ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
19 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
เหมืองทองโต๊ะโมะ - ทองคำ (2)

ทองคำ

เมื่อถามต่อว่าแล้วทองคำอยู่ที่ไหน
แกบอกว่าเห็นหินแกรนิตที่ยืนอยู่เมื่อกี้ไหม
เลยบอกว่าเห็นจำนวนมากเลย
แกบอกนี่แหละทองคำมูลค่าไม่ต่ำกว่าสิบห้าล้านบาท
ก็ยังงง ๆ อยู่ แกบอกว่าใช่เลย
ทองคำจริง ๆ ที่เป็นสายแร่หรือก้อนเล็ก ๆ จะหายากมาก
ส่วนมากจะเป็นเกล็ดเล็ก ๆ ละเอียดมาก ปนอยู่ในหิน
และที่ดีมากมักจะปนกับหินแกรนิตที่แข็งมาก

ที่ผ่านมาจะบรรทุกหินดังกล่าวด้วยรถยนต์สิบล้อ
วิ่งผ่านเข้าประเทศมาเลย์ทางด่านสุไหงโก-ลค
วิ่งไปลงเรือที่ปีนังก่อนส่งไปที่สิงคโปร์
เพื่อทุบย่อยให้ละเอียดแล้วสะกัดทองคำออกมา
บนเหมืองก็เคยทำอยู่บ้าง เฉพาะกรณีที่เจอว่ามี
เกล็ดแร่ทองคำปนอยู่เป็นจำนวนแร่มากจริง ๆ
แต่ถ้าเกล็ดแร่น้อยมากไม่คุ้มกับค่าน้ำมันและแรงงาน
ในการบดขยี้ก้อนหินให้ละเอียดเพื่อคัดแยกทองคำ
ก็จะใช้วิธีดังกล่าวแทนโดยการส่งไปที่สิงคโปร์ทำการแทน
ขากลับเลยเก็บมาเป็นของที่ระลึกสองก้อน
ยังเก็บไว้กับความทรงจำ ตอนนี้ไม่ทราบว่าไว้ตรงไหน
ถ้าเจอจะ Post ภาพถ่ายให้ดูกัน

แก้ไขวันที่ 24 สิงหาคม 2552 เจอหินแล้วจะโพสเลยครับ



แกเล่าว่าทองคำที่สะกัดได้ในเหมืองนี้เป็นทองแท่ง
การนำออกไปส่งที่สุไหงโก-ลค จะเป็นความลับมาก
บางทีขนออกไปพร้อมกับก้อนหินดังกล่าวซุกอยู่ข้างใต้
หรือขนออกไปกับรถยนต์พร้อมคนดูแลกับอาวุธปืน
เพราะมูลค่าครั้งละประมาณสิบถึงยี่สิบกิโลกรัม
ทองบาทหนึ่งจะมีน้ำหนักนิยามตามสมาคมค้าทองคำ

ทองคำความบริสุทธิ์ 96.5% (มาตรฐานในประเทศไทย)
ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 1 บาท เท่ากับ 15.16 กรัม
ทองคำแท่ง น้ำหนัก 1 บาท เท่ากับ 15.244 กรัม

ทองคำความบริสุทธิ์ 99.99%
ทองคำ 1 กิโลกรัม เท่ากับ 32.1508 ออนซ์
ทองคำ 1 ออนซ์ เท่ากับ 31.104 กรัม

ทองคำเหมืองแร่จะตกประมาณเก้าสิบกว่าเปอร์เซ็น
หรือมูลค่าประมาณครั้งละสิบกิโลกรัม
ก็เป็นน้ำหนักทองคำประมาณ 655.9 หรือ 656 บาท
มูลค่าช่วงนั้นประมาณสี่พันบาท
หรือตกประมาณสองล้านหกแสนเศษ
ถ้ายี่สิบกิโลกรัมก็ตกประมาณ 1312
หรือประมาณห้าล้านสองแสนบาท

แกเล่าว่าช่วงฝรั่งเศสทำเหมืองแร่ทองคำอยู่
ก็ใช้ช้างในการขนส่งทองคำ
โดยซุกซ่อนเป็นความลับออกไปเสมือนไปติดต่อธุระ
หรือจับจ่ายหาเสบียงอาหารมาที่เหมืองแร่
ก่อนจะนำไปขายที่รัฐปีนังมาเลย์
หรือส่งไปที่ฝรั่งเศสทางเรือโดยสาร
ที่ปีนังจะสามารถหาซื้ออาหารและเครื่องมือเครื่องใช้
เพราะบ้านเมืองมีความเจริญอยู่มาก
มีท่าเทียบเรือฝั่งอันดามัน(มหาสมุทรอินเดีย)
สามารถไปใช้ชีวิตที่สะดวกสะบายกว่าที่เหมืองแร่มาก








Create Date : 19 มิถุนายน 2552
Last Update : 24 สิงหาคม 2552 21:46:56 น. 2 comments
Counter : 2517 Pageviews.

 
หาให้เจอนะคะ
แล้วมาแบ่งกัน

................





โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:44:06 น.  

 
บ้านเราก็โดนขนออกไปมากเหมือนกันเนาะ
คิดแล้วน่าเห็นใจคนดำในอาฟริกา


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:14:34:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.