วลีวิไล
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
10 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add วลีวิไล's blog to your web]
Links
 

 
บทที่ 4 ความลับ? (ครบทั้งบทแล้วฮับ)




ในที่สุดก็ครบทั้งตอนซะที แหะๆ





แสงแรกของวันยังไม่ทันเดินทางมาถึง วรกายสูงใหญ่ก็เคลื่อนไหวช้าๆ ก่อนจะหันไปมองร่างเล็กซึ่งนอนอยู่อีกด้านของเต็นท์

รอยยกยิ้มที่ริมโอษฐ์ปรากฏขึ้นจางๆ ก่อนที่เจ้าชายรัชทายาทจะทรงส่ายพระพักตร์เล็กน้อย ทรงออกนอกเต็นท์ไปจัดการสรงพระพักตร์ แปรงพระทนต์ จนเรียบร้อย แต่คนในเต็นท์ก็ยังไม่ตื่น ราเชนทร์ซึ่งทำหน้าที่พ่อครัวจำเป็น ก่อเตาต้มน้ำร้อน ชงชาชนิดพิเศษส่งกลิ่นฉุยลอยมา

“ยังไม่ตื่นอีกหรือกระหม่อม”

“ยังเลย สงสัยจะเพลีย”

“ไม่ได้เรื่อง” ราเชนทร์ได้ทีทับถม

ศวัสธรทรงพระสรวลเบาๆ ก่อนจะดำเนินกลับเข้าไปด้านใน คนตัวเล็กยังคงนอนนิ่ง ใบหน้าแดงก่ำจนเจ้าชายแปลกพระหทัย ทรงเอื้อมพระหัตถ์ไปแตะที่หน้าผากก็ทรงสัมผัสกับไอร้อน...ร้อนจนน่ากลัว

“ราเชนทร์!!” ศวัสธรทรงรับสั่งเสียงดัง เพียงชั่วอึดใจร่างใหญ่ของราชองครักษ์ก็ปรี่เข้ามาคุกเข่าอยู่หน้าเต็นท์รอรับคำสั่ง

“มีร์ตัวร้อนมาก เอาล่วมยาในรถมาให้เราหน่อย ขอน้ำอุ่นสำหรับเช็ดตัวด้วย”

“กระหม่อม”

ราเชนทร์รับคำแล้วรีบวิ่งกลับไปที่รถ รื้อค้นล่วมยาจากท้ายรถ จากนั้นวิ่งไปคว้ากาต้มน้ำ เทลงในชามอ่างแล้วผสมน้ำเย็นลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อทดลองวัดระดับความร้อนแล้วว่าอยู่ในระดับอุ่นพอดี จึงยกชามอ่าง และล่วมยาก้าวเดินกลับมาที่เต็นท์อย่างรีบเร่ง

แม้เจ้าชายจะทรงสุขุมลุ่มลึก แต่ราเชนทร์รู้ดีว่าในยามที่ทรงพระหทัยร้อนขึ้นมา ลาวาในภูเขาไฟก็ยังร้อนไม่เท่า สีพระพักตร์เมื่อสักครู่นี้ แสดงให้เห็นว่าทรงร้อนพระหทัยกับอาการของเด็กคนนั้นเป็นอย่างมาก

“เอาผ้าชุบน้ำร้อนมาให้เราก่อน”

“จะดีหรือกระหม่อม ข้าพระองค์เช็ดตัวให้เด็กมีร์น่าจะเหมาะสมกว่า”

ศวัสธรทรงยกพระหัตถ์ขวาขึ้นเสมอพระพักตร์ ยังผลให้ราเชนทร์สงบปากสงบคำ พระพักตร์นิ่ง ริมโอษฐ์เหยียดเป็นเส้นตรง เป็นสัญญาณว่า...เฉยไว้แล้วจะดีเอง

“ข้าพระองค์ออกไปรอข้างนอกนะกระหม่อม” ราเชนทร์ถวายความเคารพแล้วมุดออกจากเต็นท์ไปจัดการกับสัมภาระภายนอก

ศวัสธรทรงซับน้ำอุ่นออกจากผ้าขนหนูสีขาวสะอาดผืนกำลังเหมาะ เช็ดใบหน้ามอมแมมของคนที่นอนคุดคู้ เมื่อผิวหน้าถูกสัมผัสด้วยผ้าอุ่น เด็กหนุ่มก็ครางฮื้อฮ้า เอามือปัดป้องไปมา แถมยังบ่นอุบอิบจนฟังไม่ออก คนที่กำลังเช็ดหน้าให้แย้มสรวลอย่างเห็นขัน พระหัตถ์ใหญ่หนาซับผ้าแผ่วเบาลงบนผิวหน้าที่ร้อนระอุ จากแก้มซ้ายขวา หน้าผาก เปลือกตาทั้งสองข้าง ก่อนจะไล่ลงไปจนถึงซอกคอ หลังหู

ทรงพินิจใบหน้าซึ่งแท้จริงมิได้กระดำกระด่างอย่างที่เห็นเมื่อวานนี้ ผิวเนื้อละเอียดแม้จะไม่ใช่ผิวขาวจัด หากเป็นผิวขาวนวลมีเลือดฝาด ทอดพระเนตรขนตาดำขลับงอนยาวเกินกว่าจะเป็นขนตาของบุรุษ ไล่เรื่อยลงมาที่สันจมูกเล็กเชิดรั้น ริมฝีปากอิ่มอมชมพู

...สวย...

ศวัสธรสะดุ้ง เมื่อตระหนักว่าพระองค์ทรงคิดอะไรอยู่

...บ้าแล้ว ไม่มีทางหรอก...

เจ้าชายรัชทายาททรงสะบัดพระพักตร์เล็กน้อย ก่อนจะทำหน้าที่บุรุษพยาบาลต่อ ทรงปลดกระดุมเม็ดบนที่ติดอยู่ตรงคอเสื้อเพื่อที่จะไล่ลงมายังเม็ดที่สอง แต่...

บางสิ่งทำให้ทรงชะงักพระหัตถ์ พระขนงขมวดมุ่น พร้อมๆ กับที่เสียงหัวใจภายในพระอุระเต้นโครมครามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ศวัสธรทรงสูดอากาศเข้าออกลึกๆ ก่อนจะทรงติดกระดุมเข้าที่เหมือนเดิม แล้วหันไปสนพระหทัยที่แขนเสื้อแทน

“เช็ดแค่หน้ากับแขนก็แล้วกันนะ”

ทรงรับสั่งกับคนที่หลับอยู่ แล้วร่นแขนเสื้อของคนเป็นไข้ให้สูงขึ้นจนถึงต้นแขน ผิวเนื้อที่อยู่ในร่มผ้ามีสีแตกต่างจากมือเรียวแต่มอมแมมนั้นมากนัก ทั้งยังกลมกลึงไม่หยาบกร้านราวกับไม่เคยถูกแดดถูกลม

...แม้แต่แขนยังเห็นว่าสวย เราต้องบ้าแน่ๆ ...

ศวัสธรทรงละจากร่างที่นอนอยู่ คลุมผ้าให้ความอบอุ่น แล้วทรงผุดลุกขึ้นออกจากเต็นท์ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!

----------------------------------------------------



ราเชนทร์ได้รับอนุญาตให้กลับมาที่เต็นท์อีกครั้งเมื่อศวัสธรจัดการเช็ดตัวให้กับคนป่วยเสร็จเรียบร้อย องครักษ์ร่างสูงใหญ่เก็บอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำไปไว้ที่รถ ศวัสธรดำเนินไปที่หน้ากองไฟซึ่งเวลานี้ใกล้มอดเต็มที ไม่มีการเติมเชื้อไฟเพราะฟ้าสางแล้ว

ชาร้อนสูตรโบราณที่ทรงโปรดเป็นพิเศษส่งกลิ่นหอมยั่วยวน เสวยกับแป้งปั้นธัญญาเร เป็นพระกระยาหารเช้า ศวัสธรเสวยไปครุ่นคิดไป ทรงถอนพระปัสสาสะบ่อยครั้งจนราเชนทร์สังเกตเห็น

“มีสิ่งใดระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือกระหม่อม”

“ไม่มีหรอก ราเชนทร์ เราเพียงคิดอะไรบางอย่าง”

“เป็นบางอย่างที่ทำให้พระองค์ไม่สบายพระหทัยหรือไม่ กระหม่อม”

“ไม่พ้นสายตาท่านอีกตามเคยนะ” เจ้าชายรับสั่งอย่างเป็นกันเอง “มันก็ไม่เชิงไม่สบายใจ เราเพียงแต่ประหลาดใจ”

ราเชนทร์ขมวดคิ้ว อยากจะถามต่อแต่ก็ไม่กล้า เรื่องบางเรื่องปล่อยไว้ในใจแล้วหาคำตอบเองจะเหมาะสมกว่า โดยเฉพะเรื่องของเจ้านาย ได้แต่เปลี่ยนเรื่องไปเพื่อจะได้ไม่ต้องตะขิดตะขวง

“เจ้าหนูมีร์มาป่วยเช่นนี้ ยังคงกำหนดการเดิมหรือไม่ กระหม่อม”

“เราอยากทำงานต่อให้เสร็จ แต่ก็ห่วงเจ้าเปี๊ยก อยากให้ถึงมือหมอเร็วๆ เพราะไม่รู้ว่าไข้ที่ขึ้นสูงนี้จะทำให้เกิดอาการอื่นแทรกเข้ามาได้หรือไม่ อากาศช่วงนี้ยิ่งหนาวจัดอยู่ด้วย เราผิดเองที่ปล่อยให้มีร์นอนหน้าเต็นท์”

“เด็กนั่นดื้อเองนะกระหม่อม”

“แต่เราก็ผิดอยู่ดีที่ตามใจไม่เข้าเรื่อง”

เสียงทอดถอนพระหทัยทำให้ราเชนทร์ยิ่งนึกแปลกใจ เจ้าชายไม่เคยกังวลกับสิ่งที่ทรงปล่อยผ่านไปแล้ว แต่คราวนี้ดูแปลกไปมาก

“เอาเป็นว่าเราจะเข้าหมู่บ้านช่วงเช้านี้ แล้วรีบกลับกันเลยไม่ต้องค้าง” เจ้าชายทรงตัดสินพระหทัย เมื่อเสวยเรียบร้อยก็ดำเนินไปเรียกมีร์ให้ลุกขึ้น แม้จะออกอาการงัวเงีย แต่เจ้าเด็กแสบก็ยังแสบเหมือนเดิม ร้องโวยวายเมื่อลุกขึ้นนั่งแล้วเห็นว่าตัวเองอยู่ในเต็นท์

“ข้าเข้ามาในนี้ได้ไง”

“เรานี่แหละพาเจ้าเข้ามา ไม่เช่นนั้นเจ้าคงแข็งตายไปแล้ว” เจ้าชายรับสั่งด้วยสุรเสียงหนัก พระพักตร์นิ่งเฉย ทรงนึกหมั่นไส้คนจองหอง ช่วยขนาดนี้แล้วยังจะโวยวายใส่ “เจ้ารีบลุกขึ้น เราต้องไปทำงานต่อ อยากนอนก็ไปนอนในรถโน่น”

มีร์หน้างอเมื่อถูกดุรับอรุณ ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ก่อนลุกขึ้น

“เก็บผ้าทั้งหมดที่เจ้าใช้ห่มนอน รวมทั้งถุงนอนนั่นให้เรียบร้อยด้วย”

แล้วคนสั่งก็ออกจากเต็นท์ไป ทิ้งให้คนป่วยกระฟัดกระเฟียดพับผ้าด้วยกิริยาเก้กัง แต่ก็พยายามทำจนเสร็จเพราะไม่อยากถูกดุ


--------------------------------------



รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนตัวเข้าไปยังหมู่บ้านสุดท้ายที่ทรงกำหนดแผนการมาเยือน ยังไม่ทันจะได้เข้าไปไถ่ถามเส้นทางสู่ป่าต้นน้ำ ก็มีประกาศผ่านเสียงตามสายของหมู่บ้านว่ามีทารกถือกำเนิดที่เรือนใหญ่ของหัวหน้าหมู่บ้าน

“คลอดลูกแค่นี้ ต้องประกาศกันใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ” มีร์ผงกหัวขึ้นมาร้องถาม

“เป็นประเพณีของคนที่นี่ ถ้ามีการเกิดพวกเขาถือเป็นเรื่องน่ายินดี คนในหมู่บ้านจะเก็บตัวอยู่ในบ้านเพื่อรอฟังข่าวของทารกว่าอยู่รอดปลอดภัยหรือไม่ หากภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงทารกไม่เป็นอันตราย พวกเขาจะจัดพิธีสู่ขวัญ และเฉลิมฉลองกันอย่างง่ายๆ ตามอัตภาพ” ศวัสธรทรงอธิบาย “ว่าแต่เจ้า...ไม่เคยได้ยินประเพณีนี้มาก่อนหรอกหรือ ไปอยู่ที่ไหนมา?”

“เอ่อ...คือว่า” มีร์อึกอัก

“คนแบบนี้มันจะไปสนใจอะไร เอาตัวรอดไปวันๆ ก็บุญแล้ว” เสียงของคนที่กำลังขับรถอยู่สอดขึ้นมา แม้มีร์จะนึกขวางราเชนทร์มาหลายครั้ง แต่คราวนี้คงต้องขอบคุณที่คำพูดหวังบาดใจให้เจ็บของเขากลับทำให้เด็กมอมแมมรอดจากการถูกซักฟอก

“ก็คนมันตัวคนเดียว จะเอาอะไรนักหนา” มีร์ยื่นหน้ามาต่อปากต่อคำ “ถ้ารู้มันซะทุกเรื่องข้าคงเป็นพระราชาธิบดีไปแล้ว”

“สามหาว!! ใครสั่งสอนให้เอ่ยถึงพระองค์เช่นนั้น” ราเชนทร์ตวาดเสียงสนั่นจนมีร์สะดุ้งเฮือก นึกในใจว่าตนพลาดไปถนัดใจ ไม่น่าพูดถึงเหนือหัวในเชิงล้อเล่นเช่นนี้เลย แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ทันแล้ว...พูดไปแล้ว

“เจ้าคิดอย่างไรหรือมีร์” ศวัสธรรับสั่งถาม “พระราชาธิบดีในสายตาเจ้าเป็นเช่นไร”

มีร์อึกอักเล็กน้อย ก่อนจะตอบอย่างไม่มั่นใจนัก แถมไม่ตรงคำถามอีกต่างหาก “เอ่อ...ข้าไม่ได้ตั้งใจจะลบหลู่เบื้องสูง...”

“เราก็ไม่ได้คิดว่าเจ้ากล่าวร้ายพระองค์ เราแค่อยากรู้ว่าเจ้ารู้จักพระองค์ในลักษณะไหน”

น้ำเสียงของคนที่นั่งอยู่ตรงเบาะหน้าข้างคนขับไม่ได้ฉายแววกราดเกรี้ยวหรือขึ้งโกรธ หากสงบนิ่งและรักษาระดับได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้คนนอนข้างหลังต้องลุกขึ้นมานั่ง

“ก็...เป็นคนดี...” บิดขี้เกียจเล็กๆ ขณะตอบ “โอ๊ย เมื่อย”

“แค่นั้นหรือ” ศวัสธรรับสั่งถามย้ำ แอบอมยิ้มกับกิริยาเหมือนเด็กของคนตัวเล็ก

“แค่นั้นแหละ นอกนั้นข้าไม่รู้หรอก ไม่เคยเจอ แต่คนเค้าก็พูดกัน...”

“พูดว่าอย่างไร”

“พวกเขารักพระองค์ ข้าได้ยินว่าชาวบ้านบางคนไม่อยากให้ทรงสละราชสมบัติ อยากให้พระองค์ครองราชย์ต่อไปเรื่อยๆ”

“แต่มันเป็นราชประเพณี” ศวัสธรรับสั่งค้าน

“ก็นั่นแหละ ประชาชน ‘ต้อง’ ยอมรับ เพราะเป็นพระราชประเพณี แต่พวกเขาจะยอมรับราชาธิบดีพระองค์ใหม่ ‘อย่างแท้จริง’ หรือไม่ นั่นมันก็อีกเรื่อง”

มีร์พูดเสียงดังฟังชัด คำตอบนั้นยังผลให้มกุฎราชกุมารทรงสนพระทัย ผินพระพักตร์มาเต็มที่เพื่อจะพูดคุยกับคนที่อยู่ด้านหลัง เด็กมอมแมมชันเข่าขึ้นมาบนเบาะ สองมือประสานที่หัวเข่าแล้ววางคางยื่นหน้าออกมา

“เจ้าคิดว่า เจ้าชายรัชทายาทจะปกครองบ้านเมืองได้ดีเหมือนพระราชาธิบดีหรือไม่”

“ข้าไม่รู้หรอก ก็อยากให้ดีนั่นแหละ”

“แล้วถ้าไม่ดีเสมอพระองค์ท่านล่ะ”

“คนเราไม่เหมือนกันหรอก ข้าว่าแต่ละคนก็มีดีต่างกัน คนละยุคสมัย คนละปัจจัย ผลมันก็ย่อมต่างกันนะ ไม่แน่หรอก ชาวบ้านอาจจะรักพระราชาธิบดีองค์ใหม่มากกว่าองค์เดิมก็ได้ใครจะไปรู้”

น้ำเสียงของเด็กหนุ่มกล่าวทีเล่นทีจริง หากศวัสธรทรงจริงจังกับคำตอบนั้น การเดินตามรอยเท้าพระราชบิดามิใช่เรื่องง่าย ด้วยพระองค์ทรงปกครองแผ่นดินด้วยความรัก ความดี และเปี่ยมด้วยน้ำพระราชหฤทัย ทรงเป็นที่รักของประชาชนทั่วทั้งปุระตารา การเปลี่ยนแปลงกษัตริย์พระองค์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน ความกดดันทั้งมวลไหลลงมากดทับอยู่เหนือพระอังสะทั้งสองของศวัสธรในเวลานี้

“เราจะจำคำเจ้าไว้”

“อ้าว มาจำคำข้าทำไม”

เจ้าชายประทับนิ่งไม่รับสั่งตอบโต้ใดๆ กับคนด้านหลังอีก มีร์แลบลิ้นแผล่บ ก่อนจะเกาะขอบหน้าต่างมองออกไปยังท้องทุ่งกว้างข้างทาง


---------------------------------------------



ความอึกทึกโกลาหลเกิดขึ้นที่เรือนใหญ่ของ ‘นายบ้าน’ ซึ่งเป็นตำแหน่งอย่างเป็นทางการของหัวหน้าหมู่บ้าน เมื่อรถยนต์พระที่นั่งแล่นไปจอด ณ ลานกว้างด้านหน้า คนของนายบ้านจึงเดินออกมาเมียงมอง

“มาหาใครครับ” เด็กชายวัยไม่น่าจะเกินสิบขวบเอ่ยปากถาม เมื่อชายหนุ่มแต่งกายชุดประจำชาติสีเข้มก้าวลงมาจากที่นั่งด้านข้างคนขับ

“เรามาพบท่านเตชาโญ” ศวัสธรรับสั่ง “บอกท่านว่า ‘นายน้อย’ มาหา”

เด็กชายวิ่งตื๋อกลับเข้าบ้านไป ครู่เดียวชายชราผมหงอกขาวในชุดพื้นเมืองสีดำสนิทก็เดินออกมาอย่างร้อนรน

“นายน้อย” น้ำเสียงตื่นเต้นนั้นไม่ต่างกับสีหน้าซึ่งแสดงความดีใจจนปิดไม่มิด ร่างสันทัดของชายชราทำท่าเหมือนกับจะย่อตัวลง หากศวัสธรชิงส่ายพระพักตร์และโบกพระหัตถ์เป็นสัญญาณตัดหน้าเสียก่อน

“ท่านผู้เฒ่าสบายดีหรือไม่”

“สบายดี กระ...เอ่อ ขอรับ” เตชาโญกลืนคำราชาศัพท์แทบไม่ทัน ความปีติยินดีอันล้นพ้นที่ ‘เจ้าชายน้อย’ เสด็จเยือนเรือนนายบ้านแทบจะล้นทะลักออกมา เขาไม่ได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมานานหลายปี แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด เจ้าชายน้อยก็ยังคงเป็นเจ้าชายน้อยพระองค์เดิม ไม่เคยถือพระองค์ว่าเป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ และเสด็จหมู่บ้านต้นน้ำครั้งใดก็มาในฐานะสามัญชนเสียทุกครั้ง

“วันนี้มีทารกเกิดใหม่ เป็นบุญของเราที่ได้มาร่วมพิธี”

“หามิได้ เป็นบุญของพวกเราต่างหากขอรับ” นายบ้านกล่าวอย่างนอบน้อม พลันสายตาก็กวาดไปพบกับคนตัวเล็กที่ผมเผ้ารุงรัง มองดูเสื้อผ้ามอมแมมเก่าแสนเก่าก็นึกแปลกใจ นายทหารติดตามของเจ้าชายเหตุใดซอมซ่อถึงเพียงนี้ ยิ่งเมื่อเทียบกับอีกคนที่ตัวสูงใหญ่แต่งกายดีดูภูมิฐานก็ยิ่งเห็นความแตกต่าง

ศวัสธรสังเกตเห็นสายตาและสีหน้าของนายบ้านผู้เฒ่าจึงรับสั่งให้มีร์ทำความเคารพ เจ้าเด็กคลุกฝุ่นทำท่าลังเลเล็กน้อยก่อนจะยินยอมค้อมศีรษะ

“เป็นเด็กเร่ร่อนไร้ญาติ เราเห็นว่าน่าจะขัดเกลาได้ตั้งใจจะให้ไปอยู่ด้วย”

“ท่าทางฉลาดดีนะขอรับ ดูแววตาใสแจ๋วทีเดียว” คำพูดของนายบ้านทำให้มีร์ฉีกยิ้มกว้าง หันไปยักคิ้วให้ราเชนทร์ซึ่งยืนระวังภัยอยู่ด้านหลัง

“ตาใส แต่ใจนี่ยังไม่รู้ว่าใสเหมือนตาหรือเปล่า” ราเชนทร์แกล้งเปรย

“ชิ ก็ยังดีกว่าหน้าดำคร่ำเครียดแหละน่า” มีร์ตอบโต้ทันใด

นายบ้านยิ้มขำ หากศวัสธรขัดคอขึ้นก่อนจะเกิดสงครามย่อยๆ

“หยุดแขวะกันได้แล้ว เจ้าสองคนนี่ประหลาดแท้ ไม่รู้จะทะเลาะกันไปทำไม ท่านผู้เฒ่า เราอยากไปดูทารกน้อย” ท้ายประโยคทรงผินพระพักตร์ไปยังนายบ้านเตชาโญ

เจ้าของร่างสันทัดค้อมศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะผายมือให้ ‘เจ้าชายน้อย’ ซึ่งเสด็จมาในฐานะ ‘นายน้อย’ ดำเนินนำเข้าไปยังเรือนใหญ่ที่เป็นอาคารสองชั้น ผ่านโถงกว้างกลางบ้าน เป็นบันไดขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งเป็นห้องพักของเจ้าของบ้านและภรรยา รวมทั้งห้องสำหรับต้อนรับแขกอีกสองห้อง ส่วนห้องเด็กอยู่ชั้นล่างเพื่อความสะดวกในการดูแล

“ขวามือขอรับ” นายบ้านเตชาโญเอ่ยปากบอกทาง ศวัสธรดำเนินไปตามทิศทางที่บอก ทางปีกขวาของเรือนใหญ่มีทางเดินเล็กเชื่อมไปยังห้องเด็ก ตรงบริเวณหน้าประตูมีหญิงสาวสองนางนั่งร้อยดอกไม้อยู่คนละฟาก ตรงหน้าสองสาวนอกจากมีถาดไม้ขนาดใหญ่สำหรับวางดอกไม้สีขาวสะอาดแล้ว ยังมีเชิงเทียนแบบเก๋เป็นฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีเขียวเข้ม มีเทียนรูปสี่เหลี่ยมสีแดงอมส้มวางอยู่ด้านบน กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเทียนหอมลอยมาเตะจมูกผู้มาใหม่

“กลิ่นกุหลาบป่า” ศวัสธรรับสั่ง “ยังหอมบาดใจเหมือนเคย”

“นายน้อยยังคงจำได้” ผู้เฒ่าเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ

“กลิ่นหอมของมันทำให้เราเกือบตายมาแล้ว ใครจะลืมได้ลงจริงไหม” เจ้าชายรัชทายาททรงหวนระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกว่ายี่สิบปีก่อนก็อดที่จะกลั้นยิ้มไม่ได้ ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่พระองค์ตามเสด็จพระราชาธิบดีออกตรวจราชการในพื้นที่แถบนี้ นายบ้านเตชาโญซึ่งขณะนั้นเพิ่งรับตำแหน่งผู้นำหมู่บ้านได้ไม่นาน ถวายการต้อนรับอย่างดี แถมยังช่วยปกปิดฐานะที่แท้จริงของพระราชาธิบดี โดยเรียกพรองค์ว่า ‘นายใหญ่’ และเรียกเจ้าชายศวัสธรว่า ‘นายน้อย’

เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อเจ้าชายชายวัยสิบชันษา เกิดติดใจในกลิ่นหอมของเทียนหอมกุหลาบป่าอันเป็นสินค้าเลื่องชื่อของหมู่บ้านต้นน้ำแห่งนี้ จึงทรงแอบนำไปจุดไฟเล่นในห้องเพียงลำพัง ถ้าจุดไฟแบบธรรมดาเหมือนคนทั่วไปก็คงไม่มีปัญหา แต่ศวัสธรทรงเล่นพิสดารกว่านั้น ด้วยทรงนำเทียนนับสิบเล่มจุดไว้ที่ใต้เตียง และบริเวณพื้นที่โดยรอบ ด้วยทรงหวังว่าจะทำให้ที่นอนมีกลิ่นหอม

ครั้นเมื่อผ้าห่มผืนใหญ่ห้อยชายลงมาถูกไฟลนก็ติดไฟ และเกิดลุกไหม้ใหญ่โต เจ้าชายบรรทมสนิทเมื่อสูดดมควันและอากาศพิษเข้าไปก็ไร้ซึ่งสติ หากนายบ้านไม่มาเห็นเข้าเสียก่อนก็คงไม่มีศวัสธรในวันนี้

“มีร์ไม่สบาย ไม่ต้องเข้าไปหรอก เดี๋ยวนำเชื้อเข้าไปติดเด็ก” เจ้าชายรับสั่ง ยังผลให้มีร์ทำหน้ายู่ เพราะเจ้าตัวก็อยากเห็นทารกแรกเกิด

“นิดเดียวก็ไม่ได้เหรอ...ครับ เจ้านาย” มีร์ทำเสียงออดอ้อน แถมพูดเพราะอีกต่างหาก แต่มกุฎราชกุมารไม่ทรงพระทัยอ่อน ทรงสบสายตาเจ้าเด็กแสบอย่างจริงจัง จนมีร์ต้องทำคอย่น นั่งแปะลงบนพื้นตรงหน้าประตู “ขี้หวง ชิ”

ศวัสธรดำเนินเข้าไปในห้อง โดยมีนายบ้านเตชาโญตามถวายงานอย่างใกล้ชิด ห้องเด็กเป็นห้องรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่พอประมาณ เตียงเด็กตั้งอยู่กลางห้อง มีหญิงสูงวัยคอยพัดวีอยู่ไม่ห่าง เมื่อเห็นศวัสธรเสด็จเข้าไปใกล้ นางจึงทำท่าจะถวายความเคารพ หากเจ้าชายยกพระหัตถ์ขึ้นห้ามเสียก่อนจะมีคนเห็น

“แม่นายมาเฝ้าเจ้าตัวเล็กอยู่นี่เอง” เจ้าชายรับสั่ง พลางเสด็จมาชิดขอบเตียง ทำให้นางโรจารีผู้เป็นภริยานายบ้านรีบกระถดหนีแทบไม่ทัน

“นายน้อย โอ...เสด็จ เอ๊ย เดินทางมาถึงที่นี้เลยหรือเจ้าคะ”

“มาตรวจงาน ก็เลยแวะมาเยี่ยม”

นางโรจารีน้ำตาคลอ “เติบโตเป็นหนุ่มใหญ่แล้วช่างสง่างามเหลือเกิน ครั้งหลังสุดเสด็จเมื่อยังรุ่นๆ สิบปีได้แล้วกระมังเจ้าคะ”

“อืม ... น่าจะราวๆ นั้นนะ ดีใจที่ยังจำเราได้” รับสั่งพลางชะโงกพระพักตร์ไปทอดพระเนตรทารกน้อยบนเตียง “ขออุ้มหน่อยได้ไหม”

“เป็นบุญของหลานชายเหลือเกินแล้วเจ้าค่ะ” นางโรจารีรีบอุ้มทารกน้อยถวาย ร่างเล็กถูกห่อหุ้มอยู่ในผ้าเนื้อหนา เปิดเผยให้เห็นเพียงช่วงใบหน้า ดูแล้วราวกับหนอนดักแด้ตัวน้อยนอนขดอยู่ภายใต้เปลือกป้องกันภัย ศวัสธรทรงรับทารกน้อยมาไว้ในอ้อมพระกรอย่างระมัดระวัง พระองค์ไม่เคยอุ้มเด็กเล็กเช่นนี้มาก่อน จึงดูเก้ๆ กังๆ แต่ในสายตาของผู้พบเห็นดังเช่นนายบ้านและภริยา กลับเป็นภาพที่น่าปลื้มปีติยินดียิ่ง

“หน้าตาน่าชังจริงนะเรา” เจ้าชายรับสั่งกับทารกน้อยในอ้อมอก ใบหน้ากลมแก้มยุ้ย ปากนิดจมูกหน่อย ช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน “ชื่ออะไรล่ะ”

“ยังไม่ได้ตั้งชื่อเจ้าค่ะ”

“เห็นท่านผู้เฒ่าบอกว่าเกิดตอนรุ่งสางใช่ไหม ชื่อ ‘อารุณา’ แปลว่ายามเช้า ก็แล้วกันนะ ว่าไง...เด็กชายรุ่งอรุณ” รับสั่งกับเด็กน้อยราวกับว่าอีกฝ่ายจะสามารถตอบโต้ได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงเจ้าตัวเล็กยังหลับปุ๋ยไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“เป็นพระกรุณาล้นเหลือเจ้าค่ะ” นางโรจารีค้อมศีรษะ น้ำตาคลอหน่วยด้วยความปลื้มใจ

ศวัสธรแย้มสรวลกว้าง ก้มพระพักตร์ลงจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากของทารกน้อย ก่อนจะส่งมอบคืนให้กับนางโรจารี

ภาพอันน่าประทับใจในห้องทารกไม่พ้นสายตาของเด็กแสบซึ่งนั่งแปะลงตรงกลางช่องประตู มีร์เฝ้ามองตั้งแต่เจ้าชายรัชทายาทเสด็จเข้าไปทักทายสตรีสูงวัยซึ่งดูแลทารกน้อยอยู่ จนถึงเวลานี้ ร่างสูงอุ้มทารกน้อยแล้วหันหน้าเด็กมาทางที่มีร์นั่งอยู่ แถมยังชี้ให้ดูหน้าเด็กน้อยอีกต่างหาก

มีร์ฉีกยิ้มกว้าง รับรู้ในน้ำใจไม่ตรีของคนตัวโต ที่แม้จะปฏิเสธไม่ให้คนป่วยเข้าไปในห้อง แต่ก็มีน้ำใจให้มีร์ได้เห็นหน้าทารกน้อย

“แล้วแม่เด็กล่ะ อยู่ห้องไหน” มีร์ได้ยินเสียงนายน้อยถามเจ้าของบ้าน

“ห้องติดกันนี่เองขอรับ ที่ต้องให้แยกกันเพราะอยากให้ได้พักผ่อน แม่เด็กเป็นหลานสาวของโรจารีไม่ค่อยจะแข็งแรงสักเท่าไร”

“ขอเราเข้าเยี่ยมสักหน่อย ไม่ทราบว่าจะสะดวกไหม”

นายบ้านเตโชโญค้อมศีรษะ ก่อนจะผายมือให้เสด็จนำ ร่างสูงใหญ่ผ่านพ้นสายตาเข้าไปในห้องข้างๆ พร้อมกับร่างของผู้เฒ่า มีร์ชะเง้อมองแต่ก็มิได้เดินตามไป ยังคงนั่งแปะอยู่ที่เดิม เริ่มรู้สึกตาพร่าและร้อนในกระบอกตาและโพรงจมูก หากแต่ก็มิได้เอ่ยปากบอกใคร

-------------------------------------



ราเชนทร์เดินวนเวียนอยู่หน้าบ้านคอยชะเง้อมองว่าเจ้าชายจะเสด็จกลับออกมาเมื่อไร เขาไม่ค่อยไว้วางใจเด็กมีร์ ไม่เชิงว่าจะกลัวเด็กหนุ่มทำร้ายเจ้าชาย หากสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้นเนื่องจากเจ้าหนูมีร์คนนี้

เมื่อศวัสธรเสด็จธุระในการเยี่ยมทั้งเด็กน้อยและมารดา จึงเสด็จกลับออกมาพร้อมกับนายบ้าน มีเด็กมอมแมมเดินตามหลังอาดๆ วางมาดราวกับผู้ติดตามคนสนิท แม้จะรู้สึกขวางแต่ราเชนทร์ก็เห็นขันไปในคราวเดียวกัน

“วันนี้เราคงต้องพักที่นี่” เจ้าชายรับสั่งกับราชองครักษ์ “พ้นยี่สิบสี่ชั่วโมงเมื่อไร เราจะขึ้นไปที่ป่าต้นน้ำ ไปสำรวจพื้นที่ตรงนั้นกันแล้วค่อยกลับ”

“ขอรับ” ราเชนทร์รับคำ “แล้วเรื่องคนป่วย...”

“ไม่ต้องห่วง ท่านผู้เฒ่าจะให้หมอกลางบ้านมาดูอาการให้ ... ใช่ไหมท่านผู้เฒ่า” ประโยคคำถามมาพร้อมกับทรงผินพระพักตร์ไปยังนายบ้านเตโชโญ

“ขอรับ หมอต้องมาดูอาการแม่เจ้าหนูมันอยู่แล้ว ก่อนเที่ยงวันคงจะมาถึง”

“เฮ้ย ต้องหาหมอเลยเหรอ ไม่เอานะ ข้าไม่ชอบ” เสียงมีร์โวยวายเมื่อได้ยินบทสนทนาเต็มสองหู “ไม่เอาหมอได้ม้ายยยยยย”

“ไม่ได้!!” ศวัสธรรับสั่งเฉียบขาด “เกิดเจ้าเป็นอะไรไป คนที่เดือดร้อนคือเรา”

มีร์เบ้ปาก ทำตาปริบๆ “นอนพักเดี๋ยวก็หาย”

“ไม่ต้องมาทำเป็นดื้อ ไปช่วยราเชนทร์เก็บของในรถแล้วตามเราขึ้นไปที่ห้อง”

รับสั่งเฉียบขาดจนมีร์ไม่กล้าต่อปากต่อคำ ได้แต่เดินตามราเชนทร์ออกไปที่รถ กระเป๋าเป้ใบใหญ่ถูกส่งมาจากท้ายรถ มีร์ยื่นมือออกไปหมายจะรับของมาถือไว้ หากนัยน์ตาพร่าพรายแล้วโลกทั้งโลกก็มืดดับวูบลง...


โปรดติดตามตอนต่อไป



Create Date : 10 มิถุนายน 2551
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 2:11:07 น. 36 comments
Counter : 443 Pageviews.

 
สวัสดีจ้า...


ในที่สุดบทที่ 4 ก็มาครบบทแล้ว ขอบคุณทุกคนที่คิดถึงกัน และคลิกเข้ามารออ่านนะจ๊ะ จุ๊บๆๆ


ตอนนี้มีงานที่ต้องเขียนคู่กันไป คือ โปรเจ้กต์พิเศษบางประการซึ่งต้องส่งในอีกเดือนเศษๆ ข้างหน้า บก.แนะนำว่าให้หยุดเขียนเรื่องเจ้าชายก่อน เอาโครงการเร่งด่วนก่อน 555+ เห็นด้วยกันม้ายยยยยยยยยยยยย??





โดย: วลีวิไล วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:2:15:04 น.  

 
มาให้กำลังใจค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:7:05:36 น.  

 
เป็นกำลังใจให้สำหรับโปรเจ้กต์พิเศษนะคะ
แต่ก็อย่าปล่อยให้เจ้าชาย (ของหนู) รอนานนา
เดี๋ยวพระองค์จะหามหารานีได้ไม่ทันขึ้นครองราชย์นะเออ

คิดถึงๆ


โดย: Aelda IP: 203.131.208.115 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:9:00:15 น.  

 
มาตามอ่านค่ะ...นึกว่าครูกี้งานยุ่งเลยหยุดเขียนไป


โดย: MiKi IP: 203.170.144.1 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:11:00:52 น.  

 
ว้าววววว ออร่าความ y เจิดจรัส


ตกลงอาจารย์กี้จะไปซิดนี่ย์หรือเปล่าครับ (แบบว่าอยากกินเนื้อจิงโจ้ แต่คิดว่าคงได้กบมาแทน กร๊าก)


โดย: waidhaya วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:11:10:18 น.  

 
เย้ เย้ มาแล้ว ขอบคุณนะคะ


โดย: นู๋หยง IP: 202.143.150.94 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:11:26:10 น.  

 
มาให้กำลังใจจ้าพี่กี้
สู้ๆๆ น้าจ๊า
รักษาสุขภาพด้วยน้า


โดย: yoda IP: 124.121.175.121 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:13:18:06 น.  

 
จำได้ว่าให้รอาทิตย์นึง ตอนหลังจาก หายเป็นเดือนเลยนะเนี้ยะ


โดย: dinkun (กริชครับผม ) วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:14:04:03 น.  

 
เย้ๆๆ

ในที่สุดก็มาครบ

จะโปรเจกต์ไหนถ้าเป็นพี่กี้แต่งก็อยากอ่านค่า

แต่อยากอ่านเรื่องเจ้าชายมากกว่า อิๆ


โดย: Pupae63 IP: 125.24.125.249 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:22:44:26 น.  

 
โปรเจคที่ว่านี้ทำเอานักเขียนแต่ละคนปั่นงานกับทุกคนเลย คุยกับใครก็บอกว่ากำลังปั่นโปรเจคพิเศษนี้อยู่ อิอิ คิดถึงพี่กี้เหมือนเดิมค่ะ


โดย: กุ้งก้ามกราม IP: 203.146.8.124 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:15:55:39 น.  

 
เย้ๆ มาจนได้

เป็นกำลังใจให้กับโปรเจคยักษ์ค่ะ


โดย: ปารัณ IP: 202.28.27.6 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:23:24:54 น.  

 
รอนานมากเลยค่ะพี่กี้

คุ้มค่ากับการเฝ้ารอค่ะ


โดย: เรณุมาศ IP: 68.29.34.129 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:7:39:24 น.  

 
ว้าวววว มีโปรเจกพิเศษด้วยย งั้นก้ออีกนานเลยซิค่ะ ก่าจะได้อ่านเจ้าชายต่อ เปนกำลังใจให้เขียนเสร็จเร็ววน่ะค่ะ จาได้อ่านเจ้าชายต่อ อิอิอิ


โดย: นู๋เต่า IP: 168.120.64.154 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:8:41:15 น.  

 
โปรเจ็กค์อาไรอ้า......พิเศษขนาดไหน..ใบ้หน่อยดิจ๊ะ


โดย: น่ารักจริงๆ IP: 203.172.181.68 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:19:42:06 น.  

 
โปรเจ็กค์อาไรอ้า......พิเศษขนาดไหน..ใบ้หน่อยดิจ๊ะ


โดย: น่ารักจริงๆ IP: 203.172.181.68 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:19:42:19 น.  

 
กรี๊ด ๆ มาต่อแล้วดีใจจัง ขอบคุณคร๊าบ


โดย: pinkwitch วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:20:05:52 น.  

 
-----------------------------------------------------------


สวัสดีน้องๆ ทุกคนจ้า
พี่กี้ขอบคุณมาก และดีใจที่ยังรออ่านกันอยู่ ตอนนี้เครื่องเริ่มจะติดแล้ว
คิดฝันจินตนาการไปเรื่อย ขอแค่มีเวลาให้เขียนติดต่อกันยาวๆ เท่านั้น
ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องจบให้ได้ในปลายปีนี้ ... จะทันเวลาที่คิดไว้มั้ยน้อ ลุ้นๆๆ


โอน่าจอมซ่าส์...ขอบคุณมากๆ สำหรับกำลังใจค่ะ
รับไว้เต็มหัวใจเลย ^^

Aelda...นั่นสิเนอะ ทิ้งไว้นานๆ พี่ก็กลัวเจ้าชายจะขึ้นคานเหมือนกันค่ะ
ดังนั้นจะไม่ทิ้งหรอกเนอะ แต่มาแบบช้าๆ นิดนึง ฮี่ๆๆ

MiKi...กี๊สสสสส ดีใจที่มาแวะที่บล็อกนี้นะคะ
จริงๆ มันผสมกันหลายอย่างค่ะ งานที่ ม. ด้วย งานเขียนด้วย
และเวิ่นเว้อไถลไปเรื่อยเปื่อยด้วยค่ะ แหะๆ

waidhaya...แหมๆๆ น้องแมวน้ำ พี่กี้ไม่ y นะ ไม่ y เท่าไหร่เลย กร๊ากก
เรื่องซิดนี่ย์ พรุ่งนี้จะไปโอนเงินแล้วค่ะ ถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว
นอกจากเนื้อกบแล้ว สนใจเนื้อสติทช์พี่ชายกบมั้ย อิอิ

นู๋หยง...ขอบคุณเช่นกันที่น้องสาวยังตามอ่านอยู่นะค้า
จุ๊บๆๆ ขอบคุณมากจ้า

yoda...ขอบคุณมากๆ คร้าบ พี่กี้ช่วงนี้แข็งแรงมาก
ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสสัปดาห์ละ 3 วันเชียวน้า เก่งมั้ยยยย ^^

กริชครับผม ... แง้วววววว คุณกริช ขอโทษคร้าบบบบบ
จะไม่ทำอีกแล้วจ้า เอิ๊กๆๆ (คุณกริชบอก : เดี๋ยวมันก็หายหัวไปอีก 555+)

Pupae63...พี่กี้ก็อยากแต่งเจ้าชายมากกว่าเหมือนกันเลยค่ะ
อยากเขียนให้ต่อเนื่องจะได้ไม่มีซีนโดดๆ ให้กลับมาแก้อีก
จะพยายามเขียนทั้งสองเรื่องเลยละกันนิ อิอิ

กุ้งก้ามกราม...ใครๆ ก็ปั่นงานนี้กันทั้งนั้น โอ๊ยยย...กลัวไม่ทันชาวบ้าน
ได้ข่าวว่าโปรเจ็กต์ที่แล้ว วลีวิไลส่งเป็นคนสุดท้าย 555+
ขอบคุณสำหรับกำไลจัง...กำลังใจนะคะน้องกุ้ง จุ๊บๆๆ

ปารัณ...โปรเจ็กต์ยักษ์นี้ต้องการแรงใจอย่างมากค่ะ
เพราะว่ามันยากแสนยาก โฮๆๆ พี่ไม่น่ารับเขียนเลย T__T

เรณุมาศ...ขอบคุณที่ยังรอกันอยู่เสมอค่ะน้องเร
พี่กี้จะพยายามเขียนๆๆ จะได้ไม่ขี้เกียจตัวเป็นขน สนิมจะได้ไม่เกาะด้วยนิ

นู๋เต่า...โปรเจ็กต์พิเศษใช้เวลาอีกพอสมควรเลยค่ะ
พี่กี้เลยไม่หยุดเขียนเรื่องเจ้าชายดีกว่า กลัวว่าจะหยุดแล้วหยุดไปเลย กร๊ากกก

น่ารักจริงๆ...โปรเจ็กต์พิเศษของนักเขียนทุกแนวของแจ่มใสค่ะ
เป็นอะไรที่บอกลำบากจังเลยค่ะ เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์
บอกได้คร่าวๆ ว่า คนคิดโปรเจ็กต์นี่...โห คิดได้เนอะ 555+

pinkwitch...ขอบคุณที่ยังติดตาม และรอคอย นะคร้าบ
เจ้าชายน่ารักอะเนอะ อยากได้เป็นของตัวเอง 555+




-----------------------------------------------------------






โดย: วลีวิไล วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:23:06:44 น.  

 
พี่กี้กลับมาแล้ว ปีนี้พี่กี้ไม่ค่อยว่างเลยเนอะ
ว่าแต่โปรเจคเทศกาลอะไรอ่ะครับ ทำไมงวดนี้มากลางปี จะปล่อยเจ้าชายรอนานอีกนิดก็คงไม่ว่า (เพราะตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาเหมือนกัน ^^) แต่ขอพี่จินต์กับพี่ศินตัวเป็นๆก่อนนะครับ รอคุณพี่ทั้งสองมาหลายปีแล้วนา ^^


โดย: หยกสีน้ำผึ้ง IP: 124.121.32.249 วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:6:27:29 น.  

 
หยกสีน้ำผึ้ง
โปรเจ็กต์พิเศษเนี่ย...จริงๆ มันจะออกหลังกลางปีเยอะเลย แต่ว่าต้องใช้เวลาค่อนข้างมากเพราะมันยุ่งยากในกระบวนการผลิต ส่วนการเขียนนี่ก็ยากกว่าเดิทหลายเท่า โฮๆๆ พี่กี้จะรอดมั้ย น่ากลัวมากๆๆ

ส่วนพี่จินต์กับเฮียศิน...น่าจะอีกไม่นานแล้วแหละ อาจจะออกกรกฎาคม หรืออย่างช้าก็ไม่น่าจะเกินสิงหาคมครับ


โดย: วลีวิไล วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:10:05:27 น.  

 
พี่กี้กลับมาแล้ว..เย้ๆๆๆๆ
รอเจ้าชายนานมากคงต้องร้องเพลงรอต่อไปใช่มั้ย
เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันกับเจ้าชายเนี่ย
เศร้าจังเลยอ่ะ


โดย: chicky IP: 125.25.218.24 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:20:57:57 น.  

 
แวะเข้ามาดูเจ้าชายเป็นพักๆ เย่...เจอเจ้าชายแล้ว ^^
และ “ไม่เอาหมอได้ม้ายยยยยย”...มันน่ารักมากค่ะ ^^




โดย: nu@om IP: 202.91.19.204 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:23:10:59 น.  

 
อิอิ มาแล้ว


โดย: NtG (Nontagorn ) วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:12:49:02 น.  

 
เย้ พี่กี้มาแล้ว

พี่กี้หายไปนาน คิดถึ้งคิดถึง


โดย: จันทรคุปต์ IP: 202.28.12.47 วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:20:35:15 น.  

 
ครบสักทีนะคะพี่กี้บทนี้ อิอิ แต่อุ้ยกะยังไม่มีเวลาอ่านอยู่ดีง่า สัญญาว่าว่างเมื่อไหรจะรีบมาอ่านเลยนะคะ

ปล.คิดถึงพี่กี้จังเลยคราบบบ


โดย: ปะการัง (pandanaka ) วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:11:25:42 น.  

 
น้องใหม่คะ

ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

ชอบ คนเขียนคนนี้อะ

เอ้...ชื่อไรนะ เห็นเขาเรียกพี่กี้ อิอิ

ดีใจคะ เลยแวะมาให้กำลังใจแหละ

สู้ๆๆ นะคะ รอผลงานอยู่คะ

เก็บเงินรอเลยนะเนี้ย....


โดย: toon_toon IP: 202.91.18.206 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:11:06:06 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่กี้ ...
หายไปนานเลยค่ะ ทั้งคนอ่าน ทั้งคนเขียน
ตอนนี้งานยุ่งมากๆเลยอ่าค่ะ โปรเจคอันแสนสาหัส
วันนี้แอบแว๊บมาอ่านได้ หุหุ...ยังหนุกเหมือนเดิมเลยค่ะ
รอรวมเล่มอยู่นะคะเนี่ย ^_^


โดย: sayuri_ko IP: 58.10.222.125 วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:21:59:01 น.  

 
รอตอนต่อไปฮับ


โดย: NtG (Nontagorn ) วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:38:55 น.  

 
คุณครูขาาาาาา
ช่วงนี้งานเยอะเหรอคะ เลยยังไม่อัพซักที
เนี่ย รอ ร้อ รอ จนเหงือกแห้งไปหลายรอบแล้วค่า


โดย: Aree-Yong วันที่: 24 กรกฎาคม 2551 เวลา:3:47:41 น.  

 
ว่าง ๆ มาอัพบ้างนะจ๊ะ
หลาน ๆ รออ่านอีกเยอะ


โดย: Aree-Yong วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:26:42 น.  

 
ง่ะ หายแล้วหายเลย


โดย: Vicky IP: 125.25.11.167 วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:14:29:24 น.  

 
เข้ามาดูเรื่อยๆ น้า


โดย: แว่น IP: 203.222.44.20 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:10:49:04 น.  

 
พี่กี้คะ แทมเพิ่งรู้ว่าพลาดตอนเต็มของบทนี้ กร๊ากกกก แล้วก็เอาแต่เร่งพี่เนอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

วันนี้แวะเข้ามาคอยน้า ตามสัญญา สู้ๆ นะคะ เขียนให้จบเร็วๆ นะคะ แทมและคนที่พี่กี้รู้ว่าใครเอาใจช่วย (รั่วไปม้ายยยยย) อิอิ

จะบอกว่า อ่านตอนที่เจ้าชายให้ราเชนทร์หยุดพูด ที่เจ้าชายจะเช็ดตัวให้มีร์น่ะค่ะ อ่านแล้วนึกถึง จจซ ตอนนั้นเลย พี่กี้เขียนก่อนแท้ๆ เลยนะเนี่ย ^^


โดย: Tam IP: 124.120.185.60 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:21:25:27 น.  

 
เข้ามาแวะทุกวันเลยค่า อย่าให้รอนานนักเลย มันทรมานใจน้าค้า.....


โดย: แว่น IP: 203.222.44.20 วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:8:39:40 น.  

 
โอยยย มารอทุกวันเลย อย่าปล่อยให้รอเก้อนะจ้า


โดย: nim IP: 202.149.24.161 วันที่: 30 สิงหาคม 2551 เวลา:0:29:28 น.  

 

=================================


สวัสดีทุกคนจ้า

ขอโทษที่ทำให้รอนาน
ตอนนี้กลับมามีไฟและที่สำคัญคือมีเวลาเขียนแล้ว เย้


บทที่ 5 มาส่งไว้แล้ว คลิกไปอ่านได้เลยเน้อ





=================================



โดย: วลีวิไล วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:1:34:28 น.  

 
กำลังรอ...บทที่ 6 ...อยู่นะค่ะ
.....อย่าให้รอนานนะคะ...แบบว่ามันค้างคาอ่ะค่ะ..เหมือนขาดอากาศหายใจอ่ะ....
....คำขอร้องจาก...สมาชิกใหม่..นะค่ะ


โดย: อันเดียว IP: 222.123.2.229 วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:0:46:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.