• ใบไม้...กับหลักธรรม
• สายลม...กับความหลัง
• ไอน้ำ...กับความไกล
• แสงแดด...กับปัญญา
• เม็ดทราย...กับความจริง
• What is what.
• ปัจจุบัน..ขณะ
• เบิกฟ้า..อาภา
• Prompt..พร้อมคร๊าบ
• เก็บไว้..ในภาำพถ่าย
• ลูกช่างไม้
• บทสวดมนต์..กับคำอธิบาย
• ระเบียบปฏิบัติของชาวพุทธ

แผลผ่าตัดไทรอยด์ วันที่ 9 สิงหาคม 2559 ...  ผ่านไปอีก 1 สัปดาห์หลังจากผ่าตัด  ก็มาหาคุณหมอตามนัดเพื่อดูแผล คนไข้คุณหมอเยอะมากกก  แต่ก็นั่งรอไม่นานก็ได้ตรวจ ผลชิ้นเนื้อที่ออกมาคือ เป็นเนื้องอกธรรมดา ฮูเล่ ฮูเล่ ส่วนแผลที่เปิดออกมาคือ  แผลดีไม่มีหนอง  เย่ เย่ เย่   แต่ก็ยังบวมแดง และมีฟกช้ำบ้าง  อย่างไรก็ดีคุณหมอก็ยังนัดไปตรวจเลือดอีกครั้งในเดือนหน้า ภาพหลังจากเปิดแผล : ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2559 :  ข้อมูลประสบการณ์การผ่าตัดไทรอยด์ในครั้งนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยและขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังป่วยด้วยโรคไทรอยด์ทุกท่านค่ะ ...  สู้ ๆ นะคะ    Create Date : 15 สิงหาคม 2559     Last Update : 15 สิงหาคม 2559 14:22:15 น. Counter : 3427 Pageviews.   4 comment Share Tweet

ผ่าไทรอยด์..ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่กังวล วันที่ 2 สิงหาคม 2559  เวลา 2 ทุ่มกว่า ๆ กลับถึงห้องพัก วันที่ 3 สิงหาคม 2559 เวลา 8 โมงกว่า ๆ  หมอพูดว่า "ถ้าอยากกลับบ้าน ก็กลับได้นะ" หา!!!..กลับได้จริงๆ เหรอคะ คุณหมออออออ สภาพตอนกลับจากผ่าตัด  กลับจากผ่าตัดจะปวดหัวมากๆ 'ทั้งด้านหน้า ขมับทั้ง 2 ข้าง และท้ายทอยด้านหลัง' จนไม่อยากลืมตา  โชคดีที่มีเสียงพูดเลยบอกพยาบาลได้  จึงได้ยาแก้ปวดมากิน แต่ก็ยังต้องใช้เจลประคบเย็นช่วยด้วย ส่วนแผลที่ผ่าตัด ก็จะรู้สึกเจ็บแต่ไม่มาก คล้าย ๆ ตอนเราโดนมีดบาด พยาบาลไม่ต้องฉีดยาเพิ่มให้ เข้าห้องน้ำได้เองไม่ต้องให้น้องช่วย  โชคดีที่ก่อนผ่าตัดเข้าห้องน้ำบ่อย รีดน้ำออกไปจนหมด  กว่าจะอยากปัสสสาวะ  พยาบาลก็มาถอดสายน้ำเกลือออกไปแล้ว   พอตอนดึกๆ อยากไปเข้าห้องน้ำ ก็ถือกระเป๋าหิ้วสีฟ้าใบไม่ใหญ่ที่ใส่ถุงที่ถ่ายเลือดออกจากคอ เดินไปเข้าห้องน้ำได้สบาย ๆ ที่ลำบากจริงๆ ก็คือเวลาดื่มน้ำ  ต้องกะจังหวะดีมิฉะนั้นจะสำลัก  แรกๆ สำลักตลอด  ทรมานมาก กินยาก็ไม่ได้เม็ดใหญ่ไป  ต้องให้พยาบาลบดยามาให้   ปวดหัวก็ปวด  ขมก็ขม  กลืนก็ลำบาก กว่ายาจะหมด ครั้งแรกอาเจียนออกมา  น้องถามว่าทำไมอ่ะ ขมมากเหรอ   ส่ายหัว..ไม่รู้ดิ มันอ๊อกออกมาเอง   แล้วก็ต้องเริ่มกินยาแก้ปวดใหม่   คราวนี้กินเสร็จนอนเลย   คืนนั้นก็หลับ ๆ ตื่น ๆ ปวดหัว ๆ  พร้อมไข้ต่ำ ๆ 37.6 c จนเช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2559  คุณหมอมาถอดสายถุงเลือด และ ถามไถ่อาการ  ซึ่งก็คือ 'เสียงมี ไม่ปวดแผล ไม่อาเจียน เหลือแต่ยังปวดหัว กับมีไข้ต่ำ ๆ' แล้วคุณหมอก็พูดขึ้นว่า "ถ้าอยากกลับบ้าน ก็กลับได้นะ" ถามคุณหมอด้วยสายตาว่ากลับได้จริงเหรอ ยังปวดหัวอยู่เลยยย  คุณหมอเลยพูดต่อว่า "แต่ว่ายังปวดหัวอยู่  ก็กินยาไปก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ"  ค่ะ..กลับพรุ่งนี้ละกัน วันน้ัน หลังจากทานข้าวแล้วก็มียากินแก้ปวดอักเสบ  และก็ยาแก้ปวดหัว  คราวนี้ไม่ให้บดยาแล้ว พยายามกลืนๆ เข้าไป หลายครั้งมากจนยาละลายในปากเป็นเม็ดเล็ก  ลำบากลำบนกับยาจริงจิ๊ง ตกกลางคืน อาการปวดหัวทุเลาขึ้นพร้อมกับไข้ที่หายไป  เช้าวันที่ 4 สิงหาคม 2559  คุณหมอมาทำแผลให้ ซึ่งแผลก็ดี ไม่มีหนอง  ไข้ก็ไม่มี ปวดหัวก็หายแล้ว  คุณหมอก็เลยให้กลับบ้านได้  และนัดมาดูแผลอีกที วันที่ 9 สิงหาคม 2559 โดยสรุปแล้วที่มาผ่าตัดไทรอยด์   คุณหมอใช้เวลาผ่าตัดไม่เกิน 2 ชั่วโมง  เรานอนพักในโรงพยาบาล 2 วัน  อาการเจ็บแผลไม่มาก ปวดหัวมากกว่า แผลผ่าตัดไม่มีหนองแถมสวยด้วย น้องสาวแอบเห็นตอนหมอล้างแผล ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับห้องพักเดี่ยวพิเศษ  44,xxx  บาท ขอขอบคุณ นพ.พรชัย โอเจริญรัตน์ , นพ. กรวิทย์  (จำนามสกุลคุณหมอไม่ได้ค่ะ)  และทีมงานของคุณหมอในห้องผ่าตัด รวมทั้งพยาบาลของโรงพยาบาลศิริราชทุกท่านด้วยค่ะ   Create Date : 11 สิงหาคม 2559     Last Update : 13 สิงหาคม 2559 14:27:34 น. Counter : 1413 Pageviews.   0 comment Share Tweet

วันผ่าตัด...สู้สู้สู้ !!!! 2 สิงหาคม 2559 ตื่นแต่เช้ามืดไหว้พระ สวดมนตร์  แผ่เมตตา 6.20 น.  กินโจ๊ก ไม่ใส่ไข่ พยาบาลบอกไว้ล่วงหน้าว่ามื้อเช้าวันนี้ ขอให้เป็นอาหารอ่อนๆ ที่ย่อยง่าย จะได้ไม่มีอาหารค้างอยู่ในคอ ผ่าตัดจะได้ง่าย  แต่ที่ไม่ใส่ไข่ นี่กันไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่ผ่า กลัวแผลไม่สวย 7.10 น.  พี่ชายขับไปส่งหลานที่โรงเรียน  จากนั้นก็ไปส่งเราที่โรงพยาบาล 7.50 น.  ถึงโรงพยาบาลศิริราชละ เร็วจัง  โบกมือลาพี่ชายให้ไปทำงาน วันนี้พี่ติดประชุม ลาไม่ได้ แต่เดี๋ยวบ่ายๆ มา  ถือกระเป๋าเข้าโรงพยาบาลกับน้องสาว 2 คน  เป้าหมาย ตึก 84 ปี ชั้น 7 ฝั่งตะวันออก เมื่อได้ห้องพักแล้ว  ก็เริ่มต้นการเป็นคนไข้อย่างจริงจังด้วยการเปลี่ยนเสื้อผ้าไปใส่ชุดคนไข้สีฟ้าทันที 9.00 น.  เริ่มงดน้ำ-งดอาหาร   พยาบาลบอกอย่างจริงจังว่าให้งดอย่างเคร่งครัดนะคะ อมลูกอมก็ไม่ได้ อมน้ำกลั้วคอก็ไม่ได้ แต่กลืนน้ำลายตัวเองได้   ถ้าปฏิบัติได้ ก็จะดีกับคนไข้เอง  ทำได้แน่นอนค่ะ  และคุณพยาบาลก็เอาชุดคนไข้มาให้เปลี่่ยนเป็นชุดผ่าตัดสีชมพู ต่อมาพยาบาลก็มาเจาะเลือด และให้น้ำเกลือ  หลังจากนั้นก็จะมีคุณหมอมาพูดคุยเป็นระยะ ๆ  ทั้งคุณหมอทีมผ่าตัด  คุณหมอดมยา รวมทั้งคุณหมอยา (เภสัชกร มาถามถึงยาที่กิน)    ช่วงบ่ายพี่ชายมาละ  ดีใจก็ดีใจ แต่ยังไม่อุ่นใจเท่าไหร่   งั้นสวดมนตร์ดีกว่า  คืนนี้คงไม่ได้สวด สวดตอนนี้เลย   เวลาผ่านไป... มองนาฬิกา บ่าย 2 โมงละ ยังมีเวลา  สวดมนต์เผื่อพรุ่งนี้ด้วยดีกว่า พรุ่งนี้วันพระต้องสวดมนตร์ยาว คงจะยังเจ็บแผล  สวดมนตร์ไม่ได้แน่ๆ 15.00 น.  พยาบาลมาบอกว่า บ่าย 4 โมงจะมารับไปห้องผ่าตัด  ตื่นเต้น ๆ  เข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า ลากที่แขวนน้ำเกลือไปด้วย 15.30 น. ดูเวลา เข้าห้องน้ำอีกที กลับมาดูทีวีต่อ 16.00 น. ได้เวลาเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวเค้าจะมารับแล้ว ตื่นเต้นจริง ๆ นะ 16.15 น.  ยังไม่มีใครมารับ เลยเข้าห้องน้ำอีกครั้ง ยังจะมีให้เอาออกอีกมั้ย..ฮึ  พอออกจากห้องน้ำก็จ๊ะเอ๋กับคุณพยาบาลพอดี พร้อมเตียงที่มารับ  พี่พยาบาลถามว่าพร้อมยังคะ  ตอบรับทันทีพร้อมค่ะ เตรียมตัวเดินไปหน้าห้อง  พี่พยาบาลพูดขึ้นว่า "เอ๊ะ.. เดี๋ยวก่อน พี่ว่าชุดน้องเหมือนใส่ผิด มันต้องผูกข้างหลังนะ" อ้าวเหรอ..ไม่มีใครบอกนี่คะว่าใส่อย่างไร  แล้วเราก็ต้องเข้าไปโป๊เปลือยในห้องน้ำให้คุณพี่พยาบาลช่วยใส่ชุดผูกหลังให้  มันธรรมดาใช่ไหมคะ..ไม่อาย ๆๆ แล้วเตียงของเราถูกเข็นออกจากตึกไปสู่ห้องผ่าตัด  ไปถึงก็เปลี่ยนเตียงอีกรอบและซักถามชื่อให้แน่ใจ  จากนั้นเตียงก็เข็นเข้าไปในห้องด้านในเพื่อรอผ่าตัด  วันนี้คุณหมอที่ผ่าตัดให้เรามีคนไข้รอผ่าตัดอยู่ 4 คน เราเป็นคนที่สอง  ก็คิวถัดไปนั่นแหละ     หันมามองเตียงข้างๆ เป็นคุณลุง ที่กำลังรอผ่าตัดกับคุณหมอชื่อ "สุนัย" ได้ยินพยาบาลพูดกันว่า คุณหมอสุนัย พอผ่าตัดให้คุณลุงเสร็จ ก็จะมีผ่า แบบ Robot ต่อ อืมม์..เป็นยังไงนะ อยากรู้จัง "คุณพยาบาลครับ  ขอเข้าห้องน้ำครับ"  เสียงเรียกพยาบาลจากคุณลุงเตียงข้าง ๆ "ได้ค่ะคุณลุง  ไม่ต้องลุกนะคะ ไม่ต้องลุก  เดี๋ยวเข็นไปทั้งเตียงนี่แหละค่ะ" คุณพยาบาลตอบ แล้วก็ช่วยกันเข็นเตียงคุณลุงออกไป 17.30 น.  อ่า..อยากเข้าห้องน้ำบ้างจัง  แต่ดูลำบากๆ กับพยาบาลอ่ะสิ  แง..อยากเข้าๆ แต่ไม่กล้าพูดอ่ะ  ขอให้มีพยาบาลใจดีๆ มาถามเราหน่อยเถอะะะ หลับตาพักใจดีกว่า "คนไข้ชื่ออะไรคะ" เสียงพยาบาลดังข้างหู   "เดี๋ยวจะเข้าห้องผ่าตัดแล้วค่ะ  อยากเข้าห้องน้ำหรือเปล่าคะ"  คำนี้ที่รอคอย  ตอบทันที  "เข้าค่ะ"  จากนั้นก็มีคุณพยาบาลสองท่าน ก็ช่วยกันลากเตียงไปที่ห้องน้ำให้ ขอบคุณคุณพยาบาลมากๆ เลยค่ะ  แล้วก็ถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัดจริง ๆ  เหนือเตียงมีไฟกลมใหญ่ๆ เหมือนที่เห็นในละคร   'เสียงทักทายของคุณหมอดมยาและคุณพยาบาล'   'เสียงขอใส่หมวกคลุมผม' 'เสียงบอกให้ขยับตัวหน่อย'  แล้วก็.......... . . . . . "คุณxxคะ   คุณxxคะ  รู้สึกตัวยังคะ" เสียงใครเรียกหว่า "คุณxxคะ   คุณxxคะ"  เสียงพยาบาลเรียกนี่น่า ตอบก็ได้ "ค่ะ"  "ถ้ารู้สึกแล้ว ลืมตาด้วยค่ะ" ลืมตาแล้วค่ะ   "รู้สึกยังไงบ้างคะ" อ่า.. "ปวดหัวค่ะ" "เจ็บแผลไหมคะ" สั่นหัว "ปวดหัวค่ะ" "ถ้าปวดหัวขอยาบนห้องนะคะ" แล้วก็ได้ยินเสียงพยาบาล "กลับห้องค่ะ"   Create Date : 11 สิงหาคม 2559     Last Update : 11 สิงหาคม 2559 19:29:25 น. Counter : 1682 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ฟุ้งซ่าน ก่อนผ่าตัด   กลับบ้านอย่างงงๆ ว่าเราต้องผ่าตัดจริงๆ หรือนี่   มองไปที่ถุงยาที่ต้องกินประจำก่อนนอน ได้แต่ถอนใจ คุณหมอบอกว่า 'ไม่ต้องกินแล้ว กินไปก็ไม่ดีขี้น'  ทั้งทีกินอย่างเคร่ดครัด มาตั้งเกือบปี  ทำม้าย ทำมาย เธอไม่ช่วยชั้นสู้กับไทรอยด์เลยห๊า .. เศร้า ไลน์คุยกับคุณอาก่อนเลย  เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ลงท้ายด้วย "ผ่าแล้วเจ็บมากไหมคะ  เจ็บกี่วัน" คุณอาตอบว่า  "เจ็บวันสองวันก็หาย แต่กลับบ้านแล้วแผลอาเกิดเป็นหนอง  ต้องไปล้างแผลทุกวัน เกือบ 20 วันได้มั้ง แต่กินอะไรได้ปกติ" แง..มีคำว่าเป็นหนองด้วย กลัวจัง ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม กูเกิลช่วยเราได้  คีย์เวิร์ด "ผ่าตัดไทรอยด์"   ผลออกมาเยอะมากก แต่แบ่งเป็นประเด็นที่ต้องการได้ว่า 1. วิธีผ่าตัด  มี 2 อย่าง แบบผ่าเปิดที่คอ กับ แบบส่องกล้อง ของเราเนื่องจากไม่รู้มาก่อนว่ามีผ่าแบบส่องกล้องด้วย เพราะคุณอาของเรา 2 คน ก็ผ่าแบบเปิดที่คอ  คุณหมอเองก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้ และเมื่อเข้าไปดูในเว็บของรพ.ศิริราช ก็ไม่มีข้อมูลของผ่าแบบส่องกล้อง ก็เลยทำใจไว้ว่าคงจะเป็นแบบเปิดที่คอ    ฮือ..แผลจะยาวไหมเนียะ 2. ระยะเวลาและอาการที่อยู่ในโรงพยาบาลหลังผ่าตัด ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน ผ่าตัดเสร็จจะมีถุงที่ถ่ายเลือดออกจากคอ เวลาไปเข้าห้องน้ำก็ต้องเอาเข้าไปด้วย บางคนเจ็บแผลมากต้องขอยาเพิ่ม  บางคนเจ็บจนร้องไห้  บางคนปวดหัว  บางคนอาเจียนมาก  บางคนนอนไม่ได้ บางคนกลืนไม่ได้ บางคนไม่มีเสียง บลาๆๆๆ   มึนค่ะ มึน เริ่มกลัวแล้วสิ 3. แผลผ่าตัด  ถ้าผ่าแบบเปิดที่คอ คุณหมอมักจะผ่าตรงรอยของคอ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ของคุณอาเรา ก็ไม่เห็นรอยแผลเป็น  คุณอาบอกว่าอ้วนขึ้น ก็เลยไม่เห็นรอย 555   แต่บางคนก็เป็นหนอง ต้องไปล้างแผลทุกวัน เหมือนอาเราเลย 4. ผลชิ้นเนื้อที่ผ่าไป  มีทั้งเนื้องอกธรรมดาและมะเร็ง   ลุ้นแบบใจหน่วงๆ เลยอันนี้ 5. ระยะเวลาพักฟื้นที่บ้าน   แล้วแต่สุขภาพของแต่ละคน 3-7 วัน  ขอให้หายก่อนสารทจีนวันที่ 17 สิงหานี้ ก็พอ หาข้อมูลเรื่องผ่าตัดไทรอยด์ ไม่ได้หาแล้วหาเลยหรือหาแค่วันเดียว แต่เหมือนยังกังวลไม่พอหาแล้วหาอีก  อ่านประสบการณ์ของคนนั้น  อ่านเรื่องราวของพี่คนนี้  อ่านแล้วก็มานั่งจิตตก  จำได้แต่เรื่องติดลบกังวลจิตใจ  จนต้องบอกตัวเองว่า หยุดพักเถอะ  เลิกหาข้อมูลก่อน ไม่ดีต่อสุขภาพ  ก่อนผ่าตัดต้องแข็งแรงทั้งสุขภาพและจิตใจ เหลือเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์จะถึงวันผ่าตัด ก็ไม่มีเวลาให้กังวลใจเรื่องผ่าตัด  เพราะคุณแม่เป็นไข้หวัดตัวร้อน  เวลานั้นวุ่นวายนิดหน่อยต้องคอยดูแลคุณแม่ให้ไข้ลด   และต้องดูแลคุณป๋าไม่ให้ติดไข้ ...ไม่เป็นเพิ่มนะค้า     ผ่านไป 4 วัน คุณแม่ดีขึ้นแล้ว  แต่เรา..อ่า ร้อนในหลายที่เลย เหลืออีก 3 วันจะผ่าตัดแล้ว  ห้ามป่วยเด็ดขาด!!!  รีบหายามาป้ายด่วนๆ แล้วก็กินยาฟ้าทะลายโจรเช้า กลางวัน เย็น มื้อละ 3 เม็ดเลย  และแล้ววันที่ 2 สิงหาคม 2559 วันผ่าตัดก็มาถึง 8 โมงเช้า หิ้วกระเป๋าเข้าโรงพยาบาลศิริราชกับน้องสาว 2 คน พร้อมร่างกายที่แข็งแรงเต็มเปี่ยม  ฮึกเหิม ๆ   Create Date : 10 สิงหาคม 2559     Last Update : 10 สิงหาคม 2559 20:54:07 น. Counter : 645 Pageviews.   4 comment Share Tweet

ไปตรวจเต้านม แต่แจ็คพอตที่ไทรอยด์   เนื่องจากมีถุงน้ำหลายถุงในเต้านมทั้ง 2 ข้าง  คุณหมอเลยนัดตรวจทุก 6 เดือน วันที่ 11 กรกฎาคม 2559 ก็ไปตรวจตามกำหนด   ผล Mammogram และ ultrasound เต้านมไม่ได้ต่างจากคราวที่แล้ว  ถุงน้ำยังมีขนาดเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง  ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าไม่มีอะไรน่ากังวล  แต่ไทรอยด์นี่สิทำไมมันโตและแข็งขึ้น จับดูบ้างหรือเปล่า!! เอามือจับคอทันที ตอบคุณหมอในใจว่า จับค่ะหมอ ตอนจับรู้ว่าสึกว่ามันแบนๆ ขึ้น แต่ไม่รู้ว่านี่มันแปลว่าแข็งนี่คะ   จากนั้นคุณหมอก็เปิดประวัติการรักษาไทรอยด์ของเรา ซึ่งรักษากับคุณหมอท่านอื่นอยู่ (คือท่านทราบอยู่แล้วว่าเรารักษากับคุณหมอท่านอื่นอยู่ แต่เวลามาตรวจเต้านม ท่านก็จะตรวจไทรอยด์ที่คอให้ด้วย ซึ่งครั้งที่ผ่านมาท่านก็ไม่ได้พูดอะไร)  และก็ซักถามเราเพิ่มเติม ว่ากินยาอะไร และได้ทำ ultrasound ที่คอกับตรวจชิ้นเนื้อหรือยัง  ซึ่งคุณหมอก็สรุปว่า ผ่าออกเถอะ เพราะกินยาไปก็ไม่เห็นดีขึ้นเลย   ตอนนั้นคำว่า"ผ่าตัด" ดังก้องอยู่ในหัว ถามตัวเองว่าเอาไงดี ไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าจะต้องผ่าตัดเร็วขนาดนี้  แม้จะรู้ว่าคุณอาของเรา 2 คน หลังจากกินยาไปได้ 2-3 ปีก็ต้องผ่าไทรอยด์ออกเหมือนกัน   คิดไปคิดมา  อย่างไรช้าหรือเร็วก็ต้องผ่า ก้อนที่คอก็เหมือนมันค้ำๆ คอเวลากลืน  ถ้ารอให้โตกว่านี้ ยิ่งกลืนลำบากเข้าไปใหญ่ คุณอาเคยบอกว่า มันจะอึดอัดในคอ นอนแล้วมันค้ำคอ แล้วยังเหนื่อยง่ายอีกด้วย อืมม์..ไม่เอาอ่ะ  ผ่าก็ผ่า ในที่สุดก็ตอบตกลงกับคุณหมอว่าจะผ่า   ซึ่งก็ได้วันผ่าตัดมา เป็นวันที่ 2 สิงหาคม 2559  ง่ะ..20 กว่าวันเองงงง   Create Date : 10 สิงหาคม 2559     Last Update : 10 สิงหาคม 2559 18:34:30 น. Counter : 521 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• ตกตะกอน
• Arabianangel
• SevenDaffodils
• คนสาธารณะ
• Susie
• Lawanwadee
• คนควน
• smart_x
• ดอกไม้ของฬีฬา
• FeRn_MU
• anusun
• อัสติสะ
• badoo
• นิชนันท์
• beer87
• sirivinit
• lekouy
• room99
• cartoonthai
• alina
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com