ก็กินไม่ค่อยอิ่ม ภาพรอยยิ้มแก้วตาพาหลงใหล ยามหลับตาเห็นใบหน้าอยู่ร่ำไป นางไหนไหนไม่งามเท่าแม่เจ้าเลย @ตื่นภวังค์ขึ้นไปนั่งที่บนรถ ใจจ่อจดกลับไปหาแก้วตาเอ๋ย รอหน่อยหนาขอเวลาไม่มากเลย จะไปเชยดวงชีวาตั้งตาคอย @พอสายหน่อยรถเคลื่อนคล้อยไปช้าช้า ลาก่อนหนา แดนใต้ใจเหงาหงอย สักวันหนึ่งข้างหน้าเจ้าจงคอย จะย้อนรอยมากรีดกรายหลายหลายเมือง @นิราศนี้เห็นทีจะต้องจบ ตอนขาหลบเหนื่อยล้าจนตาเหลือง ขอพักผ่อนหน่อยหนาอย่าขุ่นเคือง รถเร่งเครื่องเราเร่งหลับคอพับลง เขียนโดย boonja@krabi ที่ 4:52 นิราศเหล่านี้แต่งตอนไปเข้าโรงเรียนนายอำเภอปี๒๕๕๑
เรื่องราวเลยเป็นความสัมพันธ์กันระหว่างนักเรียนนายอำเภอ ๙๔ คน ..ไว้ว่างๆจะแต่งนิราศที่เป็นนิราศทั่วไปให้อ่านกัน ..ขอบคุณสำหรับการแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมนะครับ.. โดย: อาบูรณ์
![]() |
บทความทั้งหมด
|
แต่งยาวมาก อ่านเพลินเลยค่ะ