พักผ่อนที่หลีเป๊ะ: ตอนที่ 1
หลังจากตรากตรำทำงานหนักมาครึ่งปี เราก็มีโอกาสได้ลาพักผ่อนกะเค้าซักที

ตอนแรกคิดไม่ออกเลยค่ะว่าจะไปพักผ่อนที่ไหนดี ใจจริงอยากดำน้ำลึก (Scuba Diving) แต่พอโทรถามครูโอ๋ ครูโอ๋บอกว่าตอนนี้เป็นช่วงมรสุมทางฝั่งอันดามัน ส่วนทางฝั่งอ่าวไทย น้ำก็ยังไม่นิ่ง ต้องรอเดือนหน้าเป็นต้นไปถึงจะสวย เราก็เลยยิ่งคิดหนัก เลยโทรถาม Mr.Lily ที่เพิ่งไปฮันนีมูนที่เกาะกูดกลับมาว่าเกาะกูดสวยไหม Mr.Lily ก็เลยแนะนำให้เราไปเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งตอนนั้นเราลืมเกาะหลีเป๊ะไปเลยอะค่ะ อาจจะเป็นเพราะเราเคยไปมาแล้วตอนมาดำน้ำกับพวกครูโอ๋ อีกอย่างได้ข่าวมีแพลงตอนบูมด้วย ทำให้ปะการังอ่อนตายจนหมดสวยไปเยอะ ก็เลยไม่ได้นึกถึง

แต่หลังจากพิจารณาความเป็นไปได้แล้ว เราก็ตัดสินใจว่าไปหลีเป๊ะก็ดีเหมือนกัน ก็เลยจัดการ search หาที่พัก และโทรติดต่อ ...ทางรีสอร์ทดีมากเลยค่ะ พอเราอธิบายสถานการณ์ของเราที่ไม่รู้ว่าจะได้ลาพักผ่อนแน่หรือเปล่าให้ฟัง เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร งั้นก่อนเราเดินทาง 1 วันค่อยโทรมา confirm เค้าอีกที แล้วเค้าจะกันห้องไว้ให้ ... จากนั้นเราก็ศึกษาวิธีเดินทางไป แล้วก็เตรียมซื้อตั๋วเครื่องบินไปลงหาดใหญ่ แต่ขณะที่เรากำลังสั่งซื้อตั๋วเครื่องบินทาง internet อยู่นั้น พี่ยี่ก็เดินมาบอกว่า "นุ่นครับ พี่ไม่แน่ใจว่าอาทิตย์ที่นุ่นไม่มีประชุมวันพฤหัสฯ น่ะ กรรมาธิการ ฯ จะเลื่อนไปประชุมวันอื่นหรือเปล่า"

เรา: "งั้นนุ่นยังไม่ซื้อตั๋วเครื่องบินก็ได้ค่ะพี่ยี่ เพราะถ้ากรรมาธิการ ฯ เลื่อนมาประชุมวันที่นุ่นลาพักผ่อน นุ่นก็จะยกเลิกวันลา"

สรุปว่าเราจะยังซื้อตั๋วเครื่องบินไม่ได้จนกว่าจะพ้นวันที่ 3 พ.ค. ไปแล้วอะค่ะ T_T ...อ้อ เราขอลาพักผ่อนวันที่ 8 และ 9 พ.ค. อะค่ะ เนื่องจากสัปดาห์นั้นวันจันทร์ที่ 7 และวันพฤหัสฯ ที่ 10 เป็นวันหยุด เราก็เลยกะจะไปยาวตั้งแต่วันที่ 5 ถึงวันที่ 10 เลยทีเดียว

หลังจากรอลุ้นว่ากรรมาธิการ ฯ จะเลื่อนไปประชุมวันอื่นหรือเปล่าจนถึงวันที่ 3 เราก็ได้คำตอบแน่นอนว่าสัปดาห์ที่เราลาพักผ่อน กรรมาธิการ ฯ จะไม่ประชุมในส่วนร่างพระราชบัญญัติที่เรารับผิดชอบ ...อ๊ายยย ดีใจ ๆ ... วันศุกร์ที่ 4 เราก็เลยจัดการโทร confirm ทางรีสอร์ท ...เราเลือกพักที่ Mountain Resort อะค่ะ... แล้วก็ซื้อตั๋วเครื่องบิน ตอนแรกว่าจะไปวันเสาร์ที่ 5 แต่เที่ยวบินเหลือแต่ตอนเย็น ซึ่งถ้าเราไป ก็ต้องนอนค้างที่หาดใหญ่ 1 คืน แต่เราไม่สะดวกอะค่ะ อีกอย่างคิดว่าคงจัดกระเป๋าเดินทางไม่ทันแน่ ๆ ก็เลยซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับเป็นวันที่ 6 ตอนเช้า กับวันที่ 10 ตอนหัวค่ำ ...ต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิอะค่ะ เลยขอให้คุณน้องชายช่วยไปส่งและไปรับตอนขากลับด้วย...

และแล้วเช้าวันที่ 6 พ.ค. เราก็ออกเดินทางไปสนามบิน เนื่องจากเครื่องจะออกตอน 8.00 am เราต้องไปถึงสนามบินก่อน 1 hr. ดังนั้นเราเลยออกจากบ้านตอน 6.00 am ค่ะ ตอนแรกกลัวเครื่อง delay มากเลย เพราะเราโดยสารเครื่องบินของสายการบิน AirAsia ทีไร เครื่อง delay ตอนขาไปทู้กที (- -') ...แต่คราวนี้ไม่เป็นค่ะ แหะ แหะ

เนื่องจากเราขนอุปกรณ์ดำน้ำลึกไปด้วย ทำให้ต้องจ่ายค่าน้ำหนักเกิน 5 kg. ด้วยอะค่ะ

เครื่องบินลงที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ตอน 9.10 am หลังจากรับกระเป๋าเรียบร้อย เราก็เดินมาติดต่อรถตู้เข้าตัวเมืองหาดใหญ่ ไปที่ท่ารถตู้ของหาดใหญ่ เพื่อนั่งต่อไปยังท่าเทียบเรือปากบารา จังหวัดสตูล ...จริง ๆ จะนั่งรถสองแถวหน้าสนามบินไปก็ได้ค่ะ แต่ตอนนั้นอยากสบายมากกว่า ก็เลยตัดสินใจนั่งรถตู้ของสนามบิน... เมื่อเราซื้อบัตรโดยสารราคา 75 บาทเรียบร้อย ก็ลากกระเป๋ามาขึ้นรถตู้ที่หน้าอาคารผู้โดยสารค่ะ


คันนี้แหละค่ะ

รถตู้ของสนามบิน จอดให้เราลงหน้าสถานีรถโดยสารเล็ก (รถตู้) เทศบาลนครหาดใหญ่



หลังจากเราเดินไปตามที่พี่ทหารยามหน้าทางเข้าท่ารถตู้บอก เราก็เจอท่าจอดรถตู้ไปปากบาราค่ะ เสียดายที่ตอนเราไปถึง รถตู้กำลังจะออก เนื่องจากผู้โดยสารเต็มแล้ว เราก็เลยต้องรอรถตู้คันต่อไปอะค่ะ


ที่ซื้อตั๋วรถตู้อะค่ะ


รถคันนี้แหละค่ะที่เราจะนั่งไปท่าเทียบเรือปากบารา

ใช้เวลาเดินทางจากหาดใหญ่ไปท่าเทียบเรือปากบารา ประมาณ 1.30 hrs. ค่ะ คุณลุงคนขับอัธยาศัยดีมาก ๆ ชวนเราคุย พอรู้ว่าเรามาเที่ยวคนเดียว คุณลุงก็บอกว่าจริง ๆ น่าจะมาสัก 2 คนนะ กำลังดีเลย ...ใจจริงก็อยากไป 2 คนแหละค่ะ แต่หนูไม่รู้จะไปเอาคนที่ 2 มาจากไหนอะสิ hahaha...

แล้วพอไปถึงท่าเทียบเรือ คุณลุงก็แนะนำให้เราใช้บริการเรือเฟอรี่ของบริษัทอาดังซี แอดเวนเจอร์ ทัวร์อะค่ะ


ที่ทำการบริษัทค่ะ


ตั๋วเรือค่ะ เราซื้อแบบไป-กลับ ซึ่งราคาจะถูกกว่าไปเที่ยวเดียวประมาณ 100 บาทอะค่ะ ...ค่าเรือไป-กลับหลีเป๊ะ 1,000 บาท... อ้อ เรือของบริษัทจะออกเดินทางไปหลีเป๊ะวันละ 2 รอบค่ะ คือ 10.00 am และ 1.30 pm เราไปถึงปากบาราประมาณ 12.00 pm จึงต้องไปเรือรอบ 1.30 pm อะค่ะ

ระหว่างรอเราก็นึกได้ว่ายังไม่มีอาหารตกถึงท้องเลย ก็เลยเดินไปสั่งอาหารตามสั่งทานอะค่ะ พอกลับมา ก็ยังไม่ถึงเวลาเรือออก ก็เลยนั่งดูนู่นดูนี่ จนเห็นป้ายนี้


เป็นการ confirm ว่าที่เกาะ เราสามารถโทรติดต่อเพื่อน ๆ ได้อะค่ะ

พอได้เวลาลงเรือ เราก็เดินไปเสียค่าธรรมเนียมใช้ท่าเรือ 10 บาท


ทางเข้าจะมีป้อมเก็บค่าธรรมเนียมอะค่ะ


ป้ายท่าเทียบเรือปากบารา


เรือลำที่เราจะโดยสารอะค่ะ




^
^
วิวบริเวณท่าเทียบเรือ (ถ่ายจากบนเรือค่ะ)


เรือประมงกำลังแล่นออกทะเลค่ะ

เรือออกจากท่าประมาณ 1.45 pm อะค่ะ




^
^
วิวขณะที่เรือกำลังแล่นออกสู่ทะเล

พอเรือออกจากสู่ทะเลได้ไม่เท่าไหร่ ก็โต้คลื่นจนละอองน้ำสาดเข้ามาที่ดาดฟ้าที่ผู้โดยสารนั่งกันอยู่อะค่ะ ทำให้ผู้โดยสารส่วนใหญ่ลงไปนั่งอยู่ชั้นล่างของเรือ เหลือเรากับผู้โดยสารอีก 2 คนที่มาด้วยกัน นั่งอยู่บนดาดฟ้าเท่านั้น ...ที่เราไม่ลงไปก็เพราะกลัวเมาเรืออะค่ะ แหะ แหะ... โชคดีที่เราเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตไปด้วย ก็เลยเอามาสวมกันละอองน้ำ แล้วคุณผู้โดยสารคนนึงก็แนะนำให้เราลงมานั่งที่พื้นดาดฟ้าแทนนั่งเก้าอี้ เพื่อหลบละอองน้ำด้วย




^
^
ตอนเรือแล่นออกทะเล ฟ้ายังครึ้ม ๆ อยู่เลย

ใช้เวลา 1 hr. เรือก็มาถึงเกาะตะรุเตา จุดจอดส่งผู้โดยสารก่อนไปต่อยังเกาะหลีเป๊ะอะค่ะ


เรือกำลังมุ่งหน้าเข้าไปท่าเทียบเรือของเกาะตะรุเตาค่ะ


หน้าเกาะมีป้าย "อุทยานแห่งชาติตะรุเตา"


วิวของเกาะขณะเรือแล่นเข้าท่าเทียบเรือค่ะ




^
^
ป้ายและอาคารที่เทียบเรือของเกาะตะรุเตาค่ะ




^
^
วิวรอบ ๆ ท่าเทียบเรือค่ะ

หลังจากเรือออกจากตะรุเตา ก็ใช้เวลาอีก 2 hrs. กว่าจะถึงเกาะหลีเป๊ะ ...รวมแล้วใช้เวลาเดินทาง 3 hrs. แน่ะ...


ที่เห็นเป็นเส้นขาว ๆ นั่นเป็นบริเวณที่แดดออกอะค่ะ


ในที่สุดก็เห็นเกาะหลีเป๊ะ ...เฮ้ออออ


เกาะอาดังค่ะ


เกาะหลีเป๊ะไม่มีท่าเทียบเรือค่ะ เรือเฟอร์รี่ต้องจอดกลางทะเลแล้วมีเรือหางยาวมารับไปส่งที่รีสอร์ทอีกทีนึง

พอเราถึงเกาะหลีเป๊ะ ก็โทรไปบอกให้รีสอร์ทส่งเรือมารับอะค่ะ รีสอร์ทก็ฝากเราให้มากับเรือหางยาวของวารินทร์ รีสอร์ทอีกที

ขอย้อนกลับไปยังคุณผู้โดยสาร 2 ท่านที่อยู่บนดาดฟ้าเรือกับเราหน่อยนะคะ คือ ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนกันอะค่ะ แล้วคงเห็นว่าเรามาคนเดียวก็เลยชวนเราคุย แต่ตอนนั้นเราอยู่ในโหมดไม่อยากคุยอะค่ะ ก็เลยกลายเป็นว่าพอเค้าถามอะไรมา เราก็ตอบ แต่ไม่สนใจจะถามกลับ แล้วเค้าชวนทานอะไร เราก็ไม่ทานซักอย่าง แหะ แหะ

พอเราลงเรือหางยาว ปรากฏว่าคุณผู้โดยสาร 1 ใน 2 ท่านลงเรือหางยาวลำเดียวกัน โดยมีคุณลุง คุณป้าที่มาพักผ่อนรออยู่บนเรือแล้ว เราก็เลยเขยิบมานั่งด้านใน เพราะคุณผู้โดยสารอีกคนที่จะลงมาจะได้นั่งด้านหน้า เพียงแต่เราคิดว่าคุณผู้โดยสารจะไปนั่งหน้าเพื่อนเค้าอะค่ะ ...ที่นั่งเรือหางยาวมันก็ไม่กว้างเท่าไหร่อะนะคะ... ที่ไหนได้ พอคุณผู้โดยสารลงมา ก็นั่งหน้าเราพร้อมกับหันข้างให้ แถมพอจัดท่านั่งเรียบร้อยก็รื้อข้าวกล่องออกมาถามเราว่า "ไม่ทานจริง ๆ เหรอ" อีกตะหาก ...ก็ไม่ทานมาตั้งแต่อยู่บนเรือแล้ว นี่ก็ใกล้จะถึงรีสอร์ทจะทานทำไมเล๊า (- -')

เราก็ขำพร้อมกับปฏิเสธไปอะค่ะ เค้าก็ยังดูเขิน ๆ ที่จะทานข้าวอยู่คนเดียว เราก็เลยบอกว่า "ถ้าอยากทานก็ทานไปสิ ไม่เห็นจะต้องเขินเลย" ...ปากอย่างนี้นี่เล่ามันถึงไม่มีแฟนสักที hahaha... เค้าก็ทำหน้าเขิน ๆ แล้วก็บอกว่า "เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น"

แล้วเค้าก็เปลี่ยนเป้าหมายไปคุยกับคุณลุง คุณป้าแทนอะค่ะ แต่เพราะพูดสำเนียงใต้กันทุกคน เราเลยรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง มาอึ้งอีกทีตอนคุณป้าถามว่า "แล้วนี่พักกันที่ไหน" ...คือ คุณป้าเข้าใจว่าเรามากับ 2 หนุ่มนี่อะค่ะ (- -')

ระหว่างที่เรากำลังจะบอกว่าไม่ได้มาด้วยกัน คุณผู้โดยสารที่ไม่ค่อยคุยก็ตอบไปว่า "พวกผมไม่ได้มาด้วยกัน ผมมากัน 2 คน ส่วนคนนี้ (ชี้มาทางเรา) เค้ามาคนเดียว" เราก็เลยพยักหน้าทำนองว่าเป็นไปตามนั้น

ทีนี้เรือหางยาวก็มาส่งเราที่รีสอร์ทก่อน พอเรือเทียบฝั่ง เราก็ลุกออกไป คุณผู้โดยสารที่ชวนเราทานข้าวกล่องก็ลุกตามออกมา โดยมือยังถือข้าวกล่องด้วย หลังจากเราลงจากเรือเรียบร้อย รับกระเป๋าที่เพื่อนคุณผู้โดยสารส่งมาให้แล้ว ก็เตรียมจะร่ำลา ปรากฏว่าคุณผู้โดยสารที่ชวนเราทานข้าวกล่องหันไปถามเพื่อนว่า "เราไม่ได้พักที่รีสอร์ทนี้เหรอ" คุณเพื่อนก็หันไปถามคุณไกด์ พอคุณไกด์บอกว่าพวกเค้าไม่ได้พักที่รีสอร์ทนี้ คุณผู้โดยสารที่ชวนเราทานข้าวกล่องก็หันไปถามเพื่อนว่า "แล้วเราพักที่นี่ไม่ได้เหรอ" เท่านั้นแหละค่ะ เราฮาเลย พอเรือจะออกจากฝั่ง เราก็เลยยิ้มหวาน พร้อมโบกมือบ๋าย บายให้คุณผู้โดยสารคนนั้น ...ซึ่งพอเราคิดไปคิดมาก็น่าเสียดายนะคะ หน้าตาคุณผู้โดยสายคนนั้นก็ตรงสเปคเราซะด้วย แต่ไม่น่ามาเจอกันในช่วงที่เราอยู่ในโหมดไม่อยากยุ่งกับใครเลยอะ T_T เสียดาย ๆ...

พอเราลงเรือ ทางรีสอร์ทก็ส่งคนลงมาช่วยถือกระเป๋าค่ะ แต่เค้าคงคิดว่ากระเป๋าใส่อุปกรณ์ดำน้ำเราไม่หนักมั้งคะ เลยไม่ช่วยถือ ถือแต่กระเป๋าเดินทางใบเดียวแล้วก็เดินนำหน้าเราลิ่ว ๆ ขึ้นบันไดไปที่รีสอร์ทเลย ...เรามัวแต่ถ่ายรูปด้วยแหละค่ะ แหะ แหะ


วิวทะเลตรงที่เราลงจากเรือหางยาวค่ะ ...กว่าเราจะถึงเกาะหลีเป๊ะ ก็เป็นเวลา 5.00 pm โดยประมาณอะ ใช้เวลาเดินทางเกือบวันนึงเลยนะเนี่ย (- -')


ป้ายชื่อรีสอร์ท


มีลานกิจกรรมด้วยค่ะ


บันไดทางขึ้นรีสอร์ทค่ะ ...มันชันเอาเรื่องเหมือนกันนะคะ แล้วนึกถึงว่าเราต้อบหอบกระเป๋าอุปกรณ์ดำน้ำหนัก 5 kg. ขึ้นไปด้วย โหยยยย พอเราไปถึงข้างบน มือนี่สั่น ใจหวิวเลยอะค่ะ T_T

หลังจากลงชื่อเข้าพักเรียบร้อย คุณพนักงานก็พาเราไปยังบ้านพักค่ะ


บ้านพักน่ารักเนอะ ...ปกติคืนละ 1,200 อะค่ะ แต่เราขอลดเหลือ 1,000 บาท






^
^
ภายในบ้านพักค่ะ ...มีห้องน้ำในตัว

เนื่องจากตอนนั้นเย็นมากแล้ว และหาดหน้ารีสอร์ทก็เงียบมาก ๆ เราก็เลยทานข้าวเย็นที่รีสอร์ทแล้วก็เข้าห้องพักผ่อนเลยอะค่ะ

((โปรดติดตามตอนต่อไป))



Create Date : 19 พฤษภาคม 2550
Last Update : 19 พฤษภาคม 2550 21:08:16 น.
Counter : 1488 Pageviews.

13 comments
  
ดูท่าทางว่าคงนอนสบายดี ธรรมชาติก็สวยดี น่าไปนอนอืดๆ สบายๆ จัง
โดย: ขวัญ IP: 58.136.208.144 วันที่: 19 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:14:38 น.
  
มาตามติดเหตุการณ์ค่ะ
โดย: โสมรัศมี วันที่: 19 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:47:34 น.
  
อุตส่าห์มีหนุ่มมาเหล่ยังปฏิเสธเค้าไปอีกซะนี่ น่าเสียดาย

ติดตามดูต่อนะครับ
โดย: เก๋ IP: 124.121.3.204 วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:12:50 น.
  
ตามมาดูติดๆ จ้า ยังขำๆ หนุ่มที่เจอบนเรืออยู่เลย ถ้าพรหมลิขิตมีจริงชาบุจะได้เจอกับเค้าอีกไหมนะ (อิอิ)
โดย: ไร้นาม วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:55:41 น.
  
ขอตอนสอง ขอตอนสอง
โดย: funnygirl IP: 203.118.106.214 วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:57:56 น.
  
แหม่ ๆ เสียดายหนุ่ม อุตส่าห์หลงมาตั้ง 2 คน กะซิก ๆ
โดย: ป้าเก๋สวย IP: 84.102.201.5 วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:18:16:38 น.
  
ว๊า เสียดายเลยคะ .. เจ้าหนุ่มคนนั้นน่าจะเข้ามาคุยกันตอนโหมดอยากคุยนา .. ไม่งั้นล่ะก็ บล็อกนี้อาจจะมีเรื่องคุยอีกยาวอ่ะค่ะ

ว่าแล้วนี่เราแอบชื่นชมคุณนุ่นเลยนะว่ากล้าไปเที่ยวคนเดียวอ่ะค่ะ ... เราเองสารภาพเลยค่ะว่าไม่กล้าไปเดียวหรอกค่ะ ยิ่งถ้าไปแบบต้องไปนอนด้วยแล้ว อย่างน้อยๆ ขอเป็นสองคนเราว่าเราอุ่นใจกว่าน่ะค่ะ ...

แอบมากระซิบบอกว่า คุณนุ่นเป็นคนกล้าคนหนึ่งสำหรับเราเลยคะ
โดย: JewNid วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:40:00 น.
  
โฮะ โฮะ อย่างเรา เรา เข้าโหมดสวยเลือกได้ค่ะ พี่นุ่น ...อุ อุ หลุดไปแค่ 2 เดี๊ยวจะเข้ามาอีก 5 ค่ะ อิอิ อ้อ อาทิตย์นั้น มิ้วก็ลงดอยไปลอยทะเลเหมือนกันค่า ว่ายน้ำก็ไม่ค่อยจะเป็น ดีที่มีชูชีพกับห่วงยางส่วนตัวช่วยชีวิต ดันทะลึ่งไปดำน้ำตอนคลื่นแรงอีก โอ้มายบุดด้า ! น้ำเข้าทั้งปากกับจมูกเลย เข็ดเลย อิอิ....

( ปอลอ. สำหรับคนอื่นน่ะค่ะที่สวยเลือกได้กัน สำหรับมิ้วนี่ ซวยแถมเรื่องมากอ่ะค่ะ ไอ้นั่นไม่เอา ไอ้นี่ไม่เอา อดเลย อิอิ โฉด เป็นเรื่องปกติค่า)

โดย: zaxzophone. IP: 203.154.48.14 วันที่: 21 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:44:21 น.
  
โหหหหหหห น้องนุ่นจ๋า ขอชมว่ากล้ามากค่ะ ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคะ รอตอนต่อไปอยู่ค่า
โดย: พี่แก่นจ้า IP: 172.203.18.34 วันที่: 21 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:23:15 น.
  
อยากเห็นหน้าคุณผู้โดยสารง่ะนุ่น

มีรูปป่าว
โดย: โอ๋ IP: 58.181.145.220 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:20:46 น.
  
อยากไปทะเลไกลๆแบบนี้บ้างจัง ไม่ได้ไปนานแล้ว

ม๊าววววววววววว
โดย: แมวกักขฬะ IP: 58.8.106.225 วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:42:11 น.
  
งงงงงง
โดย: ลิ้ลลี้ IP: 171.100.48.143 วันที่: 20 ตุลาคม 2555 เวลา:12:24:06 น.
  
อยากปัยเท๋วหลีเป๊ะบ้างจัง
อยากปัยกับแฟน
คงโรแมนติกดีเนอะ
โดย: Aom zy IP: 171.100.48.143 วันที่: 20 ตุลาคม 2555 เวลา:12:25:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
พฤษภาคม 2550

 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog