Group Blog
 
<<
มีนาคม 2562
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 มีนาคม 2562
 
All Blogs
 
-: เพชรพระอุมา 2 :- บันทึการเดินทาง (วันที่ 12 : 7)

มีนาคม 2562


**รพินทร์เสียเวลาที่วังนาคราช 2 คืน ทำให้ดารินตามมาได้เหลือระยะห่างกันแค่ 2 วันที่รพินทร์ล่วงหน้าไป
 

วันที่ 12 (เล่ม 40 : นาคเทวี 4 น.5067)
รพินทร์ - วันที่ 12 : นรกดำ (วังนาคราช : ทะเลสาบบนยอดเขานกอินทรี-ริมคูเมืองนิทรานคร)
ดาริน - วันที่ 7 : นรกดำ (ริมน้ำตกที่มีต้นน้ำมาจากวังนาคราช ทะเลสาบบนยอดเขานกอินทรี-ป่าหิน : วันที่ 1 ของการพลัดหลงจากคณะ )

ตี 2 ทำนบเขื่อนเหนือน้ำตกที่คณะดารินวางแค้มป์แตก น้ำทะลักลงมาพัดดารินหายไป
"คนอื่นอาจไม่รู้ แต่หนานอินรู้มานานแล้วตั้งแต่พบเห็นนายหญิงเป็นครั้งแรก แกมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และอรหันตเจ้าหลายองค์คอยคุ้มครองปกป้องไว้เสมอ แล้วก็ยังมีเทพประจำตัว ดวงชะตาราศีแข็งมาก ยากที่อะไรจะทำอันตรายได้ ถ้าจะพูดถึงดวงแล้ว ในบรรดาพวกเราที่มาด้วยกันนี่ นายหญิงแข็งที่สุด..แข็งยิ่งกว่านายรพินทร์เสียอีก ... คนมีเกณฑ์ชะตาอย่างนายหญิง เป็นคนที่ไม่มีอะไรมาทำอันตรายได้ เว้นแต่จะถึงอายุขัยของตัวเองเท่านั้น" (น.5083)

คางคกยักษ์ตัวเท่ารถโฟล์คโจมตี
ไชยยันต์ว่า "ถ้าน้อยเป็นอะไรลงไปในครั้งนี้ ฉันจะไม่มีวันให้อภัยรพินทร์เลยที่เป็นต้นเหตุตัวการ เจอะที่ไหนพ่อยิงทิ้งเลย" (น.5130)

เชษฐา ไชยยันต์ คะหยิ่น เจรจากับมันตรัย
มันตรัยบอกว่าดารินคือ จิตรางคนางค์ พี่สาวของพันธุมวดี (น.5159)
และถ้าอยากให้เลิกจองเวร ก็เอา จิตรางคนางค์ แลกกับ 15 ชีวิต แต่พอเชษฐาถามถึงคณะของรพินทร์ มันตรัยก็ไม่ยอมเลิกราวี
บริวารของมันตรัยย่องมาขโมยหีบเวชภัณฑ์ พรานชดและหนานอินตามกลับมาได้

เชษฐาถามหนานอินเรื่องงู 2 ตัว ต่างฝ่ายต่างกลืนกินหางของอีกตัวจะกลายเป็นวงกลม หนานอินเรียก นาคบาศ (น.5206)
จึงเล่าเรื่องฝันประหลาดให้ฟัง หนานอินจึงว่าเป็นนิมิตที่ดี ธิดาพญานาคมาชี้ช่องทางแก้เคล็ดให้แล้ว

************

ตี 3 รพินทร์สะดุ้งผวาตื่นเพราะฝันว่าได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้อง
บางครั้งฉันเคยหวาดประหลาดจิต
ปล่อยความคิดเตลิดไปในคืนเปลี่ยว
ฝันถึงเพลงรักเก่าเศร้าแดเดียว
สุดโดดเดี่ยวรำพันในรำพึง
ถึงอดีตแสนหวานที่ผ่านพ้น
มาเวียนวนเตือนตรึกระลึกถึง
รักยังเรียกเพรียกหาติดตราตรึง
ณ วันซึ่งเคยอยู่คู่เคียงกัน
(น.5221)

รุ่งเช้าก่อนออกเดินทาง รพินทร์นัดแนะกับนายจ้าง กรณีพลัดหลง
1. ใช้วิทยุ แต่ถ้าเรียกแล้วไม่ได้ผล..
2. ยิงปีน 3 นัด ห่างกันนัดละ 10 วินาที แล้วหยุดรอฟังสัญญาณยิงตอบ ฝ่ายที่คิดว่าตัวเองหลงก็อย่าเคลื่อนที่ไปไหน รอจนกว่าฝ่ายค้นหาจะมาพบ
3. ถ้ายิงชุดแรกไปนานแล้วพอควร ยังไม่มีการตอบรับ ให้ยิงอีกชุด
4. ถ้าไม่มีใครเลย ให้พยายามมุ่งเข้าหาแหล่งน้ำ และก่อไฟขึ้น พยายามเอาตัวรอดให้นานที่สุด

แล้วก็เกิดเรื่องไร้สาระระหว่างรพินทร์-หมอเบล-คริสติน่าอีกแล้ว ไปอ่านเอาเองนะ (น.5234-5252)
เดินไปเจอดอกไม้กินคน (จริงๆ มันก็กินทุกอย่างแหละ) จนเชิดวุธครางออกมาว่า "กลับบ้านดีกว่ารึ กู"
"สายไปเสียแล้วครับ ตราบใดที่ผมยังไม่กลับ ทุกคนก็กลับไม่ได้ หรือใครอยากคิดกลับก็เดินทางกลับไปเอง ก่อนจะออกเดินทางมานี่ก็เห็นคุณเหี้ยมหาญแข็งขันกันดีไม่ใช่หรือ มะ! เราเดินเข้าไปเล่นกับความตายกันอย่างจริงจังเสียที" (น.5258) (กลัวใจจริงๆ เลยพ่อคู้ณ...-จขบ.)

************

11.33 น. ดารินฟื้นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่ในกระเช้าเถาวัลย์
สำรวจตัวเองก็ไม่มีแผลอะไร และยังมีของจำเป็นติดตัวอยู่บ้าง เช่น ปืนสั้น มีดโบวี่ บุหรี่ในซองพลาสติก เข็มทิศ ตลับยาเล็กๆ

'ถ้าไม่เคยเดินป่ากับบุคคลที่เป็นตัวปัญหาที่สุดของหล่อนในขณะนี้ คือ รพินทร์ ไพรวัลย์ หล่อนจะไม่มีวันได้ศึกษาเรียนรู้ได้เลย เขาเป็นผู้สอนหล่อนไว้ตั้งแต่ครั้งนั้นและหล่อนก็จดจำขึ้นใจ ... ในภาวะที่ตนเผชิญอยู่เช่นนี้ ผลแห่งการหมั่นจดจำมาจาก 'ครู' จึงทำให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่ง' (น.5264)

เป็นการง่ายยิ้มได้ไม่ต้องฝืน
เมื่อชีพชื่นเหมือนบรรเลงเพลงสวรรค์
แต่คนที่ควรชมนิยมกัน
ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา
(น.5265)

แงซายมาแล้ว... (น.5268)
"นายหญิงอย่างร้องไห้ ... รวบรวมพลังกายพลังใจไว้เพื่อต่อสู้กับทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าท้อแท้ มันถึงเวลาเคราะห์กรรมหนักที่สุดแล้วของนายหญิง และนายหญิงก็รู้ตัวล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว"
"ฉันไม่ได้หวั่นไหวพรั่นพรึงต่อความยากแค้นเลือดตากระเด็นนี้เลย แต่ฉันน้อยใจเขา เขาไม่ได้รักฉันเหมือนอย่างที่ฉันรักเขาเลย เขาทอดทิ้งฉันไป"
"นายหญิงอย่าเข้าใจผิด อย่าคิดอะไรให้ไขว้เขวด้วยอารมณ์ ผู้กองรักนายหญิง ซื่อสัตย์ต่อนายหญิงจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต กรรมต่างหากที่ทำให้เขาต้องจากไป ทิ้งใจรักทั้งหมดไว้เบื้องหลัง ... ขณะนี้ซมซาน ยากแค้น ปราศจากที่หวังที่พึ่งอยู่กลางป่า ทุกขเวทนาไม่น้อยไปกว่านายหญิงขณะนี้ ระหว่างนายหญิงกับผู้กองรพินทร์ขณะนี้ ไม่มีใครสุขหรือทุกข์มากไปกว่าใครหรอก"

แล้วก็เจอหญิงชาวป่าทัดช่อเอื้องช้างแดงสีเหลืองสลับดำมาเรียกให้ลงจากต้นไม้ ทดสอบด้วยไฟตามที่รพินทร์เคยสอนก็แล้ว แผ่เมตตาให้ก็แล้ว ยังไม่ยอมไป ก็เลยต้องแผ่เมตตาด้วยลูกปืน

เดินย้อนทางน้ำเพื่อจะกลับไปหาพี่ชายและคณะ จวนเจียนจะหมดแรงก็เห็นแงซายกวักมือเรียกอยู่ไกลๆ วิ่งตามจนมาพบแอ่งน้ำ ได้กินน้ำพอตั้งสติได้ ก็คิดสมมุติว่าถ้าตัวเองเป็น รพินทร์ ไพรวัลย์ ขณะนี้จะทำอะไร คิดได้แล้วก็เดินเข้าป่าไผ่ไปตัดบ้องไม้ไผ่มาทำกระติดน้ำเหมือนที่รพินทร์เคยทำให้ ขณะที่กำลังหิว กวาง 3 ตัว พ่อแม่ลูก ก็มาทดสอบจิตใจ ยิงหรือไม่ยิง ถามตัวเองว่า ถ้าไม่ได้กินตอนนี้จะตายเลยหรือ สุดท้ายเลยไม่ยิง แล้วก็เห็นพระเดินนำอยู่ไกลๆ วิ่งตามไปก็เจอดงกล้วย เลยได้กิน 'ข้าวลิง' อย่างที่รพินทร์เคยบอกไว้

นาคเทวีมาหาดาริน (น.5301)
"เธอรู้ตัวเองดีว่าเธอคือใคร และเขาผู้นั้นคือใคร แต่เธอก็พยายามจะปฏิเสธ ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้แก่อริศัตรูเก่าของเธอมากขึ้น การยอมรับรู้ในอดีตย่อมจะช่วยให้เกิดสติปัญญาในอันที่จะระมัดระวังตน แก้ไขป้องกันได้ถูกต้อง เอาละ เธอปฏิเสธในความเป็นจิตรางคนางค์ ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งวิบากกรรมในครั้งนี้ แต่ถ้าฉันบอกว่าขณะนี้ อัคนีรุทร์กำลังตกอยู่ในเงื้อมเงาภัยขีดสุดของมันตรัย เธอจะรู้สึกอย่างไร?"
"..ได้โปรดเถิดเพคะ โปรดช่วยอัคนีรุทร์ไว้ด้วย ขอให้เขาได้รอดปลอดภัยเถิด ส่วนหม่อมฉันจะเป็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่เวรกรรม หม่อมฉันไม่ได้หวังอะไรแล้ว หวังแต่เพียงให้เขามีชีวิตรอดจากวิบากกรรมเท่านั้น แม้จะต้องเอาชีวิตตนเองเข้าแลกก็ยอม"
"ฉันไม่อาจรับปากเธอได้ว่า ฉันจะช่วยอัคนีรุทร์หรือตัวเธอเองได้สักแค่ไหน แต่ก็ได้ติดตามเฝ้าดูมาทุกระยะ ... มันตรัยเป็นพญามาร ตัวแทนแห่งความชั่วร้าย และเมื่อยังไม่ถึงเวลาอันควร ก็ไม่มีสิ่งใดจะไปทำลายล้างเขาได้เช่นกัน วิบากกรรมที่จะต้องมาจองเวรกันในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากบรรพชาติปางก่อน ส่วนเธอกับอัคนีรุทร์ที่หวนกลับมาเกิดร่วมกันในภพนี้ ก็มีสัจจะและความรักอันแน่วแน่ซื่อตรงต่อกันเป็นเกราะป้องกันตัว รวมทั้งได้ชดใช้กรรมมาหลายชาติภพแล้ว.."

ตะวันใกล้หมดแสง ได้เวลาทบทวนความรู้ที่รพินทร์เคยฝึกสอนให้แล้ว (น.5310)
"อย่าทิ้งกองไฟ เมื่อนอนอยู่ในป่า.."

ลำบากยากแค้นก็คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย จนแงซายต้องส่งเสียงมาเตือน
"อย่าคิดอะไรให้ฟุ้งซ่านไปเลย นายหญิง แต่จงสวดมนต์ภาวนาไปเถิด เตือนระลึกไว้เสมอว่า หากเผลอสติจิตใจอ่อนแอลงเมื่อใด เมื่อนั้นภัยที่จ้องรอโอกาสอยู่ จะเข้าถึงตัวนายหญิง"

ดึกสงัดมันตรัยก็มาหา (ตอนนี้..ถ้านับตามเวลาจริงๆ ก็ล่วงเข้าวันใหม่แล้ว : วันที่ 13 ของรพินทร์ และวันที่ 8 ของดาริน)
ดารินตั้งสติ ในใจสวดพระคาถาชินบัญชร ปากก็เจรจาพูดคุย
มันตรัยเล่าเรื่องอดีตแต่ปางบรรพ์ ตั้งแต่เฝ้ารักเฝ้าหลงมาตั้งแต่ดรุณีแรกรุ่นจนโตเป็นสาว พ่อใกล้ตาย จิตรางคนางค์ก็มาขอร้องให้มันตรัยช่วย สัญญาว่าจะแต่งงานด้วย เพราะรักจึงยอมควักลูกตาตัวเองเอามาทำยาช่วยชีวิต

(เล่ม 41 : แต่ปางบรรพ์ 1) ส่วนอัคนีรุทร์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งแคว้นปัญจาล แข็งเมืองจะแยกตัวเป็นอิสระ นิทรานครและสหราชอาณาจักรยกทัพเข้าปราบ แต่ก็ไม่มีใครสามารถล้มแคว้นปัญจาลได้ เพราะชัยภูมิดีกว่า กษัตริย์นักรบแข็งแกร่ง สุดท้ายมหิทธิเดชะโดนอัคนีรุทร์ยิงธนูปักคอตายคาสนามรบ พระเจ้าอาชัยสุริยาก่อกบฎล้มราชบัลลังก์ จึงกินยาพิษฆ่าตัวตาย ส่วนอัคนีรุทร์แอบมาขโมยพระศพจิตรางคนางค์ และครองตัวเป็นโสด ปิดประเทศ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร ชัยสุริยาไม่ชอบการรบ นิทรานครจึงไม่ยุ่งกับปัญจาลอีก ต่างคนต่างอยู่ - ที่เล่ามานี่คือเรื่องราวจากมุมของมันตรัย

อย่างรอบคอบและใคร่ครวญดีที่สุดแล้ว ดารินเอ่ยหนักแน่น (น.5377)
"ประการแรก เปิดป่าปล่อยให้พี่ชายและคณะของเรากลับคืนออกไปสู่โลกภายนอกได้ ส่วนประการที่สอง เปิดทางให้แก่อัคนีรุทร์ อย่าได้รังควานราวีใดๆ ต่อเขาอีก ปล่อยให้เขาเดินทางไปตามหน้าที่ของเขา แผนการทุกอย่างที่ท่านมีเจตนาร้ายต่อเขา ขอให้ยุติลงเพียงแค่นี้ อย่าได้แตะต้องเขาอีก ... หากท่านให้สัจจะแก่เราในสองข้อนี้แล้ว เราก็พร้อมที่จะไปกับท่านทุกหนทุกแห่ง"

แงซายมาอยู่เป็นเพื่อน.. (น.5386)
"เรื่องราวที่มันนำมาเล่าให้ฉันฟัง เป็นความจริงหรือเปล่า?"
"นายหญิงสัญญากับมันไว้เป็นมั่นเหมาะแล้วมิใช่หรือว่า จะยอมไปกับมัน ก็ลองทำตามสัญญาดู แล้วนายหญิงจะรู้เองว่า มันเป็นสิ่งเท็จหรือสิ่งจริง"
"แล้วฉันคิดผิดหรือคิดถูก ที่ตกลงให้สัตย์สัญญากับมันไปเช่นนั้น"
"นายหญิงตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว เป็นความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวอย่างยิ่ง.."

"..ฉันอยากรู้อดีตกาลของฉัน พอมีทางบ้างไหม ... มันเคลือบแคลงเหลือเกิน โดยเฉพาะเรื่องระหว่างฉันกับอัคนีรุทร์ ถ้าฉันคือ จิตรางคนางค์จริงอย่างที่มันอ้าง"
"ก็ไม่เห็นจะยากอะไร นายหญิงสามารถดูเห็นได้ด้วยตนเองอยู่แล้วด้วยบุญบารมีเก่าของนายหญิง และบัดนี้ก็มาถึงตามกาลเวลาแล้ว ใช้บารมีแห่งฌาณนั้น มองอดีตย้อนหลังของตนเองเถิด.."

************

เล่าย้อนกลับมาฝ่ายพี่ชาย ช่วงเช้าของวันเดียวกัน
ฝ่ายพี่ชายและคณะก็ออกตามหาดาริน แล้วก็พบงูเห่า 2 ตัวต่อสู้และกลืนกินกันจนตาย กลายเป็น 'นาคบาศ' เหมือนที่ฝันเห็นเมื่อตอนย่ำรุ่ง กำลังใจมาเต็มล่ะ
เจอเจ้าด้วนติดหล่มโคลน เลยต้องวางระเบิดล้มต้นสยาเพื่อช่วยฉุดเจ้าด้วนขึ้นมา

************

เล่าย้อนกลับมาฝ่ายรพินทร์ ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
ได้เจอผู้กองของแงซายซะที หลังจากหายไป 197 หน้า (หายไปตั้งแต่ นาคเทวี 4 น.5259)-จขบ.

รพินทร์พาคณะเดินฝ่าทุ่งนรก (ที่บุญคำว่า เคยเดินผ่านกันมาแล้วเมื่อครั้งก่อน) (น.5456)
ทุกคนแทบจะไหม้ตาย ขนาดบุญคำยังบ่น "นายเราวันนี้แข็งแรงบรรลัยเลย.."
ที่สบายดีก็มีแค่เชิดวุธคนเดียว เพราะอมพระแร่บางไผ่ที่รพินทร์ให้ไว้

ไปหยุดยืนส่องกล้อง สงสัยว่าจะใช่ส่วนหนึ่งของนิทรานครรึเปล่า

.458 นัดที่ 25 : มหิงสาที่เกือบจะสอยหมอเบล

"..คุณทำให้ผมผิดสัจจะที่ว่าจะไม่ฆ่าสัตว์อะไรอีกแล้ว ยกเว้นป้องกันชีวิตตัวเองและผู้ร่วมคณะ กับขอมาเป็นอาหารเพียงชั่วมื้อเท่านั้น ถ้าคุณไม่ตามมาผมก็ไม่จำเป็นต้องฆ่ามัน.." (น.5479)

บางทีอ่านเวลาที่รพินทร์หรือใคร ด่ากันแบบ sound on film ก็ฮาดีนะ-จขบ. (น.5487)

ชอบตอนนี้ (น.5492-5499) บุญคำด่าหมอเบล
"แหม่ม!..ถ้ารักจะคบกับไอ้คำ ... อย่าเอ่ยอะไรไปถึง 'คู่รัก' ของนายรพินทร์ หรือ 'นายหญิง' ของบุญคำอีกเลย ผู้หญิงแสนประเสริฐคนนั้น ถึงจะไม่ใช่เมีย ก็เปรียบเหมือนเมียของนายรพินทร์ และขอให้รู้ว่านายรพินทร์รักเมียของแกมาก จนมองเห็นผู้หญิงคนอื่นต่อให้หยาดฟ้ามาดินแค่ไหนเป็นเหมือนท่อนไม้ไปหมด แกไม่สนหรอก.."

สายลับอเมริกันงัดอาวุธที่ซ่อนอยู่ในรูปของถ่านไฟฉาย, ปากกา ออกมาเปิดเผยวิธีการใช้งาน เพื่อเตรียมรับมือกับศึกคืนนี้ เชิดวุธโมโหหน้ามืดอาละวาดซะจนรพินทร์ต้องออกแรงคว่ำฟารั้งทั้ง 4 คน (น.5541-5545) ...ลองจิตนาการตามแล้วอย่างกะ Jason Bourne-จขบ.

วางแผนรับมือคืนนี้อย่างเต็มที่ สังหรณ์ว่ามันเอาเราแน่ แต่ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน
รพินทร์เอา M16 ของสแตนลีย์กับคี๊ธมาเตรียมพร้อม แบ่งให้เชิดวุธถือไว้กระบอกหนึ่ง
เรียกพรานลูกน้อง 4 คนไปสั่งความ (น.5562)
บุญคำเล่าว่านายคุยกับนางไม้ผู้ดูแลต้นไทร (น.5569)

นัดแนะกับนายจ้างเรื่องทางหนีทีไล่ ยอมนอนให้หมอเบลตรวจสุขภาพ (น.5573)
"ผมไม่ต้องการให้ตัวเองเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นในคืนนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นคุณตรวจสุขภาพของผมได้แล้วตามที่คุณต้องการ ถ้าจำเป็นจะให้ยากินยาฉีดอะไรแก่ผมเพื่อป้องกันไว้ก่อน ผมก็ยินดีรับ และผมขออนุญาตหลับพักให้สนิทในตอนหัวค่ำนี่สัก 3-4 ชั่วโมงก่อน แต่อย่าให้นานกว่านั้น หลังเที่ยงคืนไปแล้วผมจะต้องตื่นพร้อม บอกกันแค่นี้คงเข้าใจดีนะครับ"
แต่พอถามอาการแล้วหมอไม่บอก ก็อย่าหวังจะได้ฉีดยา จนหมอเบลต้องด่า
"นี่! ซูเปอร์แมน!! เลิกทำตัวเป็นพ่อมดหมอผีผิดมนุษย์มนาธรรมดาเขาเสียที เข็มฉีดยาฉันมีมาไม่มากนักหรอก จะให้มันหักอยู่บ่อยๆ กับผิวหนังของคุณ อีกหน่อยก็หมด ไม่ต้องฉีดยาใครเวลาจำเป็นขึ้นมาเท่านั้น" (น.5577)

ยามแรกเป็นของบุญคำ ได้เห็นวิชาบุญคำก็คราวนี้แหละ (น.5602-5620)
นางไม้บอกให้บุญคำไปเรียกพรานใหญ่มาคุยด้วยหน่อย เพราะเข้าไปเองไม่ได้
"..เกราะป้องกันตัวออกหลายชั้น กงจักรเทพเจ้าทั้งนั้น ที่หมุนรอบตัวเขาอยู่ในขณะนี้"
"เฮ้อ! นายกู! สกปรกดำปู้ปี้ไปทั้งตัว แต่ถึงงั้น มนุษย์ เทพ นาคี คนธรรพ์ ยักษ์มาร พากันมารุมรักหมด เสน่ห์ขี้เต่าแรงเหลือเกินพับผี่ ไอ้คำอิจฉาเป็นบ้า!"

เข้าสมาธิบริกรรมเรียกบรรดารักยม โหงพราย กุมารทอง ของประจำตัวออกมา จะให้ออกไปหาข่าวซะหน่อย ไม่มีใครยอมออกไป
"..ป่านอกมันปิดหมด มันมีเวทกาลีมหานรกเป็นตาข่ายคลุมไว้ เกินกว่าที่พวกฉันจะแทรกออกไปได้.."
ลูกๆ บอกว่า "ท่านลงอาคมไว้รอบปางพักแล้ว ในไม่ให้ออก นอกไม่ให้เข้า.."
เข้าสมาธิสวดมนต์อีกที (เท่าที่สวดได้) ก็เห็นภาพดวงตาเรียวสว่างสีเขียวเป็นคู่ๆ นับไม่ถ้วน จ้องเข้ามาในปางพัก
สั่งจัน นายตาบและลูกหาบย้ายสัมภาระส่วนกลางไปแอบไว้โคนต้นไทร
เปลี่ยนเอาลูกซองมาถือ เปลี่ยนจากลูกโดดเป็นลูกปราย บอกจันว่านายก็เตรียม M16 ไว้แล้ว (จริงจังก็เป็นนี่นาบุญคำ-จขบ.)

5 ทุ่มครึ่ง
ชอบตอนสองนายบ่าวคุยกัน เป็นเรื่องที่เห็นและเข้าใจกันแค่ 2 คน คุยกับคนอื่นไม่ได้จริงๆ -จขบ. (น.5628-5630)
"..ตอนนั่งหลับตาเพ่ง ไม่รู้เป็นภาพหลอกตัวเองหรือเปล่า"
"ไม่เกินตีหนึ่ง คงรู้แน่ ว่าบุญคำเห็นภาพหลอนหรือภาพจริง ... ฉันก็นอนเห็นอย่างที่บุญคำบอกว่านั่งหลับตาเห็นนั่นแหละ มันมาเต็มป่า รอบด้านไปหมด"

นางไม้เข้ามาสิงร่่างหมอเบล (น.5631)
"..สตรีผมแดงผู้นี้ ดวงชะตาจะถึงฆาตในช่วงแรกแห่งการดำรงชีพเยี่ยงมนุษย์ แต่ก็ยังมีข้อต่อรองที่จะยืดมรณกาลของนางออกไปได้อีกช่วงหนึ่ง ท่านเลือกเอาได้ ว่าจะให้นางสิ้นสุดเสียในคืนนี้ หรือจะยืดมรณกาลไปในช่วงหลัง"
แน่ละ รพินทร์เลือกที่จะยืดอายุหมอเบลออกไปแน่ๆ สิ่งแลกเปลี่ยนที่นางไม้อยากได้คือ ผ่านพ้นคืนมหาวิกฤตินี้ไปแล้ว จงโค่นต้นไทรให้ยอดหักลงมาราบกับพื้น อย่าให้งอกเงยขึ้นมาได้อีกเลย ทำลายไทรใหญ่ต้นนี้ให้พินาศ เพราะต้องทัณฑ์สาปจากเทพเจ้าเบื้องบน จะกลับคืนสู่ภพภูมิเดิมได้ต่อเมื่อต้นไทรนี้ถึงกาลพินาศ
"ตกลง เราขอให้สัจจะแก่นาง ในข้อแลกเปลี่ยนนี้"
 

To be continue >> https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vbenj&month=03-2019&date=29&group=8&gblog=68
 


Create Date : 25 มีนาคม 2562
Last Update : 4 เมษายน 2562 17:12:57 น. 0 comments
Counter : 2949 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เจ้าการเวกเสียงหวาน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สิ่งไหนยากกว่ากันระหว่าง
การหาคำตอบ
กับ
การพิสูจน์ว่าคำตอบ
ที่คนอื่นหามาได้นั้นถูกต้องหรือไม่
Friends' blogs
[Add เจ้าการเวกเสียงหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.