ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์-กระปุกออมสิน
ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์-กระปุกออมสิน
เคยตั้งคำถามและสงสัยว่า ทำไมการขายหมูขายไก่ของชาวบ้าน จึงมักจะพูดว่า เป็นการทุบกระปุกออมสิน เหล้าขาว ได้ให้คำตอบว่า
จริง ๆ แล้วการเลี้ยงดูไก่บ้านหรือหมูบ้าน กว่าจะได้ขายจริง ๆ ก็หลายเดือนเช่นกัน คิดค่าใช้จ่าย ค่าเวลา ค่าเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้ ค่าเสี่ยงภัยว่า จะตายก่อนกำหนดหรือถูกลักขโมยก่อนกำหนด ก็ยังไง ๆ ก็แทบจะไม่คุ้มเท่าไรนัก แต่พอชาวบ้านได้ขายหมูขายไก่ออกไป ก็จะได้เงินก้อนส่วนหนึ่งซึ่งมากกว่ารอให้มีการสะสม จำนวนมากน้อยก็ไม่ใช่สำคัญมากนัก เพราะส่วนมากชาวบ้านก็ไม่ค่อยมีเงินเก็บเงินออมเท่าไรอยู่แล้ว
เหล้าขาวเล่าว่าในการขายหมูบ้านออกไป ก็มีการโกงกันในเรื่องน้ำหนักระหว่างคนขายกับคนรับซื้อหมูเป็น คนขายพอจะขายหมู ถ้าทราบวันล่วงหน้า ก็จะเริ่มขุนหมูให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ให้อาหารอย่างดีหรืออาหารเพิ่มน้ำหนัก เช่น พวกรำละเอียด ข้าวปลายหักต้ม ก็สามารถเพิ่มน้ำหนักได้ส่วนหนึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่มากนัก เพราะถ้าหมูมีอายุมากแล้ว ยังไงอัตราแลกเนื้อก็ต่ำอยู่ดี (อาหารที่หมูกินเข้าไป แล้วแปลงออกมาเป็นน้ำหนักหมู) แต่ถ้าทราบล่วงหน้าวันสองวัน ก็จะให้หมูกินดีอยู่ดีกินตลอด ในช่วงก่อนหน้าคนรับซื้อหมูเป็นมาจับหมูไปขาย แต่จะเพิ่มน้ำหนักได้อีกส่วนก็คือ การอาบน้ำให้หมู เพราะน้ำที่ไปเก็บตามตัว ตามขนหมู ก็จะทำให้หมูมีลำตัวชุ่มชื้นก็สามารถเพิ่มน้ำหนักได้ส่วนเช่นกัน
คนรับซื้อหมูเป็นก็จะมีวิธีการลวดลายคือ บอกว่าจะมาตอนเช้า ๆ เพื่อรีบพาหมูไปส่งโรงเชือด ก็จะมาตอนสาย ๆ ของวันนั้น เพราะรอให้หมูย่อยอาหารและขับถ่ายก่อนให้เสร็จก่อนจับหมู หรือรอให้หมูเริ่มตัวแห้งแล้วในช่วงบ่ายที่อากาศค่อนข้างร้อน แต่ถ้านัดตอนเย็น ก็มักจะมาแต่หัวรุ่ง ซึ่งเป็นช่วงคนเลี้ยงหมูมักจะขุนหมูไม่ทัน หรืออาบน้ำให้หมูได้ไม่ทัน เพราะไม่กล้าอาบน้ำให้หมูต่อหน้าคนรับซื้อ ทำให้น้ำหนักหมูจะเพิ่มได้ไม่มากนักในช่วงนี้
พอมาถึงก็มักจะติโน่นตินี่ ในตัวหมูที่จะซื้อ เช่น ไม่สมบูรณ์ กินข้าวมาก่อน อาบน้ำมาก่อน ขอหักค่าน้ำหนักที่กินข้าวอาบน้ำก่อน ขอค่าตาชั่งบ้าง ค่าเด็กจับหมูขึ้นรถบ้าง หมูราคาถูกบ้างในตอนนี้ หมูน่าจะพิการ เป็นโรคบ้าง เสี่ยงเวลาชำแหละเนื้อบ้าง มันหมูมากไปบ้าง ชำแหละแล้วจะได้เนื้อน้อยกว่าที่คาดไว้ หาคนเข้าหุ้นซื้อหมูยากบ้าง (ตามชนบท หลาย ๆ ครัวเรือนมักจะเข้าหุ้นกันซื้อหมูหนึ่งตัวมาฆ่า แล้วมาตกลงแบ่งกันว่า ใครชอบส่วนไหนมาก ส่วนไหนน้อย แล้วมาหารเฉลี่ยราคาหมูกัน เพื่อซื้อร่วมกันจะถูกกว่าซื้อตามใจชอบในตลาด) สุดท้ายก็ จ่ายเงินในราคาที่คนซื้อหมูคิดว่าไปทำได้กำไรมากกว่าชาวบ้าน ขณะเดียวกันชาวบ้านก็พอใจในราคานั้น เพราะถือว่าได้ทุบกระปุกออมสิน มีเงินใช้เป็นก้อนแล้วส่วนหนึ่ง
Create Date : 02 มิถุนายน 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 5 สิงหาคม 2552 0:18:07 น. |
Counter : 1339 Pageviews. |
|
|
|
อยู่สงขลาเหมือนกันค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ