ปกติไม่ชอบดูรายการแข่งขันร้องเพลงเท่าไหร่
เพราะรำคาญพวก Commentators
จะบอกว่าเค้าพูดตรงไปตรงมา..มันก็ไม่ใช่นะ
บางคนพูดแรงมาก....
แรงจนเราคนฟังรู้สึกสงสารผู้เข้าแข่งขันเลย







Commentators บางคนทำตัวเป็นไฮโซ
แต่ปากปลาร้ามาก...บางทีด่าแรงเกินไป
ไม่ไหวรับไม่ค่อยได้
ก็เลยไม่ชอบดู






รายการแนวประกวดร้องเพลงอยู่แค่ 2 รายการที่ชอบดู
รายการแรก...
คือ รายการชิงช้าสวรรค์
ตอนสุดท้ายที่ผลการประกวดออก...
จะเห็นน้องๆ ที่แข่งแล้วตกรอบร้องไห้กระจองอแง
แต่ก็ได้เห็นความมุ่งมั่นของเด็กๆ ที่จะฝึกฝนให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
แล้วกลับมาประกวดอีกครั้ง



อาเจ้ฯ ชอบ....เวลาที่เห็นเด็กเค้ามีแรงบันดาลใจขนาดนี้






รายการที่สอง คือ The Voice
ดูตั้งแต่ Season แรก
จนถึง Season นี้
คนเรามันต้องมีธุระปะปังกันบ้าง
ไม่ได้ติดขนาดแบบจะลงแดงตาย
เอาเป็นว่า...จะดูทุกครั้งที่มีโอกาสมากกว่า...






อ๊า...นอกเรื่องไปยาวเลย
ในความรู้สึกของอาเจ้ฯ..รายการนี้ให้ความแปลกใหม่นะคะ....
จะสรุปเป็นหมวดๆ ให้อ่านง่ายๆ เป็น 6 หัวข้อละกันเนาะ






1. การให้โอกาสคน

มันมีนักร้องมากมายที่ขาดโอกาสเพราะหน้าตา
ไม่ใช่เค้าหน้าตาไม่ดีนะ
คือ เค้าหน้าตาปกติเหมือนเราๆ ท่านๆ นี่แหล่ะ
แต่นักร้องที่ร้องกันอยู่ทั่วไปบนเวทีเค้าแต่งกันเยอะ
เลยทำให้....เราฟังเพลงด้วยหู + และเสพหน้าตาของนักร้องด้วยสายตาไปด้วย





การ Blind Audition ทำให้มันขจัดอคติของหน้าตาได้ แทบ 100 %
โค้ชทุกคนได้ฟังเฉพาะเสียงเท่านั้น....
พอกดปัง...น้องเค้าเป็นทอมซะงั้น
แต่เสียงหวานมาก.....
นี่แหล่ะ...คือ ความเจ๋งของการ Blind Audition






2. การทำหน้าที่ของนักร้อง


ระหว่างนักร้องร้องเพลงไป...
ก็จะมีการตัดภาพมาด้านข้างเวทีให้เราเห็นด้วย
ว่านักร้องคนนี้มีใครมาให้กำลังใจบ้าง
ส่วนใหญ่ก็จะพาครอบครัว และก็เพื่อนมาเป็นกำลังใจกัน






นักร้องก็ทำหน้าที่ของตัวเองไปจนสุดความสามารถ
จนไปสะดุดตากรรมการซักคน.....
กดเลือกเค้า....ให้เข้ารอบ





อาเจ้ฯ เห็น...
แววตาของพ่อแม่เค้าเปลี่ยนเลยนะ
เป็นดีใจสุดชีวิต
ทุกคนแค่มองว่า...
ให้โอกาสลูกได้ทำตามความฝันของตัวเอง






แต่การได้ทำตามความฝันของลูก...
นอกจากประสบความสำเร็จได้มาร้องเพลงออกทีวีแล้ว (1)
ยังมีโค้ชเห็นความสามารถเลือกให้เข้ารอบอีกด้วย (2)
มัน 2 เด้งเลย






ยิ่งนักร้องบางคน....คิดว่าตัวเองหมดโอกาสแล้ว
มันใกล้จะจบเพลงแล้ว...ไม่เห็นมีโค้ชคนไหนเลือกเลยว้า...
และแล้วโค้ช...ก็มากดเอาวินาทีสุดท้าย
แม่งงงง....แทบช็อคตาย...





อาเจ้ฯ ได้เห็นความอบอุ่นของครอบครัว ของเพื่อนๆ ที่มาให้กำลังใจ
อาเจ้ฯ เข้าใจเลย...เพราะมันจำเป็นจริงๆ นะ
สำหรับคนที่กำลังทำงานใหญ่อยู่...
ต้องการกำลังใจจริงๆ ค่ะ...
อารมณ์เดียวกันอ่ะค่ะ







3. Comment ของโค้ช

ทางรายการเลือกโค้ชได้ดีมาก
4 คน มีความต่างที่ลงตัวมาก
อาเจ้ฯ ชอบนูโวมาตั้งแต่มัธยม
ก็ต้องชอบพี่ก้องเป็นปกติอ่ะเนาะ






ชอบฟังพี่คิ้ม...ร้องเพลงมาอยู่แล้ว
แล้วพอมาเห็นการทำหน้าที่โค้ชในรายการนี้
รู้สึกว่า...ชอบกับ Comment ของพี่คิ้มนะ
บางคนว่าแรง....แต่อาเจ้ฯ ว่าตรงประเด็น
ใช้คำที่เห็นภาพมาก....
และ Comment  แบบนักร้องที่รู้จักการร้องเพลงอย่างแท้จริง






การ Comment ของพี่คิ้มลึก..และจริง
ไม่ได้ใช้คำเริ่ดๆ ทับศัพท์เกี่ยวกับการร้องมาก
ซะจนเราไม่เข้าใจ....
คำบางคำมันเฉพาะทางเกินไปค่ะ
เฉพาะนักร้องกับนักดนตรีเท่านั้นแหล่ะจะเข้าใจคำพวกนี้
แต่พี่คิ้มใช้คำพื้นฐานที่เข้าใจกันได้ทุกคน...
เอาเป็นว่าอาเจ้ฯ ปลื้มเจ๊เค้ามากละกัน





มันไม่เหมือนบางเวทีที่ใช้นางแบบรุ่นเก่ามา Comment
ซึ่งอาเจ้ฯ ก็งงว่าการเดินแบบ...มันเกี่ยวกันยังไงกับการร้องเพลงว๊ะ...




โค้ชแสตมป์..ก็ได้ฟังเพลงบ้างประปราย
คือป้าแก่..จะไม่ได้บ้าฟังเพลงเหมือนวัยรุ่น
ก็จะรู้จักเพลงบ้าง..ไม่รู้จักบ้าง






แสตมป์ใช้คำในการ Comment ได้แปลกและคมมาก
คือ มันชัด..ตรงไปตรงมาดี
บางทีแอบแนวน่าสงสาร....เวลาขอให้ลูกทีมเลือกเค้าเป็นโค้ช
ชอบมุมมองของแสตมป์ในการมองสิ่งต่างๆ
รวมถึงการมองน้องๆ ที่เข้ามาในทีมของเค้าด้วย
เป็นผู้ชายคิดบวก...ที่น่ารักทีเดียว







คนสุดท้าย...นี่ตั้งใจเอาไว้สุดท้ายเลย
คือ พี่โจ้...โจอี้บอย
อาเจ้ฯ เป็นแฟนคลับของพี่โจ้มาตั้งแต่อัลบั้มแรก
เป็นขาฟังเพลงแรพ...
ไม่เชื่อใช่ม๊า...




บางคนว่าพี่โจ้ใช้คำหยาบในการ Comment
เช่น...พูดกู-มึง, แม่ง
แต่อาเจ้ฯ คิดว่า เคมีเจ้คงตรงกับพี่โจ้มากกว่า
ชอบว่ะพี่....








นักร้องคนไหนที่ Blind Audition แล้วพี่โจ้เลือก
มักจะเป็นคนที่อาเจ้ฯ คิดว่าพี่โจ้ต้องเลือกคนนี้แน่...
แปลกว่ะ ....พี่โจ้เลือกจริงๆ

แล้วคนที่พี่เลือก....พี่สามารถเทรนเค้าและทำให้เค้ามีพัฒนาการแบบ Up  Level  ได้เยอะมาก
อาเจ้ฯ คิดว่าด้วยความจริงใจของพี่นี่แหล่ะ
ทำให้เค้ามั่นใจว่าเค้าทำได้...
เลยตั้งใจฝึกซ้อมกันสุดๆ





4. ได้ฟังเพลงเพราะๆ...จากเพลงที่ไม่เคยสนใจเลย...


หลายเพลงในรอบ Battle ไม่เคยได้ยินอ่ะ
คงเพราะไม่ชอบนักร้องต้นฉบับมั๊ง...เลยไม่เคยได้ฟังมาก่อน
จริงๆ นะ






ตอนนี้ชอบเพลงคุกเข่าที่ "น้องวี กับ น้องแอน" Battle กันไว้
ชอบการร้องสไตล์นี้อ่ะ...
ไปฟังต้นฉบับแล้ว...จบข่าว...
ไม่พูดถึงนะ..เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน
มาได้ยินจากที่น้องสองคนเอามาร้องนี่แหล่ะ...
ชอบกว่าเยอะเลย







5. อำนาจเปลี่ยน

งงใช่มะ...เกี่ยวข้องไรกับอำนาจวะ




ตอนนักร้อง...เริ่มร้องเพลง
ทุกคนร้องไป...พร้อมกับใจหวั่นไหวข้างใน
ว่าจะมีใครเลือกกูไม๊ว๊า.....
อำนาจอยู่ในมือโค้ช.....







พอนักร้องได้ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มความสามารถ
มันไปเข้าตาโค้ชทุกคน....กดให้หมด
อำนาจมันเปลี่ยนมาหานักร้องแล้วล่ะค่ะ
โค้ชก็จะเสนอตัวเองให้นักร้องเลือกเค้าแล้วล่ะ
เห็นไม๊คะ....ว่าอำนาจเปลี่ยน





การทำหน้าที่เต็มความสามารถของเรา
ทำให้ผลงานออกมาดี...
ใครๆ ก็อยากได้...
ดังนั้น...แค่เราทำหน้าที่ให้ดีที่สุด..
อำนาจก็จะอยู่ในมือเรา





6.จังหวะของชีวิต



นักร้องที่เข้ามาประกวดร้องเพลงเพราะเกือบทุกคนนะ
อย่างวันนี้รอบสุดท้าย
น้องผู้หญิง-สงกรานต์
ร้องเพลงเพราะทั้งคู่






แต่มันเป็นที่จังหวะของชีวิตของแต่ละคนมากกว่า
หรือบางคนอาจจะเรียกว่า "ดวง"
ทำให้สงกรานต์ชนะ
อาเจ้ฯ เชียร์ทั้งคู่เลย
ใครชนะก็ได้...เค้าสง่างามทั้ง 2 คน





แต่จังหวะของชีวิตคนไม่มีใครรู้ล่วงหน้าหรอกค่ะ
ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา...แต่วันนี้จังหวะเป็นของสงกรานต์
ยังไงก็อาเจ้ฯ ขอแสดงความยินดีกับสงกรานต์ด้วยนะคะ
กับชัยชนะในครั้งนี้.....





ขอให้ชีวิตข้างหน้าได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก
และทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น....
ขอแสดงความยินดีกับน้องสงกรานต์อีกครั้งนึงค่ะ