มันไม่แปลกนะ...ที่ไม่มี Facebook
หลายๆ ครั้งที่อาเจ้ฯ บอกใครๆ ว่า
"กูไม่มี Facebook"
ทุกคน..จะร้องฮ๊า
แล้วหันมามองอาเจ้ฯ อีกรอบนึง
เหมือนให้แน่ใจ...ว่าจริงเหรอวะ
จริงๆ ค่ะ
อาเจ้ฯ ไม่มี Facebook
และก็คิดว่า
ในชีวิตนี้ไม่จำเป็นต้องมี Facebook อีกด้วย
เราดูแลเพื่อนเราดีอยู่แล้ว
จนเราไม่เคยขาดหายจากเพื่อนเลย
เบอร์โทรศัพท์มือถือไม่เคยเปลี่ยนมา 18 ปีแล้ว
เพื่อนส่วนใหญ่จำได้
และเบอร์มันก็สวยด้วย...จำได้ง่าย
ใครมีปัญหาทุกข์ร้อนอะไร
ดึกดื่นขนาดไหน
อาเจ้ฯ รับโทรศัพท์ตลอด
เคยมีถึงขนาด....โทรมาตอนตี 4
มันคิดอะไรไม่ออกแล้ว
นั่งร้องไห้มาตลอดทั้งคืน
ไม่รู้จะโทรหาใคร
ก็นั่งไล่มองเบอร์ในมือถือของมันเอง...
แล้วมาถึงเบอร์ของอาเจ้ฯ ก็ตัดสินใจโทรมาทันที
อาเจ้ฯ ก็งัวเงียมาคุยกับมัน
ฟังมันเล่า...มันบ่นความทุกข์ใจของมัน
ให้กำลังใจ...ปลอบ..ด่า...ฯลฯ สารพัด
หลายๆ ครั้ง..ตัวอาเจ้ฯ เองก็มีปัญหาในชีวิต
หลายคน....เรียกตัวเองว่า...เพื่อน...
แต่ตัวเองไม่เคยทำหน้าที่เพื่อน
หลายคนทำหน้าที่ของการเป็นเพื่อนได้ดีมาก
ทุกเวลา...ทุกครั้งที่อาเจ้ฯ มีปัญหา
มันทำหน้าที่ในการเป็นเพื่อนได้ดีมาก
จนเรา...
เหลือคนที่เป็นเพื่อนจริงๆ ในจำนวนที่พอดี
และเหมาะสมกับที่เค้าเป็นจริงๆ
ไม่ใช่ทุกๆ คน คือ เพื่อน
เพราะคำว่าเพื่อนมันยิ่งใหญ่
เกินกว่าจะพูดกันเล่นๆ ง่ายๆ
ดังนั้น..
หนทางพิสูจน์ม้า...กาลเวลาพิสูจน์คน
มันใช้ได้ผล....
เราไม่จำเป็นต้องมีเพื่่อนใน Facebook เป็นหลายร้อยคน
แต่จับต้องอะไรไม่ได้เลย
แค่เพื่อนเพียงไม่กี่คนในชีวิตจริงที่เรามี
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะค่ะ
อย่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับ Like ลวงๆ
เล่น Facebook อย่างมีสติ
เงยหน้ามองโลกกว้างบ้าง
ไม่ใช่มันแชทซะจนไม่ได้เงยหน้ามามองโลกกว้าง
มองคนที่เดินสวนกับเรา....แล้วเค้ายิ้มให้
ชีวิตที่นอกเหนือจาก Facebook มันมีความเป็นจริง
มันจับต้องได้
และมีความสุขกว่าเยอะ
อาเจ้ฯ มีโอกาสเมื่อไหร่ก็จะบอกทุกคนที่ติด Facebook อย่างงอมแงม
ว่า
"ชีวิตใน Facebook มันก็เป็นชีวิตเสมือนแบบนึงเท่านั้นเอง...เรายังมีชีวิตจริงๆ ที่เรายังต้องดำเนินต่อ"
"ผู้ชายที่เข้ามาจีบใน Facebook ก็เหมือนผู้ชายสมัยก่อนที่จีบผู้หญิงด้วย ICQ หรือ MSN มันหาความจริงใจไม่ได้ อย่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับคนพวกนี้มากนัก...เอาชีวิตของตัวเองกลับคืนมาซะเถอะ"
คนที่ติด Facebook มันจะอ้างว่า
เล่น...เพราะได้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน
และไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์อีกด้วย
แต่อาเจ้ฯ ยังมองเห็นความงามของการติดต่อสื่อสารด้วยวิธีอื่นๆ อยู่
ว่ามันแสดงให้เห็นความคิดถึง...ความห่วงหาอาทร...
ถึงแม้ว่าจะเสียค่าโทร...หรือค่าใช้จ่าย
แต่อาเจ้ฯ ว่ามันก็อยู่ในเกณฑ์ที่เรายอมรับได้
อาเจ้ฯ จะไม่ใช้มัน....
จนกว่า..จะต้องจำเป็นต้องใช้มันจริงๆ
และตั้งใจจะไม่ใช้ให้ได้
ให้โลกมันรู้ไปเลย
ว่าไม่มี Facebook แล้วกูจะตาย
ขอมีชีวิตแบบไม่ต้องไปสาระแนกับเรื่องของคนอื่นๆ หน่อยเหอะ
แล้วแอบปิดไปสามหนแล้ว เคยคิดว่า เป็น
ชายสามเฟซนี่มันจะคบไม่ได้หรือเปล่า เลย
ไปเปิดอีกครั้งเมื่อสิบกว่าวันนี้ แต่ผมว่า ครั้ง
ที่สี่นี่ก็อายุสั้นครับ ยังไม่ทันไรเลย มีไอ้บ้า
ที่ไหนไม่รู้ เข้ามาโวยวายเรื่องสีจนผมอยาก
เขกหัว...เอ่อ... หัวผมเอง