|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
น้ำหอมที่ผมใช้ตั้งแต่ละอ่อนยันตอนนี้ |
|
บล๊อกนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่องของ "น้ำหอมผู้ชาย" ครับ
แน่นอนว่าจริงๆ แล้วไม่ได้มีแค่ผู้หญิงที่ใช้น้ำหอม แต่ผู้ชายเราก็ต้องมีน้ำหอมใช้ในชีวิตประจำวันหรือโอกาสพิเศษบ้างเหมือนกัน เอาจริงๆ ผมมาเริ่มรู้ว่า ชีวิตคนเราควรมีกลิ่นหอมก็ประมาณ ม.3-4 ครับ ก่อนหน้านี้คือวิ่งเหงื่อเปียกเปรี้ยวอยู่สนามฟุตบอล โดยที่ไม่เคยคิดเลยว่าเราอยู่เปรี้ยวๆ แบบนี้ทั้งวันได้หรอ ประกอบกับช่วง ม. ปลาย สาวๆ เค้าเริ่มมากลิ่นหอมๆ เวลาเดินผ่าน แล้วรู้สึกว่า เออ ถ้าเรามีความเดินผ่านแล้วหอมจางๆ บ้างก็คงดี แน่นอนว่า ตอนนี้ไม่มีตังซื้อน้ำหอมจริงๆ จัง ๆ และสิ่งที่มีกลิ่นหอมเดียวที่เด็กมัธยมโรงเรียนรัฐฯ จะได้ใช้คือ.... "AXE" 555555555555555555
ตอนนี้ก็เรียกว่าเท่แล้วนะ มาเห็นสมัยนี้ เด็กมัธยมใช้ Dior ตกใจมาก เอาตังจากไหนซื้อกันวะ
พอเข้ามหาลัย ตอนนั้นได้มีน้ำหอมขวดแรก ซึ่งพี่สาวให้เป็นของขวัญเข้ามหาลัย
ซึ่งน้ำหอม ขวดแรก ที่ผมใช้ คือ Calvin Klein CK One
โคตรคลาสิกครับ ผมว่า CK one น่าจะเป็นตัวเริ่มต้นของหลายๆ คน ด้วยราคาน่าจะย่อมเยา และกลิ่นที่ไม่ได้แรงมาก เอาจริงๆ ผมจำรายละเอียดกลิ่นมันไม่ได้แล้วครับ ถ้าจำไม่ผิดคือน่าจะเป็นกลิ่นแนว Citrus หอมเบาๆ ไปหาข้อมูลมาว่าพอจางๆ แล้วจะให้กลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ชินนามอนเบาๆ ส่วนตัวผมว่ามันหอมเฉยๆ อยู่แค่ครึ่งวันก็หาไม่เจอแล้วครับ และไม่มีคาเร็กเตอร์เท่าไหร่ แต่ตอนนั้นหนึ่งคือไม่ได้เลือกเอง และสองคือ ได้มาฟรี ครับ อะไรก็เอา 5555555 แต่ผมก็ใช้ทุกวันเลยนะ
ขวดที่ 2 ต่อจากขวดแรกเลยครับ คือ CC-OO Sued for men
ติดมาจากร้าน CC-OO นั่นแหละครับ 5555 คืออย่างที่ทราบผมแพ้กลิ่นอะไรแรงๆ ซึ่งพาลจะป่วยได้ แต่ทุกครั้งที่เข้าร้าน CC-OO นี่ชอบสูดมาก พอรู้ว่ามีน้ำหอมกลิ่นนี้ขายก็ซื้อมาใช้เลยครับ แถมราคาถูกมากๆ เด็กมหาลัยอย่างผมเลยซื้อมาใช้ได้ รู้สึกว่าจะใช้ 2 ขวดเลยนะ กลิ่นนี้ทุกคนทราบดีแน่นอน มันจะดูแมนๆ สปอร์ตๆ ดูเป็นผู้ชายเท่ๆ แอดทีฟ ชิลๆ ที่สำคัญคือ ถูกดีมาก แต่มันประหลาดๆ นิดหน่อยครับ ที่เราจะเหมือนร้าน CC-OO เคลื่อนที่ 55555 ก็เลยเลิกใช้ไปตอนที่เริ่มบินทำงานกับเพื่อน
ขวดต่อมาครับ อย่างที่บอกคือตอนนั้นเริ่มมีตังแล้ว Bvlgari Aqua Pour Homme
จำได้ว่าซื้อที่สนามบินนี่แหละครับ ตอนนั้นเหมือนจะเริ่มรู้คาเร็กเตอร์ตัวเองว่าเหมาะกับกลิ่นแนวไหน แล้วกลิ่นที่ว่าคือกลิ่นแนว Blue ครับ มีความสดชื่นๆ ทะเลๆ แต่กลิ่นจะดูสุขุมๆ ขรึมๆ หน่อย ไม่ได้ดู Playful แต่กลิ่นมันสดชื่นนะครับ เหมือนไปทะเล เหมือนอาบน้ำมาใหม่ๆ กลิ่นนี้ติดใช้ 100ml มา 2 ขวดติดเลยครับ ขวดละปีได้ 55555
ต่อมาคือน้ำหอมที่คิดมาแล้วศึกษามาแล้วเป็นอย่างดี มีกำลังซื้อ คือซื้อเอาที่ชอบเลยไม่ติดเรื่องราคา ต้องการคาเร็กเตอร์ ต้องการให้เดินผ่านสาวแล้วสาวต้องหันตาม เห็นหลังแล้วอยากเห็นหน้า ฉีดไปเที่ยวได้ ไปทำงานก็ดูเท่ ดูหล่อ นั่นก็คือ Chanel Bleu De Chanel Parfum
ใช่ครับ ผมเลือกใช้ตัว Parfum ด้วย อย่างที่บอกว่าไม่ติดเรื่องราคา ตัวนี้เลือกด้วยความชอบ เลือกด้วยความเหมาะกับการทำงาน เหมาะกับตัวเอง ฉีดแล้วพอผสมกับความอุ่นของตัวเราและกลิ่นกายเรา มันเหมาะกับผมมากๆ มากที่สุดครับ ขวดนี้ชอบมากๆ ใช่ครับ เป็นน้ำหอมแนว Blue อีกแล้ว นี่แหละสิ่งที่ผมชอบ กลิ่นจะออกแนวผู้ชายหล่อหรู ผู้ดีๆ คาเร็กเตอร์สุขุม เป็นผู้ใหญ่ สาวๆ ให้ความเห็นว่าเหมือนผู้ชายที่ใส่เชิร์ต เต็มตัวเนียบๆ มีกลิ่น Citrus ไม้ๆ และ Bergamot ให้ความรู้สึกสดชื่น ความทนเรียกว่าดีเลยครับ สำหรับผมในวันธรรมดาอยู่ได้ทั้งวัน แต่ถ้าออกไซต์อากาศร้อน โดนเหงื่อหน่อย ก็อยู่จางๆ จนเลิกงาน แต่ถ้าต้องไปกินข้าวต่อก็ต้องมีเติมครับ ถึงแม้จะเป็น Parfum ขวดนี้ยังใช้อยู่คนถึงปัจจุบันนะครับ แต่บอกไว้ก่อนว่าไม่ได้ใช้เป็น Daily use แล้ว ใช้เฉพาะไปงาน ไปดินเนอร์ หรือวันที่ต้องการสร้างบุคลิกคุณชายๆ หน่อย ในช่วงที่ต้องประหยัดไอ่นี่ถือว่าแพง
อีกขวดคือน้ำหอมที่ช่วงก่อนโควิดผมใช้คู่กับ Chanel แต่ขวดนี้เอาไว้ ไปเที่ยว ครับ ไปเที่ยวที่ไม่ใช่ทะเล ภูเขา น้ำตก คาเฟ่ แต่เป็น นั่งเล่น บ้านเพื่อน ONYX Route66 ทำนองนั่นครับ.... นั่นคือ Yves Saint Laurent Y Men EDP
เป็นขวดเด็ดที่ไปผับเดินผ่านสาวต้องหันตาม หรือยืนล่อเป้าอยู่หญิงเดินผ่านต้องมาหันกลับมาอีกรอบ ขวดนี้เรียกว่าเคยมีสาวโต๊ะข้างๆ ทักเลยครับว่า ชอบน้ำหอมเธอจัง คือกลิ่นมันไม่ได้ดูเป็นหนุ่มหล่อๆ อย่างเดียวครับ แต่มันจะมีSensation ของความเท่แบบเซ็กซี่ มีเสน่ห์ มีความดูเป็นผู้ชายเฟรนลี่ ปน ร้าย เบาๆ ซึ่งกลิ่นมันจะฟุ้งกระจายมากครับ แผ่จากตัวไปประมาณนึง เลยเหมาะมากที่จะใช้ไปเที่ยวกลางคืน ฉีดทีแรกจะมีความหวานแนวผู้ชายๆ กลิ่นแอปเปิ้ล ขิงๆ มีกลิ่นสังเคราะห์สะอาดๆ เคลิ้มๆ ที่ middle และพอเริ่มจาง ๆ จะเหลือกลิ่นหวานๆ น่าหลงไหล แฟนคอมเม้นว่ากลิ่นนี้น่าเดินเข้ามาซุกมากอด 55555 แพงมาก ผมมีขวดเดียว เพิ่งหมดไปซักปี 2 ปีได้ แล้วไม่ได้ซื้อใหม่อีกครับ ถ้ามีตังแล้วได้เที่ยวก็อยากซื้ออีก
และสุดท้ายคือขวดปัจจุบันที่ใช้เป็น Daily use เพราะต้องลดค่าใช้จ่ายฟุ่งเฟือยลงไป ถึงจะลดค่าใช้จ่าย แต่ความหล่อไม่ลดนะครับ 55555 Davidoff Cool Water Men
น้องผู้หญิงที่แผนกเรียกกลิ่นนี้ว่า "กลิ่นกายชายหนุ่ม" 5555 บอกว่ากลิ่นมันแมนๆ เท่ๆ ผู้ชายๆ แถมให้ความรู้สึกดูเป็นผู้ชายเท่ๆ สะอาดๆ สดชื่นตั้งแต่ Top nose ผมมี 2 ขวดครับ ขวด 100ml กับ 50ml 100ml เอาไว้ที่บ้าน ฉีดก่อนออกจากบ้าน ส่วน 50ml เอาไว้กระเป๋า เพื่อฉีดซ้ำตอนเย็นๆ ที่ต้องไปดินเนอร์ต่อ หรือมีเหตุต้องไปไหนต่อ เพราะกลิ่นมันดี มันเท่ก็จริงครับ แต่กลิ่นมัน fade เร็ว ซัก 4-6 ชั่วโมงก็ไปแล้ว แต่ข้อดีที่ผมชอบคือ ถ้าร้อนๆ เหงื่อออก กลิ่นมันผสมกับกลิ่นกายเรา มันนัวมาก กลิ่นมิ้นท์มันจะฟุ้งๆ กลิ่น Marine จะกระจายออกมา ทำให้จากกลิ่นเหงื่อกลับได้กลิ่นสดชื่นๆ แทน ขวดนี้มีแต่คนชมครับ สาวก็ชมแบบยิ้มกรุมกริ้มๆ มองเราแบบเท่ๆ ผู้ชายๆ ส่วนผู้ชายก็ชมว่ากลิ่นเท่มาก ดูเป็นหนุ่มเนียบสะอาดๆ ที่สำคัญราคาถูก ฉีดแล้วสบายใจมากครับ
นี่แหละครับน้ำหอมผู้ชายที่ผมใช้มา เผื่อเป็นแนวทางถ้าใครอยากใช้ หรืออยากซื้อเป็นของขวัญให้ผู้ชายซักขวด รับรองว่าเค้าต้องดีใจมากแน่ๆ ครับ แต่อย่าลืม เหลือให้เหมาะกับบุคลิก Life style ของเค้าด้วยครับ
Create Date : 19 เมษายน 2565 |
Last Update : 19 เมษายน 2565 14:48:32 น. |
|
27 comments
|
Counter : 1082 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณnonnoiGiwGiw, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtoor36, คุณตะลีกีปัส, คุณกะว่าก๋า, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSleepless Sea, คุณหอมกร, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณอุ้มสี, คุณThe Kop Civil, คุณnewyorknurse, คุณกิ่งฟ้า, คุณ**mp5** |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 19 เมษายน 2565 เวลา:13:49:34 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 19 เมษายน 2565 เวลา:13:55:10 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 19 เมษายน 2565 เวลา:15:27:06 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 19 เมษายน 2565 เวลา:16:01:36 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 19 เมษายน 2565 เวลา:17:04:49 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 เมษายน 2565 เวลา:17:24:02 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 19 เมษายน 2565 เวลา:23:21:43 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 เมษายน 2565 เวลา:0:06:57 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 เมษายน 2565 เวลา:6:15:15 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 20 เมษายน 2565 เวลา:8:36:13 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 20 เมษายน 2565 เวลา:13:55:09 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 เมษายน 2565 เวลา:15:38:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 เมษายน 2565 เวลา:16:12:58 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 20 เมษายน 2565 เวลา:18:23:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 เมษายน 2565 เวลา:22:19:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 เมษายน 2565 เวลา:6:13:44 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
BlogGang Popular Award#20
|
|
|
บาลแกรีอัลควานี่ชอบมาก ซื้อมาใช้ติดๆกัน 3 ขวด เลย ปกติไม่ใช้กลิ่นซ้ำนะ
Cool water นี่รู้จักตั้งแต่ออกใหม่ ตอนอยู่ปี 1 .... กลิ่นอมตะมาก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ที่ฮ่องกงถูกมากอ่า ขวดนึงไม่ถึง 1000
แต่เคยไปดม Cool water ที่ขายในสนามบินดูไป กลิ่นไม่ค่อยเหมือนจากฮ่องกง มีคนบอกว่าพวกอาหรับจะใช้น้ำหอมกลิ่นแรงกว่าปกติ น้ำหอมที่ส่งออกไปทางตะวันออกกลางตัว perfume จะมากกว่าตัวทำละลาย จะแพงกว่าที่ส่งมาขายทางเอเชีย
แต่มีกลิ่นนึงที่ไม่เคยใช้เลย คือ CK one เพราะ มนต์สิทธิ์ คำสร้อย เคยให้สัมภาษณ์ว่าใช้กลิ่นนี้ .... ไม่ได้ Bullies ความเป็นอิสานนะ แต่รู้มานานแล้วว่าสาวแตก !!!!!!