Bloggang.com : เจ้าการเวกเสียงหวาน : -: The Da Vinci Code

-: The Da Vinci Code

มาแล้ว มาแล้ว สำหรับเรื่องที่ดองมานาน จน เจ้าลูกปลาน้อย คงอ่านเรื่องอื่นจบไปหลายตลบแล้วล่ะ แต่ก็ยังมีแก่ใจจำได้ จึงมาทวงถามและกดดันเล็กๆอยู่เป็นระยะ ในที่สุดก็คลอดออกมาซะที

:: Plot Summary จากปกหลัง::

หลังการบรรยายในกรุงปารีส โรเบิร์ต แลงดอน ศาสตราจารย์ชื่อดังด้านศาสตร์สัญญลักษณ์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถูกตามตัวกลางดึกขณะนอนพักอยู่ในโรงแรม เมื่อ ฌาคส์ โซนิแยร์ ภัณฑารักษ์ผู้มีชื่อเสียงประจำพิพิธภัณฑสถานลูฟร์ถูกฆาตกรรมพิศวงในพิพิธภัณฑ์ โดยทิ้งรหัสลับปริศนาไว้ให้แลงดอนกับ โซฟี เนอเวอ หลานสาวของตนเป็นผู้ไขเพื่อหาตัวฆาตกร

รหัสลับที่โซนิแยร์ทิ้งไว้อย่างชาญฉลาดกับศพของตนเองเดี่ยวพันกับผลงานศิลปะของ เลโอนาร์โด ดา วินชี ศิลปินเลื่องชื่อแห่งยุคเรอเนสซองส์ และนำไปสู่รหัสลับอื่นๆตามมาเป็นลำดับ รวมทั้งภาพโมนาลิซ่า รหัสลับที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตา แต่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ นอกจากผู้ที่ผ่านการเลือกสรรจากโซนิแยร์ คือแลงดอนกันเนอเวอเท่านั้น จึงจะสามารถถอดรหัสมหัศจรรย์นี้ออก รหัสลับที่ไม่เพียงแต่จะเผยความลับสุดยอดซึ่งโซนิแยร์รักษายิ่งชีพเท่านั้น แต่ยังโยงใยไปถึงความเป็นมาของครอบครัวที่โซฟีไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย

พบกับ เดอะไพรเออรี่ออฟไซออน สมาคมลับที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ซึ่งมีบุคคลชื่อดังแห่งยุคเป็นสมาชิกอย่างสืบเนื่องมาตลอดไม่ว่าจะเป็น เซอร์ไอแซค นิวตัน, เลโอนาร์โด ดา วินชี, วิกเตอร์ อูโก และพบกับความลับที่พิทักษ์สืบทอดมาช้านาน ความลับที่จะสั่นคลอนความเชื่อถือศรัทธาในคริสตศาสนาที่ยาวนานมากว่าสองพันปี ความลับที่ทั่วโลกจะต้องตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อได้ทราบความลับที่จะทำให้ผู้อ่านต้องนั่งไม่ติดด้วยความกระหายใคร่รู้ว่าสิ่งที่ผู้เขียนบรรยายมาทั้งหมดเป็นความจริงหรือไม่เพียงใด ความลับที่ผู้อ่านจะต้องถามตนเองด้วยความพิศวงว่าเป็นไปได้หรือ

:: Novel vs. Movie ::

ครั้งแรกที่อ่านจบก็รีบไปหาหนังมาดู
[จขบ.เป็นพวกไม่ค่อยทันโลกกะเขาเท่าไหร่ หนังสือเขาดังนาตั้งนานก็ไม่อ่าน หนังเขาเข้าฉายจนลาโรงแล้วก็ยังไม่เคยไปดู]

ดูไปได้หน่อยนุงแทบอยากจะปิดทิ้ง..

เหมือนหนังคนละม้วนเลย
เสียอารมณ์สุดๆ จึงขอแนะนำว่าควรจะเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งท่าจะดีกว่า

แต่ใช่ว่าจะแย่ไปหมดซะทีเดียว เพราะในหนังช่วยให้เราสามารถเห็นสถานที่-สิ่งของต่างๆที่เวลาเราอ่านแล้วนึกภาพไม่ออก ได้เห็นว่า Rose Line (เส้นกุหลาบ) หน้าตาเป็นอย่างนี้ -- แผ่นโลหะสีทองที่ดิตอยู่บนพื้นถนนในปารีสเป็นอย่างงี้ -- เจ้ารหัสลิขิต ที่จินตนาการมันดูสวยน้อยกว่าในหนัง -- สุสานของเซอร์ไอแซค นิวตัน มันเป็นอย่างที่เขาบรรยายจริงเหรอ ฯลฯ

:: Blogger Opinion ::

หลังจากที่อ่านไปได้ครึ่งเรื่อง..ก็มีคำถามผุดขึ้นมาว่า 'จริงเหรอวะ??'
ตาแดน บราวน์ เนี่ยต้องเป็นพวกที่ชอบทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) อย่างมากเลย
เพราะแกเอาเรื่องนั้นมาผูกกับเรื่องนี้ คนนั้นมาโยงกับคนนี้ได้กลมกลืนมากๆ
มากซะจนอยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง (ซะงั้น) น้องที่ออฟฟิศถึงกับบอกว่า..แกช่างกล้าเนอะ กล้าเอาเรื่องละเอียดอ่อนอย่างนี้มาเล่น อ้าว.ว.. ถ้าไม่กล้า ก็ไม่ดังอ่ะดิ

เรื่องนี้ทำให้เกิดกระแสทั้งด้านบวกและลบไปในวงกว้าง มีคนนั้นคนนี้ออกมาวิจารณ์ หนังสือออกมาวิเคราะห์เนื้อหาและคำกล่าวอ้างในหนังสือ ถึงขนาดมีการทำสารคดีไขความลับ-ความจริง ข้อเท็จจริงของ The Da Vinci Code

จะว่าไป อีตาแดน บราวน์ เนี่ย เป็นนักการตลาดชั้นยอดเลยล่ะ

และที่คลอดออกมาช้าเหลือเกินไม่ใช่เพราะขี้เกียจหรอกนะ แค่เล่าเรื่องย่อใครๆก็เล่าได้ แต่บัญเอิญว่า จขบ. ไม่อยู่กะร่องกะรอยเองต่างหาก เนื่องจากอ่านครั้งแรกจบปุ๊บ ก็คว้ากระดาษ-ปากกาแล้วเริ่มอ่านรอบที่สองทันที รอบนี้เลยช้าหน่อยเพราะมัวแต่จดรายละเอียด จขบ.ว่า เรื่องนี้เป็นนวนิยายที่รวมคนดังของโลกไว้มากที่สุดเลยล่ะ โดยเฉพาะคนดังด้านศิลปะ

ความตั้งใจเดิม ก็ว่าจะรวบรวมรายชื่อคนดังที่ปรากฏอยู่ในนวนิยายเล่มนี้เอามาไล่เรียงให้หมด แต่ถ้าขืนรอต่อไป ปีหน้าก็ยังไม่ได้เขียน entry นี้ ก็เลยสรุปว่า ตัดประเด็นนั้นออกไปก่อน ไว้โอกาสหน้าละกันนะ

อีกอย่าง..ไม่รู้ว่าคนอื่นๆจะเป็นอย่างนี้มั๊ย แบบว่ายิ่งอ่านไปเรื่อยๆ ก็อยากรู้เรื่องงานศิลปะ ภาพเขียนของคนโน้น งานของคนนี้

ช่วงที่เงียบหายไปจาก Blog ก็เพราะแอบปันใจไปให้ Leonardo Da Vinci ไปดูผลงานของแก ทั้งด้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรม ไปดูว่าภาพ The Last Supper มีมือเกินมาจริงๆรึเปล่า -- ภาพ Modonna of the Rocks เขาทำมือน่ากลัวตามที่บรรยายมั๊ย -- มอง Monalisa ทางซ้ายจะดูตัวใหญ่กว่าทางขวาจริงอ่ะ -- แล้วก็หนีไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (ทางอินเตอร์เนท) อยู่พักใหญ่ บ้าขนาดเปิดดูเงินในบัญชี..มีพอจะไปเที่ยวลูฟร์รึยังน้า..

หน้าจอคอมพ์ก็เป็นรูปปิรามิดหัวกลับ ที่ใครไปลูฟร์แล้วไม่ได้ดูก็เหมือนไปไม่ถึง

สรุปว่า ใครยังไม่อ่านก็รีบไปอ่านซะ ไม่ผิดหวัง

ปล. ได้ข่าวว่า Angles & Demons (การผจญภัยตอนแรกของโรเบิร์ต แลงดอน) มันส์กว่านี้อีก

Create Date : 20 มีนาคม 2551

Last Update : 20 มีนาคม 2551 15:14:15 น.

8 comments

Counter : 1373 Pageviews.

เวลาอ่านน่าจะลุ้นระทึกดีเนอะ

พอดีว่าเช่ามาดูเรียบร้อยแล้วอ่ะ งั้นเราเลือกดูก็เลยกัน (ไม่อ่านล่ะ เดี๋ยว เสียอรรถรส )

แต่รู้สึกว่าดูหนังแล้วก็ยัง งง อยู่นะ (ชอบคิดเรื่อยเลยว่า โมน่าลิซ่า คือ รตี ของสาย

)

โดย: latics1

วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:15:31:40 น.

อ่านสนุกกว่าเยอะ

โดย: Thales of Miletus

วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:17:38:15 น.

เข้ามาคอนเฟิร์มค่ะ angles&demons มันส์มาก

โดย: Rata_RG

วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:19:21:11 น.

คิดว่า angels & demons สนุกกว่าค่ะ

อย่าลืมอ่าน the eight ด้วยนะคะ รับรองไม่ผิดหวังเช่นกัน
ปล.หนังสือของแดนบราวน์เราชอบเรื่องดาวินชี่น้อยที่สุดเลยอ่ะค่ะ ไม่ทราบทำไมรสนิยมแปลก ออกจะดังกว่าเพื่อน เรื่องอื่นๆของแดนบราวน์โดยเฉพาะangelsเนี่ยชอบมากๆ

ที่สำคัญ...น้าทอมแฮงค์ทำผมไม่หล่อเลย...

โดย: apple_cinnamon

วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:22:54:52 น.

เรื่อง the eight เราซื้อที่ kinokuniya สาขาพารากอนน่ะค่ะ
ล่าสุดไปเดินผ่านๆยังเห็นมีวางบนชั้นอยู่เลย ลองให้คนขายเค้าค้นดูจากชื่อผู้เขียนก็ได้ค่ะ
ง่า ซื้อหนังสือได้แล้วอย่าลืมซื้อยาดมติดไม้ติดมือกลับมาด้วยนะคะ เพราะเรื่องมันยาวตัวละครมันเยอะ เหะๆ

โดย: apple_cinnamon

วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:20:54:24 น.

ฮือๆๆ ขายหมดทุกสาขาเลยเหรอคะ ใจร้ายๆทำไมไม่สั่งเข้ามาเยอะๆ

โดย: apple_cinnamon

วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:18:07:21 น.

angels&demonsถึงไหนแล้วคะ จบแล้วอย่าลืมรีวิวด้วยน้า

โดย: apple_cinnamon

วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:9:34:45 น.

เป็นกำลังใจให้เน้อ....

อ่านจบแล้วจาได้มาตามหาสายสัมพันธ์ของ โมนาลิซา กับ รตี รสวรรษ กัน...อิอิ

อ่อ....รูปที่ภูหลวง ตามไปดูได้เน้อ...
//toy118sk.multiply.com/

โดย: JazZy mE IP: 58.9.234.21 วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:22:26:51 น.