Group Blog
 
<<
มีนาคม 2562
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
31 มีนาคม 2562
 
All Blogs
 
-: เพชรพระอุมา 2 :- บันทึการเดินทาง (วันที่ 14 : 9-10)

มีนาคม 2562


ผ่านไป 19 เล่ม 6 พันกว่าหน้า เพิ่งเดินกันมาแค่ 14 วัน !!!
 

วันที่ 14 (เล่ม 43 : แต่ปางบรรพ์ 3 น.6327)
รพินทร์ - วันที่ 14 : นรกดำ (ป่าเถาวัลย์โบราณ ใกล้มหาสุสานจิตรางคนางค์-ช่องประตูผา)
ดาริน - วันที่ 9-10 : นรกดำ (ป่าระหว่างทาง-ป่าใกล้ๆ มหาปราสาทจิตรางคนางค์ : วันที่ 3 ของการพลัดหลงจากคณะ)

6.00 น. คณะของรพินทร์ตื่นขึ้นพร้อมกันหมด
พาคณะเดินย้อนกลับไปที่เนินหลังเต่าที่เคยยืนส่องกล้องอย่างสงสัยเมื่อ 2 วันก่อน

(เล่ม 44 : แต่ปางบรรพ์ 4)
เดินนำลิ่วๆ อย่างกับตามควายหาย จนบุญคำต้องสะกิดนายจ้างฟารั้งว่าไม่ต้องไปเร่งตามให้เหนื่อย ค่อยๆ เดินไปก็ได้

คริสประกบบุญคำ หวังหลอกล่อตาเฒ่าเม้าท์เรื่องเจ้านาย (น.6343-6358)
"บุญคำรู้อย่างเดียว รู้ด้วยสัญชาตญาณว่า จิตใจของนายรพินทร์และนายหญิงดารินสะอาดบริสุทธิ์ แต่ฟ้าดินอาจมากางกั้นไว้ก็ได้ เลยทำให้ต่างคนต่างเข้าใจกันผิดพลาดไปบ้าง ถึงยังไงบุญคำและพวกเราทุกคนก็ยังเคารพรักนายหญิงอยู่เสมอ แม้นายหญิงจะไม่ได้มามีชีวิตอยู่กินกับเจ้านายของบุญคำอย่างคู่รักทั่วๆ ไปก็ตาม"

แต่สุดท้ายไม่รู้ใครหลอกใคร เพราะจากความจริงในใจของบุญคำที่พูดออกมา มันทำให้คริสติน่ารู้สึกเหมือนตัวเองถูกด่าอยู่กลายๆ
"..นายหญิงดารินเหมือนน้ำค้างบนยอดใบไม้ แหม่มคริสเหมือนน้ำเหล้าดีๆ ในขวด มันแล้วแต่ว่าใครต้องการน้ำชนิดไหน"

อยู่ๆ ก็มีพายุงวงช้างพัดมา รพินทร์โดนพัดหล่นจากเนินจากเนินลูกสะบ้าเคลื่อน โดนคริสจับขายัดลูกสะบ้าเข้าที่ เจ็บแทบขาดใจ
พี่ชาย-น้องสาว (น.6387-6393)
"ฉันขอภาวนาให้พี่สาวคนนั้น จงรักพี่ชายของฉันคนนี้ เหมือนเช่นที่พี่ชายรักเธอนะ.."

ที่รพินทร์เดินลิ่วๆ ไปล่วงหน้าก่อนพายุจะมา เพราะจากมุมที่เห็น ทำให้จำได้แล้วว่านั่นคือสุสานที่ไชยยันต์และมาเรียเข้าไปติดอยู่
คี๊ธกับเชิดวุธช่วยกันระเบิดสุสาน

บัดนี้ เขามีความมั่นใจเกือบ 100% ว่า B52 ลำนั้น จะต้องสูญหายเข้าไปในเทือกเขาพระศิวะ อันเป็นเขตของ 'แดนสนธยา' อย่างแน่นอน (น.6443-6445)
แงซายเอ๋ย แกกับฉันมีหวังได้พบหน้ากันอีกแน่นอน หากว่าฉันไม่ตายเสียก่อน

พรานใหญ่กำหนดเส้นทางไว้ในใจว่าจะตัดไปทางไหนเพื่อไม่ต้องผ่านเทือกเขานิลกาญจน์ หลุมอุกาบาต 1-2-3 ขอให้ไปถึงเนินพระจันทร์ให้ได้ ก็จะหาทางตัดขึ้นเทือกเขาพระศิวะได้ และพิศวงอยู่ในใจ ไม่อาจบอกได้ว่าอะไรที่กำลังพยายามเรียกร้องดึงดูดให้มุ่งหน้าไปที่นั่นอีกครั้ง แม้จะไปไม่ถึงด้วยร่างกาย เขาก็จะต้องล่องลอยไปด้วยวิญญาณ ต่อให้สรีระจะแตกดับไปแล้วก็ตาม

************

ฝ่ายดาริน เช้านี้ก็เดินทางต่อ (น.6446-6490)
เข้าถึงเขตพระราชฐานชั้นนอกของจิตรางคนางค์ แล้วก็ระลึกชาติได้ว่าอะไรเป็นอะไร

จิตรางคนางค์ผู้นี้ถึงที่สุดแห่งการปลงในสังขารและวิญญาณแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างสุดแต่กรรมจะบันดาล ขอเพียงให้ฟ้าดินประจักษ์แจ้งเป็นสักขีไว้เท่านั้น ว่าทุกชาติทุกภพ จิตรางคนางค์นั้นรักอัคนีรุทร์ จิตรางคนางค์พินาศได้ แต่ขอเพียงให้อัคนีรุทร์คงอยู่เท่านั้น

พอเข้าถึงตัวปราสาท เขตพระราชฐานชั้นใน ก็หมดความเป็นตัวของตัวเอง สำนึกตอนนี้คือ จิตรางคนางค์
อ้าโฉมพิไลพิลาศพร่าง   จิตะรางคนางศรี
ผ่องพักตรประดุจดวงมณี   ณ ยามโชติตระการ
พิศโฉมประโลมมนสะปลื้ม   สิด่ำดื่มหทัยชาย
เสน่หาระติบมิจะคลาย   สวาสดิวายดนุถวิล
ข้ารอแลรอตราบชีวิดับ   มะลายลับละโลมดิน
ความรักสถิต ณ จิต ณ จิณ   ตนะก่อนิรันดร์กาล
(น.6466)

เดินชมปราสาทราชฐาน จนถึงห้องบรรทม ก็โดนมันตรัยสะกดให้ถอดสร้อยพระออกจากคอ
แล้วเสียงระเบิดตูมสนั่นเพดาน พร้อมกับพี่ชายใหญ่ตะโกนลงมาว่า "อย่าถอดพระ!" (น.6491)
พี่ชายมาช่วยไว้ทัน หลุดจากมนต์ของมันตรัยจึงเห็นว่าที่เห็นสิ่งสวยงามอยู่รอบตัวนั้น จริงๆ เป็นแค่ห้องคูหาหินเก่า เต็มไปด้วยวัตถุโบราณ
แล้วหนานอินก็โยนนาคบาศลงมาให้ พี่ชายตะโกนสั่งให้เเหวี่ยงไปที่มันตรัย
นาคบาศกลายเป็นบ่วงไฟล้อมรอบกายมันตรัย นาคเทวีมารอรับดวงวิญญาณไปส่งนรก
"เธอเป็นอิสระต่อการจองเวรจากเจ้าปิศาจอสูรร้ายแล้ว ... ขอความสวัสดีจงมีแด่ จิตรางคนางค์ ผู้ยึดถือสัจจะมั่นในความรักและประกอบคุณธรรมความดีงามมาโดยตลอด" (น.6497)

แล้วก็วางแค้มป์ใกล้ๆ กับมหาปราสาทจิตรางคนางค์ที่ถล่มลงมา
หลับยาวตั้งแต่หัวค่ำ

แงซายมาแล้ว...(น.6514)
"..ไม่เพียงแต่นายหญิงเท่านั้นที่ยัง 'ถวิลหา' อยู่ในขณะนี้ แม้แต่ผู้กองเองก็ยัง 'ถวิลหา' นายหญิงอยู่ทุกขณะจิต รพินทร์ ไพรวัลย์-ดาริน วราฤทธิ์...อัคนีรุทร์-จิตรางคนางค์ เป็นคู่ที่ 'ถวิลหา' ซึ่งกันและกันอย่างน่าเวทนามาหลายชาติหลายภพเต็มทีแล้ว"

แล้วพี่ๆ ก็ตื่นมาสอบสวนว่าทำไมถึงยอมตามมันตรัยไป ดารินเล่าในส่วนที่เล่าได้ ส่วนเรื่องอดีตชาติของตนกับรพินทร์นั้น แงซายบอกไว้แล้วว่าอย่าบอกใคร เพราะจะมีแต่คำถามตามมาไม่สิ้นสุด

หนานอินบอกดารินว่า เห็นนะว่าแงซายมาหา ก่อนที่ดารินจะตื่นขึ้นมา
"นายหญิงเห็นยังไง หนานอินก็เห็นยังงั้นแหละ เรารู้กันเองไม่ต้องพูดให้คนอื่นฟังร้อก" (น.6546)

อนุชาว่า คงต้องไปตามหารพินทร์กันถึงเทือกเขาพระศิวะแล้วล่ะ (น.6555)
"B52 อาจสูญหายไปในสองดินแดนที่เราผ่านมาแล้วก็ได้ และถ้ารพินทร์แน่ใจว่ามันตกที่นั่น เขาก็จะต้องนำคณะนายจ้างเข้าไปเพื่อให้เห็นกับตา รู้แน่ชัดออกไปให้ได้ ปัญหาที่ว่าจะกู้กลับคืนมาได้หรือไม่นั้นมันเป็นเรื่องภายหลัง"

(น.6564) ฝ่ายดาริน ล่วงเข้าเช้าวันที่ 10 แล้ว แต่ยังคงอยู่ในเล่ม 44
คณะของดารินออกเดินทางต่อ โดยให้เจ้าด้วนนำทาง พรานชดกับหนานอินคอยจับทิศทางการนำของเจ้าด้วนว่าไปทางเดียวกับที่ต้องการหรือไม่
ไปเจอฝูงลิงหลายร้อยตัว เลยถล่มด้วย M79 ไล่เปิดไป ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่ยิงสัตว์ใดๆ เลย แต่สุดท้ายดารินก็ต้องยิงลิงเพื่อช่วยคะหยิ่นไว้
วางแค้มป์กลางดง ตกลงกันว่า ให้เจ้าด้วนนำทางไป สุดแค่ไหนแค่นั้น เท่าที่มันจะผ่านไปได้ ที่เหลือเป็นหน้าที่พรานชดกับหนานอิน

************

ตัดกลับมาฝ่ายรพินทร์ ตอนบ่ายของวันที่ 14 (น.6621)
เดินตัดทุ่งกว้าง มุ่งตะวันออกเฉียงเหนือ
คี๊ธถามว่า รู้แน่แล้วหรือว่า B52 ตกอยู่ที่ไหน
รพินทร์ตอบว่า
Up there! where the sky meet the mountain,
the day meet the night,
or somewhere over the rainbow (น.6627)

"ในฐานะของนายจ้าง และในฐานะของหัวหน้าคณะ ถ้าผมจะสั่งคุณให้ถอยกลับ คุณจะว่ายังไง?"
"ผมก็จะไม่ขัดคำสั่งหรอกครับ และโดยแท้จริงแล้วก็จะดีใจมาก ผมจะได้กลับบ้านเสียที แต่..ผมอยากจะเสนอว่า ขอโอกาส หรือให้เวลาผมอีก 7 วันเท่านั้นนับจากนี้ไป ถ้าคิดว่าไม่ได้ผลคืบหน้าอะไรเลย ผมก็จะนำกลับ" (น.6629)

วางแค้มป์ที่ช่องประตูผา ใกล้ดงว่านผีปอบและไพลดำ
สองนายบ่าวลงไปในดงว่านผีปอบ (น.6659)

(เล่ม 45 : มงกุฏไพร 1 น.6677)
ไพลดำ รพินทร์นึกถึงหนานไพร ที่เคยพยายามขุดหัวไพลดำ
วิทยุบอดสนิท จุดธูปบูชาและขอขมาไพลดำ (ไว้ค่อยมาลงรายละเอียด + คาถา-จขบ.น.6682)

ชอบตอนสองนายบ่าวคู่นี้คุยกันจังเลย-จขบ. (น.6685-6686)
"แล้วนายเองล่ะ จะทำอะไรต่อไป ถ้าเรากลับถึงบ้าน"
"ฉันก็อยู่ตามประสาของฉันไปอย่างนี้ ฉันเกิดมาในบ้านป่า ก็จะขอตายอยู่กับป่าที่แวดล้อมหนองน้ำแห้งนั่นแหละ.."
"นายจะไปหานายหญิงไหม ถ้ากลับถึงบ้านแล้ว"
"ฉันหมดวาสนาสำหรับนายหญิงของบุญคำไปนานแล้ว นับตั้งแต่มีความจำเป็นจะต้องออกเดินทางเข้าป่ามานี่ มีความรู้สึกเหมือนกับว่า ฉันได้ตายจากเธอไปแล้ว เราอยู่กันคนละโลก"
"แปลว่านายตัดใจจากนายหญิงได้แล้ว?"
"ตัดใจรึ? ... ไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติไหน ฉันไม่มีวันที่จะตัดใจจากนายหญิงของบุญคำไปได้หรอก ไม่มีอะไรที่จะมาเปลี่ยนแปลงได้ จำไว้ด้วย! และความรักของฉัน ไม่จำเป็นจะต้องสมรักหรอก ขอเพียงให้ฉันได้รักเธอเท่านั้น ก็เป็นความสุขๆ เศร้าๆ ที่ฉันพอใจแล้ว และฉันก็ไม่สนใจด้วยว่า เธอจะยังคงมีเยื่อใยฉันอยู่หรือไม่ เพียงไร แค่ไหน ขอให้ฉันได้มีความรักแน่วแน่ต่อเธอข้างเดียวก็พอ นี่คือคำปฏิญาณของฉัน ที่เธอไม่จำเป็นจะต้องรับรู้"

รพินทร์ครอบครูให้คริสติน่า (น.6693-6698)
และสั่งให้ "..ประพฤติชอบ ปฏิบัติชอบ คุณรู้ดีอยู่แล้วว่าอะไรเป็นความดีและความชั่ว แยกมันให้ถูก แล้วจะเลือกกระทำแต่ความดี ... และต่อไปนี้ ระหว่างเราทั้งสอง จงมีแต่ความเป็นมิตรแท้ต่อกัน เป็นน้องสาวกับพี่ชาย เป็นศิษย์กับครู ไม่มีอะไรนอกเหนือกล้ำเกินไปกว่านั้น"
ขนาดบุญคำยังออกปาก "เด็ดแท้ๆ นายกู ในที่สุดก็สะกดแม่เสือสมิงนั่นเสียอยู่หมัด หมอบราบคาบแก้วไปเลย ต่อไปนี้แม่เจ้าประคุณคงไม่คิดปล้ำเอาทำผัวแล้วนิ เห็นศิโรราบกราบกรานพระอาจารย์ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ถ้าทำให้แหม่มคริสเลิกจ้องตะครุบนายเสียได้เมื่อไหร่ นายก็หมดเคราะห์ไปอีกยกหนึ่งแล้ว ฮ่า! ฮ่า! กลับบ้านคราวนี้บวชเสียเต๊อะ คงได้อรหันต์แน่"
"ก็คิดจะบวชอยู่เหมือนกัน ถ้ารอดตายกลับไปได้"

นั่งเพ่งลายแทงโบราณ (น.6700-6707)
ในเวลาเช่นนี้แหละ ที่เขามีความรู้สึกต้องการแงซายอย่างที่สุด

คริสติน่า ปรึกษาพรานใหญ่ว่าอันเดอร์แวร์หายบ่อยๆ (น.6715-6716)
รพินทร์ว่า "ถ้ายังมีพอใช้ ก็อย่าไปสนใจกับมันเลย ถ้าหายเสียจนไม่พอใช้ก็มาบอกผม จะไปตามคืนมาให้ และต่อไปนี้ควรจะยุติการหายได้แล้ว ไม่ใช่ยังหายอยู่เรื่อยๆ"
สุดท้ายเลยต้องบอกว่าบุญคำเอาไปทำอะไร

************

(น.6717) ฝ่ายดารินเป็นเวลากลางคืนของวันที่ 10 แล้ว
เดาว่าพนมเทียนคงเบลอ เพราะเขียนเช้าวันที่ 10 ของดารินติดต่อกันจากคืนที่ช่วยออกมาจากมันตรัยได้-จขบ.
ดารินจับไข้

แงซายมาแล้ว..(น.6728-6731)
"อย่าเพิ่งท้อแท้สิ้นหวัง ด้วยสัจจาธิษฐานที่นายหญิงตั้งไว้ ด้วยกรรมที่นายหญิงชดใช้มาถึงที่สิ้นสุด นายหญิงจะต้องตามเขาจนพบในชาติภพนี้แหละ ณ ที่ใดที่หนึ่งซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทิวาพบราตรีกาล ... ไม่เสียแรงหรอก ที่นายหญิงสู้อุตส่าห์สละชีวิตออกติดตามเขามาในครั้งนี้ อดทนรออีกสักนิด ขอให้กรรมเก่าที่เคยมีต่อกันนั้นสิ้นสุดเด็ดขาดลงเสียก่อนเท่านั้น นายหญิงและเขาจะได้พบกัน.."

 

To be continue >> https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vbenj&month=04-2019&date=02&group=8&gblog=70


Create Date : 31 มีนาคม 2562
Last Update : 4 เมษายน 2562 17:13:24 น. 0 comments
Counter : 1921 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เจ้าการเวกเสียงหวาน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สิ่งไหนยากกว่ากันระหว่าง
การหาคำตอบ
กับ
การพิสูจน์ว่าคำตอบ
ที่คนอื่นหามาได้นั้นถูกต้องหรือไม่
Friends' blogs
[Add เจ้าการเวกเสียงหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.