กลับจากผ่าตัดจะปวดหัวมากๆ 'ทั้งด้านหน้า ขมับทั้ง 2 ข้าง และท้ายทอยด้านหลัง' จนไม่อยากลืมตา โชคดีที่มีเสียงพูดเลยบอกพยาบาลได้ จึงได้ยาแก้ปวดมากิน แต่ก็ยังต้องใช้เจลประคบเย็นช่วยด้วย
ส่วนแผลที่ผ่าตัด ก็จะรู้สึกเจ็บแต่ไม่มาก คล้าย ๆ ตอนเราโดนมีดบาด พยาบาลไม่ต้องฉีดยาเพิ่มให้
เข้าห้องน้ำได้เองไม่ต้องให้น้องช่วย โชคดีที่ก่อนผ่าตัดเข้าห้องน้ำบ่อย รีดน้ำออกไปจนหมด กว่าจะอยากปัสสสาวะ พยาบาลก็มาถอดสายน้ำเกลือออกไปแล้ว พอตอนดึกๆ อยากไปเข้าห้องน้ำ ก็ถือกระเป๋าหิ้วสีฟ้าใบไม่ใหญ่ที่ใส่ถุงที่ถ่ายเลือดออกจากคอ เดินไปเข้าห้องน้ำได้สบาย ๆ
ที่ลำบากจริงๆ ก็คือเวลาดื่มน้ำ ต้องกะจังหวะดีมิฉะนั้นจะสำลัก แรกๆ สำลักตลอด ทรมานมาก กินยาก็ไม่ได้เม็ดใหญ่ไป ต้องให้พยาบาลบดยามาให้ ปวดหัวก็ปวด ขมก็ขม กลืนก็ลำบาก กว่ายาจะหมด ครั้งแรกอาเจียนออกมา น้องถามว่าทำไมอ่ะ ขมมากเหรอ ส่ายหัว..ไม่รู้ดิ มันอ๊อกออกมาเอง แล้วก็ต้องเริ่มกินยาแก้ปวดใหม่ คราวนี้กินเสร็จนอนเลย
คืนนั้นก็หลับ ๆ ตื่น ๆ ปวดหัว ๆ พร้อมไข้ต่ำ ๆ 37.6 c
จนเช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2559 คุณหมอมาถอดสายถุงเลือด และ ถามไถ่อาการ ซึ่งก็คือ 'เสียงมี ไม่ปวดแผล ไม่อาเจียน เหลือแต่ยังปวดหัว กับมีไข้ต่ำ ๆ' แล้วคุณหมอก็พูดขึ้นว่า "ถ้าอยากกลับบ้าน ก็กลับได้นะ" ถามคุณหมอด้วยสายตาว่ากลับได้จริงเหรอ ยังปวดหัวอยู่เลยยย คุณหมอเลยพูดต่อว่า "แต่ว่ายังปวดหัวอยู่ ก็กินยาไปก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ" ค่ะ..กลับพรุ่งนี้ละกัน
วันน้ัน หลังจากทานข้าวแล้วก็มียากินแก้ปวดอักเสบ และก็ยาแก้ปวดหัว คราวนี้ไม่ให้บดยาแล้ว พยายามกลืนๆ เข้าไป หลายครั้งมากจนยาละลายในปากเป็นเม็ดเล็ก ลำบากลำบนกับยาจริงจิ๊ง
ตกกลางคืน อาการปวดหัวทุเลาขึ้นพร้อมกับไข้ที่หายไป
เช้าวันที่ 4 สิงหาคม 2559 คุณหมอมาทำแผลให้ ซึ่งแผลก็ดี ไม่มีหนอง ไข้ก็ไม่มี ปวดหัวก็หายแล้ว คุณหมอก็เลยให้กลับบ้านได้ และนัดมาดูแผลอีกที วันที่ 9 สิงหาคม 2559
โดยสรุปแล้วที่มาผ่าตัดไทรอยด์
- คุณหมอใช้เวลาผ่าตัดไม่เกิน 2 ชั่วโมง
- เรานอนพักในโรงพยาบาล 2 วัน
- อาการเจ็บแผลไม่มาก ปวดหัวมากกว่า
- แผลผ่าตัดไม่มีหนองแถมสวยด้วย น้องสาวแอบเห็นตอนหมอล้างแผล
- ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับห้องพักเดี่ยวพิเศษ 44,xxx บาท
ขอขอบคุณ นพ.พรชัย โอเจริญรัตน์ , นพ. กรวิทย์ (จำนามสกุลคุณหมอไม่ได้ค่ะ) และทีมงานของคุณหมอในห้องผ่าตัด รวมทั้งพยาบาลของโรงพยาบาลศิริราชทุกท่านด้วยค่ะ