Group Blog
 
<<
เมษายน 2562
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
14 เมษายน 2562
 
All Blogs
 
-: เพชรพระอุมา 2 :- บันทึการเดินทาง (วันที่ 30-63) - กลับบ้าน

เมษายน 2562


มรกตนคร..จุดนัดพบระหว่างทิวาและราตรีกาล
ตามความคิดของ จขบ. มันลึกซึ้งมากนะ เพราะมันน่าจะหมายถึง..
รพินทร์ (=พระอาทิตย์/เห็นได้เฉพาะเวลากลางวัน), ดาริน (=ดาว/เห็นได้เฉพาะเวลากลางคืน)
สรุป..ก็น่าจะแปลได้ว่า มรกตนคร..จุดนัดพบระหว่างรพินทร์กับดาริน นั่นเอง
 

วันที่ 30 : มรกตนคร (เล่ม 48 : มงกุฏไพร 4 น.7691)
วันที่ 30 ตามเวลาโลกภูมิศาสตร์
วันที่ 116 ตามเวลาพนมเทียน แรม 11 ค่ำ 24 มีนาคม

ตอนบ่าย พาทั้ง 2 คณะไปดูซากเครื่องบินที่ตกอยู่หลังเทวาลัย
ฉายแสงส่งรหัสมอร์สกันอีกแล้ว สรุปว่าฟารั้งไม่เอาอะไรกลับบ้านสักอย่างเดียว

เมยานีประกาศแฟนซีปาร์ตี้ (จริงๆ ก็ควรจะเรียกอย่างนี้นะ-จขบ.) 'เมื่ออยู่ในมรกตนคร จงเป็นชาวมรกตนคร' (น.7740)

"ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอุบายของแงซายที่กระซิบสั่งให้เมยานีออกคำสั่งเช่นนั้น ... มีอะไรที่ผมตามแงซายไม่ทัน และมีอะไรที่แงซายตามผมไม่ทัน ไอ้เจ้ากะล่อนนั่นมันฉลาดสารพัด และเป็นนักจัดฉากละครอย่างวิเศษสุด โดยไม่ให้ตัวละครที่จะแสดงรู้ตัวเลย ม่ายงั้นมันไม่จับคุณหญิงแต่งงานกับผมได้โดยเราไม่ทันรู้ตัวหรอก โอกาสแรกและโอกาสสุดท้าย ที่แงซายต้องการจะให้คุณหญิงเป็น 'จิตรางคนางค์' จึงแกล้งให้เมยานีออกคำสั่งเชิงขอร้องทุกคนมาเช่นนี้ เพื่อจะไม่ให้อะไรดูผิดปกติ และเมื่อทุกคนแต่งตัวแบบชาวมรกตนคร การที่คุณหญิงจะถูกจับแต่งให้กลับไปเป็นจิตรางคนางค์ก็จะไม่มีใครสงสัยหรือเฉลียวคิด จะมีรู้กันก็แต่เพียงแงซายและเมยานีเท่านั้น แต่ผมรู้เท่าทันมัน ... ผมกับมัน เป็นคู่ปรับ คู่มิตรกันมานานแล้ว เพียงแค่มองตามันผมก็รู้แล้วว่ามันคิดอะไร ... มันจะร้ายหรือลึกลับไปไม่ได้ถึงไหนหรอกครับ ตราบใดที่ รพินทร์ ไพรวัลย์ ยังอยู่ เท่าแล้วเท่ารอด แม้จะดีที่สุดต่อเราแล้วก็ตาม แงซายก็ยังมีอารมณ์ประชดประชันเหน็บแนมอยู่ตลอดเวลา มันอยากจะเห็นหน้าตาของผมว่าเป็นอย่างไร ถ้ามองไปเห็นแม่ดอกฟ้าดารินของผม กลายร่างเป็นจิตรางคนางค์อีกครั้ง.." (น.7745)

งานเลี้ยงจัดที่ปราสาทด้านหลัง (น.7760)
จริงๆ แล้ว แงซายตั้งใจจะให้เป็นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของรพินทร์กับดารินนะ 
"ในพระนามของพระศิวะเทพ และศรีมหาอุมาเทวี ในนามของจักราธิราชเจ้า ราชินีเมยานี ประชาชนชาวมรกตนครทั้งหลาย พรานทั้งสี่ของรพินทร์ และลูกบ้านหนองน้ำแห้งอันเป็นลูกหาบที่มาในครั้งนี้ทุกคน รวมทั้งพวกท่าน ฝ่ายอเมริกันทั้งหมดที่มาประชุมกันอยู่ ณ ที่นี้ด้วย เราขอให้คุณหญิงดาริน วราฤทธิ์ และพรานใหญ่ รพินทร์ ไพรวัลย์ จงครองรักร่วมกันด้วยความสุขสมบูรณ์ทุกทิวาราตรี และไม่มีสิ่งใดที่จะต้องมาทำให้พลัดพรากจากกันอีกแล้วไปตลอดชั่วอายุขัย.." (น.7780)

"เราทั้งสอง กำลังตกอยู่ในภาวะที่ตื่นเต้น ปีติปลาบปลื้มในความกรุณาของพวกท่านทุกคนจนสุดที่จะกล่าวคำใดออกมาได้มาก โดยเฉพาะพระเมตตามหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระเจ้าจักราธิราช และสมเด็จพระราชินีเมยานี ตลอดจนท่านผู้ใหญ่ทุกท่านของฝ่ายเจ้าสาว ไม่ว่าจะเป็นคุณชายเชษฐา คุณชายกลาง คุณไชยยันต์ รวมทั้งพวกท่านฝ่ายอเมริกันทุกคนกับคุณเชิดวุธด้วย ขอขอบพระทัยและขอบคุณ และขอปฏิญาณไว้ ณ ที่นี้ ต่อหน้าพระพักตร์ทั้งสองพระองค์ และต่อหน้าท่านทั้งหลายว่า ผมจะรักคุณหญิงดารินไปจนหมดสิ้นลมหายใจของผม คุณหญิงดาริน คือรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม และเธอคือมงกุฏไพรของผม เป็นรางวัลแห่งชีวิตของพรานต่ำศักดิ์คนหนึ่งที่ได้รับมาอย่างไม่คาดฝัน อีกครั้งเราทั้งสองขอขอบคุณ" (น.7783)

"..และครูคนที่สามก็คือ ผู้กองรพินทร์คนนี้ ท่านอบรมสั่งสอนผมมาสารพัดสิ่ง ไม่ว่าโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ท่านก็คือปรมาจารย์คนล่าสุดของผม ศิษย์จะดีได้เพียงไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับครูด้วย ... เจ้าสิ่งที่ผู้กองเคยกวดขันดุด่าว่ากล่าวผมมาแล้วทั้งหลายนั่นแหละครับ คือคำสั่งสอนที่ผู้กองอาจไม่รู้ตัวเอง อย่าว่าแต่จะเป็นอาจารย์สอนสรรพวิทยาการให้เลย แม้แต่บัลลังก์มรกตนครแห่งนี้ ผมก็จะไม่สามารถกู้กลับคืนมาได้ ถ้าปราศจากผู้กองรพินทร์ ไพรวัลย์ เป็นเสนาธิการใหญ่วางแผนให้ทั้งหมด โดยมีคณะเจ้านายเก่าของผมเข้าร่วมมือด้วย ซึ่งบุญคุณของผู้กองและบรรดาเจ้านายเก่าของผมทุกท่าน ผมไม่อาจทดแทนได้สาสมตลอดจนสิ้นชีวิตนี้ทีเดียว เพราะฉะนั้น โดยเฉพาะผู้กองรพินทร์และคุณหญิงดาริน ผมจึงรักเสมือนพี่ชายและพี่สาวร่วมสายโลหิต เราทั้งสามมีความผูกพันทางใจต่อกัน ชนิดจะไม่มีอะไรมาแยกออกเสียได้.." (น.7790)

แต่งให้แล้ว จัดงานเลี้ยงฉลองให้แล้ว ถ้าไม่ส่งตัวเข้าหอด้วย เดี๋ยวจะไม่ครบ-จขบ. (น.7809)
"และ...เอ้! สำหรับคู่บ่าวสาวทั้งสอง ผมคิดว่าคืนนี้เป็นคืนส่งตัวที่ฤกษ์ดีที่สุดแล้ว สำหรับเวลาส่งตัวนั้น จะเป็นเวลาสักเท่าไหร่ ก็ขอมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวจะเห็นสมควร"
"อย่าทะลึ่ง!..เรื่องของข้า ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง"
"ตราบใดก็ตาม ที่ผู้กองยังอยู่ในมรกตนครแห่งนี้ เรื่องของผู้กองก็เหมือนเรื่องของผมทุกเรื่องไปแหละ"

************

วันที่ 38 : มรกตนคร (เล่ม 48 : มงกุฏไพร 4 น.7841)
วันที่ 38 ตามเวลาโลกภูมิศาสตร์ (เหยียบถนนพระศิวะเมื่อวันที่ 27 ของการเดินทาง)
วันที่ 124 ตามเวลาพนมเทียน ขึ้น 4 ค่ำ 1 เมษายน

น.7841 ในหนังสือบรรยายว่า 'ย่างเข้าวันที่ 9 ของการเข้ามาพำนักอย่างปลอดโปร่งสุขสบายอยู่ในมรกตนคร'
แต่ น.7846 บอกว่าเราทั้งหมดได้มาพำนักอยู่ในมรกตนครเป็นเวลาครบ 12 วันพอดี
ดังนั้น ที่บอกว่า 'ย่างเข้าวันที่ 9' ก็น่าจะพูดในมุมของพวกอเมริกัน แปลว่า..ไม่นับ
1 คืน บนถนนพระศิวะ
1 คืน ที่เข้าถึงมรกตนครตอนเที่ยงคืน และ
1 คืน ที่รอวันรุ่งขึ้นจะได้ไปดูซากเครื่องบินตก (คืนที่แงซายจับรพินทร์-ดารินแต่งงานแบบงงๆ)
หลังจากนั้นจึงจะเป็นการ 'พำนักอย่างปลอดโปร่งสุขสบายอยู่ในมรกตนคร'

เตรียมเก็บของกลับบ้าน ... ถึงจะเศร้า แต่ก็เข้าใจ

"..ไม่มีเซอร์ไพรส์ใดๆ อีกแล้วสำหรับผม เมื่อจัดการแต่งงานให้ผู้กองกับนายหญิงของผมลุล่วงเรียบร้อยไปแล้ว ก็เปรียบเสมือนภาระอันหนักอกยิ่งใหญ่ในชีวิตของผมได้ถูกปลดเปลื้องไปแล้วจนหมดสิ้น มันหมายถึงว่า ผมได้ทำให้ใบหน้าที่ตายด้านแข็งกระด้างประดุจหินบนหลุมฝังศพของผู้กองรพินทร์ซึ่งเป็นเช่นนี้มาตลอดชีวิต ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นใบหน้าของมนุษย์ปกติธรรมดากับเขาได้เสียที จึงไม่มีอะไรที่จะต้องทำเซอร์ไพรส์อีกแล้ว" (น.7856)

แนะนำเส้นทางกลับบ้าน (น.7857)

"..อยากจะขอถามสักนิด ว่าถ้ากลับไปถึงบ้านเกิดเมืองนอนแล้ว จะจัดให้มีพิธีวิวาห์ขึ้นอีกไหมครับ?" (น.7863)
"ดารินกับรพินทร์ ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องไปจัดพิธีแต่งงานที่ไหนอีกทั้งสิ้น เพราะการแต่งงานของเขาทั้งคู่ที่นี่ สมบูรณ์แบบเรียบร้อยครบสิ้นหมดทุกประการแล้ว โดยกษัตริย์จักราธิราชเจ้าเป็นผู้ทรงพระราชทานพิธีสมรสให้อย่างสมเกียรติที่สุด"
"ในนามของจักราธิราชเจ้าผู้ปกครองแผ่นดินนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านที่กรุณาให้เกียรติผม และไม่เห็นว่าพิธีการต่างๆ ที่ผมได้จัดเตรียมไว้ให้นั้นเป็นสิ่งเหลวไหล ครั้งแรกเมื่อจากกันคราวนั้น ผมได้ 'หมั้น' นายหญิงไว้ให้แก่ผู้กองแล้ว และเมื่อวกกลับมาในคราวนี้ ผมก็จัดการแต่งให้เสียเลย ผมภูมิใจอย่างที่สุด"

************

วันที่ 39 : คืนสุดท้ายในมรกตนคร (เล่ม 48 : มงกุฏไพร 4 น.7867)
วันที่ 39 ตามเวลาโลกภูมิศาสตร์ (เหยียบถนนพระศิวะเมื่อวันที่ 27 ของการเดินทาง)
วันที่ 125 ตามเวลาพนมเทียน ขึ้น 5 ค่ำ 2 เมษายน

ออกมานอนรวมกัน เพื่อเตรียมตัวพร้อมออกเดินทางแต่เช้า รพินทร์มานอนกับคณะเชษฐาด้วย

************

วันที่ 40 : คืนสุดท้ายบนถนนพระศิวะ (เล่ม 48 : มงกุฏไพร 4 น.7871)
วันที่ 40 ตามเวลาโลกภูมิศาสตร์ (เหยียบถนนพระศิวะเมื่อวันที่ 27 ของการเดินทาง)
วันที่ 126 ตามเวลาพนมเทียน ขึ้น 6 ค่ำ 3 เมษายน

"ทุกคนตระหนักดีว่าผู้กองเป็นคนดีมีวิชา และหนักไปในทางเดียรัจฉานวิชาเสียด้วย" (น.7878)
"ทรงเลี้ยวลดมาหาข้าพระองค์ทำไม?"
"พรานกะเหรี่ยงที่ชื่อแงซาย เคยเห็นผู้กองสามารถจะหยิบถ่านแดงๆ จากกองไฟขึ้นมาจุดบุหรี่ได้ ยามที่ร้อนวิชาหนัก"
"ถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังหยิบได้..แล้วยังไง?"

หมอเบลว่า..ไม่อยากให้พรุ่งนี้มาถึงเลย

************

วันที่ 41 : กึ่งกลางถนนพระศิวะ (เล่ม 48 : มงกุฏไพร 4 น.7885)
วันที่ 41 ตามเวลาโลกภูมิศาสตร์ (เหยียบถนนพระศิวะเมื่อวันที่ 27 ของการเดินทาง)
วันที่ 127 ตามเวลาพนมเทียน ขึ้น 7 ค่ำ 4 เมษายน

"ทุกสิ่งทุกอย่าง เราทั้งสองฝ่ายก็ตระหนักแน่แก่ใจกันดีอยู่แล้วพระเจ้าข้า เอวังจึงมีด้วยประการฉะนี้!" (น.7897)
"ใช่! เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ ขอให้พี่ชายของข้าจงประสบแต่ความสุขชั่วนิรันดร์กาล และเราจะไม่พบกันอีกแล้ว..ตลอดไป!!"
"แม้กระทั่งทางกระแสดวงจิต เช่นนั้นรึ?"
"ถูกต้อง เราจะไม่พบกันอีก แม้แต่ในกระแสจิต หรือในความฝัน นอกจากความระลึกถึงกันเท่านั้น ภารกิจทุกด้านของท่านเสร็จสิ้นลงแล้ว ภารกิจของข้าก็เสร็จสิ้นลงเช่นกัน สวรรค์เบื้องบนทรงทราบดี..ลาก่อน พี่ชายที่รักของข้า!!"

พ้นเขตแดนสนธยา ตั้งเวลากันใหม่ ตอนนี้ 13.30 น. (น.7902)
คืนนี้วางแค้มป์ในป่าสน
ดารินคุยกับรพินทร์ เรื่องที่แงซายไม่สร้างอนุสาวรีย์ตามที่เคยบอกไว้ (น.7913)

************

วันที่ 42-43-44 (เล่ม 48 : มงกุฏไพร 4 น.7923)
วันที่ 44 ตามเวลาโลกภูมิศาสตร์
วันที่ 130 ตามเวลาพนมเทียน ขึ้น 10 ค่ำ 7 เมษายน

รุ่งเช้าของวันที่สี่ (นับจากเดินลงมาจากถนนพระศิวะ เมื่อวันที่ 41 ของการเดินทาง) รพินทร์เริ่มออกเดินนำลิ่วไปเบื้องหน้า เหมือนเป็นการเร่งเวลาทุกคน เพราะถ้ามัวชักช้า ดวงดาวทำมุมองศาเปลี่ยนไป จะเดินกันเหนื่อยกว่านี้

************

วันที่ 45-46-47 (เล่ม 48 : มงกุฏไพร 4 น.7934)
วันที่ 47 ตามเวลาโลกภูมิศาสตร์
วันที่ 133 ตามเวลาพนมเทียน ขึ้น 13 ค่ำ 10 เมษายน

บรรยายว่า..อีกสองวันเต็มๆ ของการเดินอย่างที่เรียกว่ามหาโหด

"ข่าวดีครับ! ทุ่งหญ้าในระดับพื้นราบกำลังปรากฏอยู่ข้างล่างนี่แล้ว! มันกว้างใหญ่และราบเรียบราวกับลานบิน ส่วนที่ห่างลิบๆ สุดสายตาออกไปโน่น คือดงดิบเขียวชอุ่มทีเดียว"
เชษฐาว่า "แปลกมาก แปลกจริงๆ นี่เราตัดทางผ่านนรกดำออกมาได้ยังไง เพียงระยะเวลาการเดินทางเพียงชั่วอาทิตย์กว่าๆ เท่านั้น เราผ่านนรกดำเหมือนๆ กับว่ามันไม่เคยมีปรากฏมาก่อนเลย" (จขบ.นับได้แค่ 7 วันเอง จากที่เดินลงจากถนนพระศิวะ)

"..เราไม่ได้ลัดทางหรอกครับ แต่มีอะไรสักอย่างหนึ่งทำให้เราสามารถย่นระยะทางได้อย่างชนิดเดินข้ามมิติ อย่างที่ผมก็ไม่คาดฝันมาก่อนเหมือนกัน ผมนำทุกคนเดินมาตามคำสั่งของแงซายที่เขากำหนดไว้โดยไม่ได้ฝืนคำสั่งของเขาเลย" (น.7940)

จอมพรานก้าวห่างออกจากคณะทั้งหมดไปเล็กน้อย แล้วหันหน้าไปทางทิศเหนืออันเป็นตำแหน่งที่ตั้งของภูเขานิลกาญจน์ ซึ่งขณะนี้ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยสายตา ยืนสำรวมสงบนิ่งอยู่ชั่วขณะ เหมือนจะเป็นการเข้าสมาธิส่งกระแสจิตไปสักการะต่อมหาฤษีโกฑัญญะ พระศิวะเทพและพระศรีมหาอุมาเทวี ต่อมาก็ลืมตาขึ้นตามเดิมพร้อมกับสูดลมหายใจลึก

.458 นัดที่ 29 (นัดสุดท้าย) : ยิงสลุต

"..ขามา นายเดินมาโดยรพินทร์ ไพรวัลย์ เป็นผู้นำ มันก็ลำบากและใช้เวลามาก แต่ขากลับ นายกลับโดยเส้นทางกำหนดของพระศิวะเทพ ซึ่งมีบัญชาสั่งผ่านมาทางจักรราช บอกแค่นี้ หวังว่าคงไม่ต้องอธิบายมาก.." (น.7942)

จักราชมาบอกคริสว่าวิทยุใช้การได้แล้ว (น.7945)

************

วันที่ 48 (เล่ม 48 : มงกุฏไพร 4 น.7950)
วันที่ 48 ตามเวลาโลกภูมิศาสตร์
วันที่ 134 ตามเวลาพนมเทียน ขึ้น 14 ค่ำ 11 เมษายน

Farewell อเมริกัน 4 คนและเชิดวุธขึ้นเครื่องกลับบ้าน ส่วนทีี่เหลือก็เดินกันต่อไป

ขบวนเดินป่าแปรสภาพเป็นขบวนกลองยาว (น.7957)
'มีมะกรูดมาแลกมะนาว มีน้องสาวมาแลกน้องเขย เอาวะเอาเหวย น้องเขยชื่อรพินทร์ ตะละร้า'

************

วันที่ 49 (เล่ม 48 : มงกุฏไพร 4 น.7963)
วันที่ 49 ตามเวลาโลกภูมิศาสตร์
วันที่ 135 ตามเวลาพนมเทียน ขึ้น 15 ค่ำ 12 เมษายน

รพินทร์สั่ง มุ่งหน้าหล่มช้างไปส่งคะหยิ่นกับอูถะและพะโต้ก่อน แล้วค่อยกลับหนองน้ำแห้ง

เจ้าด้วนแอบดักรออยู่ระหว่างทาง ส่งเสียงร้องแปร๋นดังออกมาก่อนจะโผล่มาให้เห็น ทำเอาทั้งคณะหยุดหายใจกันไปพักนึง ยกเว้นรพินทร์
"ไม่ต้องไปแหกปากร้องอยู่อย่างนั้นหรอก ออกมาเดี๋ยวนี้! ฉันไม่ทำอะไรแกหรอก!" (เจ๋งจริงพ่อคุณ ขนาดยังไม่เห็นตัวก็รู้ว่าเป็นใคร-จขบ.)


************

จขบ.ก็เดาๆ ว่า อีก 7 วัน จะถึงหล่มช้าง
และอีก 7 วัน ก็ถึงหนองน้ำแห้ง

รวมระยะเวลาในการเดินทางทั้งหมด 63 วัน ตามเวลาภูมิศาสตร์โลก และรพินทร์ใช้กระสุน .458 ไปทั้งหมด 29 นัด
 



Create Date : 14 เมษายน 2562
Last Update : 9 พฤษภาคม 2562 16:30:27 น. 0 comments
Counter : 3093 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เจ้าการเวกเสียงหวาน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สิ่งไหนยากกว่ากันระหว่าง
การหาคำตอบ
กับ
การพิสูจน์ว่าคำตอบ
ที่คนอื่นหามาได้นั้นถูกต้องหรือไม่
Friends' blogs
[Add เจ้าการเวกเสียงหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.