ความสุขเกิดได้ที่ตัวเรา..พบได้ที่ในใจ
Group Blog
 
All blogs
 

ไม่โกรธเขา ... เรามีแต่ได้ กับได้

เคยตั้งใจมั๊ยคะ ที่จะไม่โกรธใคร แต่แล้วความครุกกรุ่นก็เริ่มเข้ามาในจิตใจ
จนปะทุเป็นไฟ แล้วทำให้เราระเบิดอารมณ์โกรธออกมาจนได้

และก็พานพบกับคำว่า "โกรธเขา..เราเจ็บ"

เพราะความโกรธไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่แย่ลง ๆ ทั้งจิตใจและความสัมพันธ์ แต่นั่นแหละเราก็ได้ทำลงไปจนได้...ซ้ำยังทำแล้วทำอีกซะด้วย และสุดท้าย ก็เป็นเรานั่นแหละที่ต้องเสียใจ

---------------------------------------------------------------------------------
ลองมาทราบถึงภยันตรายที่พ่วงมากับความโกรธ ที่พระพุทธเจ้าทรงดำรัสไว้ ว่า
๑. คนมักโกรธมีผิวพรรณทราม (ใจทราม ผิวทราม)
๒. คนมักโกรธต้องนอนระทมทุกข์ (ไม่อาจหลับตาลงอย่างเป็นสุข)
๓. คนมักโกรธมักมีเหตุให้ต้องเสียทรัพย์ (ลืมตัว ทะเลาะวิวาท ทำลายทรัพย์สิน)
๔. คนมักโกรธถึงมียศก็อาจเสื่อมจากยศ (ความโกรธบังตา ประพฤติในสิ่งที่ไม่ควรประพฤติ)
๕. คนมักโกรธจะกลายเป็นคนไร้ญาติขาดมิตร (จิตใจไร้เมตตา หยาบกระด้าง จึงถูกทิ้งให้อยู่เดียวดาย)
๖. คนมักโกรธมีทุคติเป็นที่หมายในโลกหน้า (ลืมถ้อยพระธรรมคำสอน ห่างไกลจากความดีงาม ใฝ่ต่ำทั้งกาย วาจา ใจ)
๗. คนมักโกรธเสี่ยงต่อการเป็นฆาตกร (ขาดสติ)
๘. คนมักโกรธอาจทำอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย โดยหามีความรู้สึกตัวไม่)
-----------------------------------------------------------------------------------

เมื่อตระหนักถึงอันตรายแล้ว เรามาช่วยกันฝึกใจตัวเองกันดีกว่าค่ะ

เริ่มจากเรียนรู้ที่จะมองโลกในแง่ดี คิดบวกไว้เสมอ และมีสติอยู่กับตัวเองตลอดเวลา

มีหนังสือหลายเล่มที่บอกถึงวิธีการคิดบวกและมองโลกในแง่ดีที่ช่วยเราได้

หรือจะใช้บทบริกรรมเจริญเมตตาสั้นๆ หรือคำสอนง่ายๆ ของพระคุณเจ้าที่ทำให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง และข่มความโกรธเอาไว้ได้ เช่น

"จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด" - หลวงพ่อสันติกะโร วัดสารอด กทม.

"ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี" - หลวงพ่อสันติกะโร วัดสารอด กทม.

"คนโกรธก่อนคือคนเลว แต่คนโกรธตอบเลวยิ่งกว่า" - พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ท่าน ว.วชิรเมธี)

ลองทำดูนะคะ เพราะถ้าเราช่วยให้ตัวเองหลุดรอดออกมาจากความโกรธได้ในแต่ละครั้ง
ไม่ได้มีความหมายแคบๆ แค่เราชนะตัวเองได้เท่านั้น แต่ยังหมายถึง
เรายังได้ป้องกันไม่ให้คนอื่นเดินเข้ามาสู่วงจรแห่งความทุกข์เพราะความโกรธ
ร่วมกันกับเราได้อีกด้วย

ผลดีแค่นี้ยังไม่พอ เพราะเรายังได้สานิสงส์ของเมตตา ๑๑ ประการอีกต่างหาก
๑. หลับเป็นสุข คือ หลับง่ายและหลับสนิท
๒. ตื่นเป็นสุข คือ สดชื่น อารมณ์แจ่มใส
๓. ไม่ฝันร้าย
๔. เป็นที่รักของมนุษย์
๕. เป็นที่รักของอมนุษย์
๖. เทวดารักษา
๗. ไฟ ยาพิษ ศัสตราวุธไม่แผ้วพาน
๘. จิตเป็นสมาธิได้อย่างรวดเร็ว
๙. สีหน้าผ่องใส
๑๐. เมื่อถึงคราวตายก็จากไปอย่างสงบ
๑๑. หากยังไม่บรรลุคุณธรรมระดับสูง ย่อมจะไปบังเกิดในพรหมโลก




เอาหล่ะ...ต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ได้นะคะ เราจะได้หลุดจากการเจ็บซ้ำซากซะที
สู้ๆๆๆๆ.... ไม่โกรธโว้ย


***เนื้อหาส่วนใหญ่อ้างอิงจาก หนังสือ ธรรมะหลับสบาย ของ ท่านว.วชิรเมธี ***




 

Create Date : 20 มกราคม 2551    
Last Update : 20 มกราคม 2551 23:42:58 น.
Counter : 1323 Pageviews.  

แท้จริง..เธอทำอยู่แล้ว

ถ้าพูดขึ้นมาว่า “เรามาปฏิบัติธรรมกัน”
เจ๊ : “ชั้นทำไม่ได้หรอก ชั้นกลัว”
หนูแป้ง : “อยากทำมากเลย แต่ไม่ค่อยมีเวลาเลยพี่”

เพราะ...
เจ๊ : “ชั้นยังละการทำบาปไม่ได้ แต่ชั้นไม่ทำผิดศีลข้อกามาเด็ดขาด”
หนูแป้ง : “ยังมีกิเลสอยู่ค่ะ แต่ก็พยายามไม่ให้ตัวเองทำบาปใดๆ”

แต่ที่เห็น...
ถ้ามีใครขับรถปาดหน้า จะได้ยินเจ๊พูดว่า “เค้ากำลังรีบบบ...บ ช่างเค้าาาา...า ให้เค้าไปก่อนเลย ไปเลยไป”
และเวลาที่ใครมาทำไม่ดีใส่ ก็จะเห็นหนูแป้งทำปากขมุบขมิบ สูดลมหายใจเข้าแรงๆ
“สัพเพ สัตตา................. เราจะไม่มีเวรกรรมต่อกัน เราจะไม่สร้างเวรกับใคร”
.
.
.
นี่คือ คำพูดและการกระทำที่เราพบจากคนใกล้ตัว และเราก็เชื่อว่ามีอีกมากมายหลายคนที่ปากก็บอกว่า ไม่ได้ปฏิบัติธรรม แต่แท้จริงแล้ว เขาทำอยู่แล้ว เขาได้ทำ..มานานแล้ว

การให้อภัยใคร มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ไม่ใช่ว่าคิดปุ๊บแล้วจะทำได้ เขาจะต้องฝึกบังคับตัวเอง (เจริญสติ) ให้ระงับความโกรธที่จะเกิดขึ้น (มีเมตตา) อันเกิดจากการกระทำของผู้อื่น (ตัดอุปาทาน) และทำจิตใจตัวเองให้สงบ (มีอุเบกขา) ไม่ปรารถนาร้ายกับผู้อื่น (มีกรุณา)

และการละการทำบาป ไม่ทำผิดข้อกามาฯ ไม่ว่าจะละเว้นเพียงหนึ่งหรือสองข้อ ล้วนเรียกว่า การมีศีล ทั้งสิ้น

สิ่งต่างๆ ที่เจ๊และหนูแป้งทำอยู่นั้น นั่นคือขั้นต้นของ การปฏิบัติธรรมแบบวิธีธรรมชาติ

หลวงพ่อเทียน กล่าวไว้ในหนังสือ แด่เธอ..ผู้รู้สึกตัว ว่า “วิธีการเจริญความรู้สึกตัวทั่วพร้อมที่สามารถสิ้นสุดทุกข์ได้ ตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจและที่ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนนั้น คือการปฏิบัติในชีวิตประจำวันนี้เอง”

นั่นคือถ้าหากเจ๊และหนูแป้ง ทำการเจริญสติอยู่เสมอ มีพรหมวิหาร4 เป็นคุณธรรม ฝึกจิตให้หลุดพ้นจากอุปาทานได้ การถึงซึ่งนิพพานก็อยู่ไม่ไกล

ท่านพุทธทาสกล่าวไว้ในหนังสือ คู่มือมนุษย์ฉบับสมบูรณ์ ว่า
“พระพุทธเจ้าทรงระบุความหมายของนิพพาน ในลักษณะที่เป็นภาวะอันปราศจากความทิ่มแทงร้อยรัดแผดเผาของกิเลสและความทุกข์ เพราะการได้เห็นโลก เห็นสิ่งทั้งหลายทั้งปวงตามที่เป็นจริง จนดับกิเลสตัณหาและอุปทานเสียได้ดังนี้

เพราะฉะนั้น เราจึงควรจะมองเห็นคุณค่าอันใหญ่ยิ่ง ของการเห็นสิ่งทั้งหลายทั้งปวงถูกต้องตามที่เป็นจริง ที่เรียกว่า
ยถาภูตญาณทัสสนะ ควรพยายามทำให้เกิดมีขึ้นทางใดทางหนึ่งใน ๒ ทาง เท่าที่เราจะพึงทำได้ คือ ทางที่จะเป็นไปเองตามธรรมชาติโดยการประคับประคองให้ดี ในการทำจิตให้มีปีติปราโมทย์ เป็นการอยู่ชอบ เป็นการอยู่บริสุทธิ์ ทุกลมหายใจเข้าออกทั้งกลางวันกลางคืนอยู่เสมอ จนกระทั่งเกิดคุณธรรมต่างๆ ตามลำดับที่กล่าวมาแล้วนี้ได้ตามธรรมชาติ นี้วิธีหนึ่ง. ส่วนอีกวิธีหนึ่งนั้น เป็นการเร่งรัดเอาด้วยกำลังบังคับ คือไปศึกษาและปฏิบัติตามวิธีเทคนิคโดยเฉพาะ ในการทำสมาธิ หรือการเจริญวิปัสสนา เมื่อมีอุปนิสัยและอินทรีย์ต่างๆ เหมาะสมในตนก็สามารถทำให้ก้าวหน้าไปได้โดยเร็ว ในเมื่อถูกวิธี และถูกสิ่งแวดล้อมอื่นๆ

แต่อย่างไรก็ดี โอกาสที่เปิดไว้สำหรับทุกคน มีอยู่ตรงที่ว่าอย่างน้อยก็อาจทำตามวิธีธรรมชาติ จงอย่าละเว้น จงอย่าได้คิดว่าต้องแก่ๆ เฒ่าๆ จึงค่อยไปเข้าวัดไปทำ หรือต้องลาราชการไปบวชสามเดือนสี่เดือนก่อน จึงค่อยทำ เราต้องพยายามทำทุกๆ โอกาส ทุกลมหายใจเข้าออก ... ทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี ก็จะใกล้ชิดพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงได้ ตั้งแต่บัดนี้ไป”

.
.
.
.
“พร้อมปฎิบัติธรรมกันหรือยังคะ”







 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2549 10:35:26 น.
Counter : 336 Pageviews.  


ฟ้าอาภา
Location :
พระนครศรีอยุธยา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




พุทธะ รู้ ตื่น เบิกบาน
ปล่อยวาง เรียบง่าย คือ เซน
Friends' blogs
[Add ฟ้าอาภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.