Group Blog
 
<<
มีนาคม 2562
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
15 มีนาคม 2562
 
All Blogs
 
-: เพชรพระอุมา 2 :- บันทึการเดินทาง (วันที่ 8 : 3)

มีนาคม 2562


ผ่านไป 10 เล่ม สามพันกว่าหน้า เพิ่งเดินทางได้ 8 วัน สงสัยว่าตอนที่ตีพิมพ์ลง 'เดลินิวส์' ทุกวันจันทร์ .. คนอ่านจะจำได้มั๊ยว่า เพิ่งจะวันที่ 8 เองนะเนี่ย 
 

วันที่ 8 (เล่ม 34 : จิตรางคนางค์ 2 น.3271)
รพินทร์ - วันที่ 8 : ห้วยเสือร้อง-นรกดำ (หน้าผา ปีกซ้ายของเขาหัวแร้ง)
ดาริน - วันที่ 3 : โป่งน้ำร้อน-ถ้ำหน้าผาตะเคียนทอง

มันตรัยย่องเข้ามาหาตอนดึก
สะกดให้ทุกคนหลับ ยกเว้นดาริน (เดาว่าสะกดไม่ลงเพราะมีอำนาจพุทธคุณคุ้มตัวอยู่) (น.3272)

************

จขบ.-จากที่พนมเทียนบรรยายไว้ ก็พอเดาได้ว่า ขากลับจากเทือกเขาพระศิวะครั้งนั้น รพินทร์ถ่ายทอดวิชาความรู้ความเชื่อด้านพุทธคุณ บทสวดมนต์ต่างๆ ให้ดารินไว้มากมาย นอกเหนือไปจากวิชาพราน การเดินป่า การล่าสัตว์ ที่ได้รับมาตั้งแต่ขาไป ถือได้ว่าเป็นศิษย์มีครูคนหนึ่ง ซึ่งครูคนนั้นก็คือรพินทร์นั่นเอง มาคราวนี้เจอะเจออะไรก็สวดภาวนาขออำนาจพุทธคุณคุ้มครองไว้ก่อน

************

มันตรัยบอกว่าดารินคือ พี่สาวของนางพันธุมวดี นามว่า จิตรางคนางค์ ผู้ซึ่งหลงรักอัคนีรุทร์ กษัตริย์หนุ่มโฉมงามแห่งแคว้นปัญจาล ศัตรูของนิทรานคร 
"อัคนีรุทร์! ใครอีกล่ะ?"
"..ก็ไอ้พรานไพรซอมซ่อพเนจรในปัจจุบัน ที่ใต้ฝ่าพระบาทดั้นด้นหามันแทบเลือดตากระเด็นอยู่นี่น่ะสิ หมื่นกัปแสนกัลป์ไม่เคยได้พานพบกันอีกเลย เพิ่งจะมาพบกันในชาตินี้ กรรมที่มันก่อไว้ในอดีตกาล ทำให้มันต้องมาทุเรศซมซานหลงรักใต้ฝ่าพระบาทอยู่ในชาตินี้ ใต้ฝ่าพระบาทก็ยังอุตส่าห์ผู้สมัครรักใคร่ตอบ ติดตามค้นหามันอยู่อีก มันกำลังเดินทางไปสู่ความหายนะ จะตามมันไปทำไม!!" (น.3286)

แล้วไอ้งาดำ (ตัวใหม่) ก็นำโขลงโจมตีแค้มป์ของดาริน

หนานอินรับประกันสรรพคุณของพรานใหญ่ (เล่ม 35 : จิตรางคนางค์ 3 น.3375)
"รายนั้นไม่ต้องห่วงหรอกนายหญิง เฉพาะตัวแก ไม่มีสิงสาราสัตว์ หรือภูติผีปิศาจ มนต์กาลีอาถรรพณ์ใดๆ ทำอะไรแกได้ทั้งนั้น ถ้าจะห่วงก็เรื่องโรคภัยไข้เจ็บประจำตัวเท่านั้น.."

นายช้วนถามในสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้ยิน (และจขบ.ก็อยากรู้เหมือนกัน) ว่า ถ้าตามตัวรพินทร์กลับมาได้ พวกเจ้านายทั้งหลายจะยอมให้รพินทร์อยู่หนองน้ำแห้งต่อไป หรือจะเอาตัวไปไหน
"ถ้าแม้ว่า รพินทร์ ไพรวัลย์ กลับคืนมา จะไม่มีใครเอาตัวเขาไปไหนเลย เขาจะอยู่กับพวกเธอที่หนองน้ำแห้งตลอดไป และไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น ฉัน..นายหญิงดารินคนนี้ ก็จะขออยู่กับพวกเธอที่หนองน้ำแห้งนั่นด้วย.." (น.3380)

************

จขบ.-ชอบเวลาที่ไชยยันต์คุยกับดาริน เปิดเผยทุกอย่างที่คนอ่านอยากรู้
"ฉันให้สัจจะไปแล้ว เป็นการขอแลกกับสิ่งที่ฉันปรารถนา.. กล้าแลกถึงขนาดนี้แล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังไม่คืนรพินทร์มาให้ฉันในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ก็สุดแล้วแต่.."
ไชยยันต์แอบกระซิบถามอีกครั้ง "มีอะไรกับเขาแล้วยัง?" (น.3383-3391)

************

เช้านี้พรานใหญ่โดนผีดิบ 'ตาสีฟ้า ผมสีทอง' สะกดซะอยู่หมัด
ดีที่ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์มาช่วยไว้ทัน (น.3411)
สองคนนายบ่าวปรึกษาเครียด แต่จขบ.อ่านไปขำไป (น.3414)
เชิดวุธ เปลี่ยนสรรพนามเรียกรพินทร์ว่า 'พี่' (น.3433)
เอาลายแทง 400 ปีของมังมหานรธามาเทียบกับแผนที่ของทีมสายลับอเมริกัน
มาสะดุดตรงจุดที่สัญญาณของเครื่องบินหายไปกับเทือกเขาพระศิวะ
'มาเถอะครับผู้กอง..จงมาตามนี้..รักแท้หนึ่ง มิตรแท้อีกหนึ่ง รอคอยผู้กองอยู่ที่นี่ ถ้าผู้กองไม่สิ้นลมปราณไปเสียก่อน' (น.3447)

ก่อนออกเดินทางเข้าดงดำ
เขาหันหลังกลับ มองเหม่ออย่างปราศจากจุดหมายไปทางทิศที่ตั้งของหนองน้ำแห้งอันเป็นบ้าน.. เป็นตำแหน่งสุดท้ายของความหวานชื่นที่ได้รับจากแม่ดอกฟ้าดาริน ..ลาก่อน คุณหญิงยอดรัก เราจะพบกันได้เฉพาะในความฝันเท่านั้นนับแต่นี้ต่อไป.. (น.3459)

เดินตัดทุ่งช้างร้อง (ทุ่งแฝก) เจอมหิงสาฝูงใหญ่หลายร้อยตัววิ่งหนีอะไรสักอย่าง
รพินทร์ให้เผาทุ่งแฝกเพื่อสกัดมหิงสาที่บ่ายหน้ามาทางคณะ แต่กลายเป็นทั้งคณะโดนไฟป่าล้อมซะเอง ทุกคนออกมาได้หมด แต่พรานใหญ่หายไป !!

************

ตัดมาทางดารินเมื่อตอนฟ้าสาง นั่งคุยกับหนานอิน (น.3512-3517)

"..นายรพินทร์เป็นคนสมัยใหม่ก็จริง แต่โดยแท้จริงแกก็เรียนหนักทางไสยศาสตร์ เพียงแต่ไม่ยอมบอกใครเท่านั้น..พรานป่าจริงๆ ไม่เรียนเวทมนตร์คาถา หรือมีดีอยู่ในตัวจากสัจจะวิทยาอาคม เก่งแต่เดินป่า เก่งแต่ยิงปืนแม่น ก็เดินอยู่แค่ชายดงเท่านั้น บุกป่าลึกกันจริงๆ ไปไม่รอดหรอก..นายรพินทร์เรียนทางนี้ได้ขลัง เพราะแกเป็นคนดีมีธรรมในใจ มีสัจจะเป็นที่ตั้งอันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่แกก็มีบาปที่ต้องมาเป็นพรานฆ่าสัตว์ตัดชีวิต.."

รพินทร์กับแงซาย ใครเก่งกว่ากัน ?
จขบ.-รักใครชอบใครก็เชียร์คนนั้น พนมเทียนจึงใช้การบอกเล่าผ่านหนานอิน เฉลยซะ จะได้ไม่ต้องเถียงกัน
"..โดยแท้จริงมันก็ไม่ใช่พรานป่าอาชีพ มันท่องเที่ยวพเนจรไปเพื่อจะหาโอกาสกลับไปบ้านเมืองของมัน ถ้าจะเทียบเชิงพรานกับนายรพินทร์ หนานอินบอกตรงๆ สู้นายรพินทร์ไม่ได้หรอก ถ้ามันเก่งจริง ทำไมมันถึงต้องพึ่งนายรพินทร์ มาคอยติดสอยห้อยตามอยู่เพื่ออาศัยกลับเมือง แต่ถ้าสองคนนี่จับคู่กันเมื่อไหร่ก็โน่น ถ้าเขาไกรลาสมีจริงก็ไปกันได้ถึง นายรพินทร์อาจต้องพึ่งแงซายในบางเวลา แต่แงซายต้องพึ่งนายรพินทร์มากกว่า ..ดูผาดๆ อาจเห็นว่าแงซายเหนือกว่า แต่ถ้าดูให้ลึก ถ้าเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นจริงๆ ใครเป็นคนแก้ไขตก อย่างเก่งแงซายก็จะเป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้น"

มาดามไพรวัลย์ ยิงจงอางหัวแบะ (น.3524)

ออกเดินทางทับรอยของคณะที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เก็บทุกหลักฐานทุกรายละเอียดเพื่ออ่านความเป็นไปของรพินทร์ จนมาเจอซากกระทิงและช้างสิบกว่าตัวกลางป่าไผ่ รู้ว่ารพินทร์จับไข้ที่นี่ และเจ้าด้วนพาไปดูหลุมฝังศพ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าศพใคร แต่คะหยิ่นให้ดูรอยเดินทางต่อ เห็นลักษณะการหักกิ่งไม้เบิกป่า ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นพรานใหญ่ (ย่นระยะไป 1 คืน ในการตาม เพราะไม่เสียเวลานอนพักที่นี่เหมือนรพินทร์)
ต่อมาเดินตัดทุ่งหญ้าคา เจอซากแรด 2 ตัว พอเห็น 1 ใน 2 ตัวมีรอยกระสุนแสกหน้าก็เดาได้ว่าใครยิง หมดข้อสงสัยว่ารพินทร์จะป่วยจนต้องหามหรือลงไปนอนในหลุม
ดารินร้องเรียกรพินทร์แล้วหมดสติไป

************

เวลาเดียวกันนั้น คริสติน่า ก็ร้องเรียกรพินทร์เช่นกัน เพราะนึกว่าโดนไฟคลอกตายไปแล้ว
รพินทร์เรียกวิทยุกลับมา แค่เดิมอ้อมเพื่อหนีไฟป่าออกมาอีกทาง
ให้ 'หลวงพ่อแร่บางไผ่' แก่เชิดวุธ (น.3649)
ปีนผามหาโหดอีกแล้ว (เล่ม 36 : จิตรางคนางค์ 4)
คริสป่วย (จขบ.-เบื่อยัยนี่ แต่ถ้าพูดถึงนักแสดงที่เหมาะกับบทนี้ที่สุด ยกให้ ชมพู่ อารยา)
คืนนี้วางแค้มป์บนหน้าผาระหว่างทาง ปีกซ้ายของเขานกอินทรี (จำได้ว่าภาคแรกเรียกเขาหัวแร้ง ภาคนี้เป็นนกอินทรี)

พอเริ่มเข้าภวังค์ เสียงเพลงคุ้นหูก็ลอยมา
"แงซาย..วานช่วยบอกนายหญิงของแกด้วย ว่าฉันยังรักเธออยู่ ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือสิ้นลมหายใจไปแล้ว และยามนี้คิดถึงใจจะขาด" (น.3689)

************

ดารินยิงเสือโคร่งช่วยอนุชา
นายช้วนพูดได้ถูกใจอีกแล้ว "ถ้านายรพินทร์มาเห็นนายหญิงยิงเสือตัวนี้ ตอนที่มันกำลังกระโจนใส่พรานชด นายรพินทร์คงปลื้มใจมาก ที่ไม่เสียแรงเป็นครูเป็นศิษย์กันมานาน.." (น.3705)

อนุชาว่า "..ก็ต้องขอบใจรพินทร์ที่ฝึกปรือลูกศิษย์ของเขาไว้ดีมาก ถึงตัวเขาไม่อยู่ ฝีมือเขาก็ยังฝากทิ้งไว้กับแม่ยอดเสน่หาของเขาคนนี้"

ดารินสั่งคะหยิ่นให้ทำกระดึงไว้ผูกคอเจ้าด้วน

ไชยยันต์บ่นคิดถึงเมีย ดารินก็บ่นมั่งว่า "ฉันก็คิดถึงผัว" (น.3731)
"..ทางกายเรายังไม่มีอะไรกันถึงขั้นนั้น แต่ทางใจฉันรับเขาเป็นสามีแล้ว.. หัวใจฉันคงแตกนะ ถ้าฉันพบว่า รพินทร์ตายเสียแล้ว เพราะฉันตามเขาช้าเกินไป"

หนานอินบอกว่าชื่อหมู่บ้าน 'ตะเคียนทอง' รพินทร์เป็นคนตั้งให้ (น.3745)
เดินถึงตะเคียนทองก็พบว่ากลายเป็นหมู่บ้านร้างไปแล้ว
อ่านเหตุการณ์ได้แม่นมาก ช้างต้องถล่มหมู่บ้านก่อนที่คณะของรพินทร์จะมาถึง เพราะไม่มีซากช้างอยู่ในบริเวณนั้นเลย และคณะของรพินทร์ก็ช่วยกันฌาปนกิจศพ แล้ววางแค้มป์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เพราะว่ามาถึงคงค่ำแล้ว
เจอหลักฐานว่ารพินทร์เจ็บหนัก นอนให้น้ำเกลืออยู่

เขาถามฉันว่า "ดวงใจเขาอยู่ไหน?" (น.3792)
ฉันยื่นส่งให้บอกว่า "อยู่นี่ ขอคืนให้"
เขาฉงนถามว่า "เอาไปได้อย่างไร?"
"ฉันเก็บไว้ให้ขณะที่เธอสลบไสล เมื่อทิวาที่ผ่านมา"
เขารับไปแล้วกอดประทับไว้กับอก
ณ ตำแหน่งอันเป็นที่ตั้งของหัวใจที่เต้นผะแผ่ว
และมาตรว่าเขาจะไม่ตื่นขึ้นอีกแล้ว
เขาก็คงหลับนิรันดร์พร้อมกับแผ่นภาพของสตรีนางนั้นตลอดไป


"เฮ้อ! ปวดกะโหลก!.. คู่นี้กว่าจะรักกันได้ก็ลำบากยากแค้นแทบล้มประดาตายอย่างที่เราเห็นๆ กันอยู่แล้ว ไอ้ครั้นรักกันแล้ว อะไรต่ออะไรกำลังจะราบรื่นลงเอยก็มามีเรื่องให้ต้องยากแค้นซมซานกันต่อไปอีก ทั้งสองคนนี่ ถ้าตามกันพบและได้กลับมาแต่งงานกันได้ ฉันว่าเทวดาฟ้าดินคงจะโห่ร้องลั่นฆ้องชัยให้ทีเดียว ไอ้เราสามคนรึก็เปรียบเหมือนพี่ชายของเขาทั้งสอง มันก็ต้องพลอยลำบากไปด้วยแบบนี้แหละไม่รู้จะทำยังไง.." (น.3804)

************

ฝั่งรพินทร์แค่เข้าภวังค์ แงซายก็มาเยี่ยมแล้ว (น.3854)
วันนี้มาด่าผู้กองที่ไม่น่ารัก จัดหนักเลยทีเดียว

"..ถ้าผู้กองไม่วางท่าถือตัว เพื่อหวังจะบีบคั้นและทดสอบน้ำใจของนายหญิงว่าจะแน่กับผู้กองสักแค่ไหน ก็เธออุตส่าห์มาตาม มาชวนให้ไปกับเธอ แล้วผู้กองก็ยังไม่ยอมไปด้วย ถ้ายอมไปกับเธอเสียตั้งแต่วันนั้น พวกนี้ก็มาตามหาตัวผู้กองไม่พบ ผู้กองก็ไม่ต้องรับคำสั่งจากใครทั้งสิ้น นี่มัวแต่เต๊ะท่าตั้งแง่อยู่ เขาก็จิกหัวมาใช้งานนะซิ โทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวผู้กองเองนั่นแหละ"

"นายหญิงสั่งแกให้มาด่าฉันเช่นนี้หรือ?"

"ผมด่าเองแหละ ไม่ใช่นายหญิงหรอก นายหญิงจะเอาอะไรที่ไหนมาด่า ไม่ว่าผู้กองจะทำอะไร เธอเห็นเป็นสิ่งถูกต้องดีงามไปหมดทุกอย่างแหละ และตอนนี้น้ำตาก็แทบจะเป็นสายเลือดอยู่แล้ว เธอเข้าใจว่าเป็นความผิดของเธอเองที่ทอดทิ้งผู้กองไว้ แต่ผมว่าเป็นความผิดของผู้กองที่ถือดี เอาชั้นเอาเชิงกับเธอเกินไป"

"แงซาย ตั้งแต่เราคบพบเห็นกันมา แกไม่เคยด่าฉันเจ็บปวดเท่าครั้งนี้"

"ผู้กองด่าผมมามากแล้ว ให้ผมด่าผู้กองเสียมั่งซิ ตอนจะออกจากมรกตนครในครั้งนั้น ก็อุตส่าห์หมั้นไว้ให้แล้ว ลืมเสียแล้วเหรอ"

บุญคำบอกรพินทร์ว่าสังหรณ์อะไรบางอย่าง มันสาๆ ยังไงพิกล ..สังหรณ์ว่านายหญิงจะตามเรามา (น.3865)

************

ดารินนั่งสมาธิขอบารมีมหาฤาษีโกฑัญญะ อยากรู้เหตุการณ์ในวันนั้น
วราดาชรีมาพาไปดู เรียกดารินว่า จิตรางคนางค์เทวี (น.3869)

ดารินถามว่า หนานอินอัญเชิญเธอออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ
"ก็เขาเป็นใครล่ะ ที่จะมาบังอาจมาสอบซักอะไรฉัน ไม่ว่าจะด้านบารมีหรืออิทธิฌาณของเขา ยังไม่ถึงขั้นที่จะเรียก 'เทวนารี' มาพูดคุยด้วยได้หรอก" (น.3870) - ชัดเลย ระหว่างรพินทร์กับหนานอิน รพินทร์ยังเรียก (หรือบังคับ) ให้ออกมาเสวนาด้วยได้-จขบ.

วราดาชรีบอกว่า รพินทร์ คือ อัคนีรุทร์ ผู้มีกรรมเกี่ยวโยงกับดารินในชาตินี้ (น.3871)
หยั่งใจดาริน "กรรมของเขามันก็เกี่ยวโยงมาถึงเธอด้วย ยกเว้นเพียงแต่ว่าเธอจะตัดสายโซ่แห่งกรรมนี้ออกเสีย โดยไม่ไปฝังจิตผูกพันอยู่กับเขาอีก ตัดเขาออกไปจากชีวิตชาตินี้ของเธอเถิด แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะดีงามขึ้นสำหรับตัวเธอและพวกพ้อง ถ้าหากเธอจะกลับหลังเสีย ยุติการติดตามลงเพียงแค่นี้"

ดารินเล่าให้อนุชาฟังว่า เหมือนกรอเทปวิดีโอกลับไปเห็นเหตุการณ์วันนั้น แต่ก็มีบางตอนที่ 'เหมือนหนังที่ถูกกรรไกรของกองเซ็นเซอร์หั่นออกงั้นแหละ' (ก็มันติดเรทนี่นา จะให้ดูได้ยังไง)

"นายหญิงของแงซาย..พี่สาวของจักรราช.. อย่าร้องไห้ จับมือผมไว้แล้วลุกขึ้นมาเถิด รักแท้ย่อมเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม ผมจะนำทางให้แก่พี่สาวเอง จุดใดจุดหนึ่งที่ทิวาพบกับราตรี จุดนั้นคือจุดที่ความรักสมปรารถนา.. อย่าท้อแท้สิ้นหวัง ตราบใดก็ตามที่แงซายหรือจักรราชนี้ยังอยู่!" (น.3895)
 

To be continue >> https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vbenj&month=03-2019&date=17&group=8&gblog=64


Create Date : 15 มีนาคม 2562
Last Update : 4 เมษายน 2562 17:12:14 น. 0 comments
Counter : 2840 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เจ้าการเวกเสียงหวาน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สิ่งไหนยากกว่ากันระหว่าง
การหาคำตอบ
กับ
การพิสูจน์ว่าคำตอบ
ที่คนอื่นหามาได้นั้นถูกต้องหรือไม่
Friends' blogs
[Add เจ้าการเวกเสียงหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.