Bloggang.com : weblog for you and your gang
โลกจะสวยงาม เพราะมีความรัก ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบไหน
Group Blog
พึมพำนำเข้าเรื่อง
วันวาน
วันนี้
กินๆเที่ยวๆ
บันทึกถึงสัตว์เลี้ยงแสนรัก
ฟังแล้วคิดตาม
ดูแล้วได้อะไร
ความรักเอย..อยู่หนใด
วาดรูปเล่น
เก็บไว้ใช้งาน
<<
กันยายน 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
30 กันยายน 2552
รักของพ่อ
All Blogs
อีกที กับน้องเล็ก
ความรักครั้งก่อน
วีรกรรมของน้องเล็ก 2
วีรกรรมของน้องเล็ก 1
รักของพ่อ
งานครู กับครูที่แท้
มหาวิทยาลัยวัยวุ่น
วัยแรกรุ่นครุ่นคิด 2
วัยแรกรุ่นครุ่นคิด
สมุดบันทึกในวันวาน ตอน 6 ส้มตำบ้านเรา
สมุดบันทึกในวันวาน ตอน 5 "เนินสมบูรณ์" กับ "บ้านใหม่ ทุ่งหมด"
สมุดบันทึกในวันวาน ตอน 4 น้ำเย็น...เย็นใจ
สมุดบันทึกในวันวาน ตอน 3 บนรถ
สมุดบันทึกในวันวาน ตอน 2 รถออก...
สมุดบันทึกในวันวานตอน 1 เส้นทางเดิม
พี่อ้อกับท้องนาท้องไร่ และวีรกรรมที่ลืมไม่ลง
พ่อกับแม่ของพี่อ้อ - คำว่ารักคงยังไม่พอ
รู้จักพี่อ้อตอนเด็ก 3 - ย้ายโรงเรียน งู และหนังสือ
รู้จักพี่อ้อตอนเด็ก 2 - เด็กซนไปโรงเรียน
รู้จักพี่อ้อตอนเด็ก 1 - ชีพจรลงเท้ากับฉี่ราด
ฉลองเปิดบล๊อก - มารู้จักกันหน่อย
รักของพ่อ
น้องรัก
พี่อ้อได้เกริ่นเอาไว้ในจดหมายฉบับก่อนว่าจะเล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้มุมมองของชีวิตพี่อ้อ และความรู้สึกที่มีต่อพ่อเปลี่ยนไป แต่ก่อนที่จะเล่าไปถึงตอนนั้นพี่ขอย้อนเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่อ้อกับครอบครัวในช่วงที่พี่เรียนที่เชียงใหม่ก่อนนะจ๊ะ
ในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยพี่อ้อแทบจะไม่กลับบ้านเลย พี่ลงเรียนภาคฤดูร้อนทุกปี และใช้ข้ออ้างในการทำค่ายเพื่อจะได้ไม่ต้องกลับบ้านในช่วงเวลาที่เหลื่อมกันระหว่างสิ้นสุดภาคเรียนสุดท้ายกับการเริ่มเรียนภาคฤดูร้อน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็เป็นอันว่าอย่างมาก ในหนึ่งปี พี่อ้อก็จะได้กลับบ้านครั้งหรือสองครั้ง ครั้งละสองสามวัน ซึ่งพี่รู้สึกพอใจเช่นนั้น การอยู่ไกลบ้านทำให้ความตึงเครียดระหว่างกันลดลง พ่อและน้า (แม่เลี้ยง) ต่างเอาใจพี่อ้อเมื่อกลับบ้าน และเห็นได้ชัดว่าพ่อไม่เข้มงวดกับพี่อ้อเลย อยากจะไปไหนก็ได้ จะกลับกี่โมงก็ไม่ว่า ซึ่งต่างกับเมื่อสมัยที่พี่เรียนมัธยมหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ความรู้สึกในใจของพี่อ้อที่มีต่อพ่อและครอบครัวยังไม่เปลี่ยนไป
ขณะที่ความโกรธฝังตัวอยู่ พี่อ้อยังคงรักษาระยะห่างระหว่างพี่กับพ่ออย่างมั่นคง ระหว่างที่พี่อ้อเรียนอยู่ เราแทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย เพราะสมัยก่อนโทรศัพท์มือถือยังไม่แพร่หลาย (แฮะๆ เลยรู้เลยใช่ไหมว่ามันสักกี่ปีมาแล้ว) พี่อ้อไม่เคยปรึกษาเรื่องใดๆกับที่บ้านทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็จะแก้ไขเอง พี่คิดเสมอว่าที่พ่อและน้าทำดีกับพี่อ้อก็เพราะพี่ทำให้ที่บ้าน "ยืด" ได้ ที่พี่อ้อผู้ที่ใครๆคอยจ้องว่าจะไปรอดไหม สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยปิดที่มีชื่อในภาคเหนือได้ ตั้งแต่แม่เสียไป พี่อ้อไม่เคยรู้สึกถึงความภาคภูมิใจของพ่อที่มีต่อพี่เลย จนกระทั่งพี่เข้ามหาวิทยาลัยได้ พ่อแสดงออกว่าภูมิใจให้พี่อ้อเห็นอย่างชัดเจน แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าพี่อ้อรู้สึกว่าพ่อรักพี่ ความภูมิใจกับความรัก...มันต่างกัน
เมื่อพี่อ้อเรียนจบ มีงานทำ ดูแลตัวเองได้ พ่อก็ดูหมดห่วง ไม่มาวุ่นวายอะไรกับพี่อ้ออีก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคุยกัน นานทีปีหนพี่อ้อจึงจะกลับบ้านสักที และในจำนวนน้อยครั้งนั้น ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พี่อ้อได้รับรู้ถึงความรักของพ่อ
ช่วงที่พี่อ้อเริ่มงานครูที่เชียงใหม่ พี่ป่วยหนัก ต้องไปอยู่โรงพยาบาลหลายวัน กว่าจะหายก็กินเวลาประมาณสองสัปดาห์ น้ำหนักลดฮวบฮาบ จากที่ก่อนหน้านั้นผอมอยู่แล้วเพราะตรอมใจที่เลิกกับแฟน มาป่วยหนักพี่อ้อก็แทบไม่ต่างจากโครงกระดูกเดินได้ การป่วยครั้งนั้นทำให้พี่อ้อต้องใช้เงินเก็บที่เพิ่งจะได้จากเงินเดือนไม่กี่เดือนทั้งหมดเพื่อรักษาตัว พี่อ้อไม่ได้บอกที่บ้านเลยเพราะไม่คิดว่าเป็นเรื่องไหญ่ คิดว่าหายแล้วกลับบ้านค่อยบอก แล้วพี่อ้อก็กลับบ้านหลังจากหายดีแล้ว
พี่อ้อกลับถึงบ้าน ระหว่างทานข้าวเย็นด้วยกันพ่อก็ทักว่าทำไมผอมจัง พี่อ้อเลยเล่าให้ฟังว่าป่วยและนอนโรงพยาบาล ขณะที่พี่อ้อเล่านั้นพี่ไม่ทันสังเกตว่าพ่อก้มหน้าทานข้าวเงียบๆ เมื่อพ่อเงยหน้าขึ้นมาพี่ก็เห็นว่ามีน้ำคลออยู่ในตาทั้งสองข้างของพ่อ พ่อพูดกับพี่อ้อด้วยเสียงสั่นๆว่า เจ็บขนาดนี้ทำไมถึงไม่บอกพ่อ พี่ก็อึ้ง เพราะไม่ได้คิดว่าพ่อจะเป็นห่วง ในตอนนั้นพ่อถามพี่อ้อว่ามีเงินจ่ายค่ารักษาหรือ พี่อ้อตอบว่ามี เพราะใช้เงินเก็บจนหมด หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็กลับมาสู่สภาวะปกติ เพียงแต่พ่อดูเงียบๆไป
วันต่อมาพี่อ้อต้องกลับเชียงใหม่ เช้าวันนั้นพ่อต้องตื่นมาส่งพี่ไปขึ้นรถแต่เช้า พี่อ้อตื่นทีหลังพ่อ หลังจากที่พี่เข้าห้องน้ำทำธุระแล้วเปิดประตูออกมาก็เห็นพ่อยืนรออยู่ก่อนแล้วที่หน้าประตู พ่อกระซิบถามพี่อ้อให้พอได้ยินกันสองคนว่า มีเงินใช้ไหมลูก พี่อ้อไม่ตอบ พ่อเปิดกระเป๋าเงินใบเก่าที่เกือบจะเปื่อยของตนออกมา พี่อ้อเห็นธนบัตรหนึ่งพันบาทหนึ่งใบ และธนบัตรย่อยสีเขียวๆอีกไม่กี่ใบ จากนั้นพ่อก็หยิบธนบัตรหนึ่งพันบาทที่มีอยู่เพียงใบเดียวนั้นยัดใส่มือพี่อ้อแล้วพูดว่า นี่เงินส่วนตัวของพ่อ พ่อให้ อย่าให้น้าเขาเห็นนะ พ่อพูดเท่านี้แล้วก็เดินออกไปรอพี่อ้อที่หน้าบ้าน
ความรู้สึกของพี่อ้อเวลานั้นพูดไม่ออกบอกไม่ถูก รู้สึกว่ามีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ น้ำตาพาลจะไหล พี่อ้อรู้ว่าพ่อยกเงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้ ให้น้าจัดการ ส่วนตัวพ่อเองจะได้เงินรายวันเพียงเล็กน้อยจากน้าไว้ซื้ออาหารกลางวันเท่านั้น พ่อไม่เคยอยากได้อะไร ไม่เคยใช้เงินเพื่อซื้อของฟุ่มเฟือย นานๆครั้งพ่อจึงจะได้ออกไปทานข้าวนอกบ้าน ซึ่งก็ไม่ใช่ร้านอาหารที่แพงอะไร ดังนั้น หนึ่งพันบาทที่พ่อให้พี่อ้อมานี้กว่าพ่อจะค่อยเก็บเล็กผสมน้อยมาได้คงจะไม่ใช่วันสองวัน
เมื่อพี่อ้อเตรียมตัวเสร็จแล้วจึงหิ้วกระเป๋าออกมาจากห้อง เกือบจะแปดโมงเช้าแล้วแต่ด้านนอกก็ยังไม่สว่างดีเพราะมีหมอกหนาทึบ พี่อ้อมองเห็นพ่อนั่งรออยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน มีฉากหลังเป็นเงาตะคุ่มของยอดไม้ใผ่โผล่พ้นม่านหมอกขาวโพลนอยู่ลิบๆ พ่อของพี่อ้อใส่เสื้อกันหนาวตัวหนา นั่งหันหลังให้พี่ หลังของพ่ององุ้มลงเล็กน้อย ร่างงุ้มในเงาสลัวของพ่อเหมือนชายแก่คนหนึ่งกำลังนั่งพักเหนื่อย เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ พี่อ้อสังเกตเห็นว่าผมของพ่อบางลงมาก มีผมขาวแซมอยู่ประปราย พี่อ้อเพิ่งตระหนักว่าพ่อแก่ลงมากขนาดไหน และพี่อ้อเสียเวลาไปมากมายเพียงใดกว่าจะเข้าใจความรักของพ่อ
เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีมากแล้ว นับตั้งแต่นั้นมา พี่อ้อก็เข้าใจว่า ความรักสามารถแสดงออกได้หลายอย่าง และถึงแม้จะไม่แสดงออกเลยก็ไม่ได้แปลว่าไม่รัก พี่อ้อไม่เคยรู้สึกว่าพ่อรักพี่เลยตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่พ่อแต่งงานใหม่ วันที่พี่อ้อเข้าใจถึงความรักของพ่อนั้น เป็นวันเดียวกันที่พี่อ้อได้ตระหนักว่าพ่อต้องเหนื่อยเพียงใดกับการแบกรับความรู้สึกและภาระต่างๆตลอดเวลาที่ผ่านมา ช่องว่างระหว่างเรามีสาเหตุมาจากทั้งตัวพ่อ และมาจากตัวของพี่เอง ความเย็นชาและเหินห่างของพี่อ้อคงจะทำให้พ่อไม่รู้ว่าจะเข้าหาพี่อ้อได้อย่างไร ในขณะที่พ่อเองก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างอยู่กับบ้านมากนัก ส่วนพี่อ้อก็คาดหวังว่าพ่อจะรู้ว่าพี่อ้อรู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้โดยไม่พูดออกมา สิ่งเหล่านี้ทำให้เราสองคนไม่เคยที่จะเข้าใจกัน
ที่ผ่านมา พ่อก็คงเหนื่อยไม่น้อยกว่าพี่อ้อ ไหนจะยังภาระต่างๆที่รอพ่ออยู่ งานก็ยังต้องทำไม่เคยได้หยุด ยังมีน้องเล็กๆอีกสองคนต้องเลี้ยงดู วันนั้น พี่อ้อถามตัวเองว่าคาดหวังอะไรจากพ่อคนหนึ่งที่ผ่านเรื่องราวมามากขนาดนี้ ทำงานหนักขนาดนี้ และรักลูกขนาดนี้ พ่อเองก็ไม่ต่างไปจากเราที่ยังต้องดิ้นรน ต่อสู้กับความรู้สึก บางทีก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับปัญหารอบตัว สิ่งที่พ่อทำออกไปจะถูกบ้างผิดบ้างก็เป็นธรรมดา เพราะพ่อเป็นคนธรรมดา และที่สำคัญ ไม่ว่าพ่อจะทำอะไรก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นพ่อของพ่อน้อยลงได้ บางทีการที่มีพ่อเป็นพ่อก็อาจจะเพียงพอแล้วที่เราจะคาดหวัง การบังคับตัวเองให้พึ่งพาแต่ตัวเอง ไม่ยอมก้มหัวขอร้องใครมาตั้งแต่เล็ก ทำให้พี่อ้อติดนิสัยสันโดษ ไม่ชอบยุ่งกับใคร และโดยไม่รู้ตัวบางครั้งพี่อ้อค่อนข้างเย็นชา ซึ่งพี่อ้อพยายามที่จะแก้ไขมัน
ตอนนี้พี่อ้อคุยกับพ่อได้มากขึ้น แต่นานๆทีจึงจะโทรกลับบ้าน ขณะที่เขียนนี้ คิดถึงพ่อ สัญญากับตัวเองว่าพรุ่งนี้จะโทรหาพ่อ
แล้วเจอกันใหม่ฉบับหน้านะจ๊ะ
รักจ๊ะ
พี่อ้อ
Create Date : 30 กันยายน 2552
Last Update : 30 กันยายน 2552 18:23:49 น.
46 comments
Counter : 961 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาเยี่ยมค่ะ
โดย:
Unschuld
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:18:29:32 น.
สวัสดีค่ะคุณอ้อ...ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ...
อ่านแล้วนึกถึงตัวเองค่ะ.... เพราะเคยทะเลาะกับพ่อและไม่พูดกันอยู่หลายเดือนจนกระทั่งพ่อเสีย...ก็ไม่มีโอกาสได้คุยกัน เป็นความรู้สึกผิดติดตัวมาจนวันนี้เลยค่ะ
โดย: พีช (
somjaidean100
) วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:19:25:52 น.
อ่านแล้วน้ำตาซึมนิดหน่อย และอยากจะบอก และยืนยันว่า พ่อแม่รักลูกทุกคนแหละจ้ะ
รักคงไม่เท่ากัน เพราะไม่มีเครื่องชั่งตวงวัด แต่ต้องคงความยุติธรรมและให้ความเสมอภาคกับลูกทุกคน
โดย:
วันจัน
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:19:33:02 น.
ซึ้งใจจังค่ะ
โดย:
tuk-tuk@korat
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:20:22:01 น.
ยินดีที่ได้รูจักค่ะคุณอ้อ
พี่ได้อ่านเรื่องราวของวันนี้แล้ว ต้องย้อนกลับไปตอนที่ผ่านมาเพราะอยากรู้จักคุณอ้อให้มากขึ้น ถึงตอนนี้ พี่อยากจะบอกว่า "ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ชีวิตของเรายังต้องก้าวเดินต่อไป ยืนหยัดและก้าวต่อนะคะ"
โดย:
แม่ปุ้มปุ้ย
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:20:23:18 น.
เจ็บขนาดนี้ทำไมถึงไม่บอกพ่อ....
ทำเอาน้ำตาไหลเลยค่ะ
เหมือนกันเลย อยู่กับพ่อกับแม่เลี้ยงเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณค่ะ ที่แวะไปทักทาย ยินดีที่รู้จักนะคะ...
โดย:
rakpama07
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:11:23 น.
สวัสดียามค่ำคืนของวันพุธกลางสัปดาห์ค่ะ
แวะมาทัก และมาซึ้งกํบความรู้สึกของคุณลูกกับคุณพ่อค่ะ ..
สองพี
โดย:
SongPee
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:17:36 น.
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
ไว้โอกาสหน้าจะแวะมาหาใหม่ ^^
โดย:
Khun_Pitta
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:27:12 น.
ตามกลับมาเยี่ยมบ้านค่ะ...
ระหว่างเรากับผู้ให้กำเนิด..ความผูกพันไม่เคยเปลี่ยนนะคะ..
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมที่บล็อกค่ะ...
โดย:
Devonshire
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:22:10:34 น.
สวัสดีค่ะ
จริงๆ มันก็มีบางช่วงเวลานะค่ะที่เราคิดอะไรเอง
เออ เองไปหมดโดยลืมคิดว่าอีกฝ่าย ซึ่งเป็นคนที่เรารัก
เค้าจะรู้สึกยังไง .. เรียกว่ากดดันกันไป เพราะบางครั้ง
การเงียบ การไม่พยายามพูดคุยกันค่ะเห็นบ่อยเลย ...
อ่านแล้วก็ทำให้คิดถึงตัวเองหลายๆ ครั้งเหมือนกันค่ะ
เพราะว่าบางช่วงเวลาเราก็เป็นเหมือน จขบ.เลยล่ะค่ะ
โดย:
JewNid
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:22:16:37 น.
จริงๆแล้ว ...
คนเรามักแสดงออกต่างกันนะครับ...
ผมก็นานๆจะได้ลงไป...
ปลายเดือน ต.ค.นี้ล่ะครับ
จะได้กลับไปเยี่ยมที่บ้านอีก...
ฝนตกบ่่อยๆ
อย่าลืมรักษาสุขภาพนะครับ
โดย: sananda (
sananda
) วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:23:59:11 น.
มาให้กำลังใจค่ะ
ชอบประโยคที่ว่า " บางทีการที่มีพ่อเป็นพ่อก็อาจจะเพียงพอแล้วที่เราจะคาดหวัง "
จริงๆด้วยค่ะ บางทีกว่าเราจะเข้าใจอะไรได้อย่างลึกซึ่งมันก็กินเวลาเข้าไปเกือบครึ่งชีวิตแล้ว แต่ก็ยังไม่สายเนาะ
คุณอ้อยังโชคดีค่ะ ยังมีคุณพ่อ ดิฉันไม่มีคุณพ่อให้โทรกลับไปแล้ว
ขอให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุดน่ะคะ โชคดีค่ะ
โดย:
MommyKitchen
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:0:55:44 น.
อ่านแล้ววูบในอก เข้าใจความรักของพ่อที่มีต่อลูกจริงๆ
โทรหาคุณพ่อบ่อยๆนะคะ ท่านคงคิดถึงคุณอ้อมาก
ขอบคุณที่แวะไปทานมะม่วงน้ำปลาหวานด้วยกันนะคะ
โดย:
ปลาทอง9
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:1:49:14 น.
หวัดดีค่ะคุณอ้อ
อ่านแล้วก็อึ้งและแน่น ๆ ไปหลายประโยคเหมือนกันค่ะ
มินเองเล็ก ๆ ก็ไม่ได้อยู่กับพ่อ เพราะเป็นนักเรียนประจำ
สมัยนั้นไม่มีโทรมือถือหรอกค่ะ
แล้วก็รู้สึกแอนตี้พ่อมาก เพราะมินเองก็ไม่มีแม่คอยดูแล
เพราะพ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่มินยังเด็ก ๆ แค่ 5-6 ขวบมั๊ง
เพิ่งจะมารู้สึกว่ารักและเข้าใจพ่อเหมือนกัน
เมื่อ 10 กว่าปีมานี่เองค่ะ แต่ ตอนนี้พ่อมินก็ไม่อยู่แล้วอ่ะนะคะ
บางครั้งก็คิดโกรธตัวเองเหมือนกันว่า
ทำไม ตอนพ่อยังอยู่เราไม่ค่อยได้ดูแลเลยอ่ะ
จริง ๆ อยากบอกว่า รักพ่อมาก ๆ นะคะ
เดี๋ยวจะเหมือนมินที่ กว่าจะรู้ว่าไม่น่าจะอย่างนั้น
ไม่น่าจะอย่างนี้กับพ่อ พ่อก็ไม่ได้อยู่กับมินแล้วอ่ะค่ะ
โดย:
มินทิวา
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:5:07:24 น.
อ่านแล้วคิดถีงพ่อแม่ ที่เมืองไทยอ่ะ ตอนอยู่ใกล้ ๆ กันอ่ะนะ ไม่ค่อยสนใจ ตอนนี้มากอยู่ไกล ๆ คิดถีง ๆ ๆ ๆ
โดย:
teddybear@LB
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:7:35:07 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่อ้อ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:8:16:49 น.
โดย:
mutcha_nu
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:8:25:38 น.
.....
.....อ่านแล้วคิดถึงพ่อจัง..
...
โดย:
ลมลวง
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:8:58:16 น.
อ่านแล้วซึ้งมาก ๆ เลยค่ะ
โดย:
สวยตลอดกาล
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:10:38:04 น.
ขอบคุณค่ะที่แวะไปเยี่ยม
อ่านแล้วน้ำตาซึ้ม งุ งิ
โดย: Kra_tai (
stardift
) วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:11:47:04 น.
รักแท้คือพ่อแม่เราคะ
โดย:
น้องผิง
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:11:49:06 น.
สวัสดีครับคุณอ้อ
ขอบคุณมากนะครับที่แวะเข้าไปเยี่ยมเยือนและทักทายกัน....
เราต้องช่วยกันตัดวงจรช้างเร่ร่อนด้วยการไม่ซื้ออาหารนะครับ ไม่งั้นเค้าก็จะยังพาช้างมาเดินอยู่เรื่อยๆ ครับ
อ่านแล้วซึ้งจัง ผมไม่มีคุณพ่อแล้วหล่ะ ท่านจากผมไปเป็น 10 ปีแล้ว แต่ผมก็ยอมรับนะ ว่าผมเป็นผู้เป็นคนมาได้ เพราะแนวการสอนแบบแปลกๆ ของพ่อน่ะครับ.....
สบายดีนะครับ
โดย:
เพลงดาบกระบี่เดียวดาย
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:13:20:31 น.
ขอบคุณแทนน้องนาห์ด้วยครับพี่อ้อ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:14:49:22 น.
หง่ะ ซึ้งอ่ะค่ะ
ไว้อ่านตอนต่อไปเรื่อย ๆ ละักันนะคะ
โดย:
ชินโจมายุ
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:16:30:09 น.
สวัสดีครับ คุณอ้อ
ขอบคุณนะครับ ที่แวะไปเยี่ยมที่บล็อกครับ
ขออนุญาต แวะมาอ่าน รักของพ่อ ด้วยคนนะครับ
ฝนบล็อกมีเรื่องน่าสนใจเยอะเลยนะครับ
โดย:
หมึกสีดำ
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:17:00:57 น.
คุยกะท่านเยอะ ๆ ดีมากเลยค่ะ
วันนี้แหละ วันนี้เท่านั้นที่เราควรทำในสิ่งที่เราอยากทำ
เอ รูปวาดในกล่องนี้ วาดเองใช่ป่ะคะ
สาวน้อยหมวกแดง กุงเกงชมพู เนี่ย เจ้าของบ้านนินา (สวยมาก ๆ เลยค่ะ)
โดย:
wujirab
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:17:10:39 น.
อ่านแล้วคิดถึงพ่อมากเลยค่ะ แต่พ่อเอิงเสียได้ เกือบ 10 ปีแล้วค่ะ ตอนนี้อยากบอกรักพ่อ อยากพาพ่อเที่ยวแต่ไม่มีพ่อให้กอด ให้บอกรัก ให้พาเที่ยวแล้วค่ะ ...
โดย:
Madam_Hatyai
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:17:15:28 น.
ดีใจจังเลยค่ะที่จดหมายของคุณอ้อทำให้หลายคนได้เริ่มต้นคิดใหม่ ทำใหม่ มาถึงวันนี้ น้องอ้อก็คงมีความคิดที่เปลี่ยนไปเช่นกันนะคะ สู้ สู้ค่ะ
โดย:
แม่ปุ้มปุ้ย
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:18:57:15 น.
คิดถึงพ่อแล้ว..
อยากกลับบ้านอยู่ตลอด
แต่ด้วยหน้าที่การงานมันค้ำคอ
ไม่สามารถกลับไปได้อย่างใจคิด
เดือนตุลาคม มีวันหยุดคงได้กลับ
หวัดดีตอนเย็นค่ะ....
โดย:
aenew
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:19:32:20 น.
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:20:03:55 น.
บางทีความรักก็ไม่ได้แสดงออกมาให้เราเห็น ทำให้เราคิดว่าพ่อเค้าไม่ห่วงเรา
บ้างเลย ตอนนั้นพี่อ้อคงเจ็บปวดน่าดู
แต่พี่อ้อก็ผ่านมาได้ด้วยดี ไม่ผิดหรอกที่พี่อ้อจะรักการสัญโดษ เพราะสิ่งรอบๆตัวพี่ทำให้เราเจ็บช้ำ พี่อ้อคงเป็นเหมือนมล คือมีโลกส่วนตัวสูง ซึ่งมลกำลังจะแก้ใขมันอยู่เหมือนกันแต่ยากจริง ๆๆ
โดย:
เดินทางรอบโลก
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:20:20:16 น.
รออ่านฉบับต่อไปค่ะ
โดย:
sangseetong
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:20:32:54 น.
สวัสดีค่ะคุณอ้อ ขอบคุณมากที่แวะไปเยี่ยมกันนะคะ
อ่านบางตอนแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ ดีใจด้วยที่สุดท้ายคุณอ้อและคุณพ่อเข้าใจกัน และที่ดีที่สุดคือ ท่านยังอยู่ให้คุณอ้อแสดงความกตัญญู
รักษาสุขภาพนะคะ
โดย:
haiku
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:21:07:11 น.
เอารูปหมามาใส่ไปแล้วนะ
โดย:
ช้างดอกไม้
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:22:01:22 น.
แวะมาเยี่ยมครับ
รูปในกล่องความเห็น
กับรูปที่นั่ง คล้ายกันเลย อิอิ
โดย:
MAILAKPAGKEELAN
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:22:35:49 น.
อ่านแล้วแอบน้ำตาซึม...คิดถึงพ่อค่ะ
พ่อเพิ่งจากไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง
คุณอ้อเขียนได้กินใจมาก ๆ เลย
" พ่อเองก็ไม่ต่างไปจากเราที่ยังต้องดิ้นรน ต่อสู้กับความรู้สึก บางทีก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับปัญหารอบตัว สิ่งที่พ่อทำออกไปจะถูกบ้างผิดบ้างก็เป็นธรรมดา เพราะพ่อเป็นคนธรรมดา และที่สำคัญ ไม่ว่าพ่อจะทำอะไรก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นพ่อของพ่อน้อยลงได้ บางทีการที่มีพ่อเป็นพ่อก็อาจจะเพียงพอแล้วที่เราจะคาดหวัง "
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบล็อกและยินดีที่ได้รู้จักกันค่ะ
โดย:
เอื้องสามปอย
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:23:13:11 น.
เอาโฆษณาซึ้งๆ
ความหมายดีๆมาฝากครับ..
โดย: sananda (
sananda
) วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:23:48:23 น.
แวะมาราตรีสวัสดิ์ครับ
คอมเมนท์ข้างบนเขาชื่นชม เขาซึ้งกันไปหมดแล้ว... ^^ ในฐานะที่มีโอกาสได้เป็นทั้งลูก เป็นทั้งพ่อคนเหมือนกัน ก็ขอซึ้งด้วยอีกคนละกันครับ
"ความรักสามารถแสดงออกได้หลายอย่าง และถึงแม้จะไม่แสดงออกเลยก็ไม่ได้แปลว่าไม่รัก "
^^ อันนี้ก็คงเป็น
รักนะแต่ไม่แสดงออก
สินะครับ... ได้คำคมไปใช้อีกแล้ว
โดย:
penguinsound
วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:0:23:13 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่อ้อ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:8:11:09 น.
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณอ้อ
แวะมาทักทายก่อนไปทำงานค่ะ
มีความสุขรักษาสุขภาพนะค่ะ
โดย:
เพราะฉันห่างไกล
วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:8:22:25 น.
สวัสดีค่ะคุณอ้อ...ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ...
สายสัมพันธ์พ่อลูก อย่างไรก็ยังเหนียวแน่น เป็นกำลังใจให้คุณอ้อและพ่อได้เข้าใจกัน และพบจุดที่สมดุลของทั้งสองคนได้ในเร็ววันนะคะ
โดย: hi hacky (
hi hacky
) วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:8:27:30 น.
สวัสดีค่ะคุณอ้อ
ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ
...
อ่านแล้วน้ำตาใหลเลยนะคะ
บางทีความรักของพ่อมีมากมาย
แต่บางครั้งการแสดงออกอาจแตกต่าง
ขอแค่ให้เราได้รับรู้ก็เพียงพอแล้วค่ะ
ขอให้คุณอ้อดูแลท่านบ้างคุยกับท่านบ้างนะคะ
อย่างน้อยพ่อก็จะได้รับรู้ว่าเราเองก็รักท่านมากมาย
พี่ขอให้คุณอ้อมีความสุขกับวันดีๆนะคะ
โดย:
tanjira
วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:9:11:09 น.
สวัสดีครับ คุณอ้อ
ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมบล๊อกมือใหม่
สำหรับลูกแล้ว
"กตัญญู"
โดย:
เศษเสี้ยว
วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:9:36:31 น.
สวัสดีค่ะคุณอ้อ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอบคุณที่แวะไปที่บล๊อกนะคะ
เข้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ แต่เพิ่งมีเวลามาอ่านวันนี้
อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ
คุณพ่อของคุณอ้อ คงเป็นคนแบบเดียวกันกับพ่อแม่เราอ่ะค่ะ คือไม่เคยแสดงความรักกับลูกๆ
หรือถ้าจะแสดงความรัก ก็จะออกมาในแนวบ่นหรือไม่ก็ดุ (ซึ่งก็ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนการแสดงความรักเท่าไหร่)
อ่านบันทึกของคุณอ้อแล้ว สงสัยต้องหมั่นแสดงความรักกับลูกบ่อยๆซะแล้ว รักแค่ในใจบางทีลูกก็ไม่รู้จริงๆนะคะ
โดย:
พจมารร้าย
วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:11:15:59 น.
สวัสดีค่ะคุณอ้อ
อ่านจดหมายแล้วสะท้อนในใจของตัวเอง
เพราะชอบตัดพ้อว่าพ่อแม่ไม่ค่อยรัก รักน้องมากกว่า
ซึ้งจนไม่รู้จะบอกว่าอย่างไรดี
รู้แต่ว่าได้ข้อคิดมากมายจากจดหมายของคุณอ้อ
ขอบคุณนะคะ
โดย:
You're My SunshinE
วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:12:35:45 น.
สวัสดีค่ะ พี่อ้อ
อ่านแล้วคิดถึงพ่อเหมือนกันค่ะ แต่...พ่อพลอยท่านเป็นอัมพาต
พูดไม่ได้ ขาและมือขวาใช้การไม่ได้ค่ะ พ่อป่วยก่อนพลอย 3 ปี
พลอยไม่รู้ว่า...พ่อจะรู้ไหมว่าพลอยป่วยอยู่
วันที่พลอยแต่งงาน พลอยเชื่อว่า พ่อคงมีความสุขที่สุด
ที่ได้เห็นลูกสาวตัวเองแต่งงาน แม้ท่านจะพูดไม่ได้ก็ตาม
ทุกวันนี้พ่อสู้โรคร้ายนานาๆชนิด ทั้งเบาหวาน หัวใจ ความดัน
พลอยกับพ่อเราคงต้อสู้โรคร้ายต่างๆไปด้วยกัน
โดย:
rizzonte
วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:13:48:31 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
sandseasun
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
A Little Catz
Childcraft
ปูขาเก เซมารู
หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท
Cable InLove
อ้วนกลม
veerar
นีรมาลี
แม่สลิ่ม
cutie_nitty
แพรวขวัญ
I am just fine^^
แม่เฮือน
รำเพย
คิตตี้..เหมียว
kitten kaori
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
ขึ้นเป้
thaispicy
ชิงดวง
nature-delight
สาวไกด์ใจซื่อ
พลทหารไรอัน
nam_sila
wee_nong
คนเคยดื้อ
รักษ์บ้านเกิด
กาแฟดำไม่เผ็ด
bigwores
roslita
คนสาธารณะ
บัวริมบึง
ดาริกามณี
rossorn
ดอกหญ้าเมืองเลย
ฝากเธอ
i_lllive
เช้านี้ยังมีเธอ
ผู้ชายชื่อต้น ผู้หญิงชื่อพิม
ส้มตำปลาร้า
สัมปันนี
กลางนที
ย่าชอบเล่า
Mooky Miracle Mom
Puyfai Makeup
นางฟ้าอรชร
Opey
ซิมเปี๊ยะกุน
raya-a
กะว่าก๋า
JewNid
มัชชาร
penguinsound
elastigirl
SongPee
sangseetong
นางฟ้าของชาลี
satineesh
หมึกสีดำ
อัสติสะ
aenew
พจมารร้าย
พรหมญาณี
coji
มัยดีนาห์
แม่ปุ้มปุ้ย
เต่าตัวลาย
SevenDaffodils
พี่เฮฮา
ปณาลี
กรุณาใช้บริการช่องถัดไป
ChaleenaP
Charlotte Russe
ชานไม้ชายเขา
nanida
อสัญแดหวา
มังกรบิน@mj_mj
cator
นักล่าน้ำตก
Untrue
ย่านาง
Webmaster - BlogGang
[Add sandseasun's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.