By....  Dr.Bright

พึงพอใจกับสภาพความเป็นอยู่ สถานะภาพ สิ่งแวดล้อมรอบกายในปัจจุบัน

พลังชีวิตช่วยให้มวลมนุษยชาติอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน เมตตา กรุณาต่อกัน อ่อนโยนและให้อภัยกัน
พลังชีวิตช่วยให้มนุษย์เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

คนเรามิได้มีความต้องการด้านกายภาพเท่านั้น
พลังผลักดันภายในจิตใจเป็นพลังภายในที่มีกำลังมหาศาล
ให้ชีวิตทุกคนฝ่าฟันอุปสรรคไปสู่ความสำเร็จได้
ซึ่งสิ่งนี้เรียกว่า พลังทางจิตปัญญา(Spiritual) 

เป็นพลังที่เสริมให้เกิดพลังชีวิต
ด้วยพลังนี้เกิดจากการพิจารณาไตร่ตรองความดีงามที่มีในตนเอง
และมองเห็นคุณค่าความดีงามของคนอื่น
พยายามเชื่อมโยงถ่ายทอดคุณงามความดีเหล่านี้สู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
โดยการยอมรับความแตกต่างทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา ความคิดเห็น ฯลฯ

บุคคลใดสามารถปรับเปลี่ยนมุมมองในแง่บวกได้มากเท่าไหร่
ชีวิตของบุคคลนั้นก็จะเกิดพลังชีวิตที่ดี
พร้อมจะมีชีวิตอยู่ร่วมโลกกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
สงบ อิสระ เบาสบาย เสมอภาค เท่าเทียม มั่นคง เข้มแข็ง
ดัง พุทธพจน์ที่กล่าวไว้ว่า

”ความรู้จักพอเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง”

กล่าวคือ พอใจในความเป็นอยู่ปัจจุบัน
มีความสุขไม่คิดเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
ไม่โลภในทรัพย์สินของผู้อื่นแต่สามารถดูแลทรัพย์สินของตนได้
และมีความพึงพอใจในชีวิตตนเอง รักตนเอง ชื่นชมชีวิตตนเอง
เมื่อทุกคนรักตนเองก็จะฟูมฟักดูแลตนเอง
ไม่นำสิ่งเลวร้ายเข้ามาในชีวิตตนเองจะบังคับตนเองไม่ให้ปล่อยชีวิตตกสู่ที่ต่ำ
ปฏิบัติตนอยู่ในความดีงามทุกๆวัน ผลลัพธ์จะเกิดความดีงามเพิ่มทวีขึ้น
จนสามารถเชื่อมโยงความดีงามที่มองเห็นในตัวผู้อื่น
และเป็นพลังที่ช่วยต่อเติมชีวิตให้มีคุณค่ายืนยาวต่อไป